ตอนที่ 102 นั่นเพราะมีน้ำลายของฉันอยู่หน่ะสิ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 102 นั่นเพราะมีน้ำลายของฉันอยู่หน่ะสิ
ต๭นที่ 102 นั่นเพราะมีน้ำลายของฉันอยู่หน่ะสิ “กับข้าวในโรงอาหารก็พอทานได้นะไม่ได้แย่ขนาดนั้นค่ะ ถึงแม้ว่าจะเทียบกับที่ป้าอ้อยทำไม่ได้แต่ว่าก็มีพวกปลา เนื้อ ไก่ เป็ด อยากกินอะไรส่วนมากก็จะมีหมดค่ะ” ในมือของวัจสาก็ยังหมุนปากกาไปเรื่อยๆ นี่คือการกระทำเล็กๆที่เธอติดนิสัยไปซะแล้ว เพียงแค่มีปากกาอยู่ในมือเธอก็รู้สึกผ่อนคลายลงแล้ว “โอเคค่ะป้าอ้อย ไม่คุยกับป้าแล้ว ส่วนวรพลก็รบกวนป้าช่วยดูแลเขาหน่อยนะคะ ฉันวางก่อนนะคะ” จากไกลๆเธอมองเห็นแวววัยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มกำลังเดินมา ที่จริงแล้วกินข้าวที่โรงอาหารก็ไม่เห็นเป็นไรทำไมป้าอ้อยถึงซีเรียสขนาดนี้?และเดี๋ยวนี้การปฏิบัติของป้าอ้อยก็แปลกๆ เหมือนกับว่ากระหือรือล้นมากเกินไป เธอ วัจสานี้ก็ไม่ใช่คนชั้นสูงอะไรซะหน่อย แวววัยซื้อซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานและมะเขือยาวของโปรดของวัจสาให้แก่เธอ คน2คนข้าวคนละชาม ที่นั่งคนละที่ ช่างเรียบง่ายและราบรื่นจริงๆ ขณะที่กำลังกินข้าว อยู่เสียงรอบตัวก็ดังขึ้นมา “ดูสิ! มีคนหล่อแหละ!” “แต่ก่อนไม่เคยเห็นเลย หรือว่าจะเป็นนักศึกษาที่มาใหม่? “แกจะบ้าหรอ ชุดสูทที่เขาสวมนั่นอาจจะเป็นแบรนด์Armani มีนักศึกษาที่ไหนใส่สูทมาเข้าเรียนและยังเป็นสูทที่แพงเบอร์นั้น!” “งั้น งั้นสรุปแล้วเขาคือใครอ่ะ…ไม่ได้การหล่ะ ฉันต้องตายเพราะความหล่อเขาแน่ๆ” “หรืออาจจะเป็นลูกคนรวย ทั้งมีเงินทั้งมีหน้าตา วิเศษสุดๆ และก็ยังหล่อสุดๆอีก…อ้าาา เขามองมานี่แล้ว!” ในการกระซิบกระซาบและสนทนาอยู่นั้น แวววัยเงยหน้าและมองไปด้านนั้น เธอเป็นคนที่ชอบเข้าร่วมอะไรที่มันคึกคักๆอยู่แล้ว ก็เห็นผู้ชายที่หล่อเหลาดูดี ผู้ชายที่ดูราวกับเป็นคนชนชั้นสูงกำลังก้าวขายาวๆมาทางพวกเธอ การก้าวเดินที่สง่างามนั่น แววตาที่เท่และดื้อรั้นและยังมีท่าทางธรรมชาติแบบของเจ้าชาย หากไม่ใช่ธัชชัยยังจะมีใครอีกหล่ะ? “วัจสา วัจสา แกดูเร็ว!! คือธัชชัย…ไม่คิดเลยว่าธัชชัยจะมาที่โรงอาหารของมหาลัยเรา!” แวววัยตีไหล่ของวัจสาอย่างตื่นเต้น เธอจับมือของแวววัย “นี่แม่คุณ แกเห็นภาพหลอนรึไงกันฮะ? ธัชชัย…จะมามหาลัย……” เราได้ยังไง…เธอไม่ทันได้พูดออกมาครบประโยคเพราะตอนที่วัจสาหันหัวกลับไปก็พบกับแววตาที่น่าลึกลับของชายหนุ่มพอดี เป็นใบหน้าที่ทำให้ผู้คนยากที่จะเดาได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ไม่ได้ฝันไปจริงๆ ไม่คิดว่าธัชชัยจะมาจริงๆ? ธัชชัยเดินมาเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพราะอาจพบเป้าหมายเข้าจึงย้ายทิศทางอย่างรวดเร็วและเดินตรงไปยังวัจสา “ชัยชัย คุณชัย คุณมาที่นี่ได้ยังไง?” แวววัยจ้องสายตาคนนับร้อยที่อยู่ด้านหลัง ที่มองมายังธัชชัยซึ่งนั่งร่วมโต๊ะกับพวกเธออยู่ สายตาที่จ้องมองมาให้ความรู้สึกถึงความอิจฉาและเกลียดชัง! “ผ่านมาพอดี ก็เลยเข้ามาดูไม่คิดว่าจะเจอพวกเธอ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ แต่ตากลับมองที่วัจสา ผู้หญิง2-3คนที่นั่งโต๊ะข้างวัจสาก็กรี๊ดกร๊าด “พระเจ้า เสียงละมุนอะไรขนาดนี้อ่ะ!” “ถ้าได้มาเป็นแฟนฉันก็ดีหน่ะสิ!” “ฝันกลางวันไปก่อนเถอะแกอ่ะ เห็นได้ชัดว่าเขามีเป้าหมายมานานแล้ว ไม่แน่นั่นก็อาจเป็นแฟนเขาก็ได้!” ธัชชัยมองซี่โครงเปรี้ยวหวานและมะเขือม่วงที่อยู่ในจานวัจสาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “น้องแวว รบกวนคุณไปซื้อกับข้าวมาเพิ่มสัก2-3อย่างได้มั้ย? ของพวกนี้มันน้อยไปหน่อย กลัวว่าจะไม่ถึงครึ่งท้องฉัน” วัจสามองท่าทางที่ราวกับเทพบุตรก็ไม่ปาน นี่เขาสุภาพเกินไปแล้ว ไม่คิดว่าจะสั่งให้แวววัยไปได้? แต่ว่าดูแล้วคนในโรงอาหารก็พร้อมที่จะช่วยกันตักข้าวให้เขาอยู่แล้ว เมื่อวัจสาจะร้องห้าม เธอก็หยิบบัตรไปต่อคิวซะแล้ว “คุณชัย ฉันเดี๋ยวฉันกลับมาแปปนึงนะคะ!” วัจสาทำได้แค่เพียงเลื่อนสายตามองลงไปยังธัชชัยที่นั่งข้างๆเธอ ผู้ชายคนนี้นี่มีความสามารถทำให้คนหลงใหลจนตายได้จริงๆ แต่น่าเสียดายที่ตัวเองมีภูมิคุ้มกันดีแล้ว “คุณชายชัยผู้สูงศักดิ์ มากินอาหารที่โรงอาหารวุ่นวายๆขนาดนี้ทำไม? ถ้าเกิดท้องเสียขึ้นมาป้าอ้อยต้องเสียใจแย่แน่ๆ” “ไม่ใช่เป็นเพราะว่ามีเธออยู่ที่นี่หรอ?ฉันก็จะพยายามกินสัก2-3คำก็แล้วกัน” เขาพูด แล้วก็ฉกตะเกียบที่อยู่ในมือของวัจสาคีบซี่โครงเปรี้ยวหวานเข้าปาก หลังจากที่เคี้ยวไปไม่กี่คำ คิ้วก็ขมวด มีชิ้นนึงที่กลืนยากมาก สุดท้ายก็ไม่ได้คายออกมาแต่กลับกลืนมันเข้าไป “นี่คือซี่โครงเปรี้ยวหวาน? ทำมาจากอะไรกันแน่? บอกฉันว่ามันเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวผัดยังจะเข้าท่าซะกว่า! ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผมจะให้ภูผามารับคุณกลับไปกินข้าวที่บ้านตระกูลศรีทอง!” วัจสาตอบกลับไปอย่างไว “นั่นคือความรู้สึกของคุณชายชัย ฉันไม่เห็นรู้สึกเลยว่าอาหารที่นี่มันกินยาก!” “จริงหรอ? งั้นคุณลองกินให้ฉันดูสักคำสิ?” ธัชชัยส่งตะเกียบมา วัจสารับมา “ชิมก็ชิม คุณคิดว่าฉันกลัวหรอ!” เธอคีบเนื้อชิ้นเล็กๆชิ้นนึงเข้าปาก ที่จริงแล้วมันไม่อร่อย แต่มันก็ไม่ได้กลืนยากกลืนเย็นอย่างที่ผู้ชายคนนั้นพูด “นี่ไงฉันกินแล้ว ก็อร่อยดีหนิ!” ธัชชัยมองหญิงสาวที่โกหกหน้าตายออกมาพลางยิ้มขึ้นมาน้อยๆ ท่าทางที่ชอบพิจารณาของเขาแบบนี้หล่ะที่ทำให้วัจสากลัวที่สุด “นั่นก็เพราะว่ามีน้ำลายของฉันยังไงหล่ะ เพราะอย่างนั้นไม่ว่าอาหารอะไรก็เปลี่ยนเป็นอร่อยหมดแหละ” เกิดความสงสัยขึ้นในใจของวัจสา เป็นอย่างที่คิดเธอตกหลุมพลางของผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ใช่แล้ว ตะเกียบนี้มีน้ำลายของเขา…ผู้ชายคนนี้แย่จริงๆ! ใบหน้าขาวๆของเธอเริ่มแดงขึ้น เขามักจะสร้างกับดักมาให้เธออย่างนี้เสมอ แล้วก็จะชอบทำให้เธอหลงกลอย่างไม่รู้ตัวเป็นประจำ หลังจากที่ตกหลุมพลางไปแล้ว เธอก็ไม่อาจถอนตัวเองออกมาจากกับดักได้สักที… แวววัยรีบหยิบถ้วยกับข้าวกลับมา แถมยังหยิบตะเกียบและชามให้เขาอย่างระมัดระวังมาวางไว้ตรงหน้าเขา “ขอบคุณครับ” ธัชชัยพูดจบ ก็หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบหมูตุ๋นซอสแดง แต่เขาไม่ได้เอาเข้าปากตัวเอง กลับเอาไปให้ชามของวัจสา “กินเนื้อเยอะหน่อย ผอมขนาดนี้ เห็นแล้วมันไม่สบายใจ ประโยคที่ธัชชัยพูดก็ทำให้คนคิดไปต่างๆมากมาย แต่วัจสาไม่อาจเถียงเขาท่ามกลางผู้คนขนาดนี้ได้ เธอยังไม่อยากกลายเป็นคนดังของมหาลัยนะ! ตั้งแต่ธัชชัยเข้ามาก็กลายเป็นจุดสนใจ เถียงเขาในสถานการณ์อย่างงี้? ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไรออกมา? ถ้างั้นชื่อเสียงของเธอก็พังหมดสิ! ดังนั้นวัจสาจึงทำได้เพียงก้มหน้ากินข้าวไปเงียบๆ พยายามทำให้ตัวเองไม่มีตัวตน รีบกินรีบไป! ถ้าหากบนพื้นดินมีรอยแยกเล็กๆอยู่ ไม่แน่วัจสาก็จะมุดรอยแยกนั่นหนีไปแต่แรกแล้ว วัจสาก้มหัวกินข้าว ธัชชัยเองก็ไม่ได้แกล้งเธอต่อ ไม่เช่นนั้นหากอาหารไม่ย่อย ป้าอ้อยก็จะว่าตัวเองอีก ธัชชัยดูหิวและเขากินเร็วมาก แต่กลับไม่เห็นมาดสุภาพบุรุษแม้แต่น้อย หน้าตาทางสังคมมีความสำคัญสำหรับเขาแค่ไหน? ดูจากเรื่องนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าไม่ แต่กินไปกินไปอยู่ๆผู้ชายก็หยุดท่าทางการกินอย่างตะกระตระกลาม เพียงแค่ใช้อีกด้านของตะเกียบกดลงไปที่ท้องของตัวเอง แวววัยเป็นคนประเภทที่สามารถมองสีหน้าคนออก เธอพูดถาม “คุณชัย คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า? ปวดตรงไหนหรอ? วัจสาก็สังเกตเห็นแล้ว เธอจึงเป็นห่วงเขาเล็กน้อย “ไม่เป็นไร แค่กินเร็วไปหน่อย เลยปวดท้องหน่ะ ฉันเป็นโรคเรื้อรัง” ธัชชัยพูดอย่างไม่ค่อยใส่ใจ วัจสาตัวแข็ง ใช่แล้ว เธอลืมไปเลยว่าธัชชัยเป็นโรคกระเพาะ ป้าอ้อยเคยเล่าว่าแต่ก่อนเวลางานยุ่งๆธัชชัยไม่ค่อยกินข้าว แล้วยังมีตอนที่วรพลป่วยเพื่อที่จะดูแลเขาธัชชัยก็ต้องเอางานทั้งหมดมาทำตอนกลางคืน เมื่อผ่านไปนานเข้า โรคกระเพาะก็ยิ่งร้ายแรงขึ้น เมื่อเห็นท่าทางอย่างนั้นของธัชชัย จริงๆแล้ววัจสาก็ร้อนใจ แต่เธอไม่อยากที่จะพูดออกมาว่าเป็นห่วง เธอไม่สามารถเป็นห่วงเขาได้! แต่แวววัยกลับถามขึ้นมา “คุณชัย ไหวมั้ย? ไปหาหมอมั้ย? ห้องพยาบาลก็อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ค่อยไกล… ธัชชัยไม่ได้มองที่วัจสา ก้มหน้ากินข้าวต่อ “ฉันไม่ตายหรอก” สิ่งที่เขาพูดมาทำให้ใจของวัจสาหวั่นๆ เศร้าๆ คนคนนี้พูดเรื่องการเป็นการตายของตัวเองออกมาได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง? ธัชชัยรู้สึกว่าวัจสาก็ไม่ได้ทุกข์ใจอะไร แม้แต่คำพูดห่วงใยสักคำยังไม่มี เพียงแค่ก้มหน้ากินข้าว เขาหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกสูญเสียกำลัง เขาเติมหมูตุ๋นซอสแดงลงในจานของวัจสาอย่างเงียบๆ แต่ว่าขณะนี้ก็มีโทรศัพท์เข้ามาพอดี วัจสาที่เงยหน้าขึ้นมาจะพูดอะไรก็ถูกตัดบทไป ผู้ชายวางตะเกียบลงพูดมาหนึ่งประโยคว่ามีธุระแล้วก็เดินจากไป ร่างสูงค่อยๆเดินไกลออกไป วัจสามองอยู่ครู่ก็วางตะเกียบที่อยู่ในมือลง “แวววัย ตอนนี้ฉันมีธุระ วันนี้ฝากแกเก็บหน่อยนะพรุ่งนี้ฉันมา” เมื่อวัจสาพูดจบก็ออกเท้าวิ่งไปทางประตู เขาไม่ได้ตามธัชชัยไป แต่เธอออกไปอีกด้านของโรงอาหาร ธัชชัยที่เพิ่งสตาร์ทเฟอร์รารี่สีดำของเขา รูปร่างที่คุ้นเคยและเพรียวบางก็ปรากฏขึ้นที่กระจกหลัง กำลังยืนหอบจากการไล่ตามรถสปอร์ตของเขา วัจสา? ผู้หญิงคนนี้วิ่งตามรถเขามาทำไม? ที่จริงเวลาของธัชชัยมีค่ามาก แต่เขาก็หยุดรถลง ผู้หญิงคนนั้นวิ่งมารีบร้อนขนาดนี้ ไม่แน่อาจจะมีเรื่องอะไร เขาค่อยๆลดกระจกรถลง มองไปยังวัจสาที่วิ่งหน้าแดงอยู่ข้างนอก ในที่สุดวัจสาก็ไล่ตามทัน เธอพูดพลางกับคลานมาที่กระจกรถหอบหายใจ “อ้า…อ้าปาก…” ธัชชัยก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำอะไร ไม่ใช่เพราะเขาไปที่โรงอาหารกินข้าวกับเธอ เรื่องนี้มันต้องถามเขาหรอ? ตัวเองนี่มันหาเรื่องซวยจริงๆ แถมยังตั้งใจหยุดรถให้อีก รอยยิ้มอันขมขื่นปรากฏที่มุมปาก “อ้าปากทำไม? คุณวิ่งมารีบร้อนขนาดนี้คงไม่ใช่เพื่อมาจูบฉันใช่มั้ย? รอยยิ้มที่มุมปาดของธัชชัยก็เปลี่ยนไป ตอนนี้เขาดูน่าหลงใหลเอาซะมากๆ เหมือนกับภาพสามมิติที่ทำให้คนสับสน วัจสาแต่เดิมก็หอบอยู่แล้ว เกือบจะสำลักคำพูดที่ชายผู้นั้นพูด ทำไมคำพูดของเขามักจะส่อไปทางนั้นตลอดเลยนะ? แต่ว่าชายคนนี้ก็เหมือนกับจะอ้าริมฝีปากออกน้อยๆ วัจสาใช้เวลานี้ เอาเม็ดยาที่อยู่ในมือยัดลงไป ธัชชัยรู้สึกแค่ว่ามีอะไรขมๆอยู่ในปาก จิตใต้สำนึกเขาอยากที่จะอ้วกสิ่งต่างๆออกมาก “นี่คืออะไร?” วัจสาร้อนใจ รีบเอามือปิดปากเขาไว้ “อย่าคายนะ! นี่คือ ‘Domperidone’ มันจะทำให้คุณไม่ปวดท้อง มีประสิทธิภาพมาก! รีบกลืนลงไปเร็ว!” แววตาของธัชชัยก็อ่อนลงทันที เธอไล่ตามตัวเองมานานขนาดนี้ก็เพื่อที่จะเอายามาให้? ดวงตาลึกจ้องไปยังไปหน้าแสนสวยของเธอ ภายในใจความรักก็เริ่มที่จะก่อตัวขึ้นมา
已经是最新一章了
加载中