ตอนที่88เหนือฟ้ายังมีฟ้า   1/    
已经是第一章了
ตอนที่88เหนือฟ้ายังมีฟ้า
ต๭นที่88เหนือฟ้ายังมีฟ้าคำของเด็กน้อยที่ไม่จริงจังกลับเป็นคำที่จริงและตรงไปตรงมาทำให้นภนต์แต่เดิมที่หน้าขาวใสกลับกลายเป็นหน้าแดงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ“เธอคือส้มใช่ไหม?”“อืมหนูคือส้มหนูเป็นพี่สาว”ส้มเด็กน้อยคนโตพูดอย่างใจเย็น เพ็ญนีติ์ต้องการสอดแทรกคำพูดให้เด็กๆไม่ต้องสนใจเรื่องของผู้ใหญ่แต่นภนต์กลับพูดอย่างรวดเร็ว:“ฉันอยากแต่งงานกับแม่ของพวกเธอก็เพราะว่าฉันรักเธอมีแค่ความรักที่จะทำให้เธอมีความสุข”“ถ้าอย่างนั้นพ่อของหนูไม่รักแม่ของหนูหรอ?”อีกมุมนึงอ้อยก็ไม่หยุดใช่ไงแม่แต่งงานกับพ่อจะไปแต่งงานกับพ่อบุญธรรมได้ยังไง?ความสัมพันธ์เหล่านี้มันทำให้หัวสมองเล็กๆของเธอสับสนไปหมด“นี่คือ…..”นภนต์หันไปขอความช่วยเหลือจากเพ็ญนีติ์เขากลัวว่าเขาจะเผลอพูดอะไรผิดไปทำให้ทำร้ายจิตใจเพ็ญนีติ์เธอยิ้มอย่างสวยงามทีนึงคำพูดของลูกรักของเธอเธอรักเด็กสองคนนี้“อ้อยส้มนี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่พวกเธอเป็นเด็กไม่ควรเข้ามายุ่งนะ”“แต่ว่าแต่ว่าพวกเราอยากให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันนี่หน่า”ในของเพ็ญนีติ์เต้นตึกตักเด็กมีความคิดที่ดีจริงๆแต่ว่าตอนนี้ปุริมไม่ให้โอกาสกับเธอแล้วเขาอยากจะใช้ทุกวินาทีอยู่กับพนินีส่ายหัว“อ้อยส้มพ่อกับแม่รักพวกเธอทั้งคู่แต่ว่าพ่อกับแม่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้แล้วนะมีเด็กอีกมากมายที่พ่อกับแม่ของเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน”“นั้นก็คือหย่าแม่แม่กับพ่อหย่ากันใช่ไหม?”เธอโง่เองเธอกับปุริมมีงานแต่งงานกันจริงๆแม้แต่ในข้อตกลงตอนนี้เธอก็ยังเป็นภรรยาของปุริมแต่ก่อนพวกเขามีทะเบียนสมรสพอเด็กๆมาพูดแบบนี้เธอกับเขาคงต้องหย่ากันจริงๆเพื่อให้เป็นการแน่นอนว่าข้อตกลงนั้นได้ยกเลิกแต่ที่เขาไปพูดไปสุดท้ายเขาก็ได้แต่บอกว่าเดี๋ยวค่อยว่ากันพอมันรวมเข้าด้วยกันมันทำให้ใจของเธอรู้สึกเหนื่อยหน่ายเขาไม่รักตัวเองเธอกลับสบัดไม่หลุดจากเขาทันใดนั้นคิ้วก็ย่นเหมือนคนแก่เธอกังวลมาก“แม่แม่ไม่พอใจในคำถามของหนูหรอ?”“ไม่ใช่ลูกเพียงแต่คำถามนี้มันยากที่จะตอบออกมาให้แม่คิดสักสองสามวันก่อนนะแล้วจะมาตอบพวกเธอโอเคไหม?”“โอเค”อ้อยกับส้มตอบด้วยเสียดังฟังชัดนภนต์เพิ่งจะออกมาพูดตามตรงตอนนี้สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือการตอบคำถามของเด็กสองคนนี้สายตามองมาที่เขาที่ถอยออกมาอ้อยกับส้มพูดอย่างสุภาพกับเขาว่า“คุณพ่อบุญธรรมฝันดีค่ะ”“ฝันดี”เขายิ้มๆเขาไม่กลัวทั้งกระสุนและเม็ดฝนแต่กลับเวลาที่เผชิญหน้ากับเด็กสองคนนี้ค่อยๆอยากจะเดินหนีไปจริงๆเด็กๆอายน้ำเสร็จก็ปีนขึ้นเตียงโดยปกติจะนอนกับเตียงเดียวกับเพ็ญนีต์“แม่หนูง่วงแล้ว”หาวไปพูดไปผ่านไปสักพักก็ผลอยหลับไปได้ยินเสียงหายใจของพวกเธอเพ็ญนีติ์ทำยังไงก็นอนไม่หลับเธอลุกขึ้นอย่างเงียบๆแล้วเดินไปที่หน้าต่างเปิดประตูระเบียงออกไปยืนนอกห้องแสงจันทร์สาดส่องดังแสงสีเงินทำให้ดูเหมือนว่ากลางคืนนี้ไม่มีอยู่จริงตัวยืนพิงกระเบี้ยงตรงระเบียงสัมผัสได้ถึงความเย็นนี่เป็นช่วงเวลาที่สบายที่สุดในคือฤดูร้อนเพ็ญนีติ์มองไปที่วิวข้างหน้าอย่างเงียบๆในใจได้แต่คิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสองวันที่ผ่านมานี้ไม่รู้ว่าทำถูกหรือผิดแต่นี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากจะทำถามหัวใจของตัวเองอ่อนแอมาหกปีเขาไม่ชอบการเห็นท่าทางที่ปุริมเจอกับพนินีในแววตาเธอนั้นมันเต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้งที่จริงแล้วพูดไปมันก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดรู้ว่าทำอะไรไม่ได้แต่มันกลับทำให้ใจเธอลุกโชน“ตึงตึง…..”เสียงเคาะประตูดังขึ้นถึงแม้ว่าเสียงนั้นจะเบาแต่เพ็ญนีติ์กลับกลัวว่าจะทำให้เด็กๆตื่น“คุณภรรยาคนนี้คุณคือเพ็ญนีติ์ใช่ไหม?”“อืมฉันเอง”มองสาวใช้คนนี้อย่างสงสัยเพ็ญนีติ์เดาไม่ออกจริงๆว่าเธอต้องการอะไร“ถ้าอย่างนั้นก็ถูกแล้วชั้นล่างบอกว่ามีโทรศัพท์ของคุณมา”“โทรศัพท์?”มือจับไปที่จมูกของตัวเอง“โทรหาฉัน?”“ใช่ดูรีบร้อนมาก”“ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”ไม่รู้ว่าทำไมแต่อากับกริยาแรกของเธอดูเหมือนว่าสายนั้นจะเป็นผู้ชายและถ้าเป็นปุริมถ้าเป็นปุริมเธอไม่ต้องการจะรับสายคิดขึ้นมาว่าโรงแรมที่เขากับพนินียืนเคียงข้างกันหัวใจของเธอก็เจ็บแปรบขึ้นมา“ผู้หญิงค่ะ”เพ็ญนีติ์ยิ่งคิดไม่ออกเลยว่าเป็นใคร“คุณรีบลงมาดูเถอะเสียงของผู้หญิงคนนั้นดูเร่งด่วนมากดูเหมือนเกิดเรื่องอะไรขึ้น”“โอเค”พอพูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไปขอแค่เสียงไม่ดังไปปลุกเด็กๆที่กำลังนอนหลับไหลอยู่ก็โอเคแล้วเธอรีบลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็วปัทมาชนรพกับผลดาไม่อยู่แล้วนภนต์คงจะเชิญกลับห้องไปแล้วเพ็ญนีติ์หญิงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องรับแขกขึ้นมาพูดด้วยเสียงต่ำ“สวัสดีค่ะฉันเพ็ญนีติ์พูดสายใครโทรหาฉันคะ?”สามารถค้นเจอว่าเธออยู่ที่บ้านตระกูลศาสตร์พงษ์คนๆนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆเพราะว่าเธอเพิ่งมาอยู่บ้านตระกูลศาสตร์พงษ์ได้ไม่นาน“เพ็ญนีติ์เธออยู่ที่บ้านตระกูลศาสตร์พงษ์จริงๆด้วย”ที่แท้ก็เป็นนารานึกถึงท่าทางตอนกลางวันของนาราจงใจบอกเธอว่าปุริมได้รับบาดเจ็บกลับเรียกพี่สาวของเธอไปที่อุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟอีกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดดูเหมือนว่าจะมีอะไรลึกลับและแรงจูงใจบางอย่างซ้อนเร้นอยู่ทำให้เพ็ญนีติ์ไม่พอใจการกระทำของนารา“ขอโทษนะฉันหลับไปแล้วไว้ค่อยคุยกันวันหลัง”เธอพูดจบก็จะวางสายแต่ว่าในสายโทรศัพท์กลับมีเสียงที่ร้อนรนของนารา“เพ็ญนีติ์เธอไปรับปุริมเถอะถ้าเธอไม่ออกไปเกรงว่าเขาจะถูกจับที่สถานีตำรวจจับนะ”รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยนี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเธอตอบสนองไม่ทันแล้วจริงๆแต่พอได้ยินคำว่าสถานีตำรวจสามคำที่ขึ้นมามือของเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับอย่างไม่รู้ตัว“ปุริมทำไมถึงถูกจับไปอยู่ที่สถานีตำรวจ?”“เขาขับรถเร็วแล้วพี่สะใภ้ฉันก็บอกเขาแล้ว”“อ่อฉันเข้าใจแล้ว”มือก็วางโทรศัพท์ไปเธอไปแล้วช่วยอะไรได้?เธอไม่ได้รู้จักตำรวจเลยอีกทั้งเธอไม่ใช่ภรรยาตามข้อกำหนดของเขาเมื่อหลายปีก่อน คิดไปคิดมาครั้งนี้ไม่อยากเข้าไปยุ่งถึงแม้ไม่อยากคิดต่ออะไรกับปุริมแล้วแต่ตอนที่ได้ยินเสียงนาราพูดว่าเขาโดนจับแล้วเธอก็ยังเป็นกังวลไปหาณัฏฐพลเถอะจะดีหรอร้ายคนในครอบครัวก็เป็นครูไหล่ทั้งสองข้างแขวนไปเต็มไปด้วยแผ่นป้ายและดาว“เพ็ญนีติ์มีอะไรดึกๆดื่นๆ”ญภาหาวไปในขณะรับโทรศัพท์ของเธอ ขอโทษในใจ“ญภาขอโทษที่รบกวนเธอดึกๆดื่นๆ”“ไม่เป็นไรมีเรื่องอะไรหรอเธอพูดมาเถอะแค่เป็นโทรศัพท์จากเธอฉันรับตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงว่าไงฉันสามารถให้เธอเป็นพี่สาวแท้ๆของฉันแทนได้เลย”“คือว่านาราบอกว่าปุริมโดนจับอยู่สถานีตำรวจฉันรู้สึกว่าสถานะฉันตอนนี้ไม่เหมาะที่จะไปเจอเขาไม่สู้…..ไม่สู้...”“เฮอเฮอฉันเข้าใจแล้ว”เดี๋ยวฉันโทรบอกณัฏฐพลให้เขาออกไปก็ได้เธอไม่ต้องกังวล“โอเคขอบคุณนะ”เธอรีบขอบคุณแต่ไม่รู้ทำไมกับรู้สึกไม่อยากวางสาย“ขอบคุณทำไมเดี๋ยวรอมีข่าวอะไรเดี๋ยวฉันจะโทรกลับไปแจ้งเธอเธอกลับไปส่งลูกเข้านอนเถอะ”“อืมราตรีสวัสดิ์นะ”ได้ยินญภาบอกจะกับเธอว่าเดี๋ยวจะโทรกลับมาเธอก็รู้สึกสบายใจแล้ววิ่งขึ้นบันไดไปนภนต์ที่สวมเสื้อผ้าสบายๆยืนอยู่ตรงนั้น“ใครโทรมาหรอ?”“ปุริมถูกจับฉันเลยให้ญภาโทรหาณัฏฐพลช่วยไปจัดการให้”“เพ็ญนีติ์ไปนั่งคุยกันที่ห้องอ่านหนังสือของฉันเถอะ” “มีเรื่องอะไรหรอ?”มองไปที่นภนต์อย่างจริงจังดูเหมือนว่าจะมีเรื่องสำคัญที่อยากจะบอกเธอได้โปรดไม่ว่ายังไงขออย่าพูดเรื่องงานแต่งงานกับเธออีกเลยเธอแค่อยากให้โอกาสตัวเองได้ทดสอบอีกสักครั้งเธอเลยยังไม่ยอมตอบตกลงแต่งงานกับเขาการแต่งงานมันเป็นเรื่องของทั้งชีวิตมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเธอต้องคิดให้มันแน่ใจชัดเจนกระจ่าง“อืมมีเรื่องนิดหน่อยฉันคิดว่าควรบอกเธอให้เธอได้รู้”ฟังนำเสียงของเขาดูเหมือนจะไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ส่วนตัวของเธอกับเขามันเลยทำให้เพ็ญนีติ์อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายไปบ้าง“ไปเถอะ”นภนต์เดินนำไปเขาสูงมากเทียบกับปุริมส่วนสูงคงพอๆกันแต่เขาผอมกว่าเลยดูเหมือนเขาจะสูงกว่าปุริมนิดหน่อยทำให้ทุกครั้งที่เธอเดินตามหลังเขามันจะมีความรู้สึกหนักใจที่ไม่มีตัวตน มีชาแก้วนึงวางอยู่บนโต๊ะเพ็ญนีติ์หยิบขึ้นมาอากาศเย็นเจือจางความร้อยของชาทำให้ปลายจมูกได้กลิ่นจางๆของชาชาประเภทนี้เป็นชารสอ่อนๆแบบที่เธอชอบ“เพ็ญนีติ์จำรูญลาออกแล้ว”เพิ่งจะนั่งลงอยู่ๆนภนต์ก็พูดขึ้นมา“หะทำไม?”“จำรูญถูกปลดออกจากตำแหน่งหน้าที่”“จริงหรอ?”ได้ยินนภนต์พูดซ้ำอีกรอบเธอกลับไม่รู้สึกว่ามันมีอไร“คนอย่างเขาก็ควรถูกปลดออกจากตำแหน่ง”สมควรทำไมแต่แรกเริ่มเขาบอกว่าอยากแต่งงานกับเธอตอนนี้อยากให้เธอฟังเขาพูดกลับไปกลับมาให้กลับไปอยู่ข้างกายเขาไม่เธอตั่งใจแน่วแน่ที่จะไม่ต้องการ “เพ็ญนีติ์ที่จริงแล้วครั้งนี่เธอจะไปโทษจำรูญทั้งหมดไม่ได้”“ทำไมไม่ได้?เขาปล่อยข่าวลือว่าฉันเป็นผู้หญิงของเขาแถมยังน่าอายเหมือนเธอมีฐานะเป็นเมียน้อยที่สามที่จริงแล้วอยากให้ฉันมีลูกแทนภรรยาของเขาฉันเลยไม่เอา”“เพ็ญนีติ์เธอคิดว่าจำรูญต้องการกลับไปหาเธอเขามีความจำเป็นอะไรที่จะต้องประกาศพวกข่าวที่ทำร้ายเธอแล้วก็ทำร้ายตัวเขาออกไปไหม?”ใช่ไงตอนที่มองภาพวาดตัวอักษรบนผนังเธอก็เกิดคำถามขึ้นมาเนื่องจากบนผนังแขวนตัวอักษร‘เซี่ย’ผลปรากฎว่าไม่นาตัวอักษรบนผนังนั้นก็ถูกคนแก้ไขในเวลานั้นเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าต้องมีบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องในเกมส์ตอนนี้ได้ยินเสียงนภนต์เหมือนกับว่าจะเป็นเรื่องจริง ดูแล้วพละกำลังของปรินทรไม่แตกต่างกันเหนือฟ้ายังมีฟ้าทันใดนั้นเธอนึกได้ได้ว่าปุริม“ใช่ปุริม?”ไม่หรอกมั้งเธอไม่เชื่อว่าปุริมจะเป็นคนปล่อยข่าวลือเรื่องระหว่างเธอกับจำรูญคิดเรื่องนี้คิดมาได้บวกกับสิ่งที่ได้ยินมานั้นเธอไม่อยากจะเธอว่านั้นจะเป็นฝีมือของปุริม“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเป็นฝีมือใครแต่แค่รู้สึกว่าปุริมกับณัฏฐพลน่าสงสัยทั้งคู่ถ้าต่อไปเธอติดต่อกับพวกเขาเธอก็ระวังตัวไว้หน่อยก็แล้วกันอย่าให้ใครหลอกใช้อีกถึงเวลานั้นเธอบาดหมางใจจะไม่ใช่จำรูญแต่กลับเป็นครอบครัวของปรินทรปรินทรคนๆนี้ไม่ใช่คนที่ดี” 
已经是最新一章了
加载中