ตอนที่36 ประจำเดือนมาแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่36 ประจำเดือนมาแล้ว
ต๭นที่36 ประจำเดือนมาแล้ว วัจสาตัวสั่นไปทั้งตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา รู้สึกได้ว่าใบหน้ารูปไข่ที่นิ่มนวลสั่นจนร้อนผะผ่าวขึ้นมาจนเหงื่อไหลพราก “มืดแบบนี้ได้บรรยากาศดีนะ ว่าไหม?” เสียงแหบแห้งของธัชชัยค่อยๆ แสดงออกถึงความต้องการที่เข้มข้น มือของเขาสวมถุงมืออยู่ ป้องกันไม่ให้เธอจำเขาได้ เพราะเขาต้องการที่จะลูบคลำเธอเบาๆ เกมๆ นี้ที่ไม่เห็นหน้า ความมืดมิดทำให้น่าสนุกขึ้น เชื่อว่ามันจะทำให้ภายในร่างกายของผู้ชายมีอารมณ์มากขึ้น ธัชชัยมีความสุขไม่น้อย คิดไม่ถึงเลยว่า วัจสาจะยื่นมือมาลูบคลำใบหน้าของเขา และแสดงออกว่าเธอไม่ได้กลัววรพล และพูดว่า “พลคะ ฉันไม่กลัวคุณแล้ว คุณดูสิ ฉันกล้ากอดคุณด้วยนะ...” รู้สึกได้ว่ามือเล็กๆ ของผู้หญิงคนนี้กำลังยื่นมือที่กำลังร้อนผะผ่าวเข้ามา ธัชชัยรีบจับมือของเธอเอาไว้ “ตอนที่ทำเรื่องนั้นอยู่ ฉันไม่อยากให้เธอแตะต้องตัวฉัน ห้ามมาแตะตัวฉัน หรือจูบฉันก่อน และไม่อนุญาตให้มองฉัน เธอจะต้องปิดตาเอาไว้และสนุกไปกับมันในค่ำคืนนี้” ถูกธัชชัยพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาระคนตำหนิน้อยๆ วัจสาก็ตกใจจนมือสั่น ค่อยๆ เก็บมือที่กำลังจะยื่นเข้าไปหาธัชชัยกลับมา “จริงเหรอ? เพียงแค่ปิดตาเอาไว้ ยอมรับมันอย่างว่า...” น้ำเสียงของเธอรู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้องอยู่บ้าง ธัชชัยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก พยักหน้าตอบรับ กลัวเธอจะมองไม่เห็นจึงตอบกลับไปว่า “ใช่” วรพล คุณให้ฉันอยู่ในฐานนะอะไร? หรือเป็นแค่ตุ๊กตาเติมลมที่เข้ากับคุณได้แค่นั้นรึเปล่า? คุณยังมีจิตสำนึกหรือไม่? ฉันเป็นเมียของคุณนะ!” เธอก่นด่าเสียงดัง ธัชชัยตะลึงงันไปทันที เขาไม่คิดเลยว่าวัจสาจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ เขาเพียงแค่จะล้อเล่นเท่านั้น อย่างไรก็ก็ตามผู้หญิงคนนี้จะต้องยอมรับอย่างไม่ขัดขืน อีกทั้งยังเชื่อฟังคำพูดของพี่ใหญ่ด้วยหรือ? ตอนนี้จะมาแกล้งมีคุณธรรมอะไรกัน? “เธอเองก็รู้ว่าเธอเป็นเมียฉัน ถ้าอย่างนั้นก็ควรที่จะยอมรับคำขอของฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข ฉันบอกแบบนี้ก็ต้องเป็นไปตามนี้” ถึงแม้ว่าปากของธัชชัยจะพูดแบบนี้ ทว่าภายในใจของเขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงได้เป็นทุกข์ถึงเพียงนี้ น้ำเสียงเช่นนี้ของเธอ ทำให้เขาตกตะลึงพรึงเพริดจนรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย วัจสาเริ่มต่อต้านอย่างรุนแรง “ฉันนึกว่าระหว่างคู่สามีภรรยาจะต้องมีความเคารพซึ่งกันและกัน ฉํนเคารพคุณ ฉันก็หวังว่าคุณจะเคารพฉันเช่นเดียวกัน!” “เธอเคารพฉันเหรอ? วันแรกที่แต่งงานกัน เธอก็วิ่งหนีฉันแล้ว นี่เป็นวิธีที่เธอเคารพฉันเหรอ?!” ธัชชัยระเบิดเสียงเพื่อกดดันเธอ ดวงตาวัจสาร้อนผ่าว ใช่แล้ว ตัวเธอในตอนนั้น วิ่งหนีไปจริงๆ ก็รู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ แต่เธอก็ยังทำ ให้คนเอาความผิดนี้มาพูดสนุกปากได้ การต่อสู้ดิ้นรนของวัจสาเมื่อครู่นี้ก็เป็นเป็นอ่อนแรงลงแล้วพูดว่า “พลคะ จะไม่เปิดไฟจริงๆ เหรอคะ?” “ไม่ได้!” เพราะว่าวัจสาพูดชื่อพี่ใหญ่เต็มปากเต็มคำ ธัชชัยจึงเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา รากับสัตว์ป่าตัวหนึ่งที่โมโหร้าย ก้มตัวอุ้มวัจสาขึ้นไปบนเตียง “ไม่ต้องพูดมากแล้ว ในคืนที่สวยงามช่วงฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้ พวกเรามาทำหน้าที่ผัวเมียกันเถอะ” วัจสาถูกเขากดด้านหลังเอาไว้ ไอความร้อนของเขาก็เริ่มไล่ตระเวนไปทั่วด้านหลังของเธอ ชุดนอนที่บางของเธอก็ค่อยหลุดออกทีละนิด สองมือวัจสาก็ถูกมือขนาดใหญ่ของธัชชัยกดเอาไว้บนหัวเตียง ขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่น้อย ธัชชัยเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย รูปร่างสูงใหญ่ของเขาก็เริ่มแนบชิดอิงแอบกับวัจสา ผิวด้านหลังของวัจสาก็นุ่มและเรียบเนียน เสื้อผ้าบนตัวของธัชชัยก็ยังไม่ได้ถอดออก ท่าทีเช่นนี้มันทำให้วัจสารู้สึกอึดอัดจนที่สุดเลย คุณหมอจิตวิทยาท่านหนึ่งเคยพูดเอาไว้ ถ้าหากว่าในตอนที่ผู้ชายกำลังทำเรื่องแบบนี้กับคุณ ยังสวมเสื้อผ้าอยู่หรือหลังจากเสร็จเรื่องนี้แล้วเขาสนใจแค่เสื้อผ้าของตัวเองที่ใส่อยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยืนยันได้แล้วว่าคุณไม่ได้เข้าไปในหัวใจของผู้ชายนั้นเลยแม้แต่น้อย วัจสาคิดอย่างซื่อๆ ในความจริงแล้วเธอกับวรพลไม่ได้รู้จักกันนานเท่าไหร่นัก จะเข้าไปอยู่ในหัวใจของเขาได้อย่างไรกัน? แล้วทำไมถึงยอมแต่งงานกันด้วยล่ะ? “พลคะ... เบาๆ หน่อยสิคะ... ฉันเจ็บ...” โดนคนกดหลังเอาไว้ก็เจ็บเจียนตายแล้ว วัจสาอดไม่ได้ที่ไม่ปริปากพูดออกมา น้ำเสียงที่อ่อนโยนนี้ราวกับว่าไปกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก ทำให้ไฟในตัวของธัชชัยพุ่งขึ้นมาโดยฉับพลัน ลมหายใจก็เริ่มแรงขึ้น ลิ้นของเขาก็เริ่มเลียไปที่แผ่นหลังของวัจสา ร่างกายของวัจสาเริ่มสั่นไปทั้งตัว ความรู้สึกที่ลื่นๆ เหนียวอย่างนี้ มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะมีความสัมพันธ์แบบนี้กับวรพล อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในสภาพแบบนี้ รู้ว่าถ้าร่างกายของวรพลดีขึ้นเมื่อไหร่ เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถที่จะต่อต้านความต้องการของร่างกายสามีได้ แต่ว่าการจะเปลี่ยนสภาพจากเด็กผู้หญิงไปเป็นหญิงสาวมันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก สัญลักษณ์ความบริสุทิสุทธิ์เยื่อพรหมจารีของร่างกายมันเป็นของที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง วัจสายังไม่ได้เตรียมใจที่จะมอบมันให้กับเขาเลย “ไม่ รอให้เธอได้ชิมกับรสชาติของชีวิตอีกหน่อยก็แล้วกัน... ” ธัชชัยพูดขึ้นพร้อมกับจูบรอยแผลเป็นบนแผ่นหลังของวัจสาเบาๆ “ตรงนี้ใช่ไหม? ที่โดนลวก... มันช่างทำให้ฉันเจ็บปวดใจยิ่งนัก...” เสียงของธัชชัยมีความไม่ชัดเจนเล็กน้อย ถึงแม้จะแหบแห้งแต่กลับสะเทือนจิตใจไม่น้อย วัจสาดวงตาแดงรื้น เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้รับความอับอายขายหน้าอย่างนี้ นี่จะนับว่าอะไรได้? รู้ว่าผู้ชายคนนี้พูดดีๆ เพราะๆ ด้วยถึงจะยอมทำ เธอจึงลองพูดเสียงอ่อนโยนว่า “พลคะ ฉัน...คุณให้เวลาฉันอีกหน่อยได้ไหมคะ? ฉันกลัวนิดหน่อย...” “พูดกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกฉันว่าสามี ถ้าอย่างนั้นก็หุบปากไปซะ” เหมือนกับโดนลงโทษก็ไม่ปาน ทันใดนั้นปากธัชชัยก็กัดเข้าไปที่หัวไหล่อันอวบอิ่มของวัจสาทันที วัจสายังไม่ได้ระวังตัว ก็เผลอร้องเสียงแหลมออกมา แต่ว่าเธอก็รีบปิดปากของเธอทันที จิตใจของผู้ชายคนนี้โรคจิตเกินไปแล้ว เธอไม่สามารถเป็นวัตถุทางเพศของเขาได้อีกต่อไปแล้ว เขาเหมือนกำลังปล่อยเปลวไฟไปที่แผ่นหลังของเธอทัละเล็กทีละน้อย ราวกับไฟไหม้ทุ่ม วัจสารู้สึกอับอายขายหน้าและโกรธมาก ร่างกายของเธอร้อนผะผ่าวขึ้นมาเพราะความอับอายนั้น... เพียงแปบเดียวก็มีกระแสความร้อนระลอกหนึ่งที่คุ้นเคยไหลทะลักออกมาจากร่างกาย ท้องน้อยก็เริ่มปวดขึ้น เป็นสาวเต็มวัยมาหลายปี วัจสาย่อมรู้ดีว่านี่เป็นอาการของ “ประจำเดือน” มาแล้ว เธอเฝ้ารอ “ประจำเดือน” ในที่สุดก็มาแล้ว มันไม่มารถมาให้ถูกรอบเดือนได้ สาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่าเธอเครียดมากเกินไป ดังนั้นมันจึงมาก่อนล่วงหน้า แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยปรารถนาอยากจะเป็นประจำเดือน เพราะการเป็นประจำเดือนมันทำให้เธอทรมานจนแทบขาดใจ “สา... สามี สิ่งนั้นของฉันมาแล้ว...” วัจสาพยายามกดข่มอารมณ์ดีใจตื่นเต้นนี้เอาไว้แล้วพูดกับวรพล ใบหน้าของธัชชัยก็พลันเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น เข้มกว่าความมืดในยามกลางคืนนี้เสียอีก ทำไมถึงมาได้จังหวะพอดิบพอดีอะไรขนาดนี้? ชัดเจนเลยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะหลบเลี่ยงหน้าที่ของภรรยาจึงพูดโกหกออกมา เขาพูดเสียงเข้มๆ ว่า “จริงเหรอ? มันจะบังเอิญไปหน่อยหรือเปล่า?” “จริงสิ... ฉันไม่ได้โกหกคุณซะหน่อย... ประจำเดือนมาจริงๆ...” ใบหน้าของวัจสาร้อนผะผ่านขึ้นมาทันที ในใจก็คิดว่าเพียงแค่แปบเดียวก็หลุดพูดคำนี้ออกไปได้ นิ้วมือของเธอกลัวจนเหงื่อไหลพรากออกมาแล้ว ผู้ชายคนนี้คงไม่อยากจะทำต่อแล้วสินะ? ร่างกายของธัชชัยบวมเป่งจนแทบอยากจะระเบิดออกมา ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดโกหกอยู่ มันช่างน่าบีบคอให้ตายจริงๆ แต่คิดไม่ถึงว่าพอยื่นมือเข้าไปจับตรงนั้นแล้ว... จะจับถึงบางอย่างที่ดูเหมือนเลือดที่เหนียวข้นมาก... ร่ายกายของธัชชัยก็พลันสั่นขึ้นมาชั่วขณะ ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ กดข่มความโกรธของตนลงไป ในที่สุดก็ลงจากหลังของวัจสา เขามันบ้าไปแล้วยังอยากจะลงมือกับผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนได้ พอเขาออกไปจากห้องหอได้ไม่นาน แสงสว่างก็กลับคืนมา โคมไฟทุกทิศทุกทุกทางก็เริ่มสว่างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง วัจสานอนเอนกายอยู่บนเตียงนอน ยังรู้สึกอกสั่นขวัญหายไม่หยุด ทำไมกริยาท่าทางของวรพลถึงได้ดูมีพลังและรวดเร็วรุนแรงได้ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่ายังต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจอยู่เหรอ? วันนี้ไม่เห็นไฟลวกท่อนล่างของเขา และไม่มีอาการป่วยเลย อีกอย่างกำลังของวรพลเมื่อครู่นี้ คืนนี้เธอก็ควรจะดวงถึงฆาตแล้ว... อีกอย่างคำพูดและการกระทำของวรพลในคืนนี้ก็ช่างเหมือนกับธัชชัยมาก คิดถึงธัชชัย สมองของวัจสาก็เริ่มเชื่องช้าลง เหมือนกับมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่งในหัวของเธอ พริบตาเดียวก็หายไป ท้องน้อยของเธอก็พลันปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอมองดูแผนที่เลือดข้างล่างของร่างกายตัวเอง... และก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก พอสติกลับคืนมาได้แล้ว ก็หาผ้าอนามัยทุกหนทุกแห่ง... แต่เจอแค่ผ้าอนามัยบางๆ เท่านั้น ไม่รู้ว่าจะลองรับได้นานแค่ไหน.... เธอไม่คิดว่าเลือดจะไหลเป็นน้ำขนาดนี้ ตอนนี้จะต้องปรนนิบัติท่าน “ประจำเดือน” ท่านนี้ให้ดีก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน ทุกครั้งที่มาก็ทำให้ปวดแทบตาย ตระกูลศรีทองมีผู้หญิงคนเดียว อีกอย่างผู้หญิงคนนี้ก็อายุห้าสิบกว่าปีแล้ว วัจสาทำได้เพียงกอดความหวังเล็กน้อยนี้ไปหาป้าอ้อย ค่อยๆ เดินลงจากตึกไป ความเจ็บปวดภายในท้องน้อยก็เกือบทำให้เธอยืนไม่ไหวแล้ว ในที่สุดก็มาถึงห้องป้าอ้อยสักที เคาะประตูอย่างหมดแรงแล้วพูดว่า “ป้าอ้อยนอนหรือยังคะ?” ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ป้าอ้อยอาจจะกำลังยุ่งอยู่ในครัว เธอลากเท้าของเธอเดินไป เดินไปถึงห้องครัว ในที่สุดก็เจอป้าอ้อยอยู่ในนั้น “ป้าอ้อย ป้า....” วัจสากำลังจะอ้าปากถาม สายตาก็พลันเหลือไปเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งกินสปาเก็ตตี้อยู่บนโต๊ะอาหาร สีหน้าของวัจสาก็พลันเป็นไม่ดีขึ้นมา ป้าอ้อยเห็นว่าเธอไม่ค่อยชอบใจ และเห็นเธอกุมท้องเอาไว้ จึงรีบถามไปว่า “ คุณผู้หญิง ท่านเป็นอะไรไปคะ?” วัจสามองธัชชัยแวบเดียวก็พบว่าดวงตาของเขามีความเย็นชาบางๆ เหมือนกับว่าโมโหมาอย่างไรอย่างนั้น เธอตะลึงอึ้งไปนิดหน่อย เธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจ...ไม่อยากสนใจเขาแล้ว ตรงเข้าไปหาป้าอ้อยพร้อมพูดเสียงเบาๆ ว่า “ป้าอ้อย ประจำเดือนฉันมา แต่ว่าฉันไม่มีสิ่งนั้น... ป้าพอจะมีไหม?” ป้าอ้อยก็พลันตกใจขึ้นมาทันที มิน่าล่ะท่าทางของคุณชายรองเดินลงมาจากตึกมาเปิดไฟเหมือนอยากจะกินคนเข้าไป ที่แท้ก็เป็นเพราะว่าคุณผู้หญิงประจำเดือนมานี่เอง เรื่องของคนสองคนก็ไม่สำเร็จอีกแล้ว พูดได้แค่ว่ามีวาสนาไม่พอ เธอก็ทอดถอนหายใจออกมาเบาๆ วัจสามองป้าอ้อยด้วยท่าทางสงสัย หากไม่มีสิ่งนั้นก็ไม่เห็นต้องถอนหายใจเลย... ป้าอ้อยคนนี้ชอบโทษตัวเองง่ายๆ “ไม่มีใช่ไหม?” เธอถามขึ้นอีกรรอบ ป้าอ้อยเพิ่งจะรู้สึกว่าตนเองกำลังเผยอารมณ์ที่ผิดปกติออกไป จึงรีบเก็บอารมณ์แล้วพูดว่า “คุณผู้หญิง ฉันไม่ใช้สิ่งนั้นนานมากแล้ว... ถ้าอย่างนั้นให้ฉันออกไปซื้อให้คุณดีไหม ร้านสะดวกซื้อก็อยู่ข้างนอกนี้เอง” ป้าอ้อยพูดเสร็จก็ตระเตรียมจะออกไปข้างนอก แต่ว่าคิดไม่ถึงว่า พอเปิดประตูออกไปก็เห็นว่าข้างนอกฝนตกหนัก ฟ้าก็แลบแปลบปลาบ อากาศแบบนี้คิดจะออกจากบ้านคงเป็นเรื่องยากแล้ว “ป้าอ้อย ให้ฉันไปเองเถอะ” วัจสาทนดูป้าอ้อยที่อายุก็มากแล้วออกไปตากฝนเพื่อเธอไม่ได้ แต่ว่าป้าอ้อยจะยอมให้วัจสาออกไปเองได้ยังไงล่ะ? “ไม่ได้ คุณเป็นประจำเดือนอยู่ ” เดิมทีก็ถูกความเย็นไม่ได้อยู่แล้ว แล้วตอนนี้อากาศก็ดันเป็นแบบนี้อีกจะออกไปได้อย่างไร? อีกอย่างสีหน้าของคุณก็ดูแย่ขนาดนี้ รีบกลับไปนอนพักเถอะค่ะ” ป้าอ้อยมองดูหน้าซีดขาวของวัจสาก็พลันรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา 
已经是最新一章了
加载中