ตอนที่52 วิศาล   1/    
已经是第一章了
ตอนที่52 วิศาล
ต๭นที่52 วิศาล ตอนนี้พยายามข่มตานอนหลับไม่ให้ตัวเองไปนึกถึงเรื่องของธัชชัย ในที่สุดก็ได้ผล เธอนั่งอ่านหนังสือแพทย์เงียบๆอยู่ในห้องหนังสือ กำลังสรุปจะเขียนวิทยานิพนธ์ ประตูบ้านตระกูลศรีทองก็ถูกเปิดขึ้น ทำลายสมาธิเธอ มีเสียงเคลื่อนไหวในห้องรับแขกดังมาก ทำให้ใจของวัจสาเต้นแรงมาก เพราะครั้งก่อนเธอเจอเหตุการณ์ที่มนายุพาคนบุกเข้ามา เธอยังคงกลัวอยู่ จึงรีบวิ่งออกไปดู ไม่คาดคิดว่าจะเจอชายร่างใหญ่คนหนึ่ง ชายคนนั้นอย่างต่ำต้องสูงถึง 190 สูงกว่าธัชชัยอยู่หลายเซนติเมตร รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ใบหน้าเงียบขรึม ถ้าหากข้างหน้าเขามีผ้าสีแดง ผู้ชายที่ร่างใหญ่ราวกับกระทิงนี้อาจจะวิ่งเข้ามาขวิดก็ได้ ชายคนนั้นคือคนที่มีเรื่องกับธัชชัยวันนั้น ถ้าหากรู้ว่าที่นี่คือบ้านของภรรยาน้อยธัชชัย และคิดว่าตัวเองเป็นกระทิงจริงๆ คงจะโมโหมาก วัจสาตกใจใบหน้าเคร่งขรึมของเขา ใจเต้นแรงมาก แล้วใช้มือคลำหาไม้กอล์ฟด้านข้างกระถางต้นไม้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างมนายุแบบครั้งก่อน ทั้งบ้านจึงเอาไม้กอล์ฟวางไว้เต็มไปหมด “คุณคือใคร?” วัจสาถามด้วยความใจเย็น ในมือถือไม้กอล์ฟที่กว่าจะหาได้นั้นยากเย็นเสียเหลือเกินเอาไว้ ถึงแม้จะไม่แสดงท่าทีออกมาว่ากลัว แต่ผู้ชายคนนั้นทำให้เขานึกถึงกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ตอนนั้นบุกเข้ามาในบ้าน วิศาลมองมาทางวัจสา มองหัวจรดเท้า ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับแสกนอย่างใดอย่างนั้น ทังๆที่เคยได้ข่าวจากโสธรว่าธัชชัยนั้นแต่งหญิงเข้ามาคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นเพราะวรพลบังคับ แต่ยังไงเขาก็เป็นคนที่แต่งงานแล้วอยุ่ดี “ดูท่า เธอจะเป็นเมียใหม่ของธัชชัย?” วิศาลขมวดคิ้ว เสียงของเขาทุ้มหนักแน่น วัจสาขมวดคิ้วเบาๆ ว่าผู้ชายคนนี้กำลังพูดอะไร? เธอเป็นภรรยาของธัชชัย? ดูท่าสมองของผู้ชายคนนี้น่าจะมีปัญหา “ฉันเป็นเมียของวรพล ถ้าหากจะมาหาธัชชัย ต้องขอโทษด้วยค่ะ เขาไม่อยู่บ้าน” วัจสาบอกเขา คงไม่มีใครคิดว่าจะมีคนยอมแต่งงานกับวรพลที่โดนไฟคอกจนแทบไม่เห็นหน้าหรอก วิศาลรู้ว่าธัชชัยนั้นรักสนุก แต่ผู้หญิงคนนี้กลับบอกว่าตัวเองเป็นภรรยาของวรพล จะต้องมีเรื่องอะไรที่เขามู้แน่ๆ ตอนแรกท่ธัชชัยแต่งงาน เพราะแต่งในนามของวรพล อาจจะเกิดเรื่องในช่วงนี้ วิศาลครุ่นคิด ผู้หญิงคนนี้ช่างน่าสงสารเสียจริง ไม่รู้อะไรเลย แต่ว่าเขาก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตนของธัชชัยออกไป มองดูผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่น่าสงสาร ทำให้ผู้คนที่พบเจออยากจะครอบครอง เขากระแอมขึ้นเบาๆ “ฉันไม่ได้มาหาธัชชัยหรอก” แล้วจึงอธิบายต่อ “เธอยังไม่ถูกเล่นจนตาย ดวงดีจริงๆ” ถ้าหากเจอธัชชัยเมื่อสามเดือนก่อน บุตรแห่งซาตานอย่างธัชชัย คงจะกำลังหนี ตอนนั้นแม้แต่โสธรหรือเขาก็คงหนีไม่พ้นกงเล็บของธัชชัยอย่างแน่นอน เย็นชาไร้อารมณ์ แสดงความเมินเฉยต่อทุกคน แต่ยังดีที่ยังไม่ถึงขั้นเลือดเย็น วัจสาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร จึงไม่ได้ตอบอะไร มือของเธอที่ถือไม้กอล์ฟค่อยๆมีเหงื่อออกมา จนมันลื่น พูดอย่างช้าๆ “ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไร ก็เชิญคุณกลับไปก่อน วรพลยังไม่ว่างเจอคุณ” ผู้หญิงต่อให้ทำเป็นแข็งแกร่งขนาดไหน แต่มือที่สั่นเทาของเธอนั้นกำลังออกอาการ แต่กลับไม่รู้ตัว แต่ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างรักตระกูลศรีทอง มองดูเธอที่ยืนอยู่ที่พักบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสอง ทำท่าเหมือนจะห้ามไม่ให้เขาขึ้นไปนั้น ก็ยิ้มขึ้นมาเบาๆ “แล้วถ้าฉันจะเจอวรพลให้ได้ล่ะ?” เขาก้าวขายาวๆขึ้นไปก้าวหนึ่ง วัจสาพูดขึ้นเสียงดัง “ไม่อนุญาติ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ต่อหน้าผู้ชายร่างหนาราวกับกำแพง ทำให้รู้สึกกดดันมาก วัจสานึกขึ้นได้จึงยกไม้กอล์ฟขึ้น ตั้งท่าจะฟาดลงไปที่วิศาล เพราะว่าตื่นเต้นมาก จึงหลับตาปี๋ แต่ความเจ็บที่คิดไว้กลับไม่เกิดขึ้น วัจสาค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นชายคนนั้นจับไม้กอล์ฟที่เขาฟาดลงไปแน่น เขารับได้? ผู้ชายคนนี้เก่งขนาดนี้? รับได้มือเปล่า? แต่ในใจคิดได้เร็วกว่านั้น ถ้าหากเขาบุกเข้ามา ตัวเธอเองก็ไม่มีปัญญาจะรับมือ ธัชชัยเตรียมการ์ดไว้แล้วไม่ใช่เหรอ? ผู้ชายคนนี้เชื่อไม่ได้จริงๆ! ถ้าหากวรพลเป็นอะไรไป จะดูว่าเขาจะเสียใจขนาดไหน! “พ่อบ้านภูษิต! ป้าอ้อย! ลงมาเร็ว! มีคนบุกเข้ามาในบ้าน!” วัจสาตัดสินใจเรียกกำลังเสริม แรงของเธอนั้นทำอะไรไม่ได้มาก พ่อบ้านภูษิตที่เดิมทีเฝ้าอยู่หน้าห้องบำบัดนั้น ได้ยินเสียงร้องเรียกด้วยความตื่นตระหนก ก็รีบวิ่งลงมา เห็นสองคนยืนอยู่ตรงบันได รีบวิ่งเข้าไปอธิบาย “คุณนาย วางอาวุธลงก่อน! ค่อยๆพูดค่อยๆจา! นี่คือคุณวิศาล เป็นผู้มีพระคุณของพวกเราตระกูลศรีทอง!” ผู้มีพระคุณ? วัจสามองเขาอ่างสงสัย ทำไมไม่ดูเหมือนผู้มีพระคุณอะไรเลย พ่อบ้านภูษิตเห็นว่าวัจสามีท่าทีไม่เชื่อ จึงพูดเสริม “คุณวิศาลเป็นเพื่อนของคุณชายใหญ่และคุณชายรอง ก่อนหน้านี้เขาช่วยคุณชายรองมาจากกองไฟ” เมื่อวัจสาได้ยินเช่นนั้น ก็เข้าใจทันที แล้วรีบฉวยไม้กอล์ฟในมือวิศาลกลับมา “ขอโทษที่เข้าใจคุณผิด” มิน่าเล่า ตอนนี้คิดได้ ว่าผู้ชายคนนี้คงจะเข้าออกบ้านศรีทองได้ตามใจ วิศาลยิ้มแล้วมองมาที่วัจสา ไม่คิดว่าธัชชัยจะมีภรรยาที่น่ารักขนาดนี้ พ่อบ้านภูษิตดีใจที่พลิกวิกฤติได้แล้ว ตอนนี้จึงรีบแยกสองคนออกจากกัน “คุณชายวิศาล คุณชายใหญ่รออคุณอยู่ข้างบน พวกเรารีบขึ้นไปเถอะ” พูดจบก็รีบพาวิศาลขึ้นไปทันที วัจสารู้สึกไม่สบายใจ เพราะรู้สึกว่าทุกคนต่างเข้าพบวรพลได้ มีแต่เธอที่ไม่ได้ ทำไมไม่ได้ล่ะ? ถึงแม้ว่าพ่อบ้านภูษิตจะบอกว่านี่เป็นคำสั่งของคุณวรพล แต่เธอก็อยากรู้เหตุผล ถ้าไม่ได้ยินจากปากวรพลจริงๆ เธอก็ไม่เชื่อ แต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะทำร้ายวรพลไหม? ไม่ได้ ตัวเองเป็นภรรยาของวรพล เธอจะต้องไปเฝ้าเอาไว้ จนวิศาลกลับไปค่อยว่ากัน คิดแล้วก็นั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก ขณะที่เธอกำลังพะวักพะวนอยู่นั้น ก็นึกถึงที่สองคนนั้นคุยกันเมื่อกี้ ผู้ชายคนนี้เข้ามาก็บอกว่าเธอเป็นภรรยาของธัชชัย เพราอะไรกัน? เหมือนกับวรพลเมื่อก่อนที่เข้า ก็เข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นพี่เลี้ยงหรือคนใช้พวกนั้น นี่ยังถือว่าปกติ แต่วิศาลไม่ได้เข้าใจผิดว่าเธอเป็นคนใช้ แล้วก็ไม่ได้ถามว่าเธอเป็นภรรยาของวรพลรึเปล่า หรือเขาจะรู้จักเธอ? แต่วัจสามั่นใจ ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เจอวิศาล ผู้ชายร่างสูงใหญ่ราวกับกระทิงนี้ช่างแปลกเหลือเกิน น้ำเสียงที่ใช้พูดก็ราวกับรู้รื่องเยอะ แต่ก็ไม่พูดออกมา วัจสาค่อยๆคิดเรื่องพวกนี้ ป้าอ้อยที่เพิ่งเดินกลับมาจากศาลาด้านนอก ไม่ได้ยินที่เธอเรียกตัวเอง และไม่รู้ว่าเพิ่งมีคนเข้ามา “คุณนาย ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้คะ?” วัจสาหลุดจากภวังค์ เห็นว่าเป็นป้าอ้อย จึงรีบลากเธอมา” ป้าอ้อย เมื่อกี้ป้าออกไปข้างนอก เลยไม่รู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในบ้าน ทำฉันตกใจแทบแย่” ป้าอ้อยได้ยินที่วัจสาบอกก็ตกใจ แล้วตื่นตัวอยู่ช่วงหนึ่ง “เกิดอะไรขึ้น? เขาได้ทำอะไรคุณไหม? คุณชายรองจัดการ์ดด้านนอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมีคนแปลกหน้าเข้ามาได้อีก?” “ฉันก็ไม่รู้ แต่ภูษิตบอกว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณของบ้านศรีทอง ชื่อวิศาลอะไรซักอย่าง ป้าอ้อยรู้จักไหมคะ?” วัจสาเล่าให้ป้าอ้อยฟังอย่างไหลลื่น ป้าอ้อยรู้สึกโล่งอกทันที “ที่แท้เป็นคุณชายวิศาลนี่เอง เขาเป็นผู้มีพระคุณอย่างสูงของตระกูลศรีทอง ตอนแรกเป็นเขาที่ช่วยคุณชายรองออกมา ถ้าหากไม่มีเขา เกรงว่าคุณชายรองคงจะ…” ข่าวนี้เธอได้ยินจากภูษิตมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเธอก็สงสัยมาก เพียงแค่ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูด ตอนนี้ก็ถามป้าอ้อยดีกว่า “ป้าอ้อย ทำไมตอนนั้นเขาช่วยแค่ธัชชัยออกมา? แล้ววรพลล่ะ? ป้าอ้อยถอนหายใจ “ตอนนั้นมันอันตรายมาก ฉันก็ไมรู้จะเล่ายังไง… บอกได้เพียงว่า คุณชายใหญ่ช่างโชคร้าย เห้อ…” พูดแล้วน้ำตาก็ซึมออกมา นึกถึงวรพลที่นอนอยู่บนเตียง เธอก็รู้สึกเศร้า ถ้าหาก ถ้าหากตอนนั้นทั้งสองคนหนี ทำไมพวกเขาถึงไม่หนี? วัจสาก็เริ่มจะเข้าใจถึงเหตุผลที่มันอธิบายยาก ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเขาเป็นคนเสียสละโอกาสให้ธัชชัยเอง คิดว่าเป็นเช่นนี้ เขาถึงกลายมาเป็นคนพิการแบบนี้ เธอมองดูท่าทางของป้าอ้อย ก็ไม่กล้าถามต่อไป ทำได้เพียงตบหลังของป้าอ้อยเบาๆ เป็นการปลอบโยนแบบไม่มีเสียง ที่ห้องบำบัดชั้นสอง ทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อ ราวกับไม่มีทางหายไปจากห้องแคบๆนี้ ตาที่พร่าเบลอมองเห็นอะไรไม่ชัด เห็นเพียงร่างหนึ่งที่บนเตียง ถูกแขวนด้วยเครื่องมือแพทย์ระโยงระยาง หน้าอกเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างช้าๆ พ่อบ้านภูษิตเปิดไฟขึ้นดวงหนึ่ง ก็มองเหห็นวรพลที่นอนอยู่บนเตียงได้อย่างชัดเจน วิศาลขมวดคิ้ว รีบก้าวเข้าไป “วรพล ทำไมนายถึงกลายเป็นแบบนี้?บอกว่ารักษาอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ? รักษาจนผลออกมาเป็นแบบนี้เหรอ?” เห็นวิศาลเข้ามา วรพลก็อยากจะนั่งขึ้นมา แต่ลุกขึ้นมาเร็วไปหน่อย โดนอุปกรณ์ที่เชื่อมอยู่กับร่างกาย ทำให้หายใจไม่คล่องขึ้นมาทันที คุณหมอภาคินรีบจัดการให้เรียบร้อย ปรับหัวเตียงให้สูงขึ้น ทำให้วรพลสบายขึ้นมา “นายอย่ารีบ ฉันมาแล้วนี่ไง เป็นฉันเองที่ไม่ดี ไม่ควรพูดเสียงดังแบบนี้” วิศาลพูดโทษตัวเอง เขาไม่คิดว่าวรพลจะเป็นหนักถึงขั้นนี้ ก่อนหน้านี้ธัชชัยไม่ยอมให้เขาเข้ามาเยี่ยมวรพลอยู่ตลอด ถ้าหากไม่ใช่เพราะธัชชัยไม่อยู่บ้าน เขามาถึงที่นี่ ทั้งสองคงต้องมีแลกหมัดกันบ้าง “ชนัตอย่าพูดแบบนี้ มันทำให้แนรู้สึกแย่” วรพลเรียกวิศาลว่าชนัตมาตลอด เป็นเพราะว่านี่คือชื่อเก่าของวิศาล เขาเคยเปลี่ยนแล้ว แต่มันเปลี่ยนไม่ได้ ก็เลยเรียกแบบนี้มาตลอด
已经是最新一章了
加载中