ตอนที่ 114 คู่นัดบอดคือภาวินี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 114 คู่นัดบอดคือภาวินี
ต๭นที่ 114 คู่นัดบอดคือภาวินี หลังจากธัชชัยฟังประโยคคำพูดของวัจสาจบแล้ว ผ่านไปนานมากกว่าจะพูดออกมา “วัจสา ผู้หญิงต่างก็ต้องพูดในสิ่งที่ปากไม่ตรงกับใจถึงจะมีความสุขใช่ไหม?” วัจสาฟังแล้ว ทันใดนั้นก็หยุดชะงักไปเลย ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอะไร ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะมีคำพูดที่เกรี้ยวกราด แต่เหมือนกับว่ามองเธอออกทั้งหมด แม้กระทั่งความในใจที่เธอเองยังไม่รู้ เขากลับเดาออกได้แม่นขนาดนี้ แต่ว่าเธอยังไม่ทันเปิดปากพูด ผู้ชายก็พูดต่ออีกว่า “ในเมื่อเธออยากแนะนำผู้หญิงให้ฉันขนาดนี้ นั้นก็แล้วแต่เธอละกัน จัดการไปเองเถอะ ฉันยุ่ง วางสายก่อนนะ!” น้ำเสียงช่วงสุดท้ายของผู้ชายแย่มาก จากนั้นก็วางสายไปเลย ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ล่ะ? ป้าอ้อยก็พูดประมาณนี้! หรือว่าตัวเองจะไม่อยากเหมือนกับที่พวกเขาพูด แค่คบกับธัชชัยก็ได้แล้วหรอ? แต่ว่าจะทำอย่างนี้ได้ไงล่ะ? ตัวเองแบกรับความรู้สึกผิดที่มีต่อวรพล พวกเขาเหมือนไม่ได้เป็นอะไร เป็นแค่คนที่มายืนดูความสนุก แต่คนที่จบปวดคือใคร? สุดท้ายก็มีแค่วัจสาคนเดียว?! ตอนนี้ตัวเองจะไม่พยายามทำดีด้วยแล้ว! ไม่สนแล้ว ยังไงธัชชัยก็ตกลงแล้ว งั้นตอนนี้เธอก็จะเริ่มหาคนแล้ว! วัจสาแต่งหน้าอ่อนๆ ในไม่ช้าก็ออกจากบ้าน คนขับรถภูผายิ้ม “คุณผู้หญิงวันนี้แต่งตัวสวยขนาดนี้ จะไปไหนครับ?” วัจสาตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ “ไปบ้านเดิมขุนทด” ใช่แล้ว คู่บอดที่เธอจะหาก็คือคุณผู้หญิงสองตระกูลเดิมขุนทด——ภาวินี ยังไงเธอก็มีความรู้สึกต่อธัชชัยอยู่แล้ว ทั้งสองสามารถอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายอะไร ตามหลักแล้ววันนี้เป็นวันเสาร์ บริษัทธัชชัยน่าจะไม่มีการทำงานนอกเวลา แต่ว่าเป็นพราะเรื่องของวรพลจึงทำให้ล่าช้าไปนาน ฉะนั้นวันเสาร์ในช่วงนี้เขาจึงต้องไปทำงาน คิดว่าหลังเลิกงานก็น่าจะมีเวลาแล้ว พอถึงเวลาตัวเองก็จัดการเสร็จแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพอถึงหน้าประตูบ้านแล้วก็เจอรสรินกำลังจะออกจากบ้านพอดี ดูการแต่งตัวที่สวยงามของรสรินแล้วเหมือนกำลังจะออกเดทสำคัญ แต่ว่ายังเช้าขนาดนี้ เธอก็เตรียมตัวจะออกไปแล้วหรอ วัจสารู้ว่ารสรินเย็นชากับตัวเองมาโดยตลอด แต่กลับดูจริงใจกับคนอื่นๆ ก็เหมือนกับพี่น้องพวกนั้นของเธอ ฉะนั้นแล้วถึงแม้คนในครอบครัวจะสนิทกันขนาดไหน แต่ก็สู้คนนอกไม่ได้ “วันนี้จะมีลมหรอ? ทำไมถึงพัดคุณผู้หญิงตระกูลศรีทองมาถึงที่ๆจนตรอกแบบนี้ล่ะ?” รสรินพูดด้วยความเฉยเมย คำเยาะเย้ยในประโยคชัดเจนมาก แต่ว่าปกติแล้ววัจสาจะไม่สนใจคำพูดแบบนี้ของเธอ หนึ่งเพราะเธอมองออกท่าทีที่แท้จริงของรสรินแล้ว สองเพราะวัจสาทนอยู่ในบ้านเดิมขุนทดมานานขนาดนี้ เลยได้ฝึกนิสัยที่ไม่อารมณ์ร้อนไปมั่ว แต่ว่าคำพูดที่ว่า คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล คำนี้พูดถูกจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่กับธัชชัยนานไปหรือเปล่า วัจสากลับตอบกลับไปประโยคหนึ่งว่า “ใช่แล้ว ฐานะคุณผู้หญิงที่ฉันอยู่ในบ้านศรีทองตอนนี้ ถ้าเทียบกับพวกเธอแล้ว สูงส่งกว่าจริงๆ รสริน เธอเสียใจไหม? นี่เป็นสิ่งที่เธอควรจะได้รับตั้งแต่แรก น่าเสียดายจริงๆ น้องสาวที่ยังไม่โต” วัจสารู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรน่าอวด แต่ไม่อยากให้พวกเธอมาดูถูก ตัวเองอยู่บ้านศรีทองนอกจากความสัมพันธ์ระหว่างเธอและธัชชัยแล้ว อย่างอื่นก็ยังดี รสรินถูกเธอพูดจนหน้าซีดไปหมด เธอโมโหจนไม่รู้จะพูดอะไร “วัจสาเธอมีอะไรให้อวดดี? ก็แค่แต่งการกับคนพิการ ยังเป็นคนที่พิการไปทั้งตัวอีก! คงจะยังไม่เห็นหนังสือพิมพ์เมื่อวานสินะ! ยังกล้าสวีทกันที่หน้าประตูโรงเรียนกับคนที่ไม่ใช่คนไม่ใช่ผี! ความรู้สึกที่เธอคิดว่าเหนือกว่าคนอื่นๆมาจากไหน?” หลังจากรสรินพูดจบแล้ว เธอก็นำหนังสือพิมพ์ข้างๆขึ้นมา แล้วโยนให้วัจสา “ลองดูสิ!” รูปๆหนึ่งผ่านเข้าไปในดวงตาของวัจสา ข้างบนเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งยองๆอยู่ที่พื้น นี่เป็นเธอ ยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถเข็น ตอนที่นักข่าวถ่ายรูปกำลังอยู่ในมุมที่วัจสากำลังจัดผ้าหันคอให้ ‘วรพล’ วัจสารู้สึกว่ารูปนี้ถ่ายได้ดีมาก ดูอบอุ่น และเธอก็ชอบมาก หลายๆอย่างไม่ใช่ใช้แค่ดวงตาดูเท่านั้น แต่ต้องใช้ใจไปสัมผัส ถึงแม้ตัวเองจะเป็น ‘ผู้หญิงเห็นแก่เงิน’ อย่างที่ตัวเองเขาว่ากัน แต่ก็เป็นเพราะตระกูลเดิมขุนทดผลักเธอลงไปไม่ใช่หรอ? นี่จะโทษใครได้? วัจสาค่อยๆนำหนังสือพิมพ์เก็บลงในกระเป๋า ค่อยๆเปิดปากพูดกับรสรินว่า “สาวน้อย เธอยังเด็ก ไม่เข้าใจ รูปภาพนี้ดีมาก ขอบใจที่บอกฉันนะ ให้ฉันเก็บเป็นที่ระลึกดีๆ” วัจสาพูดจบก็ไม่ได้ตัดสินใจจะสนใจเธอ เดินตรงเข้าไปในบ้านเลย แล้วพบเจอกับภาวินีที่กำลังจะเดินออกมาพอดี วัจสาเผยรอยยิ้มออกมา แล้วเดินตรงไปทางภาวินี “ภาวินี วันนี้เธอว่างไหม?” ภาวินีเผยรอยยิ้มแบบแม่ศรีเรือนออกมา “ทำไมหรอ? คุณผู้หญิงบ้านศรีทองที่สวยงามและสูงสง่าจะชวนฉันไปทานอาหารหรอ?” วัจสาละเลยคำตลกที่เธอเล่น แล้วพูดตรงๆเลยว่า “คุณชายรองบ้านศรีทองอยากทานข้าวกับเธอ” ภาวินีตกใจมาก “ธัชชัยจะทานข้าวกับฉัน?” ในน้ำเสียงมีความตกใจและความดีใจ แต่พอผ่านไปสักพักเธอก็รีบพูดเพิ่มเติมว่า “คงไม่ใช่เพราะพูดเล่นตลกกับน้องนะ? พี่วัจสาห้ามตระหนี่อย่างนี้นะ” แม้กระทั่งรสรินที่กำลังจะเดินออกจากบ้านก็หยุดเดิน อยากรอดูว่าวัจสาได้พูดตลกหรือเปล่า หรือว่าธัชชัยจะชวนพี่สองไปทานข้าวจริงๆ? “แน่นอนว่าไม่ได้พูดเล่นอยู่แล้ว ฉันปรึกษากับวรพลแล้ว ว่าจะหาคู่นัดบอดให้ธัชชัย ปกติเขาก็ไม่ค่อยติดต่อกับผู้หญิงอยู่แล้ว ฉะนั้นคนแรกที่ฉันนึกถึงก็คือภาวินีเธอไง” วัจสาอธิบายออกมารอบหนึ่ง เธอรู้ว่าภาวินีต้องยอมแน่ๆ แต่ว่าภาวินีก็ยังคงทำสีหน้าที่จริงจัง “พี่วัจสา พี่ไม่ต้องแกล้งฉันแล้ว ผู้หญิงที่ธัชชัยติดต่อด้วยน้อย? ฉันว่าคุณชายรองบ้านศรีทองน่าจะเป็นชายที่อยู่ท่ามกลางสาวๆนะ อีกอย่างเขาจะยอมรับวิธีการนัดบอดวิธีที่โบราณอย่างนี้ได้ไงล่ะ” นึกไม่ถึงเลยว่าประโยคที่ภาวินีพูดก็ไม่ได้ผิด ตอนแรกเธอเองก็ไม่เชื่อ แต่ว่าทำไมผู้หญิงมากมายขนาดนี้ เขาถึงต้องตอแยกับเธอคนเดียวล่ะ? ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องพวกนี้ ตอนนี้จะต้องพาภาวินีไปนัดบอด พอเห็นวัจสาเงียบไปสักพัก ภาวินีก็มั่นใจขึ้นว่า การนัดบอดนี้ต้องเป็นความคิดที่วัจสาและวรพลคิดขึ้นแน่ๆ และธัชชัยก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยิ่งไม่มีทางไปนัดบอดแน่ๆ “พอแล้วหน่า พี่วัจสา ขอบคุณพี่มากที่นึกถึงฉันเป็นคนแรก แต่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นความหมายของวรพลเท่านั้นแหละ ธัชชัยไม่เห็นด้วยแน่นอน อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ขาดผู้หญิงสักกหน่อย” วัจสายิ้มอ่อน “เธอคิดผิดแล้ว ภาวินี ผู้หญิงที่เล่นสนุกเป็นครั้งคราวพวกนั้น ไม่มีทางเข้าประตูบ้านศรีทองได้แน่นอน แต่ว่าถ้าพี่ชายใหญ่วางแผนไว้ นี่ก็ไม่เหมือนกันแล้ว ธัชชัยต้องเชื่อฟังพี่ชายใหญ่แน่นอน อันนี้เธอวางใจได้” วัจสาพูดเกลี้ยกล่อมอีกว่า “เธอลองคิดดูนะ ถ้าเธอแต่งเข้ามาในตระกูลศรีทองแล้วจริงๆ งั้นเธอก็กลายเป็นน้องสาวฉัน ฉันก็มีคนที่คอยดูแลไง เธอว่าถูกไหม?” เป็นอย่างที่คิดไว้เลย ภาวินีเกิดความลังเล แล้วตบไปที่มือของวัจสา “เป็นเพื่อนกับพี่ เป็นภรรยาที่ธัชชัยเขาแต่ง ไม่ใช่พี่แต่งซะหน่อย” “เอาเถอะ ภาวินี ก็แค่ทำเหมือนว่าทานข้าวกับเพื่อนก็ได้นิ ไม่งั้นฉันก็ไม่สามารถไปรายงานได้แล้ว” ภาวินีไม่ยืนหยัดต่อไปแล้ว “ได้ ก็ถือว่าไปพบกับเพื่อนธรรมดาก็แล้วกัน” ที่วัจสานึกถึงภาวินีเป็นเพราะว่า หนึ่ง เธอเป็นคุณผู้หญิงที่มีความเป็นสุภาพสตรีในวงเล็กๆ ถ้าเทียบกับตระกูลศรีทองแล้ว ถึงแม้ฐานะจะไม่ค่อยเหมาะสมกันเท่าไหร่ แต่ว่าตระกูลเดิมขุนทดก็ไม่ได้จนตรอกอะไร อย่างน้อยก็ไม่ได้มีระยะห่างกับตระกูลศรีทองมาก ถึงแม้ภายนอกภาวินีจะทำเหมือนฝืน แต่ในใจกลับรอวันนี้มานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ว่าเธอแค่ไม่รู้ว่าวัจสาจะช่วยเธอเพียงแค่ง่ายๆแค่นี้ ผู้หญิงคนไหนสามารถแต่งงานกับธัชชัย ล้วนเป็นความฝันของผู้หญิงเมืองSกันทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นเจ้าพ่อธุรกิจในเมืองS บริษัทโฮสติ้งสามารถได้รับผลกำไรกี่ล้าน ยังมีใบหน้าที่หล่อเหลาโดดเด่นอีก รูปร่างลักษณะบุคลิกล้วนดีไปหมด ไม่มีส่วนไหนที่ไม่น่าดึงดูดเลย ตั้งแต่ครั้งที่แล้วตอนที่ไปบ้านศรีทองเขาไม่ทันระวังมาแตะโดนภาวินี จากนั้นภาวินีก็ไม่เคยลืมเขาอีกเลย อยากมีความรู้สึกแบบนั้นอีกครั้งจริงๆ ถึงแม้จะเห็นจูบแรกระหว่างวัจสาและเขาแล้ว แต่ว่าก็เป็นแค่เพราะว่าวัจสายัยผู้หญิงไม่เอาหน้าคนนี้ไปอ่อยเขา เขาต้องไม่ชอบเธอแน่ๆ! ฉะนั้นเธอจะต้องจับโอกาสนี้ไว้! “อย่าให้ถึงเวลาแล้วไม่มีคน จะกลายเป็นความอับอายไปอีก” รสรินที่หยุดอยู่หน้าประตูพูดกระทบกระทั่ง “งั้นฉันก็จะให้วัจสาและวรพลรับผิดชอบ!” ภาวินีพูด พอวัจสาได้ยินแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าเธอทำเพื่อธัชชัย แต่ในใจก็มีความเจ็บปวด แต่ว่ายังไงแล้ววัจสาก็ไม่ได้จะให้ภาวินีอับอายขายขี้หน้า ถ้าเธอได้รับความอับอาย ตัวเองก็เหมือนถูกดูถูกไปด้วยไม่ใช่หรอ? …… วัจสาบอกว่าให้ภาวินีเลือกสถานที่เอง แต่ว่าถ้าพูดในมุมของคุณผู้หญิงที่เป็นสุภาพสตรีแล้ว เข้าใจการวางแผนที่เหมาะสม ฉะนั้นเธอจึงเลือกบ้านพักตากอากาศภูผา เป็นบ้านพักที่ใกล้ทั้งทะเลและภูเขา สดชื่นสบาย และยังโรแมนติดอีก อีกอย่างเธอไม่ได้แต่งหน้าเวอร์วังอะไรมากนัก เธอแต่งแค่อ่อนๆ ใส่ชุดสบายๆ ดูแล้วไม่ได้เหมือนจะมานัดบอดโดยเฉพาะ ภาวินีจะเก่งก็เก่งตรงนี้แหละ เธอมักจะอ่านใจผู้อื่นออก รู้ว่าควรทำอะไร และตัวเองก็จะไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด ในบ้านพักตากอากาศไม่ได้จองห้องไว้ แค่นั่งอยู่หน้าทะเล ธัชชัยยังไม่มา แต่วัจสากลับพบคุณผู้ผู้หญิงสามของตระกูลเดิมขุนทดจากที่ไม่ไกล ยังพา “เพื่อนๆ” ของเธอมาอีกด้วย “ภาวินี นั่นคือรสรินหรือเปล่า? ทำไมเขาถึงมาด้วยล่ะ?” วัจสาถามด้วยรอยยิ้ม สองพี่น้องคู่นี้ เพื่อที่จะแย่งผู้ชายคนเดียวกันหึงหวงกันมากจริงๆ ภาวินีเองก็ไม่ได้เครียด แค่ดื่มกาแฟนด้วยท่าทางที่สง่างาม “เธอหรอ น่าจะเตรียมตัวมาดูความตลกของฉันแหละ” ที่จริงแล้วไม่เพียงแต่รสรินที่มา คุณนายบ้านเดิมขุนทดก็มาแล้วด้วย วราลีและคุณหญิงคุณนายต่างก็นั่งอยู่ที่ไกลออกจากรสรินนิดหนึ่ง เธอเป็นห่วงเรื่องงานแต่งของลูกคนที่สองก็เลยตามมา ได้ข่าวว่าวัจสาจะหาคู่นัดบอดให้ภาวินี ฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคุณชายรองบ้านศรีทองอีกด้วย จะให้เธอไม่ตื่นเต้นได้ไงล่ะ? ต้องสำเร็จเท่านั้นห้ามล้มเหลว! เธอยังพาคุณหญิงคุณนายมากมายมาดูว่าลูกสาวตัวเองมีความสามารถขนาดไหนด้วย! “ภาวินี คิดไม่ถึงเลยว่าคุณน้าก็มาด้วย พวกเขาช่างเป็นห่วงเธอจริงๆ” วัจสาหันข้างแล้วพูดด้วยเสียงเบา ภาวินีหยักหน้าด้วยสีหน้าที่เฉยเมย “รู้ ไม่ต้องสนใจพวกเธอ พวกเรากินเสร็จก็กลับเถอะ” หัวใจของภาวินีตื่นเต้นจนไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าธัชชัยไม่มา ความสามารถของเพื่อนคุณแม่พวกนั้นของเธอ ที่ชอบเม้าท์เรื่องชาวบ้านไปทั่ว ไม่ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ ชื่อเสียงของภาวินีก็จะเสียหายแล้ว ไม่ต้องคิดจะเป็นคุณผู้หญิงสุภาพสตรีอะไรแล้ว ก็เป็นได้แค่เรื่องตลกในเมืองSก็เท่านั้น! -โปรดติดตามตอนต่อไป 08/11/2019- 
已经是最新一章了
加载中