ตอนที่56 ถูกเจอว่าสวีทกันโดยบังเอิญ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่56 ถูกเจอว่าสวีทกันโดยบังเอิญ
ต๭นที่56 ถูกเจอว่าสวีทกันโดยบังเอิญ ภาวิณีที่กำลังมีความสุขในยามเช้านั้น ไม่คิดว่าสวรรค์จะเข้าข้างเธอ ให้เธอได้เจอคนที่เธอชอบ แต่จะทักเขายังไงดีนะ? มันจะดูไม่ธรรมชาติไหม? เพียงแค่คืนเดียว ก็ทำให้ภาวิณีคิดไปไกล แต่ในขณะที่เธอกำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่นั้น ภาพตรงหน้านั้นบาดตาเธออย่างมาก ในห้องครัว ร่างของคนทั้งสองที่คุ้นเคยกำลังกอดรัดกันแน่น เมื่อมองจากด้านนอกเข้าไป เห้นว่าเท้าของวัจสาที่ไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นนั้น โอบอยู่รอบๆเอวบางๆของธัชชัย หัวของทั้งสองนั้นนัวเนียกัน เห็นได้ชัดว่าวัจสากำลังให้ท่าธัชชัย วันนั้น ภาวิณีไม่เคยคิดเลยว่าทั้งสองจะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้ วัจสายังมีความละอายใจอยู่ไหม? เธอเป็นพี่สะใภ้ของธัชชัย แต่ที่ทั้งสองคนกำลังทำอยู่นั้นมันคืออะไร? ภาวิณีอยากจะถามเอว่าเอาสามีพิการของเธอไปไว้ตรงไหน? รรมดาของคนที่ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน กล้าที่จะให้ท่าน้องสามีตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องเมื่อคืนก้ชัดเจน ว่าทำไมเมื่อธัชชัยรู้ว่าเอไม่ใช่วัจสาแล้วจึงดีดีตัวออกราวกับถูกฟ้าผ่า ทั้งสองคนนั้นรู้กันตั้งแต่แรกแล้ว แต่วัจสามีห้องหอของตัวเอง แตทำไมถึงมานอนที่ห้องรับแขกอีก? เห็นได้ชัดว่าเพื่อเป้นชู้กับธัชชัยได้อย่างสะดวก ภาวิณีตกตะลึกเป้นอย่างมาก วัจสาก้เป้นเพียงนางวันทอง ที่ภายนอกดูบริสุทธิ์ไม่มีพิษภัย แต่ภายในนั้นคิดทุกหนทางเพื่อที่จะให้ท่าน้องสามีตัวเอง ความสัมพันธ์เช่นนี้ เธอกล้าที่จะทำมันลงไปได้อย่างไร? เธอคงดูถูกเธอเกินไป จากฐานะและหน้าตาของธัชชัย คงมีผู้หญิงมาชอบมากมาย หรือพูดอีกอย่างว่าผู้หญิงต่างหนีไม่พ้นเสน่ห์ของเขา แต่สามีพิการของวัจสาอย่างวรพลนั้นให้วิ่งที่เธอต้องการไม่ได้ เธอจึงหลงผิดเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่สิ่งที่อู่ใกล้กว่าย่อมมีสิทธิ์มากกว่า ผู้ชายย่อมใจอ่อนกับผู้หญิงอ่อนหวานขี้อ้อน วัจสาจึงได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดธัชชัยอย่างง่ายดาย ถ้าหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป คนอื่นก็คงคิดว่าวัจสานั้นให้ท่าธัชชัย เป็นหญิงเลวที่ใช้วิธีนี้! เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าที่สละสวยของภาวิณีเค่งขรึมขึ้น เธอป็นผู้หญิงฉลาด ผู้หญิงที่ลาดจะไม่ทำเรื่องที่ให้ผู้อื่นหรือตัวเองอยุ่สถานการณ์ที่ลำบาก เธอไม่ได้กรีดร้องหรือโวยวาย เธอเพียงแค่ถอยออกไปอย่างเงียบๆ ออกจากห้องครัวไป เมื่อกลับถึงห้องรับแขก ก้ทำเป้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ท่าทางค่อยถอยกลับมาของเธอนั้น อยุ่ในสายตาของอีกคน พ่อบ้านภูษิตเห็นเหตุการณืของวัจสาและธัชชัยพอดี แต่ไม่คิดว่าที่มุมทางห้องรับแขกจะมีภาวิณีแอบยืนดูอยู่ แต่รอดูเมื่อวัจสาที่จิตใจปั่นป่วน และธัชชัยที่มีสีหน้าพอใจเดินออกมา ทั้งสองเดินตามกันออกมาจากห้องครัว ภาวิณีคงเห็นคุณนายน้อยและคุณชายธัชชัย “ลวนลาม” ในห้องครัว แล้วเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองผิด ใครจะรู้ว่าคนที่ปฏิเสธที่จะแต่งงานมาบ้านนี้ กลับดั้นด้นหาทุกวิธีเพื่อที่เข้ามา พ่อบ้านภูษิตนึกถึงครั้งแรกที่ไปบ้านตระกูลเดิมขุนทด คุณหนูทั้งสามของบ้านนั้นมีท่าทีรังเกียจและเย็นชา แต่เมื่อพูดถึงคุณชายรอง พวกเอก็ดูดีดาขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยชอบใจคนบ้านนั้นซักเท่าไหร่ ตอนนี้เห็นวัจสาที่มีชีวิตลำบากนั้น ค่อยๆเดินเข้าไปในใจของธัชชัย พ่อบ้านภูษิตรู้สึกปลื้มใจมาก แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย ความสัมพัน์ที่ถูกเธอเจอนั้นไม่รู้จะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี ที่ไม่ดีคือ ภาวิณีอาจจะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปได้ แต่ที่ดีก็คือ ธัชชัยอาจจะยอมรับวัจสาก็เป็นได้ หวังว่าวัจสาจะค่อยๆมีเรื่องดีๆเข้ามา เอเป้นเด็กดีที่หาเจอได้ยากจริงๆ หลังจากที่จัดอาหารเช้าให้ธัชชัยเรียบร้อย วัจสาก้เดินไปห้องรับแขกเพื่อเรียกภาวิณีออกมาทานอาหารเช้า ภาวิณีแต่งตัวเรียบร้อยรอวัจสา ท่าทีของเธอดูแปลกไป แต่วัจสาก็มองไม่ออก และยิ่งไม่คิดว่าเธอจะเห้นภาพที่เธอจูบกับธัชชัยในห้องครัว เมื่อภาวิณีเดินตามวัจสามายังห้องหาร ทักทายธัชชัย ราวกับไม่รู้อะไรมาก่อน “อรุรสวัสดืค่ะ คุณชายรอง” ธัชชัยตอบรับเสียงต่ำ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง แล้วรีบกินอาหารเช้าตรงหน้า ภาวิณีกำมือที่ข้างลำตัวแน่น แล้วเลือกนั่งตรงที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากธัชชัยจนเกินไป เธอรู้ดีว่าควรห่างประมาณไหนจึงจะไม่ทำให้เขารู้สึกรังเกียจ เมื่อวัจสาเห้นว่าภาวิณีนั่งลงแล้ว จึงวางถ้วยชาม และตักดจ๊กให้ ที่จริงนี่ก็เป็นสิ่งที่วัจสาทำตั้งแต่เด็กจนชินเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็แค่ทำไปตามที่รู้สึก ไม่คิดว่าจะอยู่ในสายตาของชายหนุ่มนั้น มันดูเกะกะลูกตาเขามาก ธัชชัยหยุดการกระทำที่ทำอยู่ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “วัจสา ตอนนี้เธอควรจะรู้ฐานะตัวเอง เธอเป้นคุรนายของบ้านศรีทองนะ ทำไมจะต้องมานั่งปรนนิบัติคนอื่น ทำให้ฉันคนเดียวก็พอแล้ว” เมื่อวัจสาถุกพูดอย่างนี้ จึงทำให้เธอรู้สึกลำบากใจมาก ไม่ไว้หน้าเธอตอหน้าคนอื่นเลย ธัชชัยก้อยากจะให้เธอขายหน้ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว! วัจสาอยากจะตอกกลับเขาสักคำ ราวกับท่าเมื่อกี้ที่โอบรอบเอวเขาและกัดไหล่เขาอยู่ในห้องครัวนั่น ดูท่าทางของธัชชัยและวัจสา ราวกับทั้งสองคนนั้นมีอะไรกัน ภาวิณีแอบเจ็บใจ อยากจะฉีกวัจสาออกเป็นท่อนๆ นังผู้หญิงไร้ยางอาย! แต่เธอรู้ดี เธอจะทำตัวไม่มีสมงเหมือนรสรินไม่ได้ ถ้าไม่งั้นจะดูเหมือนคนที่ไม่ได้รับการสั่งสอน เธอเป้นถึงไฮโซชื่อดังอันดับต้นๆในเมืองเอสเลยนะ ดังนั้นเธอจะต้องสง่างาม เมื่อรับชามดจ๊กมาจากวัจสา “พี่วัจสา ไม่ต้องทำให้ฉันขนาดนี้ก็ได้ พวกเราเป้นครอบครัวเดียวกัน ฉันทำเองดีกว่า พี่นั่งกินเถอะ ทำงานมาเหนื่อยๆแต่เช้าแล้ว” วัจสาไม่คิดว่าภาวิณีจะพูดเช่นนี้ แต่การกระทำของเธอช่างเหมาะกับฉายาที่ว่าเป็นกุลสตรีจริงๆ วัจสาส่ายหน้าปฏิเสธ “เมื่อกี้ฉันกินแล้ว พวกเธอกินก่อนเลย ฉันยังมีเรื่องที่ยังทำไม่เสร็จ” ที่วัจสาไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อ หนึ่งเป้นเพราะไม่อยากจะอยู่ต่อหน้าธัชชัยแล้ว สองคือเธอตกลงกับภาวิณีแล้วว่าจะหาโอกาสให้ ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ไม่รู้หน้าที่ตัวเอง ก็คงจะไม่ดีหรอกใช่ไหม? เมื่อวัจสากำลังจะไปจากโต๊ะอาหาร แขนของเธอก็ถูกมือหนึ่งจับเอาไว้ วัจสาก้มลงไปดุ เป้นแขนของภาวิณีที่นั่งอยู่นั่นเอง “พี่วัจสา อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนไม่ได้เหรอท ฉันยังไม่ชินกับการทานอาหารเช้าที่นี่ แล้วอีกอย่างทิ้งแขกนั่งตรงนี้คนเดียวคงจะดูเสียมารยาทไม่ใช่เหรอคะ?” คำพูดของภาวิณีดูออดอ้อนน่าเอ็นดู แต่กลับทำให้วัจสาหมดวิธีที่จะปฏิเสธ เมื่อครุ่นคิด ที่ภาวิณีพูดก็มีเหตุผล ต่อให้รุ้สึกแย่ยังไง ก็ไม่ควรทิ้งเธอไว้ ให้เผชิญกับธัชชัยสองต่อสอง รอให้พวกเขาคุ้นเคยกันก่อนค่อยหาโอกาสใหม่ก็ได้ วัจสาทำได้เพียงกลับไปนั่งดังเดิม หยิบชามของตัวเอง แล้วตักดจ๊กใส่ ภาวิณีดุออกมาวัจสาอยากจะให้เธออยู่กับธัชชัยสองต่อสอง แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เธอไม่สามารถอยู่ที่บ้านนี้ได้ตลอด แต่วัจสากลับไม่เหมือนกัน เธอสามารถให้ท่าธัชชัยได้ตลอดเวลา ดังนั้นภาวิณีจึงใช้โอกาสนี้ “เตือน” เธอหน่อยว่า ที่จริงนั้นวัจสาเป้นผู้หญิงของใคร แล้วควรจะทำอะไร! ภาวิณีเปิดปากสีแดงอิ่มนั้นออกมา พูดถ้อยคำอ่อนหวาน “มาค้างคืนที่บ้านนี้ ต้องรบกวนพวกคุณทั้งสองเลย ไม่รู้ง่าฉันได้ทำความลำบากใจอะไรให้ทั้งสองบ้างรึเปล่า?” ธัชชัยตอบกลับเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร” ใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ได้เผยอารมณ์โกรธออกมา แต่สายตาอันเดือดพล่านนั้นทอดไปทางวัจสาที่นั่งอยู่ บนดต๊ะอาหารเงีบจนน่ากลัว วัจสาไม่รู้คิดยังไง เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินดจ๊กในชาม ภาวิณีเห็นวั่ชชัยไม่ได้สนใจเธอ และไม่รีบร้อน เอจึงมองไปตามสายตาของธัชชัย ยื่นมือคีบแป้งมันม่วงไปใส่ในชามวัจสา “พี่วัจสา อย่ากินแต่โจ๊กอย่างเดียวสิ แป้งมันม่วงนี้มสารอาหารมากมาย จำได้ว่าเมื่อก่อนตอนอยู่ที่บ้านพวกเราชอบกินกันมาก” เมื่อวัจสาได้ยินภาวิณีพูด เอจึงเงยหน้าขึ้นมา แล้วพุดขอบคุณเบาๆ แต่กลับไปปะกับสายตาคุกรุ่นของธัชชัยโดยบังเอิญ เออึ้งไปนิดนึง ไม่รู้ว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่ เอตั้งใจจะหลบเขาแล้วเชียว แต่ทำไมเขายังตามตีอเธอไม่เลิก ภาวิณีเป็นถึงไฮโซสาวชื่อดัง นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา ทำไมเขาถึงไม่สนใจเธอหน่อย? “มองฉันทำไม? กินกุ้งสิ!” ธัชชัยสั่งเสียงเรียบ ระหว่างที่พูด เขาก้คีบกุ้งในจานสปาเก็ตตี้ตัวเองไปใส่ในถ้วยของเธอ วัจสาได้ยินน้ำเสียงนั้น เธอรู้สึกไม่สบายใจ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงชอบทำตัวเผด็จการ? เขาพูดอะไร คนอื่นก้ต้องทำตามที่เขาพูดงั้นเหรอ? ต่อให้เธอชอบกินกุ้งแล้วจะทำไม? เคยถามความเห็นเธอบ้างไหม? วัจสารู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก นึกถึงตอนที่อยู่ในห้องครัว ชายหนุ่มจูบเธออย่างรุนแรง เอก็เริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา การกระทำที่เลวร้ายเช่นนี้ เป็นเพราะแรงระหว่างผู้ชายและผู้ชาย เธอไม่มีวิธีที่จะทำอะไรเขา แต่ในฐานะน้องสามี ลวนลามพี่สะใภ้ตัวเองบ่อยๆ เขาไม่เคยรู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ? หรือจะเหมือนกับที่เขาพูด ว่าไม่เคยมองเธอเป็นพี่สะใภ้ การกระทำทั้งหมดก็เพื่อดูถูกตัวเธอ? วัจสาโตมาขนาดนี้ ผ่านเรื่องเศร้ามามากมาย แต่ทุกคนยอมมีลิมิตความอดทนของตัวเอง และสำหรับเธอนั้นคือการไม่ยอมให้ใครมาหลอกลวง มาหลอกเธอแบบนี้ก็เหมือนกับหักหลัง อีกนานหลังจากนี้ ธัชชัยก็เล่าเรื่องจริงให้เธอฟัง แม้กระทั่งตอนที่หนังสือสมรสนั้นมาอยู่ตรงหน้าเธอ มันยิ่งทำให้เธอหมดความอดทน ตอนนั้นวัจสาหลงรักธัชชัยอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว และเธอก็ไม่อาจให้อภัยเขาได้ ปกปิดมานาน เธอถูกทรมานมามาก ลูกอมเม็ดนี้จะเยียวยาได้จริงเหรอ? 
已经是最新一章了
加载中