ตอนที่ 81 ยังจะปล่อยมือไหม
1/
ตอนที่ 81 ยังจะปล่อยมือไหม
บ่วงรักประธานเผด็จการ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 81 ยังจะปล่อยมือไหม
ตนที่ 81 ยังจะปล่อยมือไหม มือเล็กๆของเขาก็จับเขาไว้ทันที “ ทำไมหล่ะ? นี่มันเร็วเกินไป แต่ก่อนเขาคัดค้านที่อยู่กับปุริม แต่ตอนนี้ เขากลับเปลี่ยนทิศทางอย่างกระทันหัน ทำให้เธอไม่คุ้นชินเล็กน้อย” “เพ็ญนีติ์ อย่าไปบังคับให้เขาตามใจตนเลย ให้มันเป็นไปตามความรู้สึกจะดีกว่า เชื่อฉัน”เธอทำท่าโบกมืออย่างได้ชัยชนะ นภนต์หันหลังแล้วเดินออกไป มองไปที่หลังของเขา จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมันสูงใหญ่ขึ้น นารา แล้วก็นภนต์ ดูเหมือนว่าแต่ละคนล้วนช่วยเหลือเธอ ราวกับว่า ทุกคนอยากให้เธอและลูกชายมีความสุข ถ้างั้น,เธอยังจะปล่อยมืออยู่ไหม? ความตื่นตะลึงถูกส่งไปยังปุริม เธอมองตาเขา “คุณพูดสิ ว่าคุณมาทำอะไร?” ที่แขนข้างหนึ่งของปุริม เขายืนอย่างห้าวหาญอยู่บนชายหาด “อ้อย ส้ม มานี่ ให้แดดดี๊กอดหน่อย” เสียงของเขา คำพูดของเขา เรียบง่าย แต่กลับเด็ดขาด บนหัวของเขาพันผ้าพันแผล ขาใส่เฝือก มองดูเขาที่อ้าแขนสองข้างแล้วดูตลกมาก แต่ท่าทางของเขากลับจริงจัง เด็กๆงงนิดหน่อย มองไปที่เพ็ญนีติ์ เหมือนกับว่าอยากขอความเห็น เพ็ญนีติ์เงียบ กัดปาดแน่นไม่รู้จะต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันนี้อย่างไร แต่คิดว่าเพราะในร่างกายของเด็กๆมีเลือดเขาอยู่เขาถึงอยากได้สายเลือดของเขากลับบ้าน คิดว่าเดิมทีเขาไม่ได้มีเด็กๆอยู่ในหัวใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะแตกต่างไปซะหมด อะไรๆก็ดูสว่างสดใสเมื่อเขายิ้ม เขารู้จักเด็กๆด้วยเหรอ “มา ให้แดดดี๊กอดหน่อย” ปฏิกิริยาแรกของส้มที่แสดงออกมา “หม่ามี๊ เขาคือแดดดี๊?” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอได้พบกับปุริม ทำไมก่อนหน้านี้เขาไม่พูดว่าเขาคือแดดดี๊แต่ตอนนี้กลับมาพูดว่าเป็นแดดดี๊ของพวกเธองั้นหรอ? พ่อบุญธรรมกับแดดดี๊สองคำนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สองสามปีมานี้เพราะคำถามของส้มและอ้อยที่ถามว่าแดดดี๊เป็นใครก็กังวลมากเท่าไหร่แล้ว มองปุริมกับเพ็ญนีติ์อีกครั้ง อ้อยกำทรายอยู่ในมือ“พ่อบุญธรรม คุณล้อเล่นอยู่ใช่ไหม” คำถามนี้ถามได้ตรงดีจริงๆ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าในใจลึกๆของเด็กๆ ไม่เชื่อ กี่ปีก็ไม่เคยมีแดดดี๊เลย จู่ๆก็มีขึ้นมา อ้อยกับส้มคิดพร้อมกันว่าฝันอยู่แน่ๆ พ่อบุญธรรมปุริมกำลังล้อพวกเขาเล่นแน่ หน้าของปุริมดูโกรธๆนิดๆ เขาเดินก้าวไปข้างหน้า แล้วค่อยๆนั่งยองๆที่ตรงหน้าของเด็กๆ ตามองไปที่ดวงตาของเด็กๆ คนนึงคืออ้อย คนนึงคือส้ม เด็กน้อยสองคนนี้ช่างน่ารักอะไรแบบนี้ มันทำให้เขาทนไม่ไหวจนอยากจะกอด อยากจะหอม แต่ตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือทำให้พวกเขาเชื่อว่าเขาเป็นแดดดี๊ของพวกเขา โอกาสที่นภนต์ให้ ถ้าหากไม่ใช่นภนต์ เขาคงหาเพ็ญนีติ์ไม่เจอ ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ เก่งจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไง เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาก็ต้องรู้ หลังจากนี้ไป เขายังต้องปกปิดเรื่องเด็กสองคนนี้ไว้ก่อน ทำให้พวกเขาเติบโตอย่างมีความสุข ขณะที่กำลังคิดอยู่ก็มีคนตะโกนเรียกพวกเขา ‘ข้าวนอกนา’ ใจของผู้ชายตัวโตคนหนึ่งมันอดทนไม่ได้แล้ว “อ้อย ส้ม เชื่อฉัน ฉันเป็นแดดดี๊ของพวกเธอจริงๆ” พูดขึ้นมาทันที ไม่สนว่าพวกเธอจะเชื่อไหมใช้มือทั้งสองข้างโอบเด็กๆสองคนที่ยืนพิงอกเขาอยู่ ใช้แรงอีกครั้ง “ฮึบ” เขาอุ้มเด็กทั้งสองขึ้นมา ตอนนี้ เด็กสองคนที่ถูกเขาอุ้มอยู่สูงกว่าหัวเขา มองลงมาที่เขา “คุณเป็นแดดดี๊ของพวกเราจริงๆหรอ?” ขมวดคิ้วเล็กๆ ส้มทำท่าคิดๆ “หนูไม่เชื่อ” เขางับคางเล็กๆของส้ม “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นี่คือเรื่องจริง หม่ามี๊ของเธอเป็นพยานได้” “แต่หม่ามี๊ไม่ได้ยอมรับว่าคุณเป็นแดดดี๊ของพวกเรา มะม่วง ฉันคิดว่าเขาโกหก เขาคงสงสารที่พวกเราถูกเรียกว่า ‘ข้าวนอกนา ’ ดังนั้น ถึงได้จงใจพูดว่าเป็นแดดดี๊ของพวกเรา ใช่เลยพวกเรารู้ว่าคุณเป็นคนมีจิตใจที่ดี ต่อไปจะไม่เรียกคุณว่าคุณลุงนิสัยไม่ดีอีกแล้ว” “ใช่เลย นี่อาจจะเป็นไปได้ พวกเราจะลง พวกเราไม่อยากให้คุณกอด แดดดี๊ไม่ใช่เรื่องที่จะรับกันได้ง่ายๆ” ออกแรงดิ้นเพื่อจะลง เด็กทั้งสองคนที่ออกแรงสู้ทำให้ปุริมเจ็บจนทนไม่ไหว เขาสั่นเล็กๆ แต่ก็ยังออกแรงอุ้มเด็กๆสองไว้อย่างทุลักทุเล “ฉันไม่ใช่คนมีใจเมตตากรุณา ฉันเป็นแดดดี๊ของพวกเธอจริงๆ” “แต่ว่า…..อืมม พวกเพื่อนๆที่โรงเรียนอนุบาลก็พูดกันว่าแดดดี๊กับหม่ามี๊ต้องเล่นจุ๊บๆกันถึงจะมีพวกเรา แต่คุณกับหม่ามี๊ดูเหมือน……ดูเหมือน……” “ส้ม อย่าพูดเหลวไหล” เพ็ญนีติ์อยากจะมุดเข้าไปในทราย มีอย่างที่ไหนสงสัยเรื่องเธอกับปุริมแบบนี้ แต่จะให้เขาโกรธลูกๆก็โกรธไม่ลง “หม่ามี๊ นี่มันสำคัญมากนะ หนูไม่ได้ไม่ได้พูดเหลวไหล เป็นเรื่องจริงนะ แด็ดดี๊ต้องเคยเล่นจุ๊บๆกับหม่ามี๊ ถึงได้มีหนูกับอ้อย” แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ขอเพียงแค่ไม่เคยจุ๊บๆกับหม่ามี๊ นั่นก็จะไม่ใช่แดดดี๊ของพวกเธอ เป็นครั้งแรกที่ปุริมทำอะไรกับเด็กๆไม่ได้ มองไปอย่างขอความช่วยเหลือจากเพ็ญนีติ์ “เพ็ญนีติ์ รีบบอกพวกเขาไปว่าฉันเป็นแดดดี๊ของพวกเขา” “ฉัน…….” กัดปาก เพ็ญนีติ์ในขณะนี้ไม่กล้าพูดแม้แต่นิดเดียว ตราบใดที่มันใช่ พวกเด็กๆต้องคิดว่าเขากับปุริมเคยเล่นจุ๊บๆกันแน่ๆ แค่คิดผิวที่แทนของเขาก็ชมพูขึ้นมาทันที “ฉันต้องกลับโรงแรมแล้ว อ้อย ส้ม ลูกๆจะกลับด้วยไหม?” “เพ็ญนีติ์……” หัวของปุริมเต็มไปด้วยเหงื่อ ตอนนี้รู้สึกว่าไม่เบาละจริงๆ ขาก็เจ็บอยู่ หัวก็ยังเจ็บอยู่ แต่เด็กๆสองคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาตอนนี้น่าปวดหัวยิ่งกว่า พวกเขาไม่ยอมรับว่าเขาเป็นแดดดี๊ของพวกเขา ปัญหานี้ค่อนข้างยากที่จะอธิบาย แล้วก็ยากที่จะแก้ ตามองไปที่เพ็ญนีติ์ที่จะเดินไป เขารีบอุ้มเด็กๆสองตนแล้วเดินไปที่เพ็ญนีติ์ “อย่าไป พูดให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยไป” หน้าของเพ็ญนีติ์ยิ่งแดงเข้าไปอีก อันนี้จะให้เขาพูดยังไงรีบเดินยิ่งกว่าเดิม เหมือนกับว่าถ้าเขาแสดงออกมาเขาอาจะถูกผู้ใหญ่หนึ่งคนกับเด็กสองคนนั้นจับได้แน่ๆ “โอ้ย…ตุบ…..” เสียงพึมพำปนกับเสียงร้องตกใจของพวกเด็กๆ ปุริมอุ้มอ้อยกับสัมอยู่สะดุดทรายล้มลงไป “หม่ามี๊ เจ็บ…..” “แดดดี๊ คุณเลือดออกแล้ว…..” ส้มกับอ้อยตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง แต่พอเพ็ญนีติ์ได้ยินประโยคสุดท้าย “ปุริม……” ตกใจหันกลับไป เป็นตามีที่คาด หน้าผากของปุริมที่พันผ้าพันแผลไว้มีเลือดซึมออกมา เลือดสีแดงสดนั้นทำให้เด็กๆตกใจส้มที่อยู่ตรงหน้าเขา “แดดดี๊ เจ็บไหม?” เด็กน้อยถามอย่างกังวล แต่เธอไม่รู้ตัวว่าเพิ่งเรียกปุริมว่าอะไร เธอเรียกเขาว่าแดดดี๊แล้ว แต่เพราะความกังวลและเป็นห่วงถึงพูดออกมา โดยส้มไม่รู้ตัวเอง ปุริมลืมความเจ็บไปเลย ใบหน้าหล่อๆนั้นมองไปที่ส้ม “ส้ม เมื่อกี้หนูเรียกฉันว่าอะไร?” ส้มนึกยังไงก็นึกไม่ออก ก็เลยพูดออกไป :“แดดดี๊ไง” “หนูเรียกฉันว่าแดดดี๊แล้ว หนูยอมรับว่าฉันเป็นแดดดี๊แล้ว ใช่ไหม?” มองไปที่ส้ม ผู้ใหญ่หนึ่งคนกับเด็กสองคนยังคงนอนอยู่บนพื้นทราย “ตายแล้ว หนูจะไปเรียกคุณว่าแดดดี๊ได้ยังไง ยังไงก็แล้วแต่ หนูไม่ยอมรับ คุณยังไม่ได้จุ๊บๆหม่ามี๊เลย” “ใช่เลย ส้ม ถ้าหากเขาเป็นแดดดี๊จริงๆ เขาต้องจุ๊บหม่ามี๊ถึงจะได้ แล้วก็ ถ้าหากเขาใช่จริงๆ ทำไมหลายปีขนาดนี้ถึงไม่รู้จักพวกเราหล่ะ? แล้วก็ ตอนที่หม่ามี๊เลี้ยงพวกเรามาด้วยความลำบากเขาทำอะไรอยู่หล่ะ? เขาต้องพูดให้ชัดเจน แบบนี้ พวกเราถึงจะยอมรับเขา” อ้อยที่พูดอยู่ข้างๆยืนขึ้น มือเล็กๆเท้าอยู่ที่เอว มองลงไปที่ปุริม “หนูไม่เชื่อ หนูเชื่อแค่หม่ามี๊” “ใช่ ฉันก็เหมือนกัน” ปุริมส่ายหัว เขายอมแพ้เด็กสองคนนี้จริงๆ “เพ็ญนีติ์ เธอมานี่สิ” เขาเดินเจ้าไปอย่างสงสัย เขารู้แล้วหล่ะว่าเขาจะทำอะไร ต้องอยากให้อ้อยกับส้มเห็นเราจุ๊บกันแน่ๆ แต่นี่มันกลางวันแสกๆ เขาไม่ต้องการและก็ไม่กล้าด้วย “อ้อย ส้ม พวกหนูมานี่ ไป พวกเรากลับโรงแรมกันเถอะ” ใครสนเขากันหล่ะ อ้อยพูดถูก ช่วงเวลาที่เขาคนเดียวเลี้ยงเด็กๆมาจนโต แต่ไม่รู้ว่าเขาไปอาศัยอยู่กับหญิงที่ไหน คิดๆแล้ว เธอไม่ยอม ก้าวขาเดินไป “แต่ว่าหม่ามี๊ หัวเขาเลือดออกนะ” ส้มใจอ่อนอีกแล้ว สิ่งที่ผู้ชายคนนี้แสดงออกมาดุเหมือนเขาเป็นแดดดี๊ของพวกเราจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้างั้น…..ถ้างั้น….. ถ้างั้นเธอทนไม่ได้แล้ว เขาเลือดไหลแต่ไม่มีใครสนใจ จะเจ็บขนาดไหนอ่ะ “ไม่ต้องไปสนใจ พวกเราไปเถอะ” ความเจ็บของเขาไม่ใช่เพื่อเธอ แต่เพื่อพนินี พูดจริงๆเขาเป็นอะไรก็ให้ไม่ได้ ตอนนี้เขายังจะมาเอาอ้อยกับส้มที่อยู่ข้างกายเธอไปอีก แค่คิด เธอก็เจ็บปวด “หม่ามี๊ ไม่ก็ โทร120เรียกรถพยาบาลเถอะ คุณครูเคยบอกว่าเลือดไหลเยอะแล้วอาจตายได้ ถ้าแดด….เอ้ย ไม่ถ้าเขาตาย ถ้างั้นหนูกับอ้อยเห็นแต่ช่วยไม่ได้ช่วยอ่ะหรอ นี่มันไร้ศีลธรรม” มาเป็นชุดๆ จนเพ็ญนีติ์พูดไม่ออก “หนูเรียกสิ ไม่งั้นแม่ไปละนะ” ก้าวขาเดินไป แม้แต่พวกเด็กๆหล่อนก็ไม่สน จะให้มาเล่นจุ๊บๆ เธอไม่ยอมหรอก เวลาที่ผู้หญิงใจแข็งเหมือนเหล็ก ผู้ชายก็ไม่จำเป็นที่จะคิดดึงกลับไป ดังนั้น เวลาคิดจะเริ่มทำอะไรให้คิดถึงผลที่จะตามมาด้วย แต่ เวลาคิดแบบนี้ เพ็ญนีติ์รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดแล้ว เวลาเขาทำ เขาไม่เคยรู้อะไรเลย เขาคงดื่มมากไป เฮ้อ ก็เพื่อพนินีอีกนั่นแหละ คิดถึงพนินี ในใจลึกๆของเธอก็ไม่ได้มีความเสียใจอะไร ปุริมใช้แรงลุกขึ้นยืน “อ้อย ส้ม พวกหนูเชื่อว่าฉันเป็นแดดดี๊ไหม?” สายตามองไปที่เด็กๆอย่างลังเล ปุริมเริ่มถามๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องให้เด็กรับรู้ก่อนมันถึงจะถูกต้อง ถึงแม้เมื่อวานตอนเย็นจนถึงตอนนี้ เขาแทบจะไม่เชื่อว่านี่มันคือเรื่องจริง แต่หลังจากที่คิดแล้วคิดอีก เขารู้สึกว่านี่เป็นไปได้มากทีสุด เพราะว่าตอนนั้นนอกจาก นภนต์ กับจำรูญแล้ว เพ็ญนีติ์ก็ไม่เคยพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นเลย ความเป็นไปได้ที่ผู้ชายสองคนนั้นจะเป็นแดดดี๊ของอ้อยกับส้มก็ตัดออกไปได้เลย กรุ๊บเลือกก้ไม่ตรงกัน แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 81 ยังจะปล่อยมือไหม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A