ตอนที่ 28 แฟน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 28 แฟน
ต๭นที่ 28 แฟน “ธัชชัย! เรวัต! พวกเธอ พวกเธออย่าตีกัน !ทั้งที่เป็นเพื่อนที่ฉันรู้จักกัน!” วัจสานึกถึงบาดแผลของเขา เลยไม่อยากให้พวกเขาตีกัน ไม่งั้นบาดแผลธัชชัยก็จะแตกอีก งั้นก็แย่สิ ใช้เพื่อนมาอธิบายความสัมพันธ์ของพวกเขา เพียงแค่ไม่อยากให้พวกเขารู้ว่าตัวเองแต่งงานแล้ว คนตรงหน้านี้ก็คือ’น้องชายของสามี’ตัวเอง แต่แวววัยไม่เคยคิดเลยว่า ’เพื่อนคนนี้’ เลยเข้าใจผิดว่าเป็นแฟน เธอตกใจว่า “วัจสา อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนคนใหม่ที่กำลังคบอยู่?ปรมะล่ะ?พวกเธอเลิกกันแล้วเหรอ?” เพราะคำพูดของแวววัย ทำให้เรื่องมันหนักกว่าเดิม คำพูดของเธอมีข้อความสำคัญอยู่ในนั้นด้วย เดิมทีวัจสามีแฟนแล้ว และชื่อปรมะ วัจสารู้ว่าแย่แล้วสิ แวววัยช่างปากจัดจริงๆ แล้วด่าเบาๆว่า “แวววัย เธอพูดเรื่องบ้าๆอะไรออกมา?! ” แรงที่ธัชชัยจับมือวัจสาไว้ได้เพิ่มขึ้น ความโกรธทั้งหมดได้รวบรวมไปอยู่ในดวงตาสีดำ ทั่วกายปลดปล่อยกลิ่นไอที่เย็นเหยือกออกมา วัจสารู้สึกว่ามือของตัวเองจะแตกแล้ว สูดหายให้ลึกๆ“ฮึบ” และทนไม่ไหว “ธัชชัย มือนาย ฉันเจ็บนะ!” เสียงอ่อนเบาและเจ็บปวดของผู้หญิงได้ถึงแก้วหู สีตาของธัชชัยลึงขึ้น มองเธออย่างมีความหมายลึกซึ้ง แรงบนมือค่อยๆเบาลง แต่ไม่ได้ปล่อยมือเธอทั้งหมด “อา แฟนวัจสา เนื่องจากความสัมพันธ์ชัดเจนแล้ว ฉันว่าพวกเราไปกินข้าวกับนายด้วยกันไหม ถือว่าไม่รู้ไม่ผิด” แวววัยจู่ๆให้ข้อเสนออย่างเสียงดัง วัจสาฟังแล้วเหงื่อแตก ข้อเสนอนี้ก็มีแต่ผู้หญิงที่คิดเรื่องไร้สาระออกมาอย่างแวววัย ธัชชัยเงียบไปสักครู่ แล้วตกลง สุดท้ายสถานที่กินข้าวจากโรงแรมห้าดาวที่ธัชชัยบอก เปลี่ยนเป็นร้านอาหารแถวริบถนน เพราะว่า ถ้าไปสถานที่ที่หรูเกินไปจะทำชื่อเสียงอาสาสมัครของสถานสงเคราะห์เสียหาย และพวกเขาก็ไม่ชอบสถานที่หรูหร่าเกินไป รู้สึกเสียดายเงิน ถ้าเอาเงินพวกนี้ไปแลกเป็นเงินบริจาดก็คงดี ร้านอาหารแถวริบถนนเสียงดัง บรรยากาศที่เสียงดังนี้ สามารถระงับการกดขี่และความเกลียดชังของธัชชัยได้ชั่วคราว ราวกับว่าถูกให้โลกมนุษย์กลืนไปทุกอย่าง! เขาดื่มเบียร์อย่างปากกว้าง แต่รอยยิ้มของเขาอยู่บนใบหน้าหล่อ วัจสาเห็นธัชชัยอย่างนี้ ในใจไม่รู้ว่านี่คือความรู้สึกอะไร เธอนึกไม่ถึงว่าคนที่อยู่ชนชั้นสูงอย่างธัชชัยจะสามารถอยู่สถานที่นี้และคบกับผู้คนเหล่านี้ได้ เขามัดจะดูถูกตัวเขาเองและเพื่อนๆของเขาไม่ใช่เหรอ? ทันใดนั้นวัจสานึกได้ว่า ถ้าธัชชัยเมาแล้ว เธอจะเอาเขากลับบ้านยังไง? ก็ไม่รู้ว่าวิธีขับรถเฟอรารี่ของเขาจะเหมือนกับรถของตระกูลเดิมขุนทดไหม? เมื่อดื่มเบียร์ไปสามรอบ ก็เริ่มมีคนเมาแล้ว วัจสานึกไม่ถึงว่าคนที่เมาคนแรกคือเรวัต เขาถือแก้วแล้วม้วนลิ้นอยากจะชนแก้วกับธัชชัย “ธัชชัย นายอย่าเข้าใจผิด เข้าใจผิดฉันกับวัจสาคือความสัมพันธ์แบบนั้น.....ฉันมีภรรยาและลูกแล้ว......ในสายตาฉัน วัจสาเป็นน้องสาวของฉัน น้องสาวแท้!” เรวัตม้วนลิ้นพูด วัจสาได้ยินถึงตรงนี้แล้วรู้สึกประทับใจ เธอรู้อยู่เสมอว่าเรวัตดูแลเธอมาอย่างดี แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีน้ำหนักมากชะขนาดนั้น “ตั้งแต่มาถึงสถานสงเคราะห์ เธอเป็นเด็กคนแรกที่ฉันรู้จัก เป็น......เด็กที่ดีและเชื่อฟัง.....เพราะนั้นฉันคิดไม่ออก ผู้หญิงที่ดีอย่างนี้ทำไม คนในตระกูลเดิมขุนทดถึงลงมือทำอย่างนี้กับเธอได้?บอกว่าฝากเลี้ยงดูในตระกูลเดิมขุนทด แต่ลูกสาวทั้งสามของตระกูลเดิมขุนทดไม่มีคนใดคนหนึ่งเห็นเธอเป็นญาติ ถึงจะพึ่งพออาศัยผู้อื่น แต่ใช้ชีวิตแย่กว่าคนรับใช้!ถ้านาย......ถ้าชอบวัจสาจริงๆ จำได้ จำได้ว่า......แต่งเธอกลับไป...... ” เรวัตรู้จักวัจสามาหลายปี ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กก็เริ่มเห็นทุกการกระทำของเธอ เขาสงสารกับประสบการณ์ของเด็กผู้หญิงคนนี้มาก นึกไม่ถึงว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนใจแข็งอย่างวราลี วัจสาไม่คุ้นเคยกับการเอาเรื่องของตัวเองมาเล่าต่อหน้าธัชชัย มันเป็นจุดอ่อนเพื่อที่ทำให้เขาสนุก เธอห้ามคำเมาของเรวัตอย่างทื่อๆ “เวรัต อย่าพูดเลย ไม่มีอะไรน่าพูดหรอก......” วัจสาอาศัยอยู่ตระกูลเดิมขุนทดอย่างไม่มีสุข ถ้าไมมีตระกูลเดิมขุนทด เธออาจจะไม่มีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นเธอไม่เคยบ่นว่าตระกูลเดิมขุนทด ถึงพวกเขาจะไม่เห็นเธอเป็นญาติ พูดตามตรงจริงๆตัวเองเป็นคนส่วนเกิน ทันใดนั้นสอดแทรกเข้าไปในครอบครัวของตระกูลเดิมขุนทด วัจสาก็ไม่อยากจะพูดเรื่องตัวเอง เรื่องตระกูลศรีทองและความสัมพันธ์กับผู้ชายข้างหน้านี้ พูดแล้วก็เพียงให้พวกเพื่อนอาสาสมัครที่สถานสงเคราะห์ โกรธมากขึ้นกว่านี้เท่านั้น ส่วนเรื่อง’แฟน’ กลับไปถึงตระกูลศรีทองแล้วค่อยๆอธิบายให้ธัชชัยดีกว่า ไม่งั้นเขาต้องเอาเรื่องนี้มาเอะอะแน่ๆ ธุรกิจของแผงขายอาหารแห่งนี้ดีมาก แต่มันเล็กไปหน่อย ดังนั้นที่นี่จึงแออัด วัจสาจึงนั้งอยู่ทางช้ายมือของธัชชัย ตอนที่เด็กเสริฟขึ้นอาหาร อยู่ทางขวามือของธัชชัย แต่ไม่รู้ว่าโดนของสะดุดล้มหรือเปล่า ซุปบนหม้อในมือก็ตกลงไปที่ไหล่ซ้ายของธัชชัย นึกว่าจะช้าไป แต่กลับรวดเร็วกว่าที่คิด วัจสาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รีบลุงขึ้นแล้วไปที่ข้างหลังของธัชชัย “ธัชชัยระวัง!”เธอเอาร่างกายตัวเองไปขวางซุปหม้อนั้น หม้อดินและวัตถุดิบข้างในติดอยู่ที่ด้านหลังของวัจสา ธัชชัยหันตัว เอาหมัดชกหม้อดินอย่างรวดเร็ว คว้าเอววัจสา แล้วพาเธอไปที่แขนของตัวเอง แต่วัตถุดิบที่เดือดยังอยู่บนหลังของวัจสา เธอถูกลวก นึกไม่ถึงว่าจะเจ็บขนาดนี้ รู้สึกจะพองไปหมด ไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงในตอนนั้น?ถึงได้กล้าที่ไปช่วยขวางซุปที่เดือดให้ผู้ชาย...... เมื่อกำลังคิดอยู่ ธัชชัยก็ชีกเสื้อเชิ้ตที่มีวัตถุดิบติดอยู่ข้างบน เห็นรอยแผลบวมทั่วหลัง ในเวลาเดียวกัน เสื้อสีเดียวกันเสื้อเชิ้ตคลุมหลังวัจสาคลุมร่างเรียวของเธออย่างมิดชิด รู้สึกถึงร่างกายที่รุ่มร้อนของผู้ชายตรงข้างได้ วัจสาถึงสังเกดได้ว่าเขาถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้เธอ ดังนั้นตอนนี้เขาอยู่ในสภาพร่างกายส่วนบนเปลือยอย่างแข็งแรง “ธัชชัยนาย......” “ให้ตายสิ อย่าพูด ยัยโง่!”เขาพูดเสียงดัง แล้วกอดวัจสาอย่างแน่น ข้ามไหล่ของเธอเพื่อดูรอยแผลที่ข้างหลัง บนผิวขาวละเอียดอ่อน มีแดงเข้มบางที่ช่างขวางตาเป็นพิเศษ ถ้าเกิดรอยแผลเป็น ก็จะ...... ธัชชัยตอนนี้จู่ๆรู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ก็เหลือเกินจริง ๆ!กล้าที่จะปิดกั้นแทนเขา ถ้าเขาปิดกั้นหม้อซุปนั้นไม่ทัน ผลที่ตามมาอาจจะรุนแรงมากขึ้น! เขาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้วัจสา ลุกขึ้น แบกวัจสาไว้บนบ่าอย่างไม่เปลืองเรี่ยวแรง แล้วหันตัวเดินไป “อา!ธัชชัย นาย นายคิดจะทำอะไร?! ฉันเดินเองได้” วัจสาหน้าแดงด้วยความอับอาย เขา เขาแบกเธอต่อหน้าผู้คนมากมาย! ธัชชัยไม่สนใจ แล้วเดินไปข้างนอกต่อ วัจสาจึงสบสายตาไปที่กลุ่มอาสาสมัคร แต่พวกเขาตอนนี้ทำหน้าตกตะลึงกันหมด แล้ววัจสาก็ถูกธัชชัยแบกออกร้านโดยต่อหน้าผู้คน เหลือเพียงแค่ผู้ชมที่ทำหน้าตกตะลึงกันจำนวนมาก โอ คุณพระช่วย!ช่างแมนจริงๆ! เห็นโชว์สวีทอย่างนี้ หน้าอิจฉาสุดๆ “ถ้าให้ฉันเจอเจ้านายเอาแต่ใจอย่างนี้สักคนก็ดี!ไม่สนใจว่าเขามีเงินหรือไม่!ฉันก็ชอบแนวนี้!” “ฮ้าฮ้าฮ้า เธอกลับไปฝันเถอะ” มีคนแขวะแล้วผู้คนพูดด้วยความหัวเราะคึกคัก เรวัตถอนหายใจ “ในที่สุดวัจสาก็ค้นพบคนที่สามารถดูแลเธอได้แล้ว ถึงนิสัยดูโหดไปหน่อย ” แต่ความห่วงใยในสายตาคนนั้นไม่ได้เสแสร้งออกมา ทันใดนั้นก็เงียบ และมีคนนึกเรื่องได้อยู่เรื่องหนึ่ง คนเลี้ยงข้าว(ธัชชัย)ยังไม่ได้จ่ายเงินก็หนีไปนี่หมายความว่ายังไงกัน! ตอนที่วัจสาถูกโยนทิ้งอยู่บนรถ คือหน้าลงก่อน เธอนวดหน้าอกเพื่อคลายความเจ็บ ผู้ชายคนนี้ ถ้าไม่ถูกลวกตายก็ถูกเขาฆ่าตาย!มองร่างเปลื่อยด้านบนของเขา หน้าของวัจสาร้อนขึ้นจนทนไม่ได้ ทำเรื่องแบบนั้นในธารกำนัลจะดีเหรอ?ไม่รู้ว่าพวกเพื่อนอาสาสมัครจะคิดอย่างไร! และตอนออกมา ไม่ได้บอกพวกเขาและยังไม่ได้จ่ายเงิน......วัจสาร้องไม่ออกเลย ธัชชัยทำหน้ามืด ขับรถไปด้วยแล้วด่าไปด้วยว่า “ทำไมต้องมากั้นแทนฉัน?ตัวเล็กอย่างเธอ ไม่รู้ว่าจะลวกหนักถึงขนาดไหน?” น้ำเสียงพูดราวกับว่าวัจสาไปฆ่าคนวางเพลิงอย่างงั้น วัจสาถูกเขาพูดจนอึ่ง ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง แล้วตอบอย่างฉับพลันว่า “ฉัน ฉันแค่ไม่อยากให้ไหล่ซ้ายของนายบาดเจ็บอีก นายช่วยฉันครั้งหนึ่งฉันช่วยครั้งหนึ่ง พวกเราเสมอกัน”วัจสาเกือบเชื่อเหตุผลที่ตัวเองอ้างออกมา แต่เธอตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่ไม่อยากให้ธัชชัยได้รับบาดเจ็บอีกก็แค่นั้น แต่โชคดีที่ธัชชัยช่วยได้ทันเวลา หม้อดินก็เลยไม่ได้โดนที่ด้านหลังวัจสา แล้ววัตถุดิบที่ติดอยู่บนตัวก็ถูกธัชชัยดึงออก “งั้นเหรอ?แบบนั้นดีที่สุด ฉันจะบอกเธอ วัจสา อย่าหลงรักฉันดีที่สุด!เรื่องแมลงเม่าบินเข้ากองไฟอย่างนี้ ฉันเชื่อว่า คนที่มีไหวพริบอย่างเธอ คงไม่ทำเรื่องแบบนี้” ธัชชัยมองวัจสาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา วัจสาอยากจะหัวเราะออกมา หลงรักเขา?คนที่อวดดี เย่อหยิ่ง หยิ่งยโส อย่างหมอนี่ เธอจะรักเขา?ช่างเป็นเรื่องที่หน้าหัวเราะมากๆ เขาจะมีอะไรที่จะทำให้เธอตกหลุมรักเขา? ตอนธัชชัยถามเธอประโยคนั้นหัวใจของเธอหยุดเต้นไปสักครู่ แล้วเต้นอย่างรวดเร็ว เพราะเธอรู้ว่าตอนนั้นตัวเองทำไปด้วยพฤติกรรมจิตใต้สำนึก ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ใช่ทำเพื่อตอบแทนบุญคุณ ก็ไม่ใช่ทำเพื่อความภักดี.....เธอก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ทันใดนั้นวัจสารู้สึกกลัวอย่างหวั่นไหว รีบเรียกธัชชัย “นะ นายจอดรถ! ฉันจะลงรถ!” “แอด”เสียงหนึ่ง รถก็หยุดลง วัจสารู้สึกตกใจ ธัชชัยยอมเชื่อฟังคนตั้งแต่เมื่อไหร่? ความคิดยังไม่ดับ ก็เกือบจะโกรธกับประโยคต่อไปของธัชชัย “ลงรถได้ แต่เอาเสื้อผ้าฉันคืนมาก่อน” “อะไรนะ ?!นายจะให้ฉันเดินในสภาพเปลื่อยตัวงั้นเหรอ?” ธัชชัยยิ้มด้วยรอยยิ้มที่สง่างาม หน้าตากระหืดกระหอบมองวัจสาอย่างเฉยๆ ทันใดนั้นอารมณ์ก็ดีขึ้น 
已经是最新一章了
加载中