ตอนที่57 เต้นรำทำเงิน
1/
ตอนที่57 เต้นรำทำเงิน
วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่57 เต้นรำทำเงิน
ตนที่57 เต้นรำทำเงิน เมื่อภาวิณีสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของวัจสาไม่ปกติ จึงแสร้งพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง “พี่วัจสา ดูท่าคุณธัชชัยจะให้ความสำคัญกับพี่สะใภ้คนนี้มากๆนะคะ ดุสิว่าเป้นห่วงพี่ขนาดไหน” พี่สะใภ้” สองคำนี้เหมือนเป็นก้อนหินที่ทุ่มลงมาในใจวัจสาจนแตกสลาย จากอารมรืที่ขุ่นมัวอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งหม่นหมองเข้าไปใหญ่ จุดมุ่งหมายของภาวิณีก็เพื่อเตือนไม่ให้วัจสาทำเรื่องที่ออกนอกนอกลู่นอกทาง อย่าใช้ฐานะพี่สะใภ้มาให้ท่าธัชชัยอีก ใบหน้าขาวๆของวัจสายิ่งซีดลง แต่เพื่อป็นการไม่ให้ภาวิณีมองออก เธอจึงพูดขึ้น “ธัชชัยคุณอย่าคีบอาหารให้ฉันบ่อยๆสิ แป้งมันม่วงนี่ ภาวิณีชอบกินมาก คุณเอาให้เขาอีกหน่อยดีกว่า ถือว่าเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดี” ยังไม่ทันให้ธัชชัยมีปฏิกิริยาอะไร เธอก็หันมาพูดกับภาวิณีต่อ “ภาวิณี เธอคิดว่าธัชชัยเป็นยังไงบ้าง? เขาดีไปเลยใช่ไหม ตอนนี้เขากับพี่กำลังเคร่งเครียดเรื่องธุรกิจใหญ่กันอยุ่ เธอพอจะมีผู้หญิงแนะนำให้เขาหน่อยไหม? นิสัยอ่อนโยน ใจดีก็โอเคแล้ว ฉันว่าอย่างภาวิณีนี่ก็ดีเลยนะ” เมื่อตอนที่วัจสาพูดนั้น เธอแสดงออกท่าทีว่าเป้นพี่สะใภ้อย่างชัดเจน จนภาวิณีอึ้งไป เธอไม่คิดว่าวัจสาจะเป็นแม่สื่อให้เธอกับธัชชัย แต่ธัชชัยยังคงเย้นชาเหมือนเดิม สีหน้าเคร่งขรึม ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าวินาทีต่อมาจะโมโหขึ้น วัจสาตั้งใจจะทำให้เขาลำบากใจเหรอ? เมื่อภาวิณีคิดเช่นนี้ ในใจเธอก็ไม่พอใจขึ้นมา ตอนนี้วัจสาเป็นเพียงผู้หญิงฉวยโอกาสในสายตาเธอไปแล้ว “จากคุณสมบัต้ของคุณชายรอง ไม่ต้องแนะนำก็น่าจะมีสาวมาให้เขาเลือกมากมาย” ภาวิณีตอบแบบติดตลก พลางพูดเชิงลองใจต่อ “ขนาดพี่วัจสา ยังรู้สึกว่าคุรธัชชัยเขาดีไม่ใช่เหรอคะ?” วัจสาไม่คิดว่าภาวิณีจะแตะ “บอล” ลูกนี้มาให้เธอ เอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ทไมภาวิณีจึงถามอย่างนั้น? หรือเธอจะสัมผัสอะไรได้? ธัชชัยก็ค่อนข้างสนใจในคำถามนี้ สายตาเป็นประกายนั้นมองไปที่วัจสา แล้วเล่นอุปกรณ์การกินในมือ รอให้วัจสาตอบคำถามนี้ ตอนนี้วัจสายากที่จะถอยกลับแล้ว เธอร้อนรนราวกับเป็นมดในรังร้อน ไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไรดี ถ้าหากยอมรับ ก็จะผิดแผน ถ้าหากไม่ยอมรับ ก็เหมือนเธออุปโลกเรื่องขึ้น สุดท้ายก้นึกออกว่าจะตอบอย่างไร “สำหรับการเป็นคนที่เก่งกาจและเคารพผู้อื่นนั้น ฉันก็ชอบและนับถืออยู่แล้ว” คำตอบของวัจสาทำให้ภาวิณีสงสัย แต่นั่นทำให้สีหน้าของธัชชัยเคร่งเครียดขึ้น ผู้หญิงคนนี้ชอบหาว่าเขาไม่เคารพผู้อื่น นั่นหมายความว่าคนที่เธอนับถือนั้นไม่ใช่เขา?” แล้ววัจสาก็พูดต่อ “ก้เหมือนกับคนเก่งกาจอย่างวรพล ฉันทั้งเคารพและนับถือเขา ถึงแม้ว่าไฟจะคอกจนหน้าของเขาเสียโฉม แต่ก็ไม่กระทบกับสิ่งที่อยู่ภายในของเขา ในงานเลี้ยงผู้ถือหุ้นครั้งก่อนนั้น เขาใช้ความสามารถตัวเองในการพลิกวิกฤติ ผู้ชายแบบนี้จึงเป็นผู้ชายในดวงใจแบบที่เธอต้องการ อยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต” วัจสาพุด พลางนึกถึงวรพลที่นอนอยู่บนเตียง และที่เขาไม่ยอมให้เธอเข้าไปข้างใน ก้เริ่มรู้สึกเศร้าขึ้นมา จนน้ำตาไหลออกมา แต่เธอไม่ชอบที่จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าผู้อื่น โดยเฉพาะต่อหน้าธัชชัย เธอจึงหาข้ออ้างออกจากโต๊ะอาหารไป “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน” พูดจบเอก็รีบเดินไปที่ห้องน้ำใต้บันได …… หลังจากที่ธัชชัยทางอาหารเช้าเสร็จ ก็ขึ้นไปดูวรพลที่ห้องบำบัดชั้นสอง นึกถึงอารมรืและคำพูดที่เธอพูเมื่อกี้ มันแทรกวึมเข้าไปในจิตใจเขา วัจสานับถือ “สามีไ ของเธอที่สามีพลิกวิกฤติกลับมาได้ นั่นก็หมายถึงตัวเขานั่นเอง แต่สายตาเธอที่เป็นห่วงพี่ชายของเขนั้นไม่เคยหลอกลวง สำหรับภาวิณีนั้น ชชัยก็ไม่ได้พูดอะไรกับเธออีก เธอก็รู้สึกหมดอารมณื ที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปเหมือนกัน ยังไม่ทันที่วัจสาจะออกมา เธอก็ขอตัวกลับไปก่อน อาการของวรพลยังคงเป็นเหมือนเดิม เขาไม่ยอมกินยารักษาตัวเอง อาการก็ไม่มีทางดีขึ้น อาการก็ยังคงเป้นแบบเดิมทุกวันๆ วรพลตั้งใจจะหัชชัยออกไปก่อน แล้วเหลือป้าอ้อยไว้ “ป้าอ้อย แผนการครั้งก่อนเป็นอย่างไรบ้าง?” ตอนนี้วรพลจะพูดอะไรก้ยังลำบาก เขาทรมานเหมือนมีไฟร้อนมาอยู่ในคอของเขา ป้าอ้อยเห้ยสภาพของเขา น้ำตาก็แทบไหลออกมา พยายามปรับอารมณ์แล้วจึงตอบ “ฉันลองคำนวณเวลาดูแล้ว อีกประมารสี่วันจะเป้นช่วงเวลาตกไข่ของคุรนาย ถ้าหากช่วงนั้นได้อยู่ในห้องสองต่อสองกับคุณชายรอง ก็มีโอกาสที่เธอจะตั้งครรภ์ คุรนายแกเป้นคนเชื่อฟัง ร่างกายของทั้งสองก็แข็งแรง สำเร็จแน่ๆค่ะ” ป้าอ้อยเล่าแผนการให้วรพลฟังหลังจากที่เธอคำนวณมาหมดแล้ว เพียงแค่ครั้งนี้วางแผนอย่างรัดกุม ก้จะไม่เสียเรื่องแน่นอน และถือเป้นการทำตามที่คุณชายใหญ่หวังเอาไว้ “ดีมาก ยังมีอีกกี่วัน… ใกล้แล้วสิ… ครั้งนี้ห้ามให้ธัชชัยหนีไปได้อีก… แผนการของเราห้ามมีช่องโหว่เป้นอันขาด” วรพลรู้ดีว่าอาการตัวเองนับวันยิ่งแย่ลง เขาจึงพยายามรีบให้วัจสามีลูกกับธัชชัย ให้ตระกูลศรีทองได้มีทายาท ถึงเขาตายไปก็ถือว่าสู้หน้าบรรพบุรุษได้แล้ว ไม่อยากจะรอแม้แต่วินาทีเดียว ทุกวินาทีนั้นทรมานเหลือเกิน ต่อให้ตอนนี้วัจสายังคงเข้าไปในใจที่เต้มไปด้วยความโกรธแค้นของธัชชัยไม่ได้ แต่ธัชชัยเป็นเด็กดี เขาทำหน้าที่พ่อได้ดี อย่างน้อยครึ่งหนึ่งในความคิดเขาก็ต้องนึกถึงครอบครัว ความโกรธแค้นเหล่านั้นก็จะค่อยๆมลายหายไป ป้าอ้อยมองดูวรพลที่วางใจไปแล้วครึ่งหนึ่ง ไม่รู้ว่าเป้นเรื่องที่ดีหรือร้าย เธอกลัวว่าคุณชายใหญ่จะจากไปแบบไม่มีเรื่องผูกมัดจริงๆ “คุณชายใหญ่คะ ช่วงนี้ฉันจะตุ๋นยาบำรุงมาให้ท่านบำรุงร่างกาย แต่ท่านเองก้ต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะ แผนการทั้งหมดยังต้องให้คุรสั่งการต่อไปค่ะ” วรพลรู้ว่าป้าออ้อยกำลังกังวลเรื่องอะไร จึงพูดด้วยเสียงต่ำ “ป้าอ้อย แต่ไหนแต่ไรมา ก้ลำบากป้ามาตลอด ป้าดูแลผมมาแต่เล็กจนโต มีหลายครั้ง ที่พวกเรานั้นสนิทกับป้ามากกว่าใครๆไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นก็ไม่ต้องห่วงนะ ผมรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร ไม่ต้องลำบากป้าแล้วช่วงนี้” ป้าอ้อยได้ยินที่วรพลพุดด้วยแรงที่เหลืออันน้อยนิด เพียงแค่อยากให้เขาได้พักผ่อน “ไม่ลำบากเลยค่ะ นี่เป้นสิ่งที่ฉันควรทำ แค่คุรชายใหญ่กับคุณนายสบายดี ฉันก็ดีใจ บอกตามตรงนะคะ ฉันก้ค่อนข้างชอบวัจสานะคะ” ป้าอ้อยพูดพลางลุกขึ้นเตรียมจะออกไป “งั้นคุณชายใหญ่พักผ่อนเถอะค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ตกเย็น วัจสารับดทรศัพท์สายหนึ่ง เป็นแวววัยจากสถานรับเลี้ยงนั่นเอง เสียงจากปลายสายดังขึ้นมา “วัจสา คืนนี้เธอว่างไหม?” “ทำไมเหรอ?” เดิมทีวัจสาจะเขียนวิทยานิพนธ์ เพราะเมื่อกี้เริ่มมีอารมณ์จะทำ “ไปเป็นคู่เต้นกับฉันหน่อย” “อะไรนะ!? คู่เต้น? เอจะแอบคุณดนิตาไปเต้นงั้นเหรอ?” วัจสาพูดเสียงดัง ทำให้แวววัยที่อยู่ปลายสายตกใจ ต้องห้ามเธอเอาไว้ “เธอพูดเบาๆหน่อย! ตอนนี้ฉันอยู่ด้านนอกสถานรับเลี้ยง ถ้าหากคุณดนิตาหรือเรวัตได้ยินเข้าจะซวยเอา” วัจสาพูดอย่างหมดอารมณ์ “เธอกลัวด้วยเหรอ? แล้วยังจะไปทำไมล่ะ!” แววัยรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ “เธอคิดว่าฉันอยากเหรอ? ฉันเป้นเพียงเด็กจากครอบครัวจนๆ ไม่ได้มีแฟนเป็นเศรษฐีอย่างเธอ ล้อรถเขาอันเดียวก็เท่ากับค่ากินใช้ฉันทั้งปีแล้ว” วัจสาอยากจะพูดขึ้นมา แต่แวววัยพูดขึ้นก่อน “วัจสา เธอช่วยฉันหน่อยนะ แค่ครั้งเดียวเอง พวกเราไม่โดนจับได้ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอท เมื่อก่อนเธอก็เคยไปกับฉันนี่? จะเปิดเทอมแล้ว ฉันยังหาค่าเทอมได้ไม่ครบเลย” เป็นเพราะปัจจัยต่างๆในตัวแวววัย ทำให้เธอขอทุนในการเล่าเรียนได้ แต่ด้วยนิสัยของเธอ ไม่ยอมให้คุณดนิตาไปทำเร่องขอทุนให้ ดังนั้นทุกครั้งที่ปิดเทอม เธอทั้งไปช่วยงานที่สถานรับเลี้ยง และหาเงินค่าเทอม Richbaby เป็นสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเอส เงินค่าตอบแทนที่จ่ายก้ต่างจากที่อื่น เต้นที่นั่นคืนหนึ่งได้ตั้งหนึ่งพัน ก็สามารถทำให้ค่าเทอมครบได้เลย แต่ที่นั่นค่อนข้างมั่วสุม และไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอะไร พูดถึง ค่าเทอมของวัจสาเองก็ยังไม่ครบเลย มีเดิมที่เอเก็บไว้เอง แต่ช่วงนี้มีเรื่องเด็กเม็ดเลือดขาวนั่น ทำให้เธอไม่มีเงินติดตัวเลย และจะไปขอคุรอาที่บ้านเดิมขุนทดบ่อยๆไม่ได้หรอกใช่ไหม? ไม่ต้องพูดถึงว่าน้าจะเยาะเย้ยหรืออะไร แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากจะขอเอง หญิงสาวที่แต่งงานออกไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกไปแล้ว เธอก็เหมือนกับน้ำพวกนั้น แล้วยิ่งมีบทเรียนก่อนหน้านี้ ยิ่งทำให้เธอไม่กล้าไปขอเงินธัชชัย ดังนั้นคิดไปคิดมา ก็มีแตออกไปเต้นกับแวววัยเท่านั้น เมื่อเห้นว่าวัจสาเงียบไปนาน แวววัยก้รู้ว่าเธอกำลังสนใจ จึงพูดเสริมเข้าไปอีก แต่เปลี่ยนวี “ถ้าหากตอนนี้ไม่ได้ ฉันหาคนอื่นก็ได้ คุณนายอย่างเธอคงไม่อยากจะเปลืองตัว ฉันคงถามผิดคนจริงๆ” “แวว เธอกำลังพูดอะไรกัน? ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ไป ค่าเทอมของฉันก็ไม่พอเหมือนกัน ไปกันเถอะ เธอติดต่อคนทางนั้นไว้แล้วรึยัง?” วัจสาถาม เรื่องที่เธอจะไปเต้นนั้น ทางที่ดีคือไม่บอกใครให้รู้ “บ้าจริง? ฉันฟังผิดไปรึเปล่า? คุณนายวัจสาเนี่นะค่าเทอมไม่พอ? แล้วแฟนเศรษฐีของเธอล่ะ? ไม่ขอเงินเขาล่ะ?” ถึงแม้ว่าจะเจอธัชชัยเพียงไม่กี่ครั้ง แต่มองดูแล้ว เขาก็ไม่น่าใช่คนขี้เหนียวอะไร ครั้งก่อนที่กินข้าวนอกจากจะจ่ายคืนพวกเขาแล้ว ยังบริจาคให้สถานรับเลี้ยงอีกตั้งหลายล้าน นี่สิเศรษฐีตัวจริง สถานรับเลี้ยงได้เงินจากเขา ทำให้ความเป้นอยู่ดีขึ้นตั้งเยอะ เด็กตั้งหลายคนก็ได้รับการผ่าตัด” วัจสาไม่รู้ว่าจะบอกแวววัยผ่านโทรศัพท์ยังไง แต่เงินโทรศัพท์เธอใกล้จะหมดแล้ว จึงบอกไปเพียงว่าค่อยเล่าให้ฟังตอนเจอหน้า แล้วก้ถามเวลา เตรียมหลบหน้าพ่อบ้านภูษิตกับป้าอ้อยก่อน และที่สำคัญคือธัชชัย แล้วค่อยออกมาจากบ้าน
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่57 เต้นรำทำเงิน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A