ตอนที่ 82 อีกนิดเดียวความลับก็จะแตกแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 82 อีกนิดเดียวความลับก็จะแตกแล้ว
ต๭นที่ 82 อีกนิดเดียวความลับก็จะแตกแล้ว วัจสาสะดุ้งตกใจ "ป้าอ้อย คุณฟังผิดแล้วค่ะ ไม่ใช่ธัชชัยอยากกิน แต่เป็นวรพลอยากกินโจ๊กต่างหากค่ะ เขากินอาหารรสชาติจัดมากไม่ได้ แต่กินได้แค่อาหารเหลวไม่ใช่หรอค่ะ?" ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่ในใจของวัจสาเกิดความรู้สึกข้องใจ ’วรพล’ดูไปแล้วเหมือนกับผู้ชายปกติไม่มีผิด ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อแขนมีกล้าม และแทบจะไม่เหมือนกับคนที่ต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจเลย มีเพียงต้องกินแค่อาหารเหลวเท่านั้นที่เหมือนคนป่วย? แต่เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ วัจสาเลยรีบตักโจ๊กดำไปให้’วรพล’ เมื่อเห็นร่างเงาของเธอบนชั้นสอง ป้าอ้อยก็ได้แต่ยืนก้มหน้าไว้อาลัยให้กับคุณชายรองไม่กี่นาที สวรรค์รู้ดีว่าอาหารที่เขาเกลียดที่สุดคืออาหารประเภทโจ๊กที่จืดชืดและไม่มีรสชาติ ในห้องแต่งงาน เมื่อธัชชัยเล่นโทรศัพท์สักครู่ก็ปิดเครื่องโทรศัพท์ และนอนคิดเรื่อยเปื่อย เขายังไม่ได้คิดวิธีการแก้ปัญหาของเรื่องกนิษฐาเลย อันที่จริงถ้าอยากฆ่าเธอให้ตาย ง่ายเพียงแค่ฝ่ามือเดียว แต่เพราะเธอเป็นถึงผู้หญิงที่พี่ชายใหญ่รัก อีกอย่างเบาะแสเพียงอย่างเดียวของผู้อยู่เบื้องหลังตอนนี้ก็มีเธอเพียงคนเดียวที่รู้ เธฮต้องรู้แน่ว่าคนๆนั้นอยู่ที่ไหน! หากให้เธอตายง่ายๆก็คงดูถูกเธอไป ดังนั้นต้องให้เธอลิ้มรสชาติความเจ็บปวดของพี่ชายใหญ่บ้าง! จะต้องทำให้เธอชดใช้ด้วยเลือด! ตอนที่วัจสาเดินถือโจ๊กเข้าไปก็เห็นใบหน้าของธัชชัยเผยสีหน้าเคียดแค้น ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ถึงแม้รอยถลอกบนใบหน้าจะปกปิดอารมณ์ของเขา แต่บรรยากาศรอบตัวของเขาปกปิดไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นโจ๊กในมือของวัจสา คิ้วเรียวงามของธัชชัยก็ยิ่งชิดขึ้น ดูเหมือนเขาจะขยะแขยงสิ่งนี้ ในความเป็นจริงแล้วเขาแขยะแขยงโจ๊กเปียกแชะประเภทนี้มาก ไม่มีรสชาติ อร่อยสู้น้ำเปล่าก็ไม่ได้! ประโยคที่วัจสาพูดต่อไปนี้เกือบจะทำให้เขาบ้าคลั่ง "ทำให้คุณรอนานเลย แต่โจ๊กวันนี้ฉันใส่น้ำผึ้งด้วยนะ" ในสายตาของวัจสารู้สึกว่าโจ๊กใส่น้ำผึ้งจะช่วยทำให้ถูกปากมากขึ้น และไม่น่าจะมีรสชาติจืดชืดขนาดนั้น แต่ในสายตาของธัชขัย มันคือฟ้าผ่าในวันที่ท้องฟ้าสดใส ทันใดนั้นธัชชัยก็ทำหน้าเหม็น ทำไหมผู้หญิงคนนี้ถึงน่ารำคาญขนาดนี้? อาหารหวานที่เขาเกลียดที่สุดถูกใส่ลงในโจ๊กแล้ว เช่นนั้นจะแตกต่างกับอาหารสีดำตรงไหน? วัจสายิ้มบางๆพร้อมกับตักโจ๊กคำหนึ่งป้อนตรงปากของธัชชัย "ลองชิมคำหนึ่งก่อนว่าอร่อยหรือเปล่า?" ธัชชัยมองเธออย่างเหนื่อยใจ แต่ไม่ยอมอ้าปาก และไม่อยากให้ของที่เลี่ยนหวานประเภทนี้เข้าไปในปากด้วย แต่วัจสายังคงอดทนและยืนหยัดต่อ "เมื่อกี้คุณไม่ใช่บอกว่าหิวหรอกหรอ? อ้าปากกินคำหนึ่ง เร็ว" ตอนที่เธออยู่สถานสงเคราะห์นั้น เธอแทบไม่รู้วิธีการรับมือกับเด็กน้อยที่ซุกซนเกินไปเลย ในสายตาของวัจสา ’วรพล’ ตอนนี้กำลังทำตัวดื้อดึงอยู่ ธัชชัยไม่อยากทำให้ตัวเองลำบาก ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้ตอนนี้จะป้อนอาหารให้ตัวเองอย่างอบอุ่นก็ตาม เพราะเขากินของประเภทนี้ไม่ลงจริงๆ เลยพูดต่อหน้าว่า : "ผมไม่อยากกินโจ๊ก ผมอยากกินก๋วยเตี๋ยว" วัจสาสะดุ้งตกใจ "วรพล ถึงแม้อาหารเหลวนี้คุณกินแล้วจะรู้สึกเลี่ยน แต่มันมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพของคุณนะค่ะ อีกอย่างยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงด้วย" วัจสายิ้มแย้ม และปลอบโยนอย่างอดทน ธัชชัยเริ่มรู้สึกรำคาญกับผู้หญิงคนนี้แล้ว เพราะเธอเอาแต่คอยเป่าหูซ้ายหูขวาของเขา จนทำให้รู้สึกรำคาญใจจะตายอยู่แล้ว! "อย่าเรียกผมว่าวรพล! ผมบอกกี่ครั้งแล้ว ให้เรียกผมว่าสามี!" ธัชชัยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา วัจสารู้สึกว่าตอนนี้เขากำลังงอแงอยู่ ถึงแม้จะรู้สึกกระดากอาย แต่ก็ยอมเรียกเขาอย่างอ่อนโยนว่า "สามีค่า...ฉันป้อนให้นะค่ะ นี้เป็นโจ๊กดำ มีส่วนช่วยบำรุงกระเพาะ และมีโยชน์ต่อระบบขับถ่ายมาก" พูดแบบนี้คงไม่ยอมเปลี่ยนโจ๊กเป็นก๋วยเตี๋ยวแน่ อาหารบนช้อนที่วัจสาป้อนตรงปากของธัชชัย น่าเสียดายที่ผู้ชายบางคนกลับไม่ชอบ และไม่ยอมอ้าปากแม้แต่นิดเดียวเลย วัจสาไม่ขยับเขยื้อน แต่นิ่งเงียบ และยืนกรานต่อไป สุดท้ายธัชชัยก็อดใจไม่ที่จะมองมือที่เริ่มชาของผู้หญิงคนนี้ที่ยกขึ้นได้สักพัห จากนั้นปากที่ปิดอย่างแน่นก็อ้าปากขึ้น เมื่อมองเห็นการยืนกรานของตัวเองสำเร็จ วัจสาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ในที่สุดปากแข็งๆก็เอ่ยปากพูดว่า "เชื่อฟังดีกว่าเลย!" อันที่จริงโจ๊กมีรสชาติค่อนข้างหวาน และเมื่อผสมผสานกับน้ำผึ้งที่วัจสาใส่ด้วย ก็ยิ่งทำให้รสชาติน่าทานมากยิ่งขึ้น ทันใดนั้นผู้หญิงก็ป้อนทีละคำทีละคำ ไม่นานถ้วยโจ๊กก็หมดเกลี้ยงอย่างเห็นได้ชัด บนริมฝีปากของผู้ชายมีของติดอยู่ ขณะที่วัจสาจะหยิบกระดาษทิชชู่ให้เขา แต่เขาก็เลียจนสะอาดแล้ว เมื่อเธอเห็นฟันที่ขาวสะอาดเป็นระเบียบของเขาที่เหมือนกับคนมีสุขภาพแข็งแรง เธอก็สงสัยว่าทำไหมถึงกินอาหารอย่างอื่นไม่ได้? เธอนำความสงสัยของตัวเองพูดออกมา "วรพล ฉันรู้สึกว่าฟันของคุณดูดีมากเลย...ทำไหมป้าอ้อยถึงบอกว่าคุณกินได้แต่อาหารเหลวล่ะ?" ตอนแรกวัจสาแทบจะไม่คิดมาก่อนว่าผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้าจะเป็นคนปลอมตัวมา ดังนั้นหลังจากรู้ความจริงแล้วก็รู้สึกอยากตีตัวเองให้ตายจริงๆ เห็นได้ชัดเจนว่ามีพิรุธให้จับผิดมากมายที่สามารถสืบหาต้นต่อได้ แต่ตัวเองกลับไม่สังเกต ช่างโง่เขลาเสียจริง ผู้ชายบอกว่าเธอไม่ได้โง่เขลา แต่เป็นไร้เดียงสา! เธอแค่คิดเล่นๆ ไร้เดียงสาขนาดนั้นเลย! ไร้เดียงสาจนถึงขน! หัวสมองของธัชชัยคิดอย่างโลดแล่น ไม่นานก็พูดว่า : "หรือว่าคุณดูไม่ออกว่านี้เหมือนกับฟันปลอม?" เขาแค่พูดว่าเหมือน ไม่พูดว่าใช่สักหน่อย นี้เป็นอุบายที่ธัชชัยใช้จนเคยชิน ตอนนี้เขาทำได้เพียงโน้มน้าวผู้หญิงคนนี้ ทำให้เธอเข้าใจผิดไปเอง "ไม่จริง?" วัจสายื่นมือออกไปจะเตะฟันหน้าที่เรียงสวยของธัชชัยตามสัญชาติญาณ ขณะที่ยังไม่ทันเตะ เธอก็ต้องรีบดึงมือกลับ เพราะถูกผู้ชายกัด สภาพจิตใจที่นิ่งสงบเหมือนดั่งแม่น้ำถูกคนขว้างก้อนหินลงไปแล้ว จนทำให้กระแสน้ำเริ่มค่อยๆหมุนเป็นวงกลม ซึ่งสภาวะจิตใจของวัจสาตอนนี้เป็นเช่นนี้ เธอดึงมือกลับมาเหมือนกับโดนไฟช็อต "คุณ คุณกัดฉันทำไหม..." บนนิ้วมือของเธอมีรอยแดงที่ผู้ชายกัดไว้อยู่ ดวงตาของธัชชัยเริ่มตื่นตระหนก หลังจากได้สัมผัสถึงความอ่อนโยนจากผู้หญิง เขาก็ยิ่งอยากใกล้ชิดอีกระดับหนึ่ง "เอาล่ะ ผมเหนื่อยแล้ว พวกเรารีบนอนกันเถอะ" "ได้ค่ะ" หลังจากวัจสาตอบรับเสร็จก็นิ่งอึ้ง เขาพูดว่า "พวกเรา" หรือว่าเขาต้องการให้เธอนอนกับเขาด้วยหรอ? วัจสาแทบจะไม่มีความสนใจเลยแม้แต่น้อย แต่เธอกลับรู้สึกกังวลใจมากกว่า เธอไม่อยากให้วรพลขับไล่เธอ แต่เธอเองก็ไม่อยากมีความสัมพันธ์ที่หวานชื่นแบบนั้น เธออยากมีความสัมพันธ์แบบญาติ คนในครอบครัวที่คอยช่วยดูแลเขา หรือมีความสัมพันธ์กับเขาไม่ต่างจากป้าอ้อยและคนของบ้านศรีทอง วัจสาโน้มตัวลงอีกครั้ง และจับมือของธัชชัยไว้ "วรพล ถ้าหากคุณอยากให้ฉันเป็นภรรยาของคุณจริงๆ ถ้างั้นก็ให้ฉันเข้าไปดูแลคุณในห้องรักษาด้วยเถอะนะ เพราะนี้เป็นหน้าที่ที่คนในบ้านต้องกระทำ เช่นนั้นก็จะทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้นด้วย" "แต่ถ้าหากคุณไม่รับปาก ถ้างั้นภรรยาอย่างฉันก็ถือว่ายังทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ และไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วย" ธัชชัยเผยรอยยิ้มที่คาดเดาไม่ออก คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้เริ่มมีข้อต่อร้องกับเขาแล้ว? ซึ่งรับปากไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าไม่รับปากเธอก็จะพูดว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติเพียงพออีก ปกติก็ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอให้เขาจูบอยู่แล้ว ดังนั้นเขาไม่ได้รับปาก แต่พูดว่า : "นอนก่อนเถอะ ผมรู้สึกเหนื่อยล่ะ หากไม่ถือสา พวกเราสามารถนอนพลางพูดคุยพลางได้" วัจสาไม่คิดมาก แต่พยักหน้าตอบรับ บางทีในค่ำคืนที่เงียบสงบอาจจะทำให้สามารถพูดความในใจของซึ้งกันและกันได้ ธัชชัยสวมถุงหนังนอน ซึ่งแน่นอนว่าไม่สะดวก ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องร้อน เพราะแค่นอนพิงยังรู้สึกอึดอัดเลย เนื่องจากไม่ใช่ผิวหนังของตัวเอง เลยมักจะรู้สึกลำบาก กล้ามแขนของเขามาโอบกอดเอวบางขอดของวัจสา และมีอะไรบางอย่างกระทบบนแผ่นหลังของเธอด้วย ท่วงท่านี้สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้วัจสาจ้องมองเขาได้ และทำให้ดูเหมือนเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เพราะร้อนอบอ้าว ทำให้ถุงหนังที่ธัชชัยสวมเริ่มอึดอัดมากขึ้น แขนที่โอบกอดวัจสาอยู่นั้น ก็อดใจไม่ได้ที่จะเพิ่มแรงบีบจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บ และส่งเสียงในลำคออึ้มออกมา มือที่อ่อนนุ่มของเธอเริ่มปกปิด และพูดอย่างเบาๆว่า : "วรพล รู้สึกไม่สบายตัวหรอค่ะ? ธัชชัยพูดตามตรงว่า : "ใช่รู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย" ขณะที่เขาพูดก็อมหูของผู้หญิงด้วย ขอเพียงวัจสามีการกระทำบางอย่างหรือโยกย้ายอย่างหวาดเสียว ธัชชัยก็พร้อมที่จะยิ่งเพิ่มแรงมากขึ้น และเริ่มกัดหูน้อยๆที่น่าสงสาร แต่ส่วนใหญ่เขาจะส่งเสียงเรียกข้างๆหูของผู้หญิงด้วย ผมยาวของวัจสาถูกเขาม้วนเล่นจนเคยชินบนปลายเล็บ เขาม้วนไปม้วนมา ปล่อยลงและม้วนใหม่ซ้ำไปซ้ำมา เขาเริ่มรู้สึกว่าเหมือนว่าแม้แต่เสือที่ดุดันก็ยังมีความต้องความงดงามและอ่อนโยน วัจสานิ่งอึ้งสักพัก เพราะการกระทำที่คุ้นเคยมาก : ธัชชัยก็ชอบม้วนเล่นผมของเธอแบบนี้เหมือนกัน!" ในใจของเธอตื่นตระหนก ทำไหมอยู่ดีๆถึงคิดถึงคนๆนั้นได้อีกล่ะ? เธอกำลังอยู่ในอ้อมอกของสามีอยู่ชัดๆ แต่ในใจกลับไปอยู่ที่อีกคน ซึ่งเป็น้องชายของสามีด้วย แบบนี้มันไม่สมควร? ในใจของวัจสาเริ่มถาโถมดูถูกตัวเอง รีบลืมซะ รีบลืม... ในขณะที่พยายามสะกดจิตตัวเองนั้น วัจสาก็นอนหลับลึกไปเลย ร่างกายที่อ่อนนุ่มถูกธัชชัยโอบไว้ในอ้อมอกแล้ว เขามองเธออย่างเงียบๆ และรู้สึกว่าเธอน่าเย้ายวนมาก... หลังจากมั่นใจว่าผู้หญิงหลับสนิทแล้ว เขาก็รีบถอดภาระบนร่างกายออก และรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก แต่ในใจตอนนี้กลับรู้สึกร้อนรนจนทนไม่ไหวแล้ว ใบหน้าที่ขาวเนียนละเอียดของผู้หญิงอยู่ด้านข้าง่างกายของตัวเอง ขนตาที่เรียวยาว จมูกที่โด่ง ช่างน่างดงามมาก แต่ลมหายใจของเธอก็ยังคงที่เหมือนเดิม แต่บรรยากาศรอบบริเวณตอนนี้เริ่มน่าดึงดูดแล้ว เมื่อนึกถึงตอนที่เด็กผู้หญิงกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว ธัชชัยก็นึกถึงท่วงท่าต่างๆขึ้นมา เพราะเขาเป็นผู้ชายปกติ เป็นผู้ชายที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงครบถ้วน เมื่อเห็นสีหน้าที่ฝันหวานของวัจสา ธัชชัยก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า ทำไหมพี่ชายใหญ่ถึงเลือกผู้หญิงแบบนี้มาสืบทอดทายาทด้วย? คงเหมือนคนทั่วไป ถึงแม้จะบอกว่าบริสุทธิ์ และมีเสน่ห์เย้ายวน แต่เด็กเกิดมาจากคนสองคนที่เป็นสายเลือด แล้วตัวเองต้องการให้ลูกตั้งครรภ์ในท้องผู้หญิงคนนี้หรอ ดูเหมือนว่าเรื่องบางอย่างจะถูกกำหนดด้วยความไม่แน่นอนไว้แล้ว ธัชชัยโถมตัวเข้าไปปลดกระดุมบนเสื้อของวัจสา... …… ห้องใต้ดินมีเพียงแสงสว่างจางๆ ผู้หญิงที่ถูกมัดไว้บนเตียงเผยรอยยิ้มหวาน ภายใต้แสงสว่างสาดส่องแสงกระทบบนใบหน้าขาวดุจหิมะของกนิษฐาที่กำลังเผยรอยยิ้มเหมือนนางฟ้าอยู่ บรีกำลังเดาความคิดของกนิษฐาไม่ออก แต่ถูกเธอจ้องมองแบบนี้ ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวจริงๆ "นี่ คุณมองผมแบบนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ ผมเปิดลำโพงแล้ว...แต่ท่านชัยไม่รับสายโทรศัพท์เลย ผมโทรไปหาสองครั้งแล้วแต่ก็ถูกวางสาย สุดท้ายก็เปิดเครื่อง..." ริมฝีปากที่อวบอิ่มเย้ายวนของกนิษฐาปริปากพูดว่า : "ถ้างั้นก็โทรศัพท์บ้านของเขาสิ....โทรไปจนกว่าเขาจะรับสาย...." 
已经是最新一章了
加载中