ตอนที่ 99 พลอดรัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 99 พลอดรัก
ต๭นที่ 99 พลอดรัก ปรมะที่ยืนอยู่ข้างๆพูดอะไรไม่ออก​ เขายังคงไม่ขยับตัวไปไหน​ยืนมองวัจสาที่อยู่ในอ้อมกอดของธัชชัย มีเครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาใหญ่มาก​ วัจสาแต่งงานกับคนชื่อวรพลชัดๆ​ แต่กลับสนิทสนมกับธัชชัยคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้​ นี่มันความสัมพันธ์​อะไรกันแน่? แม้ว่าตอนแรกวัจสาจะดูไม่เต็มใจ​เท่าไร​ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร​ มองความสัมพันธ์​ของเขาทั้งสองแล้วมันไม่ใช่ธรรมดาทั่วไปจริงๆ วัจสาค่อนข้างจะเป็นกังวล​ ตอนนี้เธอคิดว่าปรมะควรจะกลับไปได้แล้ว​ ถ้าไม่อย่างนั้นคงต้องเกิดเรื่องกันแน่ๆ​ ซึ่งไม่ใช่แค่เขาจะช่วยเธอไม่ได้แล้ว​ ตัวเขาเองอาจจะถูกทำร้ายด้วย "ปรมะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว คุณรีบกลับไปเถอะ​นี่ก็ดึกมากแล้ว​ด้วย​ฉันขอโทษนะที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัว​ตระกูล​ศรีทองจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณ ปรมะพูดอย่างอ่อนโยน​" คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว วัจสา ถ้าคุณไม่เป็นอะไรจริงๆ​ แปลแค่นี้ของฉันก็เล็กน้อยไปเลย" บริเวณตาและคางของเขาช้ำไปหมด​ มองดูแล้วก็ไม่ใช่เบาๆเลย วัจสายิ่งมองยิ่งรู้สึกผิด​ ปรมะแค่หวังดีคิดจะมาเยี่ยมเธอ​ แต่กลับโดนคนหน้าเลือดอย่างธัชชัยทำร้าย​ เธอถอนใจออกมา​ ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ "จริงๆ ฉันขอโทษจริงๆ ปรมะ…" จังหวะที่วัจสากำลังจะพูดจบนั้นเอง​ แขนหนาที่โอบกอดเอวเธอเอาไว้ก็กอดแน่นขึ้นจนเธอแทบพูดไม่ออก เธอรู้ดีว่ามันเป็นการเตือนเงียบๆของธัชชัย​ เหมือนกับกำลังจะพูดกับเธอว่า​ วัจสา ถ้าคุณยังพูดอีกแม้แต่ประโยคเดียว​ ฉันจะรัดเธอให้ตายไปเลย! แล้วเขายังคงครางเสียงต่ำด้วยความฉุนเฉียวข้างๆหูของเธอ ทำให้วัจสาต้องพูดออกไปอีกว่า​ "ปรมะ คุณกลับไปได้แล้วหล่ะ ฉันไปเป็นอะไรแล้วจริงๆ" ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือให้ปรมะกลับไป เพราะไม่แน่ว่าคนข้างหลังตัวเธออาจจะไม่ปล่อยปรมะไปแน่ๆ​ และตำรวจที่อยู่บริเวณบ้านก็คงไม่อาจจะช่วยอะไรได้​ และอีกอย่างธัชชัยก็ถอยให้หนึ่งก้าวแล้ว​ แล้วก็อธิบายเรื่องราวให้ตำรวจเข้าใจอย่างดีแล้ว​ เธอเองก็คิดว่ามันดูใจกว้างมากทีเดียว​ สถานการณ์ตรงหน้าตอนนี้ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ปรมะดูท่าทีของวัจสาในตอนนี้​ เขารู้สึกไม่สบายใจ​ แต่ก็ไม่รู้ว่าไม่สบายใจตรงไหน​ เข้าพูดไม่ถูกจริงๆ​ แต่รู้สึกแค่ว่าวัจสาไม่ได้มีความสุข​ การที่อยู่ในตระกูลศรีทองนี้​ เธอไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย แล้วผู้ชายที่กอดเธออยู่นี่มันยังไงกัน? ก็รู้อยู่โต้งๆว่าคนที่วัจสาแต่งด้วยไม่ใช่เขา​ แต่กลับทำตัวสนิทสนมขนาดนี้​ ไม่รู้ว่าจะมีคนเอาไปนินทากันมั้ย? แล้วคนจะมองวัจสาเป็นคนยังไงหล่ะ? เพราะอย่างนั้นเขาเลยอยากจะพาเธอกลับไปด้วย​ ถ้าเขาทำได้​ เขาคงพาเธอไปตอนนี้เวลานี้เลยด้วยซ้ำ "คุณไม่เป็นอะไรจริงๆนะ?" เขาถามอย่างไม่วายแคงใจ วัจสาตอนนี้ก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีก​ ทำไมปรมะถึงได้ดื้อด้านแบบนี้นะ? "ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ คุณรีบกลับไปได้แล้ว!" ในสายตาของปรมะที่มองวัจสาตอนนี้​ เธอดูพยายามจะประนีประนอม เขาจึงมองไปยังผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังวัจสาก่อนพูด​" ธัชชัย คนที่วัจสาแต่งงานด้วยคือวรพล​ แต่แล้วทำไมคุณถึงไปกอดเธอแบบนั้น​ จริงๆแล้วความสัมพันธ์ของพวกคุณมันยังไงกันแน่?" ธัชชัยที่เดิมทีไม่อยากจะโต้เถียงกับเจ้าหนอนหนังสือนี่อีก​ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่คิดแบบนั้น​ เขาคงไม่รู้สินะว่าต่อจากนี้เขาจะต้องใช้ชีวิตแบบไหน? "คุณมายุ่งอะไรกับความสัมพันธ์​ของเราหล่ะ? ฉันชอบที่จะกอดเธอ​แบบนี้​ ดังนั้นอย่ามาแส่!" ใบหน้าของธัชชัยเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว​ เดิมไม่อยากจะคุยอะไรกับไอ้หนอนหนังสือนี่แล้ว​ หน้ายังไม่อยากจะเจอเลยด้วยซ้ำ​ แต่ก็ยังมาพาลหาเรื่องเขาจนได้​ การที่ธัชชัยให้เขาพาคนเข้ามานี่มันก็ดีแค่ไหนแล้ว ดูเหมือนว่าที่ต่อยไปมันยังไม่ทำให้เขารู้อะไรซะบ้าง​ กลับกันยังสับสนมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก "ทำไมถึงบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับฉัน วัจสาไม่มีความสุข! คุณควรจะปล่อยเธอไป! อย่ามาทำหลอกตัวเองอยู่แบบนี้​ เธอไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่กับคุณสักหน่อย" ปรมะกลับถูกวัจสาเงียบเฉยกับสิ่งที่เขาพูด​ ในตอนแรกเขาคิดว่าเมื่อพูดแบบนี้กับธัชชัยแล้ว​ วัจสาคงจะพยายามที่จะขัดขืนเขา​ แต่เธอกลับไม่ได้ทำแบบนั้น ปรมะยังไม่หยุดแค่นั้นเขาเดินก้าวมาข้างหน้า​ เตรียมจะแกะมือของธัชชัยออก​จากเอวของวัจสา​ แต่ในขณะที่เขากำลังเดินเข้ามา วัจสากลับถอยตัวเองให้ไปในอ้อมกอดธัชชัยมากขึ้นกว่าเดิมอีก "ปรมะ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว สองเดือนที่แล้วฉันก็คุยกับแม่ของเธอชัดเจนแล้วนะ​ที่ฉันต้องแกล้งเป็นแฟนหลอกๆมันก็เพื่อที่จะให้แม่คุณสบายใจในขณะที่ป่วย​แต่มันสิ้นสุดลงแล้ว​ตอนนี้เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันอีก​ฉันกับธัชชัยมีความสัมพันธ์​ส่วนตัวกันยังไง​มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย" วัจสารู้ดีว่าถ้าปรมะยังคงดื้อด้านไม่ยอมไปสักที เขาจะต้องเจ็บตัวตอนเย็นที่ผ่านมาแน่ๆ​ ดังนั้นเธอจึงทำให้เขาโกรธเพื่อที่จะได้กลับไป เห็นได้ชัดว่าคำพูดของวัจสาใช้ได้ผลกับเขาจริงๆ​ "วัตสา……... คุณเปลี่ยนไป…..เมื่อก่อนคุณไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ…..คุณทั้งอ่อนโยน….." วัจสาตอกกลับอย่างไม่แยแส​ "ฉันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วคุณแค่ไม่รู้​ ตอนนี้รู้แล้วก็ดี​ รีบกลับไปได้แล้ว! " ปรมะยังคงไม่เชื่อว่าที่วัจสาเปลี่ยนไปมันคือเรื่องจริง​ เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว​ "ไม่​ เป็นไปไม่ได้​ มันเป็นเพราะมีคนบงการให้คุณพูดแบบนี้ใช่มั้ย!? ผู้ชายที่กอดคุณอยู่เขาข่มขู่คุณใช่มั้ย?" เขาโวยวายขึ้นมาอีก​ วัวสิบเชือกมาลากไปก็ไม่ยอมจริงๆ​ ถ้าเขาเชื่อสิ่งไหนเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม​ เขาไม่ยอมลามือง่ายๆ วัจสาเองก็รู้ในเรื่องนี้ดี​ แล้วก็รู้ด้วยว่าเธอไม่ควรจะคุยกับเขาต่อ​ ยิ่งคนข้างหลังเธอนั้นยิ่งแล้วใหญ่​ เขาขี้โมโหเกินไป​ ต้องทำยังไงก็ได้ให้ปรมะกลับไปโดยไว วิธีที่ดีที่สุดที่เธอคิดได้​ ก็คือการหลีกเลี่ยงที่จะคุยกับปรมะอีก "ธัชชัย ฉันเหนื่อยแล้วหล่ะ ขอกลับไปพักที่ห้องก่อนแล้วกันนะ" คำพูดนี้บอกเป็นนัยๆว่าจะให้ธัชชัยเป็นคนส่งแขกนั่นเอง ธัชชัยคลายมือที่กอดไว้ออก​ และก้มไปจูบที่หน้าผากของวัจสาเบาๆ​แต่ให้สัมผัสที่ร้อนแรง​" เด็กดี คุณเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวอีกแปปนึงฉันจะตามไป" วัจสากำหมัดแน่น​ นายคนนี้เอาประโยชน์จากเธออีกแล้ว! แต่เธอยังใช้เขาอยู่เลยทำได้แค่เคืองอยู่ในใจ แต่สิ่งที่ปรมะเห็น​ มันคือการพลอดรักของหนุ่มสาวชัดๆ "วัจสา……. ที่แท้มันก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอให้โชคดี!" เขาทำได้แค่เดินจากมา ในเมื่อโดนไล่ออกมาแบบนี้​ แถมยังเป็นผู้หญิงที่ตนสมัครรักใคร่ด้วย​ เขาไม่สามารถตื๊อรังควานได้อีก​ จึงทำได้แค่กลับตัวแล้วจากไป ตำรวจที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็รีบเดินออกไปด้วยติดๆ มองร่างของคนสามคนออกไป​ ธัชชัยก็คิดอยู่ในใจว่าไอ้เจ้าหนอนหนังสือนี่มันไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย ที่มีความสามารถมากพอที่จะพาตำรวจตามมาราวกับตัวเองเป็นหัวหน้า​ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่ไร้ชื่อเสียง ปรมะเดินออกไปแล้ว​ จิตใจจองวัจสาก็สับสนหนัก เขาเป็นคนจิตใจดีชัดๆเลย​ เธอกลับใช้คำพูดนั้นเพื่อที่จะทำร้ายจิตใจเขา​ เดิมทีก็เจ็บช้ำมากพออยู่แล้ว​ นี่ก็ยิ่งไปเพิ่มความเสียใจให้เขาอีก สองปีกว่ามานี้​ วัจสาได้รับการดูแลอยากดีจากปรมะมาโดยตลอด​ เธอก็ไม่อยากให้สุดท้าย​ความสัมพันธ์​ของเราจะจบลงแบบนี้ ในตอนนั้นเธอไม่สามารถบอกได้เลยว่าเธอชอบปรมะหรือไม่​ อาจจะเพราะว่าเราอยู่ด้วยกัน​ เรากินข้าวด้วยกัน​ ไปห้องสมุดด้วยกัน​ ไปเยี่ยมแม่เขาที่โรงบาลด้วยกัน​ ตอนนั้นที่เธอรู้สึกชอบก็คือเธอชอบกิจวัตร​ที่เป็นไปแบบนั้น ไม่เหมือนตอนนี้​ ที่อยู่กับชายที่อยู่ด้านหลังของเธอ​ มันเหมือนกับแมงเม่าที่อยากจะบินเข้ากองไฟ​ เธอรู้ดีว่าเธอไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับกองไฟตรงหน้านี้​ แต่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้เลย​ เห็นกองไฟอยู่ตรงหน้าก็อยากที่จะพุ่งเข้าไป "กับหนอนหนังสือนั่น คุณควรที่จะรักษาทั้งระยะห่างของตัวและระยะห่างของใจ เข้าใจมั้ย? เสียงต่ำราวกับเปียโนคีย์ต่ำสุดดังแทรกออกมาตากด้านหลัง​ เธอขี้เกียจที่จะจัดการกับคนอวดดีคนนี้แล้ว​ เขาทำผิดชัดๆเลย​ ทั้งขังเธอไว้ที่ชั้นสาม​ แล้วยังทำร้ายเพื่อนของเธออีก ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดเลย​ และยังทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา​ นี่ไม่มีใครจะให้บทเรียนกับเขาได้เลยจริงๆหรอเนี่ย? วัจสาแกะมือของชายหนุ่มออก​ ครั้งนี้เขายอมให้แกะออกง่ายๆเลย​ แต่เมื่อเธอกลับไปที่ห้องตัวเอง​ ธัชชัยก็ยังเดินตามมาด้วยอีก "นี่มันห้องของฉัน คุณช่วยกรุณาออกไปด้วย!" วัจสาพูดด้วยเสียงเย็นชา ธัชชัยหน่ะหรอจะฟังใคร? เขาเดินก้าวยาวๆเข้ามาที่เตียงแล้วก็ล้มตัวลง​ วัจสามองเขาด้วยความโกรธ​ นี่เธอต้องไปนอนที่ห้องแต่งงานอีกแล้วหรอ? แต่เธอบอกแล้วว่าเธอจะไม่ไปที่นั่นอีก เธอไม่มีทางเลือกจึงทำได้แค่หยิบหนังสือขึ้นมา​ รายงานของเธอยังทำไม่เสร็จเลย​ ผ่านไปเพียงชั่วครู่​ ก็ได้ยินเสียงกรนมาจากบนเตียง วัจสาหันกลับไปมอง​ ก็พบว่าชายที่นอนอยู่บนเตียงของเธอไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ วัจสามองดูชายที่อยู่บนเตียงอย่างพินิจ ไม่พูดก็ไม่ได้ว่า ตอนที่เขาหลับหน่ะน่ารักก็ตอนเขาตื่นมากทีเดียว ขนตางามยาวเรียงสวยโดยไม่ต้องใช้มาสคาร่า แล้วยังจมูกที่โด่งเป็นสัน​ ริมฝีปากบางที่เป็นกระจับ​ เขานับได้ว่าเป็นคนที่หล่อและมีเสน่ห์​แบบไม่สิ้นสุดเลยจริงๆ ถ้านิสัยเขาจะดีเหมือนหน้าสักหน่อย​ ไม่โกรธง่ายลงสักนิด​ บางทีอาจจะดึงดูดสาวๆเข้ามามากมายได้เลยทีเดียว​ แค่ที่เขาทำร้ายคนแบบนั้น​ อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เขาได้รับในอดีตก็เป็นได้ การที่เด็กอายุแค่5-6ขวบ​ โดนพ่อของตัวเองทำโทษโดยการขังเอาไว้ในห้องโดยไม่ให้กินอะไรหลายๆวัน​ ไม่ว่าใครก็คงทนไม่ไหว​ มันเกิดขึ้นจากการกระทำของพ่อของเขา​ เขาเป็นพ่อแท้ๆของเขารึเปล่านะ? ทำไมถึงได้ใจจืดใจดำกับเขาขนาดนี้? วัจสารู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในใจ​ สงสารผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ เห็นชายหนุ่มหลับไปจริงๆแบบนี้​ เธอจึงค่อยๆเอาผ้าห่มคลี่อย่างเบามือ​ เบามือจริงๆ​ คลุมตัวให้กับเขา​ แต่วัจสาคิดผิด เพราะชายหนุ่มยังไม่หลับ! "นอนกับฉันได้มั้ย?" เสียงดังมาจากปากที่เพิ่งเปิดของชายที่อยู่บนเตียง ธัชชัยยังอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น​ เขากลับตัวเล็กน้อยก็ดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาได้อย่างง่ายดาย​ แก้มน้อยๆกระทบอกหนาของชายหนุ่มอย่างพอดิบพอดี นี่มันไม่มีเหตุผลหรอเนี่ย? แรงเขาเยอะอย่างกับช้างงั้นแหละ! วัจสาไม่ได้คิดที่จะนอนเตียงเดียวกับธัชชัย​ เธอกลัวว่ามันจะผิดพลาดอีก​ ซึ่งเธอก็กลัวว่าจะควบคุมใจตัวเองไม่ได้ด้วย ดังนั้นก็เลยพยายามที่จะขัดขืนต่อสู้​ แต่ก็ไม่สำเร็จ​ เธอถูกแรงกายของธัชชัยกดเอาไว้ น้ำหนักครึ่งหนึ่งของชายหนุ่มอยู่บนร่างเล็กๆของวัจสา​ นั่นราวกับเธอเอาหน้าไปแนบกับกำแพง​ นั่นแทบจะหายใจไม่ออกเลยทีเดียว ไม่รอให้วัจสาได้พูดอะไรก่อน​ เขาก็ชิงพูด​ "คุณอย่าดื้อน่า​ คืนนี้ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก​ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว" แค่พูดว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอนั้นก็เหมือนคำตัดสินกลายๆแล้ว​ ใครอยากให้คุณเป็นคนตัดสินหล่ะ! แต่ว่าวัจสาก็รู้ดีว่าไม่ควรจะตะโกนให้ใครช่วย​ ไม่อย่างนั้น​ชายหนุ่มโกรธขึ้นมา​ กลางคืนแบบนี้ไม่อาจมีใครช่วยเธอได้อีกแล้ว
已经是最新一章了
加载中