ตอนที่ 5 ความรู้สึกจอมปลอมเสแสร้ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 5 ความรู้สึกจอมปลอมเสแสร้ง
ตอนที่ 5 ความรู้สึกจอมปลอมเสแสร้ง ข้าหันใบหน้าหนีมิมองเขาด้วยความรู้สึกโกรธเคือง และข้าก็มิอยากพูดคุยกับเขา ผู้ที่ลงโทษให้ข้าคุกเข่าก็คือเขา ผู้ที่ทำให้ข้าต้องอับอายต่อหน้าผู้คนจำนวนมากในวังก็คือเขา เขาต้องการจะปกป้องฮองเฮาองค์ใหม่ผู้ที่มีรูปโฉมคล้ายคลึงกับองค์หญิงหลีราวกับแกะสลักออกมาก็ช่างเถิด แล้วเพลานี้ยังจะมาแสดงความรู้สึกจอมปลอมเสแสร้งด้วยการเป็นห่วงเป็นใยเช่นนี้ให้ผู้ใดดูกัน? เพลานี้ลู่เซียวเองก็รู้สึกละอายใจต่อข้า ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปลอบประโลมข้าด้วยคำพูดที่ดี “เอาเถิด เจ้าก็อย่าโกรธเคืองข้าเลย เจ้าก็รู้ หลิ่วเอ๋อเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในวัง ข้ามิสามารถทำให้นางอับอายต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเช่นนั้นได้!” ข้ายิ้มเยาะให้กับตนเองในใจ และยังคงไม่สนใจเขา แต่ดูเหมือนว่ารู้เสียวมิได้สนใจเลยแม้แต่น้อยเพราะเขานั่งลงบนขอบเตียง และนวดขาให้ข้าอย่างแผ่วเบา “ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะข้า ขาของเจ้าก็คงไม่....” ในเพลาที่เขาไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้ก็ยังดีอยู่ แต่พอเขาเอ่ยถึงมันเท่านั้น ความโกรธเคืองในใจของข้าก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง ข้าลุกขึ้นนั่งบนเตียง พลางเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ฝ่าบาทยังจำได้หรือเพคะ? หม่อมฉันคิดว่าพระองค์ลืมมันไปแล้วเสียอีก” เพลานั้นลู่เซียว ออกตระเวนสำรวจราชการ แต่ในระหว่างทางพบกับผู้ประสงค์ร้ายโดยมิคาดคิด แต่โชคดีที่ได้พบกับท่านพ่อที่ไปรับข้ามาจากชนบทเพื่อกลับจวนพอดี ข้ายังจำการต่อสู้ที่ดุเดือดในครั้งนั้นได้ดี เมื่อท่านพ่อของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการช่วยชีวิตเขา สุดท้าย ข้าจึงวิ่งเข้าไปขวางที่ด้านหน้าของลู่เซียวไว้ ในเพลานั้น ข้าคิดว่าข้าคงจะตายอยู่ที่นั่นแล้ว แต่น่าเสียดายที่มิเป็นเช่นนั้น ข้าเพียงแค่ถูกมือสังหารผู้นั้นยิงธนูเข้าใส่ขาทั้งสองข้าง แต่ทว่าผู้ที่เป็นนายพลผู้ยิ่งใหญ่ที่คอยติดตามดูแลรู้เซียวในช่วงปีแรกๆเช่นท่านพ่อของข้านั้น กลับมิได้ตายในสงคราม แต่กลับต้องมาตายด้วยน้ำมือของพวกพวกโจรไพร่ ข้าถูกลู่เซียวนำตัวเข้ามาในวัง เขาแต่งตั้งให้ข้าเป็นสนมเอก และเชิญหมอหลวงที่ดีที่สุดในวังแห่งนี้มาทำการรักษาอาการบาดเจ็บที่ขาของข้า เขารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณที่ข้ากับท่านพ่อช่วยชีวิตเขาไว้ ก็เลยมีรับสั่งพิเศษว่าต่อไปข้ามิต้องคุกเข่าให้แก่ผู้ใด รวมถึงเขาด้วย คำรับสั่งของเค้าเป็นประกาศิตมาโดยตลอด จนกระทั่งวันนี้ เขากลับเพิกเฉยต่อความรู้สึกและคำสัญญาในอดีตของตน เพื่อหญิงที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกันกับองค์หญิงหลี ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเทียบกับองค์หญิงหลีไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับให้ข้าคุกเข่าลงบนพื้นหิมะที่หนาวเหน็บ แต่ข้าก็ไม่ได้โทษเขา ข้ารู้ว่าเขารักองค์หญิงหลีอย่างสุดซึ้งเพียงใด แม้แต่ยามที่นางตายไปเขาก็ยังเฝ้าเฟ้นหาผู้ที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับนางไปทั่วแคว้น เพื่อนำมาเลี้ยงดูไว้ในวัง พลางระลึกถึงนางทุกเมื่อเชื่อวัน ข้าโทษเพียงแค่ตัวข้าเองที่เกิดมามีคล้ายคลึงกับองค์หญิงหลี ข้าจึงมิสมควรได้รับความโปรดปรานจากเขา “หลีเอ่อ มิต้องก่อเรื่องวุ่นวายแล้ว” น้อยครั้งนักที่เขาจะเอ่ยชื่อเล่นของข้า ปกติเขามักจะเรียกข้าว่าหลีเฟย นอกเสียจากเพลาที่เขาละอายใจต่อข้า ข้าหยุดฝ่ามือที่เขายื่นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “กรุณากลับไปเถิดเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันเหนื่อยแล้ว” ฝ่ามือของลู่เซียวค้างเติ่งอยู่บนอากาศ เขามิได้ยื่นมา และมิได้หดกลับไป “และยังมีอีกเรื่องเพคะ ในเมื่อฝ่าบาทคิดว่าหม่อมฉันเป็นเพียงผู้เดียวในวังแห่งนี้ที่ไม่มีส่วนใดคล้ายคลึงกับองค์หญิงหลี เช่นนั้นต่อไปนี้ฝ่าบาทก็ไม่ต้องมาที่นี่ทุกเมื่อเชื่อวันหรอกเพคะ หม่อมฉันคิดว่าพระฮองเฮา ควรค่าแก่การได้รับความโปรดปรานนี้มากกว่า” ข้าเพียงแค่อยากให้เขารีบกลับออกไปเร็วๆ และทางที่ดีต่อไปก็ไม่ต้องมาก่อกวนข้าอีก แต่ข้าลืมไปอย่างหนึ่งว่า ‘องค์หญิงหลี’ สามคำนี้ คือคำต้องห้ามสำหรับวังแห่งนี้! เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อสีหน้าของลู่เซียวเย็นชาลงอย่างฉับพลัน เขาดึงมือกลับไป “ซูชิงหลี! ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าข้าไม่อยากได้ยินชื่อของอาหลีหลุดจากปากของผู้ใดในวังแห่งนี้!” เหอะ! เห็นได้ชัดว่าเขาสะสมนางสนมผู้ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับองค์หญิงหลีไว้ทั้งวัง แต่กลับมิอยากให้ผู้ใดเอ่ยชื่อของนางออกมา นี่เขากำลังหลอกตัวเองอยู่หรืออย่างไร? อย่างไรเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการหลอกตัวเองเช่นนี้ทุกคืนวัน ผู้คนที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับองค์หญิงหลีเยอะขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไรพวกนางก็ไม่ใช่องค์หญิงหลี! ดูเหมือนว่าข้าจะค้นพบจุดอ่อนของเขาแล้ว ดังนั้นข้าจึงรอไม่ไหวที่จะเอาชนะเขา “อย่างนั้นหรือเพคะ? ถ้าหากว่าองค์หญิงหลีรู้เข้า ว่านางสนมทั้งหวังของฝ่าบาทล้วนเป็นเงาของนาง นางจะไม่....” “ซูชิงหลี!! “ มิรอให้ข้าเอ่ยจบ ลู่เซียวก็ตะโกนขัดคอข้าอย่างเดือดดาล เขากัดฟันพลางเอ่ยถาม “ ข้าบอกว่าข้าไม่อนุญาตให้เจ้าเอ่ยชื่อของอาหลีต่อหน้าข้า! นี่เจ้ามิอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วหรือ!” “ เพคะ!” ข้าเพิกเฉยต่ออารมณ์โกรธเกรี้ยวในดวงตาของเขาพลางฉีกยิ้ม “ ฝ่าบาทมีอำนาจที่จะรับสั่งให้ข้าเข้าไปในตำหนักเหลิ่งกง! ฝ่าบาทมีอำนาจที่จะตัดศีรษะของข้า!!” ข้าอยากจะยั่วโมโหเขา เป็นเพราะการที่ได้เห็นเขาโกรธเกรี้ยว ทำให้ในใจของข้ารู้สึกมีความสุข!
已经是最新一章了
加载中