ตอนที่33 ไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้
1/
ตอนที่33 ไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้
วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่33 ไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้
ตนที่33 ไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้ ธัชชัยได้ยินดังนั้น ก็คิดครู่แล้วแล้วพูดว่า “ไปเถอะ” อ้างเอาที่รองขี้บุหรี่มาก่อนหน้านี้ ธัชชัยคิดว่าผู้หญิงคนนี้ทำยังไงก็เป็นหุบเขาห้านิ้วไม่ได้หรอก ดังนั้นจึงปล่อยเธอไป วัจสาราวกับได้รับการอภัยรีบเดินออกไปทางประตู จริงๆ แล้วเธออยากแอบไปเยี่ยมวรพลสักหน่อย อีกอย่างป้าอ้อยก็ดูธัชชัยกินข้าวอยู่ในห้อง แปบเดียวคงไม่ผิดสังเกตหรอก พวกเขามักจะหาข้ออ้างร้อยแปดมาเพื่อขีดขวางไม่ให้เธอไปเยี่ยมวรพล เธอยืนอยู่หน้าประตูห้องรักษาตัวของวรพล ใจของวัจสาก็เหมือนกับกำลังลังเลอยู่ เธอยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ก็เคาะประตูเบาๆ เวลานี้คุณหมอภาคินก็คงจะอยู่ในห้องเห็นได้ยากตอนที่หมอาคินไม่อยู่กับวรพล ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกมาอย่ารวดเร็ว แต่ว่าคนที่ออกมากลับไม่ใช่คุณหมอภาคิน แต่กลับเป็นคุณหมอภูวิศ ก่อนหน้านี้เขาเคยรักษาอาการบาดเจ็บของธัชชัย ดังนั้นวัจสาจึงเคยพบเขาแล้ว วัจสายยิ้มแย้มพูด “สวัสดีค่ะคุณหมอภูวิศ” ใบหน้าของคุณหมอภูวิศฉายแววประหลาดใจ “คุณหญิงวัจสา มีธุระอะไรเหรอครับ?” “ฉัน... เข้าไปเยี่ยมวรพลได้ไหม?” วัจสาถามถามอย่างกังวลใจ เพราะว่าก่อนหน้านี้ถูกปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว คุณหมอภูวิศคิดถึงคำสั่งที่คุณหมอภาคินสั่งเอาไว้เมื่อครู่นี้ ว่าให้หาข้ออ้างมาขัดขวางวัจสาไม่ให้เข้าไป แต่ว่าจริงๆ แล้วเขาเห็นวัจสามาที่นี่นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ทุกครั้งก็ถูกปฏิเสธอยู่ตรงหน้าประตูนี้ ในใจก็รู้สึกเข้าใจเธอและสงสารเธอ แต่ว่าคุณชายรองแห่งตระกูลศรีทองก็เคยพูดเอาไว้แล้ว กลัวว่าผู้หญิงคนนี้จะมีแผนการชั่วร้าย ดังนั้นจึงไม่สามารถให้เธอเข้าไปได้ คุณหมอภูวิศได้แต่พูดขอโทษไป “ต้องขอโทษด้วยนะครับ คุณหญิง ตอนนี้คุณชายใหญ่ติดเชื้อแบคทีเรียง่าย เกรงว่าท่านเข้าไปเวลานี้คงจะไม่เหมาะ” เป็นอย่างที่คิด ถูกปฏิเสธอีกแล้ว วัจสาไม่ล้มเลิกความตั้งใจถามกลับไปว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันใส่ชุดกันเชื้อเข้าไปก็ได้ไม่ใช่เหรอ?” คุณหมอภูวิศหยุดไปครู่หนึ่ง รีบคิดหาวิธีมทั้งหมด สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “สภาพร่างกายของคุณชายใหญ่ตอนนี้ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก เขาบอกว่า... ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ” รู้สึกได้ว่าคุณหมอภูวิศรู้สึกลำบากใจ วัจสาพยักหน้าหงึกๆ เตรียมที่จะจากไป ก่อนที่จะจากไปก็ชะโงกหน้าเข้าไปมองภายในห้องที่มืดสลัว มองเห็นข้างในเหมือนกับคนนั้นกำลังนอนเอนกายอยู่บนเตียง วัจสาก็ลงไปข้างล่าง รู้เจ็บปวดและกลัดกลุ้มใจมาก เธอไม่เคยได้ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเลย อีกทั้งคนตระกูลศรีทองยังมองเขาเป็นตัวอันตรายอีก ยังคิดว่าเธอมีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่อีก เธอทอดถอนหายใจเบาๆ ไหนเลยจะรู้ว่าสถานที่ที่เธอมองไม่เห็นนั้นมีสายตาที่แหลมคมราวกับคมดาบกำลังจ้องมองทุกการกระทำของเธออยู่ มุมปากยกยิ้ม ผู้หญิงคนนี้คิดจะเล่นปาหี่อะไรกันแน่? วัจสาเพิ่งจะลงมาถึงข้างล่าง กูเจอกับคุณภูษิตที่ห้อตะบึงเข้ามา “คุณผู้หญิง เห็นคุณรองบ้างไหมครับ?” ใบหน้าของคุณภูษิตดูตื่นตระหนก เหมือนกับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ท่านชัยกินข้าวอยู่ในห้องพักแขกน่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ? วัจสารู้สึกได้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่อย่างนั้นท่าทางของพ่อบ้านภูษิตคงไม่ลนลานขนาดนี้ พ่อบ้านภูษิตกลับไม่ได้ตอบคำถามของวัจสา รีบตรงดิ่งไปยังห้องพักแขกทันที ยังไม่ทันจะถึงห้องพักแขกก็เจอกับธัชชัยตรงระเบียงทางเดินแล้ว “ท่านชัย เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ” พ่อบ้านภูษิตน้ำเสียงลนลาน ในใจของธัชชัยก็รู้สึงสังหรณ์ใจ “เข้ามาพูดในนี้” พ่อบ้านภูษิตจัดการเรื่องทุกอย่างของตระกูลมานานหลายปี ไม่ว่าเรื่องสำคัญอะไร เขาไม่มีท่าทีแบบนี้ให้เห็นเลย พ่อบ้านภูษิตพยักหน้า เดินตามเข้าไปในห้องพักแขกกับเขา แล้วปิดประตูห้องเอาไว้ เมื่อตรวจสอบดูรอบๆ แล้วไม่มีคนอื่น พ่อบ้านบ้านภูษิตจึงหยิบกระดาษสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง ส่งให้กับธัชชัยพร้อมพูดว่า “ท่านชัย นี่เป็นพินัยกรรมฉบับร่างของคุณชายใหญ่ ยังไม่สมบูรณ์ ผมถ่ายสำเนามาจากทนายความท่านนั้นครับ” ธัชชัยรีบรับมาดูทันที คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุ่น “พินัยกรรมเหรอ? พี่ใหญ่ร่างกายยังดีอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงต้องรีบร่างพินัยกรรมด้วย?” เหมือนกับว่าบรรยากาศกำลังตึงเครียดก่อนที่สงครามจะปะทุขึ้น หลังจากที่ธัชชัยดูจบแล้วท่าทีที่เย็นชาของเขามันทำให้คนรู้สึกเกรงกลัวเป็นอย่างมาก กระดาษในมือถูกขยำจนเป็นก้อนกลมๆ พี่ชายของฉันกำลังจะมอบตระกูลศรีทองให้กับมนายุคนนั้นเหรอ? เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?” ธัชชัยตวาดเสียงดัง น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อไม่นานมานี้มนายุเพิ่งจะเอาคนมายั่วยุถึงหน้าประตู อีกอย่างที่สำคัญก็คือนายมนายุอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนอีกด้วย ไม่แน่ว่าเขานี่แหละที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมอบตระกูลศรีทองให้กับเศษเดนอย่างคนแบบนี้โดยไม่คิดชีวิตด้วย? พ่อบ้านภูษิตเศร้าเสียใจอยู่ภายในใจ เขาคิดถึงวิธีการกระทำเช่นนี้ของวรพล คงจะเป็นเพราะว่าไม่จำเป็นต้องให้ธัชชัยดูแลทรัพย์สมบัติของตระกูลและไม่ต้องไปตาต่อตา ฟันต่อฟันกับมนานุด้วย อีกอย่างก็ไม่อยากให้ธัชชัยต้องได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุนี้ สิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือธัชชัยตกอยู่ในห้วงความคิดที่จะแก้แค้นจนไม่สามารถถอนตัวขึ้นมาได้ “กระผมคิดว่าคุณชายใหญ่ไม่อยากให้คุณชายรองเผชิญหน้ากับมนานุนะครับ เขาคงคิดแค่ว่าการที่เขามอบตระกูลศรีทองให้กับมนานุ เขาถึงจะไม่มาทำร้ายน้องชายของคุณชายใหญ่ได้ นี่ก็คงจะเป็นความกังวลเดียวของคุณชายใหญ่” วรพลเป็นคนที่ใจดีคนหนึ่ง ถึงแม้เขากับธัชชัยจะเป็นพี่น้องต่างมารดา แต่ว่าเขาก็ปฏิบัติต่อธัชชัยราวกับเป็นมีพ่อมีแม่คนเดียวกัน ดังนั้นถ้าหากวันหนึ่งต้องประสบพบเจอกับอันตรายใด เรื่องแรกที่คิดได้ก็คือต้องปกป้องน้องชายของตนเอง เพื่อน้องชายคนนี้แม้กระทั่งชีวิตก็ให้ได้ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ธัชชัยก็เปลี่ยนมุมมองต่อความแค้นในเรื่องนี้ใหม่ เขาไม่มีทางทนดูคนอื่นมาดูแลทรัพย์สมบัติของตระกูลศีทองได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินก็ยังเป็นชีวิต เขาย่อมไม่อนุญาต โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนานุคนนี้ พ่อบ้านภูษิต เจ้าคิดผิดแล้ว มีเพียงฉัน ธัชชัยเท่านั้นที่จะอยู่ค้ำฟ้า มนานุก็อย่าได้คิดว่าจะได้รับสมบัติที่พี่ใหญ่สร้างมากับมือแม้แต่ชิ้นเดียวก็ไม่ได้ ธัชชัยเก็บซ่อนอารมณ์ที่ดุร้ายนี้เอาไว้มานาน และความแค้นนี้ก็ปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง พ่อบ้านภูษิตเข้าใจความคิดของธัชชัยดี แต่ว่า... “ท่านชัน คุณชายใหญ่เป็นผ็สืบทอดตระกูลศรีทอง มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะทำให้พินัยกรรมมีผลทางกฎหมายนะครับ” พ่อบ้านภูษิตอดไม่ได้ที่จะออกปากเตือนสติ ธัชชัยยิ้มอย่างเย็นชา “เรื่องนี้ฉันรู้ แต่ว่า คุณว่าถ้าหากพี่ใหญ่รู้ว่ากนิษฐาผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตายล่ะ เขายังจะไม่มีชีวิตชีวาอยู่แบบนี้อีกหรือไม่? ” “คุณผู้หญิงกนิษฐายังมีชีวิตอยู่หรือครับ?” พ่อบ้านภูษิตถามอย่างตกใจว่า “ท่านชัยสืบหาที่อยู่ของเธอเจอแล้วหรือครับ? แหล่งข่าวนี้เชื่อถือได้ไหมครับ?” “ฉันให้คนไปตามสืบดูแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องโกหกว่าเธอตายไปแล้วด้วย แล้วยังหลับหนีไปอีก” ธัชชัยบีบก้อนกระดาษพินัยกรรมแผ่นนั้นเอาไว้ในมือแน่น และเคาะโต๊ะเบาๆ เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น ตึก ตึก ตึก ไม่รู้ว่าเป็นเสียงหัวใจของใคร แต่ว่าพ่อบ้านภูษิตมีปฏิกิริยาที่ตอบสนองเร็ว ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการร้องขอครั้งสุดท้ายของคุณชายใหญ่ แต่ว่าไม่แน่ก็อาจจะเป็นข่าวร้ายเรื่องหนึ่งก็ได้...” “หมายความว่าอย่างไร?” ธัชชัยขมวดคิ้ว ถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ “คุณชายใหญ่รักกนิษฐามาก นี่ยิ่มไม่ต้องสงสัยสัยเลย แต่ว่าในตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แน่นอนว่าไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักต้องมาเจอกับสภาพแบบนี้ ดังนั้นถึงแม้จะรู้ดีว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ คุณชายใหญ่ก็ไม่มีทางอยากให้เธอเข้าใกล้แน่นอน คงจะกลัวเธอจะรับไม่ได้สินะ? เป็นความรู้สึกที่อยากจะรักแต่ไม่สามารถรักได้ ทำให้คุณชายใหญ่เจ็บปวดไม่น้อย ” พ่อบ้านภูษิตอยู่กับวรพลมานานหลายปี พอที่จะพูดได้ว่าดูแลพ่อบ้านมาตั้งแต่เล็กจนโต แน่นอนว่าต้องเข้าใจสภาพจิตใจของเขาดี แม้แต่ผู้ชายที่นับถือใจตนเองต่างก็ต้องพิจารณา แต่ว่าคนที่ไม่เคยมีความรักอย่างธัชชัยคงไม่เข้า ความรู้สึกที่ต้องคอยระมัดระวังและให้ความสำคัญต่อคนที่ตนรักมันเป็นยังไง เขาทำได้เพียงพูดเสียงไม่พอใจขึ้นจมูกว่า “ขอเพียงแค่พี่ใหญ่ต้องการ ทำไมฉันจะทำให้ไม่ได้” ถึงแม้ว่าต้องมัดด้วยเชือก ฉันก็จะไปลากเธอมาแทนพี่ชายของฉันเอง พ่อบ้านภูษิตส่ายหัวและถอนหายใจ ท่านชัยไม่เข้าใจในความรักจริงๆ ด้วย แต่ว่าถ้าหากคุณชายใหญ่ผูกมัดตัวเองมากเกินไป ก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปได้ วันที่สองผ่านไปเร็วมาก วัจสาหาหัวข้อของวิทยานิพนธ์ทั้งวัน ใกล้จะเรียนจบแล้ว ดังนั้นเธอจึงเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์แล้ว เธอเรียนการออกแบบ แต่ว่าจนกระทั่งถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติเลย ได้แต่วางแผนการรบลงบนกระดาษเท่านั้น เธออยู่ภายในห้องหอจนถึงสามทุ่ม เธอเพิ่งจะทำโครงสร้างเสร็จหนึ่งชิ้น ไม่รู้ว่าธัชชัยเอากองเอกสารเข้ามาวางไว้บนโต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดอย่างเรียบๆ ว่า “นี่คือข้อมูลของตระกูลศรีทอง วันนี้เธอก็เอามันไปดูให้ชินตา ที่สำคัญหน้าที่ที่ถูกแต่งตั้งและถูกปลดออกจากตำแหน่งที่ที่สำคัญ จะต้องท่องให้ได้ พรุ่งนี้เธอกับพี่ชายของฉันจะต้องไปเปิดงานของผู้ถือหุ้น”วัจสาเขินอายจนเหงื่อตก หยิบแฟ้มข้อมูลมาพลิกๆ ดู จริงๆ แล้วจะให้ท่องหนังเธอเธอย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ว่าจะให้เธอไปร่วมงานแบบนั้น ยังคงไม่ค่อยชินเท่าไหร่นัก สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวังถามธัชชัยไปว่า “พรุ่งนี้คุณไม่ได้ไปใช่ไหม? ทำไมถึงต้องให้ฉันไปด้วย?” ดูออกว่าสายตาของผู้หญิงคนนี้กำลังรอคอยและคิดจะพึ่งพาอาศัยกัน ทันใดนั้นอารมณ์ของผู้ชายก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้น ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “เธอไม่ใช่เหรอที่เรียกตัวเองว่าภรรยาของพี่ชายฉัน? ไปกับพี่ชายของฉันสักรอบก็จะเข้าใจเอง ก็ถือซะว่าให้โอกาสพวกเธอสองคนได้ศึกษาซึ่งกันและกัน เธอจะต้องคว้ามันไว้ให้ดี” “เหอะ ฉันไม่คุ้นเคยกับตระกูลศรีทองสักนิดเดียว ควรจะให้คุณไปยังดีกว่าอีก เพราะว่าคุณเป็นคุณชายรองของตระกูลศรีทอง...” “อย่างงั้นเหรอ? น่าเสียดาย ฉันเป็นแค่ลูกชายนอกสมรสไม่มีคุณสมบัติเพียงพอขนาดนั้น ตั้งแต่ที่ฉันมาที่ตระกูลศรีทองวันแรก ฉันก็ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะสืบทอดกิจการของตระกูลศรีทอง เสียดายมากที่ไม่สามารถไปเป็นเพื่อนเธอได้” ธัชชัยปากก็บอกเสียดาย แต่น้ำเสียกลับดูไม่แยแสเลย เขาสร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยตัวเองดีกว่าตระกูลศรีทองมากเป็นเท่าหนึ่งหรือสองเท่า ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ถูกเรียกผู้นำยักษ์ใหญ่ของของธุรกิจ s โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาคงไม่ยอมยกตระกูลศรีทองให้มนานุเด็ดขาด “ใคร ใครบอกให้ไปเป็นเพื่อนฉัน คุณเป็นน้องชายของวรพล ก็ควรจะช่วยเขาให้เป็นอย่างดี เขาต้องการการคุณมากนะ” วัจสาตื่นเต้นจนพูดติดอ่าง ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงชอบพูดทำนองนี้ตลอดเลย? “ดูไปแล้วคนที่ต้องการฉันมากกว่าน่าจะเป็นเธอนะ” ธัชชัยยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ถ้าหากเธอให้ฉันนอนที่นี่คืนนี้ ไม่แน่นะพรุ่งนี้ฉันอาจจะอารมณ์แล้วฉันก็อาจจะไปเป็นเพื่อนเธอก็ได้” ผิวเรียบเนียนขาวผ่องบริสุทธิ์ของวัจสาก็พลันกลายไปสีเลือดหมู ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินอายกันแน่ “คุณรีบไปให้พ้นๆ เลยนะ นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย” ธัชชัยเดิมทีก็จะออกไปอยู่แล้ว แต่ว่า ก็พลันคิดแผนการออกแผนการหนึ่ง ไม่มีใครคาดถึงวิธีการนั้นได้แน่นอน เขามองวัจสาตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาแค่อยากเล่นสนุกกับเจ้าแมวตัวนี้เท่านั้น ถ้าหากว่าคืนนี้เขาไม่มีเองที่ต้องไปจัดการ ไม่แน่ว่าคืนนี้เขาอาจจะแกล้งเธอเล่นๆ ต่อไป แต่น่าเสียดาย... “ได้ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้ จำเอาไว้ อ่านเอกสารพวกนั้นให้ละเอียด” หลังจากนั้นอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดันก็ไม่มีแล้ว วัจสาก้มหน้าดูเอกสารที่เขาส่งมาให้อย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่ ก็เผลอหลับไปแล้ว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่33 ไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A