ตอนที่ 92 ผู้ชายคนนี้นี่จะมากไปแล้วนะ​   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 92 ผู้ชายคนนี้นี่จะมากไปแล้วนะ​
ต๭นที่ 92 ผู้ชายคนนี้นี่จะมากไปแล้วนะ​ “คุณผู้หญิงกำลังหากล่องยาคุมLevonorgestrel Tabletsครั้งที่แล้วหรือเปล่าคะ ผลข้างเคียงของยามันค่อนข้างแรงนะคะ ฉันเลยทิ้งไปแล้ว แล้วก็ซื้อมาให้ใหม่ สกัดจากยาจีน ดังนั้นมันจะปลอดภัยมาก อันนี้คุณใช้ได้ค่ะไม่เป็นอันตรายกับร่างกายแน่นอน” ป้าอ้อยวางถ้วยซุปรากบัวลงบนโต๊ะ และหยิบขวดสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง และยื่นให้วัจสา วัจสาอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ป้าอ้อยมองเรื่องของเธอกับธัชชัยออกหรอเนี่ย? พระเจ้า! อย่างนี้จะทำยังไงดีหล่ะ? “คุณผู้หญิงคะ ถ้าคุณต้องการจะใช้ยา คุณอย่าลืมทานคู่กับซุปรากบัวนะคะ เดี๋ยวอีกสักพักฉันจะมาเก็บชามกับตะเกียบ” บางทีป้าอ้อยก็คงจะกลับวัจสาอึดอัด เพราะพอเธอวางชามรากบัวบนโต๊ะเสร็จแล้วก็เดินกลับออกไป วัจสาหยิบขวดสีขาวนั้นขึ้นมาไม่ต้องสงสัยเลยว่าป้าอ้อยนั้นรู้เรื่องแล้วเมื่อดูจากการที่เธอแสดงออก และวัจสาเองก็ยังคิดไปอีกว่าเรื่องของเธอกับธัชชัยอีกเดี๋ยวก็คงจะแพร่สะพัดไปทั่วตระกูลศรีทองแน่ๆ เวรจริงๆ! วัจสายกมือปิดหน้า ความกลัดกลุ้มปะทุในใจ พอผ่านไปสักพัก เธอก็หยิบยาขึ้นมาดูอีกครั้ง และอ่านฉลากอย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วก็กินมันเข้าไปพร้อมๆกับน้ำซุปรากบัว ยาตัวนี้ไม่ขมเลยแถมยังมีรสหวานเล็กน้อย วัจสาคิดว่าความหวานนั้นน่าจะมาจากซุปรากบัว ดังนั้นเธอจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แม้ว่าจะรสชาติต่างกับLevonorgestrel Tabletsอย่างสิ้นเชิง แต่ยาคุมกำเนิดแต่ละตัวรสชาติก็คงจะไม่เหมือนกันนั่นแหละ เธอคิดไม่ถึงว่าจริงๆแล้วที่ป้าอ้อยเอาให้เธอกินนั้นมันเป็นยาบำรุง แต่ก็นะกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น ในขณะที่วัจสากำลังพยายามจะกลืนยาอยู่นั้น ธัชชัยก็ผลักประตูเข้ามา เดินตรงมายังข้างหน้าของโต๊ะ วัจสายังไม่ทันได้เก็บขวดยาให้ดี ดังนั้นชายหนุ่มจึงเห็นชื่อที่ติดบนขวด---ยาคุมฉุกเฉิน ใบหน้าของชายหนุ่มหมองไปชั่วขณะหนึ่ง นั่นทำให้วัจสารู้สึกเหมือนอยู่ในห้องแข็งก็ไม่ปาน “วัจสา คุณจะไม่ยอมให้ฉันธัชชัยมีลูกเลยใช่มั้ย?” ธัชชัยพูดเสียงต่ำด้วยความโกรธจนแทบจะระเบิด การที่หญิงสาวทำแบบนี้นั้นมันทำให้เขาโกรธมาก ถ้าตอนนั้นเขาถือมีดอยู่หล่ะก็ วัจสาคิดว่าเขาคงจะแทงเธอไปแล้ว แต่ว่าถึงอย่างไรก็ตามวัจสาเองก็เป็นคนที่ตายไปแล้วอยู่ดีสำหรับธัชชัย เธอตะโกนเสียงดัง “ใช่ ฉันไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาด!” ประโยคที่ตอบกลับมาราวกับไปกระแทกเอากับระเบิดในใจของธัชชัย เขาโกรธจนถึงขีดสุด หน้าตอนนี้หมองคล้ำไปด้วยความแค้นใจ วัจสาคิดว่าถ้าสามารถทำให้ชายหนุ่มเกลียดตัวเองได้ บางทีเขาอาจจะไม่ต้องพัวพันกับตัวเธออีก และหัวใจเธอก็น่าจะสงบได้อย่างรวดเร็ว แต่เธอเองไม่เคยคิดว่าคำพูดของเขาจะทำให้ตัวเธอดูยิ่งโชคร้ายเข้าไปใหญ่แบบนี้ ดวงตาของชายหนุ่มมองไปยังวัจสาอย่างเกรี้ยวกราด สายตานั้นแทบจะเผาล้างตัวเธอ “วัจสา ปกติฉันคงจะใจดีกับเธอมากไปใช่มั้ย?” “ดีเกินไป? เขานี่นะดีกับเธอ? ผู้ชายคนนี้นี่ยังมีหน้ามาพูดอะไรแบบนี้กับเธออย่างนั้นหรอ? วัจสารู้สึกขบขันขึ้นมาชั่วอึดใจแต่แล้วเธอก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าไปในทันที ชายหนุ่มก้มตัวลงมาและยกเธอขึ้นพาดบ่า เหมือนที่เขาทำเมื่อคืน อีกทั้งยังหยาบคายกว่าเดิมอีกด้วย” วัจสากลัวขึ้นมาในทันที ชายหนุ่มแบกเธอขึ้นมาชั้นบน แต่ไม่ใช่ชั้นสอง แต่มันเป็นชั้นสาม ซึ่งเป็นห้องที่ครั้งที่แล้วเขามาดื่ม วัจสาพยายามเรียกป้าอ้อย และลุงภูษิตเพื่อจะขอความช่วยเหลือ แต่ทั้งสองก็ไม่สามารถขึ้นไปช่วยเธอได้ ได้แต่มองตามไปอย่างตกตะลึง แต่การทำของพวกเขาดูไม่ตื่นตระหนกใดๆเลย! สุดท้ายวัจสาก็ถูกขังอยู่ในห้องเรือนกระจก ที่อยู่บนชั้นสาม หนึ่งในสามของห้องเป็นกระจก มันเป็นห้องที่ครั้งที่แล้วเธอมานอนดูดาวนั่นเอง ซึ่งในตอนนั้นวัจสาเองไม่รู้ว่ามันเป็นห้องที่ธัชชัยถูกขังเอาไว้มาก่อนเพราะว่าเขาเป็นลูกนอกสมรส ในตระกูลศรีทองก็ไม่ได้อยากเจอเขาเท่าไหร่ ในวัยเด็กของเขาถ้าหากไม่มีวรพลหล่ะก็ คงไม่มีชายที่ชื่อธัชชัยคนนี้เป็นแน่ ทั้งสี่ด้านติดสัญญาณกันขโมย ไม่เว้นแม้แต่ด้านบนเพดาน ไม่ใช่ว่ากลัวโจรจะเข้ามาขโมยหรอก แต่กลัวว่าคนข้างในจะหนีไปมากกว่า แม้แต่เพดานแก้วก็ยังเป็นแก้วชนิดพิเศษ ที่ลูกกระสุนปืนก็ยังยิงไม่เข้า อย่างอื่นก็คือไม่ต้องพูดถึง เมื่อวัจสาถูกธัชชัยโยนลงที่พื้นห้องเธอก็รีบลุกขึ้นและรุดตัวไปยังประตูที่ยังไม่ได้ปิด แต่ว่าการเคลื่อนไหวของเธอนั้นยังไม่ไวเท่าธัชชัย เขาคว้าประตูปิดไปทันที “คุณอย่ามาชั่วแบบนี้นะ! เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้ ทำไมต้องขังฉันด้วย? ปล่อยฉันออกไปนะ ให้ฉันออกไปที! ” เธอไม่หยุดทุบประตูโดยหวังว่าเขาจะเปิดให้ แต่ว่าธัชชัยก็ทำเพียงทิ้งประโยคไว้ให้เธอเท่านั้น “ให้เธออยู่ที่นี่คนเดียวแล้วคิดให้ดีๆ วันหลังอย่ามาไม่เชื่อฟังฉันอีก” วัจสาคิดไม่ถึงว่าเขาจะยังไม่ไป และเมื่อฟังดีๆก็ได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆไกลออกไป เธอตะโกนออกไปด้วยความโมโห “ไอชั่วเอ้ย!” ป้าอ้อยที่อยู่ในครัวเมื่อเห็นธัชชัยเดินลงมาจากชั้นสามด้วยอาการหัวเสียก็ถามอย่างระมัดระวัง “คุณชายรองคะ ขังคุณผู้หญิงเอาไว้ที่ชั้นสามแบบนั้น จะไม่เป็นการรบกวนคุณชายใหญ่ในการพักผ่อนหรอคะ?” เธอถามอย่างระมัดระวัง ด้วยเพราะกลัวว่าตัวเองจะพูดจะถามอะไรไปแล้วยิ่งทำให้ชายหนุ่มยิ่งหัวเสียนั่นจะไปเพิ่มความลำบากให้แก่วัจสา ตอนนี้หากจะพูดเพื่อช่วยวัจสาแล้วหล่ะก็ คงจะมีแต่ทำให้ธัชชัยหัวเสียมากขึ้น ป้าอ้อยมองออกดังนั้นจึงเอาคุณชายใหญ่มาอ้างแทนเพื่อตักเตือนคุณชายรองของเธอให้ไม่ทำอะไรที่มากเกินไป ธัชชัยตอบอย่างไม่แยแส “ถ้าเกิดโวยวาย ฉันก็จะให้หมอภาคินฉีดยาให้เธอซะเลย” หัวใจของป้าอ้อยแทบหยุดเต้น คุณผู้หญิงกลับมาก็หายากิน นั่นแสดงว่าเธอกับคุณชายรองต้องมีความสัมพันธ์อะไรกันมาแน่ๆ อย่างนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามีคุณชายน้อยอยู่ในท้องของเธอ แล้วถ้าเกิดถูกฉีดยาขึ้นมาจริงๆ แล้วมันมีผลกับเด็กในท้องขึ้นมาจะทำยังไงหล่ะ? ป้าอ้อยรีบเอ่ยปากขอร้องในทันที “คุณชายรองคะอย่าฉีดยาคุณผู้หญิงเลยนะคะ ถ้ามันเกิดผลข้างเคียงมาจะยิ่งแย่ คุณผู้หญิงยิ่งสุขภาพไม่ดีอยู่ค่ะ…...” ธัชชัยก็ไม่ได้คิดจะให้หมอภาคินมาฉีดยาให้เธอจริงๆหรอก เขาก็แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ควรจะได้รับบทเรียนอะไรบางอย่างซะบ้าง ตอนนั้นที่เขาเห็นเธอกลืนยาไปต่อหน้าต่อตา เขาแทบจะอยากวิ่งเข้าไปแล้วล้วงมันออกมา ใครใช้ให้เธอกำแหงกล้าทำอะไรแบบนี้หล่ะ? “นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับเธอทั้งนั้น ป้าอ้อยก็ไปโน้มน้าวเธอเองก็แล้วกัน อย่าให้เธอโวยวายแบบนี้!” พอธัชชัยพูดจบก็ออกจากบ้านตระกูลศรีทองไป เมื่อเห็นว่าเขาออกไปแล้ว ป้าอ้อยก็ถอนหายใจออกมารัวๆ ในเวลาเดียวกันพ่อบ้านภูษิตก็เดินลงมาจากบันไดพอดิบพอดี เขามองมายังป้าอ้อยก่อนจะพูด “ป้าอ้อย รีบไปดูคุณผู้หญิงก่อนเถอะ แล้วลองโน้มน้าวเธอสักหน่อย คุณๆทั้งสองนี่หัวรั้นทั้งคู่เลยจริงๆ ฉันจะไปดูคุณชายใหญ่หน่อย พวกคุณๆทะเลาะเสียงดังแบบนี้ เกรงว่าจะทำให้คุณชายใหญ่จะไม่สบายใจ ” ป้าอ้อยรับคำ และทั้งสองก็เตรียมจะขึ้นไปชั้นบน แต่ขึ้นไปได้เพียงครึ่งชั้น เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ก็ให้พ่อบ้านภูษิตขึ้นไปก่อน จากนั้นเธอก็กลับไปที่ห้องครัว พอเตรียมข้าวต้มไข่เยี่ยวม้าและขนมปังมันม่วงเสร็จเธอก็ขึ้นตามไปที่ชั้นสามอย่างรวดเร็ว ภายในห้องเรือนกระจก ก็มีรูระบายเล็กๆที่อากาศพอจะถ่ายเทอยู่บ้าง แต่ไม่อาจจะปีนออกไปได้ อีกทั้งด้านนอกก็เป็นเพียงหลังคา ไม่สามารถพักพิงได้ วัจสามองจากตรงนั้นเห็นธัชชัยกำลังขับเฟอร์รารี่คันสีดำของเขาออกไป เขาไม่ได้คิดจะปล่อยเธอด้วยซ้ำ! เธอขมวดคิ้วก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ธัชชัย!ไอ้ชั่ว มาปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนโรคจิต!” ธัชชัยได้ยินก็มองขึ้นไปตรงชั้นสามอย่างไม่แยแส พอเห็นใบหน้าน้อยๆของวัจสา มุมปากก็กระตุกรอยยิ้มขึ้นมา เขาชูมือข้างหนึ่งขึ้น และสั่นกุญแจในมือไปทางวัจสา วัจสารู้ได้ในทันทีว่านั่นเป็นกุญแจไขห้องนี้แน่ๆ “ไอ้ชั่วเอ้ย โรคจิตจริงๆ กลับมาเปิดประตูให้ฉันนะ!” ธัชชัยหันกลับไป นั่งบนรถ สตาร์ทเครื่องและก็จากไปอย่างฉับพลัน วัจสาตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าเธอทำอะไรผิด ทำไมผู้ชายคนนั้นต้องจับเธอขังเอาไว้แบบนี้ด้วย เธอกล้าจะปักใจได้แล้วว่าผู้ชายทุกคนก็เหมือนกับข้ามแม่น้ำแล้วพังสะพาน เมื่อคืนเขายังอ่อนโยนอยู่เลย แต่ทว่าตอนนี้หาใครเย็นชาเท่าก็ไม่มี วัจสาโกรธควันออกหู​ หยิบที่เขี่ยบุหรี่จากบนโต๊ะ​ และเขวี้ยงออกไปตรงทางช่องระบายอากาศ​ ไม่คิดว่าเฟอร์รารี่คันนั้นจะปรี่ไปไวได้ขนาดนี้​ ที่เขี่ยบุหรี่ที่ขว้างไปเลยตกลงบนพื้นหญ้า วัจสากระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด ให้ตายเถอะถือว่าครั้งนี้โชคดีไปก็แล้วกัน เธอทำได้เพียงมองชายหนุ่มบึ่งรถออกไป ผ่านไปสักพักก็ได้ยืนเสียงคนเคาะประตู วัจสาคิดว่าเป็นธัชชัยที่กลับมา จึงรีบวิ่งไปที่หน้าประตูทันที “ธัชชัยไอ้คนนิสัยไม่ดี สุดท้ายก็รู้ผิดชอบชั่วดีกลับมาเปิดประตูให้ฉันแล้วอย่างนั้นหรอ เหอะ?” ประตูเล็กๆด้านบนถูกคนเปิดออก วัจสามองผ่านประตูเล็กๆ เห็นว่าคนที่เปิดประตูนั้นคือป้าอ้อย ก็รู้สึกสิ้นหวังมาทันทีแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอถามป้าอ้อยอย่ากระตือรือร้น “ป้าอ้อยป้ามีกุญแจไหม? ช่วยพาฉันออกไปที...วันนี้ฉันต้องไปเรียนนะ…” ป้าอ้อยเองก็ไม่มีทางเลือกมากนักจึงปลอบเธอ “คุณผู้หญิงคะ คุณใจเย็นๆก่อนนะ ป้าอ้อยก็อยากจะเปิดประตูให้คุณเหมือนกัน แต่ว่าคุณชายรองเอากุญแจไว้กับตัวเขาเอง ถ้าเป็นประตูนี้ก็มีแต่คุณชายรองที่จะเปิดได้ค่ะ” “มีแต่เขาที่เปิดได้? ทำไมกัน?” “เพราะประตูนี้มีกุญแจเพียงแค่อันเดียว พ่อบ้านภูษิตเองก็ยังไม่มีเลยค่ะ แต่ก่อนห้องนี้เป็นห้องที่คุณผู้ชายที่เสียชีวิตไปแล้วใช้ไว้ขังคุณชายรอง พอท่านเสียไป คุณชายรองก็ได้กุญแจมา ปกติไม่ว่าใครก็ไม่อาจเข้ามาที่ห้องนี้ได้ มีเพียงคุณชายรองที่บางครั้งเขาจะมานั่งเป็นครั้งคราว มันเป็นความทรงจำวัยเด็กที่ไม่ค่อยดีนักของคุณเขานะคะ” พอป้าอ้อยนึกย้อนไปถึงเรื่องนี้ก็มักจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของคุณชายรองในตอนนั้น ฝั่งของวัจสาที่ได้ยินเพียงแค่ว่าตัวเองจะต้องถูกขังอยู่ที่นี่ก็รู้สึกหดหู่ “อย่างนี้ฉันก็ต้องถูกขังไว้อย่างนี้ทั้งวันเลยใช่มั้ย? จบกัน …..ไม่สิ ป้าอ้อยคะ คุณช่วยไปพาช่างทำกุญแจมาช่วยฉันทีได้มั้ย?” เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้? ถ้าให้ถูกขังไว้ข้างนอกเหมือนครั้งนั้น แล้วรอให้เขากลับมาเปิดให้ เธอไม่อยากรอเขาแบบนั้น! ยิ่งไปกว่านั้นด้วยนิสัยของเขาแล้ว ถึงแม้ว่ากลับมาแล้วก็ไม่มีทางมาเปิดประตูให้เธอแน่ๆ ถ้าธัชชัยไปอยู่สมัยโบราณหล่ะก็นะ คงจะไม่ได้ใจประชาชนอย่างแน่นอน คงจะโดนกบฏและโค่นล้มอำนาจไปแล้ว เธอถูกขังอย่างในนั้นอย่างไม่มีเหตุผล มันโหดร้ายและหยาบคายสำหรับเธอเกินไป เธอเป็นพี่สะใภ้ของเขานะ มันมีน้องเขยคนไหนที่ขังพี่สะใภ้ตัวเองบ้าง นี่มันอาชญากรรมชัดๆ ยิ่งวัจสาคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าการหาช่างกุญแจมาเปิดเนี่ยดีที่สุดแล้ว “ได้ค่ะได้ คุณผู้หญิงก็ใจเย็นๆก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปตามมาให้ คุณกินนี่ไปก่อนนะคะ” ป้าอ้อยพูดพลางยื่นของกินให้เธอผ่านทางช่องประตูเล็กนั้น แต่อารมณ์และความรู้สึกของวัจสาตอนนี้ จะกินมันลงได้ยังไงหล่ะ?
已经是最新一章了
加载中