ตอนที่ 108 สัมผัสที่อ่อนโยนราวกับคนรัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 108 สัมผัสที่อ่อนโยนราวกับคนรัก
ต๭นที่ 108 สัมผัสที่อ่อนโยนราวกับคนรัก “ไม่หล่ะ ฉันอยากเจอธัชชัยตอนนี้ คุณออกไปรอเขากลับมาเถอะ! แล้วอย่าลืมนะว่าถ้าเจอเขาหล่ะก็ช่วยบอกให้เขาไปหาฉันที่ห้องบำบัดด้วย!” ตอนนี้เขาเพียงแค่อยากจะหนีวัจสาก็เท่านั้น หลังจากขึ้นชั้นบนได้ ก็เปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งทันที ท่านชัยโมโหจริงๆด้วย นั่นทำให้พ่อบ้านภูษิตลอบถอนหายใจยาว ดูเหมือนว่าท่านชัยของเขานี้จะไม่ได้อยากจะเป็นสามีภรรยากับคุณผู้หญิงของเขาซักเท่าไหร่ เขารู้ดีถึงนิสัยใจคอของท่านชัยมาตั้งแต่ยังเล็กว่าค่อนข้างจะเข้าใจยากแค่ไหน มันค่อนข้างยากมากจริงๆที่เขาจะให้ใครย่างกายเข้ามาในหัวใจของเขา แต่ว่าพ่อบ้านภูษิตก็ยังคงหวังว่าคุณผู้หญิงของเขาจะเปลี่ยนใจท่านชัยให้เปิดรับเธอเข้าไปได้ในที่สุด พ่อบ้านภูษิตจึงแนะนำวัจสา “คุณผู้หญิงครับ คุณออกไปรอท่านชัยก่อนทีนะครับว่ากลับมาแล้วรึยัง เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณชายใหญ่ขึ้นชั้นบนก่อน” เธอยังคงยืนนิ่งอยู่เฉยๆ ก่อนจะรับคำ “โอ้ ได้สิ ” และพูดต่อ “วรพล คุณดูแลตัวเองด้วยนะ และก็รีบไปรักษาที่อเมริกาโดยเร็ววัน จะได้หายไวๆ” วัจสาไม่อยากจะพูดอะไรที่ทำให้วรพลโกรธอีก “ฉันรู้แล้ว คุณออกไปเถอะ แล้วอย่าลืมบอกให้ธัชชัยไปหาฉันที่ชั้น2ด้วย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา” มีปัญหาอะไรธัชชัยก็แก้ได้ทุกทีเลยจริงๆ เคล็ดลับของคนใช้ชีวิตคู่นี้ เขาเล่นเป็นร้อยรอบก็ไม่เบื่อ วัจสากำลังยืนอยู่บริเวณประตูบ้าน ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ พอภูผาเอารถไปจอดที่โรงรถ เธอก็ถือโทรศัพท์ของธัชชัยเดินเข้าไป เหมือนที่ธัชชัยวางเกมเอาไว้ เมื่อเห็นวัจสายืนรออยู่ด้านนอก เขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณผู้หญิง มายืนทำอะไรตรงนี้? รอใครอยู่รึเปล่า?” “มารอคุณชายรองของบ้านคุณนั่นแหละ วรพลอยากจะพบเขา” วัจสาพูดไปตามจริง “หา คุณชายรองไม่ใช่ว่าเพิ่งจะถูกคุณเข้าบ้านไปไม่ใช่หรอครับ? ทำไมแวบเดียวถึงได้ออกไปอีกแล้ว ” ภูผาเอ๊ยภูผา ถ้าธัชชัยอยู่บ้านหล่ะก็ ปากแกโดนปลดแน่! ทำไมพูดอะไรไม่คิดแบบนี้… วัจสาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะครุ่นคิดประโยคที่ได้ยินเมื่อกี้ “ภูผา คุณพูดอะไรหน่ะ? ฉันเพิ่งจะเข็นเขาเข้าบ้านงั้นหรอ? คุณชายรองอ่ะนะ? ธัชชัยหน่ะ?” เอาจริงๆ ภูผาก็ไม่ได้ดูซื่อบื้ออะไร แต่ทำไมเขาถึงได้จำผิดคนไปได้ ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าคนที่เธอเองเข็นเข้าไปคือคุณชายใหญ่วรพล! ไม่สิ มันมีบางอย่างผิดปกติ เมื่อกี้ตอนอยู่ที่ในบ้านพ่อบ้านภูษิตก็เรียกท่านชัย ซ้ำป้าอ้อยก็เตรียมหมูอบน้ำแดงกับเนื้อพริกไทยดำด้วยนี่มันอะไรกันแน่? วรพลกินอาหารหนักไม่ได้อยู่แล้วอย่างเห็นได้ชัด กับข้าวนั่นมันไว้สำหรับธัชชัยชัดๆเลย และทำไมภูผากับพ่อบ้านภูษิตถึงได้จำคนบนรถเข็นที่เธอกำลังเข็นตอนนั้นเป็นธัชชัยได้ นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ หรือว่าพูดเพราะเข้าใจผิดกันแน่นะ คำถามของวัจสานั่นทำให้ภูผาถึงกับตกที่นั่งลำบาก เป็นเพราะปากพล่อยแท้ๆเลยเชียว ถ้าคุณชายรองรู้หล่ะก็เขาตายหยังเขียดแน่ๆ ภูผาจึงรีบแก้คำ “ขอโทษครับคุณผู้หญิง ผมพูดผิดไป คนที่คุณเข็นเข้าไปหน่ะคือคุณชายใหญ่ ตอนนั้นที่ผมพูดผิด…ผม…ผมคงตาบอดไป” “แหงสิ!แกคงต้องตาบอดแน่ๆ!” อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายจากด้านนอกพูดขึ้นมา ร่างกำยำของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น ทางเดินปลิวไปด้วยใบไม้ เครื่องหน้าสง่างามนำล้ำมา ถ้าไม่ใช่ธัชชัยแล้วจะเป็นใครได้อีกหล่ะ? แต่น่าเสียดายที่ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะเกรี้ยวกราดอะไรสักอย่างอยู่ ธัชชัยฉลาดอยู่พอตัว เขาแทรกตัดบทภูผาขึ้น เพื่อที่จะให้วัจสาตกไปเป็นคนซื่อบื้ออีกครั้งนึง เธอต้องฟังออกแน่ๆว่าภูผาที่น่าสงสารนี่พยายามจะปกปิดอะไรบางอย่าง ภูผาตกใจอย่างสุดขีด แย่ละจบกัน ไม่รู้ว่าคุณชายรองจะลงโทษเขายังไงเนี่ย แต่ว่าคุณชายนี่ทำอะไรไวเกินไปรึเปล่านะเนี่ย? เข้าไปเป็นอีกคนพอชั่วเดินหายไปก็กลับกลายมาเป็นอีกคน ราวกับมีเวทมนตร์แปลงตนก็ไม่ปาน ซึ่งเขาไม่ได้รู้ว่าธัชชัยหลังจากขึ้นไปข้างบนแล้ว แล้ววัจสาออกไปที่สวน ธัชชัยก็รีบถอดชุดหนังเทียมออกอย่างรวดเร็วแล้วเปลี่ยนชุดไปถึงสองรอบ ก่อนจะกระโดดออกมาทางหน้าต่างหลังบ้าน เพื่อจะได้วนมาที่หน้าบนของตระกูลศรีทอง ดังนั้นก็เหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะกลับมาบ้านอย่างไรอย่างนั้น ทีแรกธัชชัยคิดไว้ว่าจะรออีกแปปแล้วค่อยแสดงตัวออกมา แต่ดูจากรูปการณ์แล้วถ้าไม่ออกมาหล่ะก็ไม่ดีแน่ๆ เป็นเพราะความไอคิวน้อยของภูผาเลยจริงๆที่ทำให้เขาต้องออกมาก่อนไม่งั้นสิ่งที่เขาทำเอาไว้จะต้องถูกเปิดเผยเป็นแน่ ไม่ต้องถามหรอกว่าทำไมทั้งภูผาทั้งพ่อบ้านภูษิตถึงได้ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณชายรองของพวกเขาต้องลงทุนลงแรงไปแกล้งคุณผู้หญิงแบบนั้น อย่าว่าแต่พวกนั้นเลยธัชชัยเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปเพิ่งอะไร ว่าทำไมเขาต้องลงทุนลงแรงที่จะเล่นบทนี้แบบนี้ด้วย? ถ้าตอนแรกอาจจะพูดได้ว่าเขาลองใจเพราะคิดว่าผู้หญิงทุกคนที่จะแต่งเข้าบ้านตระกูลศรีทองก็ความคิดแบบเดียวกันแต่ว่าตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น แล้วทำไมเขาถึงไม่บอกให้เธอรู้สักทีหล่ะเนอะ? มันเป็นการลองใจอย่างนั้นหรอ?หรือเพียงแค่อยากจะรอเวลาที่มันเหมาะสมกว่านี้สักหน่อย? น่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่าหล่ะมั้ง ในตอนนี้มีเพียงกนิษฐาที่ทำให้เขาหงุดหงิด หญิงอสรพิษนั่นเธอไม่ปริปากบอกว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวในวันนั้น อีกทั้งเขาก็ไม่คิดเลยว่าพี่ชายของเขายังเป็นหนึ่งในคนที่ตกหลุมความงาม ในเรื่องของวัจสา ก็คงต้องรอจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย มันจะดีกว่าที่จะเลือกเวลาที่เหมาะสม แล้วค่อยเผชิญหน้ากับเธออีกที นั่นมันก็คงจะเป็นการดี ดังนั้นการที่เขาเล่นกับภรรยาของตัวเองนั่นมันก็เสี่ยงอยู่บางจุด นั่นมันเหมือนกับเขาเล่นกับหัวใจของเขาเอง ธัชชัยเดินตรงเข้ามา หยิบมือถือจากมือของภูผาก่อนจะเหลือบมองไปยังภูผาในมุมที่วัจสาจะไม่เห็นเพื่อจะเตือนเขาไม่ให้พูดไร้สาระอะไรแบบนั้นออกมาอีก ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดที่จะอยู่บ้านตระกูลศรีทองต่อไปอีกเลย ภูผาคนขับรถผู้น่าสงสารหลังจากที่โดนเตือนผ่านสายตาก็คอตกลงไปในทันที เขารู้ว่าความเบ้อะบ๊ะของมันเกือบจะทำให้เสียเรื่อง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดมากๆ จนไม่รู้จะพูดอะไรอีก แต่ว่าการปรากฏตัวของธัชชัย ก็ได้หยุดยั้งความคิดที่ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ปกติของวัจสาไปได้ชั่วคราว เธอมองไปยังร่างของเขาก่อนที่จะเมินหนีไปอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเธอได้ให้คำสัตย์กับสามีของตัวเองแล้วว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อะไรแบบนั้นขึ้นอีก มันคงจะดีกว่าถ้าเธอเลือกทำในสิ่งที่ภรรยาที่ดีควรจะทำ และก็เป็นสิ่งที่เธอต้องทำ “ธัชชัย พี่ชายของคุณให้คุณไปพบที่ชั้นสองหน่ะ เขามีเรื่องจะคุยกับคุณ” “อืมเข้าใจแล้ว” เสียงของชายหนุ่มนุ่มลึก เขาเดินช้าๆไปที่เธอมองเธอราวกับว่าเขาต้องการที่จะค้นหาหัวใจของเธอ พวกเขาทั้งสองค่อยๆใกล้กันมากขึ้นและมากขึ้น มากขนาดที่รู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่ายลดลงมาที่หน้า ดวงตาคู่งามสวย สีดำที่ประดุจสีฟ้ายามราตรีของธัชชัยมองไปที่วัจสาเหมือนกับเป็นเครื่องสแกนความรู้สึกที่ซับซ้อนบนสีหน้าของเธอ แก้มทั้งสองของวัจสาค่อยเรื่อแดงขึ้นมา นั่นทำให้เธอยิ่งดูน่าดึงดูดมากขึ้นไปอีก เธอเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้ปะทะเข้ากับดวงตาสดใสของชายหนุ่มที่มีดวงตาอันเร่าร้อนนั่นทำให้หัวใจเธอเต้นเร็วและเร็วขึ้น “นี่คุณ จะมองฉันทำไมเนี่ย” วัจสาควบคุมตัวเองให้พูดอย่างสุขุม แม้ว่าในใจของเธอนี้เต้นรัวราวกับลูกกวางน้อย “คุณรีบขึ้นไปหาพี่ชายของคุณที่ชั้นสองเร็ว…” “อย่าขยับนะ” อยู่ๆธัชชัยก็พูดขึ้นมา วัจสาหยุดชะงักทันที “มะมีอะไรหรอ?” เธอมองไปยังชายหนุ่มอย่างสนเท่ห์ “มีอะไรติดหน้าคุณหน่ะ” เขาพูดขึ้นพลางเหยียดนิ้วโป้งสากๆลูบไล้ไปบริเวณแก้มของหญิงสาว มันเป็นสัมผัสที่อ่อนโยนราวกับทำด้วยความรัก นั่นทำให้ผู้ถูกกระทำใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหว่ะเลยทีเดียว วัจสาตกตะลึงกับการกระทำของชายหนุ่ม ตัวเธอนิ่งแข็งไม่ไหวติง ในวินาทีนั้น มันเป็นความสัมผัสที่อ่อนโยนมากกว่าความอ่อนโยนของวัจสาเองด้วยซ้ำ เมื่อลูบไล้ใบหน้าของวัจสาอย่างแผ่วเบาแล้ว ธัชชัยก็ไม่ได้สัมผัสที่อื่นใดต่อ เขาตัดบทดึงมือกลับ แล้วก็เดินก้าวยาวๆเข้าบ้านไป ปล่อยวัจสาทิ้งไว้ที่ลานคนเดียวโดยไม่หันกลับมามองอีก วัจสารู้สึกว่าตัวเองคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ความรู้สึกที่เธออยากจะทำในฐานะภรรยาที่ดี กลับโดนชายคนนี้ทำลายไปได้อย่างง่ายดาย มันเป็นเพราะตัวผู้ชายคนนั้นที่น่ารังเกียจ หรือเป็นเพราะตัวเธอเองที่เหลาะแหละ ทำไมกันนะ ไอ้ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ควรเริ่มต้นด้วยซ้ำ สุดท้ายมันกลับฝังรากลึกโดยที่วัจสาเองไม่รู้ตัว อยู่ดีๆเธอก็คิดขึ้นมา ว่ามันคงจะเป็นเมื่อเธอตายเท่านั้นหล่ะมั้งถึงจะรักษาศีลธรรมเรื่องนี้ไว้ได้ น้ำโปร่งใสไหลรินมาจากตาคู่งามของเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว น้ำตาที่ไหลไปมันเพราะอะไรกันนะ สิ่งที่ธัชชัยพูดนั้นเป็นความจริง เพราะว่าวรพลอยากจะเจอเขาจริงๆ ให้หมอภาคินไปตามก็พอดีกับธัชชัยเดินเข้ามาพอดี ในห้องบำบัดเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ธัชชัยจึงหายไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ว่าหลายเดินที่ผ่านมา เขากลายเป็นชินกับความยากลำบากนี้ไปเสียแล้ว แลกกับการที่พี่ชายเขาที่อยู่ในเส้นระหว่างความเป็นและความตายแล้ว การลำบากของเขานิดเดียวมันเทียบอะไรไม่ได้เลย นั่นไม่ใช่ว่าหนักกว่าแพ้ยาฆ่าเชื้อหรอ? “ธัชชัย เอาใบสมรสของแกกับวัจสามาให้ฉัน” พอเข้าไปวรพลก็พูดขึ้นมาทันที เขาเพิ่งจะฉีดสารอาหารเสร็จ ใบหน้าเขาไม่ได้แย่เท่าวันนั้น ร่างกายก็ดูจะสมบูรณ์ดี แม้แต่เครื่องช่วยหายใจก็สามารถหยุดใช้ไปชั่วขณะ “พี่ใหญ่ พี่จะไปแคร์อะไรกับเศษกระดาษใบเดียวหล่ะ? พี่ควรจะกังวลเรื่องการจัดเตรียมไปรักษาที่โรงพยาบาลจะดีกว่า” ธัชชัยพูดพลางเตรียมน้ำยาให้หมอภาคินเช็ดตัวให้วรพล มันเป็นอย่างที่ปรมะพูดนั่นแหละ หลังจากผิวถูกเผาไปแล้วมันก็จะแตกต่างไปจากผิวธรรมมากอยู่ ดังนั้นจึงต้องเช็ดยาเพื่อบรรเทาระดับของการแข็งตัวของผิว “ธัชชัย ฉันก็ยังไม่เข้าใจแกว่าทำไมถึงยังไม่บอกให้วัจสารู้ว่าจริงๆแล้วแกเป็นสามีของเธอ! ป้าอ้อยบอกว่าตอนนี้เหมือนเธอจะชอบแกเข้าแล้ว ทำไมแกต้องทรมานเธอด้วย? แกรู้มั้ยว่าเธอต้องจมกับความแย่ในเรื่องของแกมากแค่ไหน?” ธัชชัยเดาไม่ผิดเลยจริงๆว่าพี่ชายเขาจะเอาใบสมรสนั้นไปอธิบายให้ฝ่ายหญิงฟัง “ถ้าจะเอาใบนั่นก็ได้ แต่ต้องรอให้พี่ไปรักษาที่อเมริกาก่อน ผมจะเอาให้พี่ทันทีเลย พี่จะรีบไปทำไม วันเกิดอายุ30ของพี่ก็ยังมาไม่ถึงเลย ถึงตอนนั้นผมจะเอาสิ่งนั้นเป็นของขวัญให้เธอเอง” ธัชชัยจำได้ว่าวันนั้นพี่ชายของเขาให้ป้าอ้อยเอาใบสมรสไปเลี่ยมกรอบทอง เพื่อที่จะให้วัจสาเป็นของขวัญที่ได้พบกัน แต่โชคดีที่เขาเห็นซะก่อน เลยหยุดไว้ได้สำเร็จ “ดี ถ้าแกไม่ให้ ฉันก็หาวิธีอื่นบอกวัจสาให้เขารู้ให้ได้ ฉันจะบอกเธอโดยตรงเลยว่าแกหน่ะเป็นสามีที่ถูกต้องของเขา และเธอก็สามารถไปหาหลักฐานได้ที่อำเภอ” คำพูดของวรพลครั้งนี้มันไม่ใช่แค่คำขู่เท่านั้น ธัชชัยยิ้มอย่างเยือกเย็น --โปรดติดตามตอนต่อไป 04/11/2019-- 
已经是最新一章了
加载中