ตอนที่ 128 การช่วยชีวิต
1/
ตอนที่ 128 การช่วยชีวิต
วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 128 การช่วยชีวิต
ตนที่ 128 การช่วยชีวิต พอเห็นว่าประตูห้องรักษาถูกเปิดออก คุณหมอภาคินยังมีท่าทางที่หายใจติดๆขัดๆอีก คุณภูษิตจึงรีบเดินขึ้นไปต้อนรับ “ลำบากคุณแล้วคุณหมอภาคิน ตอนนี้คุณชายใหญ่หลับไปแล้วครับ” คุณหมอภาคินโล่งอกไปไม่น้อย เขาไม่ได้ตอบคุณภูษิต เดินตรงไปที่เตียงของวรพลโดยตรง เขาดูแล้วสบายดีมาก ใบหน้าที่ถูกเผาไม่มีล่องลอยของความเครียดเลย คุณหมอภาคินรู้สึกประหลาดใจมาก เขารีบไปลองทดสอบลมหายใจที่จมูกของวรพล แล้วรีบตะโกน”แย่แล้ว!” มือของเขาได้เปิดผ้าห่มที่อยู่บนตัวของวรพลออกแล้ว คุณภูษิตเบิกตากว้าง “ไม่! คุณชายใหญ่……ทำไมเป็น……คุณชายใหญ่!” น้ำเสียงหดหู่จนทำให้ตกใจ เสียงดังแหบมาก เป็นเหมือนกับที่วรพลพูดเลย ความเร็วในการขับรถของธัชชัยยอดเยี่ยมมาก ฉะนั้นการขับรถเร็วมาก ระยะทางสี่สิบนาทีสามารถทำให้เขาถึงได้ภายในยี่สิบนาที มาถึงหน้าร้านผงลำไส้ เป็นเหมือนปกติที่มีผู้คนมากมาย หลังจากเขาจ่ายค่าผงลำไส้ของคนในแถวทุกคนเรียบร้อยแล้ว เขาก็สามารถได้รับผงลำไส้ชิ้นแรกที่สดๆร้อนๆ ในตอนที่จับผงลำไส้ไว้กำลังจะกลับบ้าน โทรศัพท์ของธัชชัยก็ดังขึ้น เขานำออกมาดู เป็นคุณหมอภาคิน เขาตกใจมาก รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรเกิดขึ้น “ธัชชัย นายรีบมาที่โรงพยาบาล พี่ของนายต้องการความช่วยเหลือ ระหว่างทางระวังด้วย” คุณหมอภาคินพูดด้วยคำพูดสั้นๆแล้ววางสายเลย เขากำลังช่วยชีวิตวรพลในรถพยาบาลของค่ายทหารพร้อมกับคุณหมอที่ทำการปฐมพยาบาล! เกิดเรื่องขึ้นจริงๆด้วย! ทันใดนั้นผงลำไส้ในมือของธัชชัยก็ตกลงบนพื้น หัวใจเขาวุ่นวายไปหมด จู่ๆก็คิดได้แล้วว่าทำไมพี่ชายใหญ่ถึงให้ตัวเองออกมาซื้อผงลำไส้ ถ้าหากเขาไม่ออกมา พี่ชายใหญ่ก็คงไม่เป็นอะไร…… พอพูดขึ้นมาแล้ว วัจสาเองก็อยู่หอมาสามวันแล้ว แต่ว่าคนในบ้านศรีทองไม่มีใครติดต่อเธอเลย และไม่มีใครโทรหาเธอด้วย แน่นอน เธอก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายโทรหาพวกเขาก่อน เธอแค่คิดว่าการแต่งงานเข้าไปในตระกูลศรีทองเป็นเพียงแค่การนอนหลับของตัวเอง แล้วฝันถึงเรื่องราวที่ไม่ใช่ความจริง แต่ว่าวัจสารู้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริงทั้งหมด ของบางอย่าง ถึงแม้เธอจะไม่ยอมรับ แต่ก็สลักอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ แวววัยมองดูวัจสาที่เป็นแบบนี้ ค่อยๆวางตะเกียบลง ถอนหายใจยาวอีกรอบ นี่เป็นการถอนหายใจรอบที่ร้อยที่เธอถอนใจสองวันนี้แล้ว วัจสาได้ยินเธอถอนหายใจ จึงรีบดึงสติกลับมา แล้วถามอย่างนุ่มนวลว่า “เป็นอะไรหรอ? ช่วงนี้เธอดูผิดปกตินะ” แวววัยดีดหัวเธอ “ฉันว่าสองสามวันนี้คนที่ผิดปกติคือเธอ! เธอรู้ไหมว่าสองสามวันนี้ฉันถูกเธอละเลยไปกี่ครั้งแล้ว? เหม่อลอยทุกวัน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่” ที่จริงแล้วหลังจากหนีออกมาจากบ้านศรีทอง วัจสาไม่ได้สบายชิวๆเหมือนที่เธอคิด ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะทำร้ายเธอ แต่ว่าในใจเธอไม่สามารถลืมได้ เคยรักจริงๆ จะลืมไปอย่างง่ายๆได้ไงล่ะ? ทุกๆยามค่ำคืนที่เงียบสงบเธอมักจะนึกถึงเรื่องราวเล็กๆน้อยๆของเธอ จากนั้นก็แอบร้องไห้ใต้ผ้าห่ม น้ำตาพวกนั้นหยดลงบนหมอนของเธอทีละหยดๆ เธอหนีออกจากความทรมานภายใต้ศีลธรรมและความรู้สึก แต่ร่างกายของเธอกลับไม่สามารถปล่อยวางได้ แต่ว่าเรื่องราวก็คงเป็นได้แค่นี้ มีหลายๆเรื่อง ก็ยังคงเก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจจะดีกว่า ถึงแม้จะลำบากก็ตาม “วัจสา เธอว่า ธัชชัยขี้จี้มากใช่ไหม? พวกเธอทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆ เขาก็ไม่รู้จักมาปลอบใจเธอ แล้วพาเธอกลับไปหรอ? หรือไม่ก็เหมือนกับครั้งก่อน……” พูดถึงครั้งก่อน แวววัยก็รู้สึกผิดจนพูดไม่ออก แต่ว่าเธอเองก็รู้สึกสงสัยจริงๆ ทำไมทะเลาะกันไปไม่กี่วัน แม้กระทั่งโทรศัพท์เดียวธัชชัยก็ไม่โทรมาหาวัจสา? ยังไม่ไถ่ถามอีก เธอรู้สึกว่าธัชชัยเองก็มีความรู้สึกกับวัจสา ไม่งั้นครั้งนั้นคงไม่เสียแรงขนาดนั้นเพื่อที่จะพาวัจสากลับบ้านศรีทองหรอก “ทำไมเขาต้องพาฉันกลับไป ฉันตัดสินใจจะไม่กลับไปสถานที่นั้นแล้ว……” วัจสาพึ่งคิดได้ว่าตัวเองหลุดพูดไป เรื่องที่ธัชชัยปลอมตัวเป็นวรพล เธอยังไม่ได้บอกใคร ปรมะก็ช่วยเธอปกปิดความลับนี้ “เธอนี่ ยังปากแข็งเหมือนเดิม เมื่อคืนตัวเองยังแอบร้องไห้แท้ๆ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ!” วัจสา “……” คิดไม่ถึงเลยว่าแวววัยจะฉลาดและสังเกตขนาดนี้ การกระทำเล็กๆแบบนี้ก็หนีเธอไม่พ้น แต่ว่าวัจสาไม่มีทางยอมรับแน่ เธอพูดต่อว่า “ถ้าหากว่าฉันคิดถึงพ่อแม่ ก็จะแอบร้องไห้เหมือนกัน” แวววัยกลับไม่สนใจเรื่องนี้ เธอถามต่ออีกว่า “ที่จริงแล้วพวกเธอ เธอและธัชชัย……ไปถึงขั้นไหนกันแล้ว? พวกเธอสองคนได้……อยู่ด้วยกันหรือยัง?” ที่จริงแล้วแวววัยอยากจะถามว่า พวกเขาเคยนอนด้วยกันหรือยัง แต่ว่าสีหน้าที่โศกเศร้าแบบนี้ของวัจสา ไม่ว่ายังไงแล้วก็ไม่ใช่เวลาที่จะถามเรื่องนี้ ก็เหมือนกับโรยเกลือบนแผลเธอ “เอาเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว! ถึงแม้เคยนอนด้วยกันยังไงเธอก็ไม่ยอมรับอยู่ดี” วัจสาเหลือเพียงแต่ไม่ได้เหลือกตาขาวให้เธอ ในเมื่อรู้อยู่แล้วก็ยังจะถาม? เธอเปิดหัวเรื่องในการพูดใหม่ “จริงด้วย พั่นจงซินยัยคนที่ไม่มีจิตใจนั่นยังตอแยเธออยู่หรือเปล่า?” “ไม่แล้ว ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ฉันไม่ทันระวังไปได้ยินที่เขาพูด ฉันก็ไม่ได้สนใจเขาอีกแล้ว เขาเองก็คงจะรู้ตัวแล้ว ก็เลยไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย” “ตอนนี้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังเรียนอยู่เลย พึ่งอายุยี่สิบเอง แต่ว่าเขาก็เป็นพ่อคนแล้วนะ” แวววัยพูดพลางยิ้ม ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร ต้องรู้ว่าผู้ชายที่หน้าตาดูดีแต่หัวใจโหดเหี้ยมนั้นปลอมตัวมาสามปีแล้ว ยากมากจริงๆ ยังปลอมได้เนียนและมีมารยาทมาก ราวกับคุณลุงที่จิตใจดีเลย สามปีมานี้บริจาคให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตลอดเวลา งานกุศลหรือกิจกรรมต่างๆเขาก็จะมาเข้าร่วม ที่จริงแวววัยรู้สึกซึ้งใจเขามาก แต่ว่ามีวันหนึ่งแวววัยไม่ทันระวังได้ยินคำพูดที่ถอดหน้ากากของคนๆนี้ออก วัจสาเงียบสงบลง คนเลวๆประเภทนี้ เขาไม่รู้ว่าควรจะวิจารณ์ยังไงดี “วัจสา ที่จริงในเวลาต่อมาฉันเคยถามเขาว่า ทำไมถึงเลือกมาจีบฉัน เธอทายดูว่าเขาบอกว่าอะไร?” รอยยิ้มบนใบหน้าของแวววัยยิ่งดูเบิกบานมากขึ้น ไม่ได้มีความรู้สึกแย่เลย “พูดว่าอะไร? เพราะเธอมีจิตใจดี เข้มแข็งหรอ?” วัจสาถาม “เฮอะๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็คงจะดี ฉันจะขอบคุณบรรพบุรุษของเขามาก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะพูดว่าเป็นเพราะครั้งแรกที่เจอฉัน คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ยังบริสุทธิ์อยู่ ให้ตายสิ ผู้หญิงที่บริสุทธิ์อย่างพวกเราไปทำผิดต่อบรรพบุรุษเขาหรอ? ถึงได้ถูกคนแบบนี้เอาไปเล่น? โชคดีที่ฉันไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเขา ถ้าติดกับเข้าไปแล้วงั้นก็เสียเปรียบทั้งคนทั้งหัวใจสิ” แวววัยทำหน้าตาอยากจะกินคน วัจสาอึ้งไปเลย คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนหนึ่งที่อ่อนโยนนุ่มนวลจะมีสายตาที่ต่ำต้อยแบบนี้ เขาเป็นพวกศักดินาหรอ? ในขณะที่ทั้งสองต่างก็เงียบ จู่ๆโทรศัพท์ของวัจสาก็ดังขึ้น พวกเขาเกือบจะตกใจจนหัวใจวาย แวววัยรีบพูดขึ้นว่า “ธัชชัยโทรมาแน่เลย” คำพูดนี้ทำให้วัจสารู้สึกตื่นตะโหนกมาก แต่ว่าความคาดเดาของเธอมักจะถูกทุกครั้ง ครั้งนี้คนที่โทรมาคือป้าอ้อย อีกอย่างยังเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเขาเองด้วย สิ่งที่วัจสาคิดได้คือป้าอ้อยต้องอยากโทรมาเพื่อช่วยธัชชัยพูดคำพูดดีๆแน่ เธอลำเอียงแต่กับเขามาโดยตลอด ในเรื่องๆนี้ เธอเองก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด! วัจสาให้โทรศัพท์ดังต่อไป แวววัยจึงพูดขึ้นว่า “วัจสา ทำไมเธอไม่รับล่ะ? ให้ฉันรับแทนไหม?” หลังจากพูดจบเธอก็รีบแย่งโทรศัพท์ของวัจสาไป แล้วรีบกดรับ เธอคิดว่าเป็นธัชชัย ยังไม่ทันรอฝ่ายตรงข้ามพูดเธอก็พูดก่อนแล้วว่า “ใช่คุณธัชชัยหรือเปล่าคะ? ฉันเป็นรูมเมทของวัจสาค่ะ” แวววัยพูดแนะนำตัวก่อนเลย คิดดูแล้วเขาคงจะจำตัวเองได้อยู่มั้ง? ที่จริงเธอหวังว่าวัจสากับธัชชัยจะมีความสัมพันธ์แบบนั้น แต่ก็หวังว่าจะไม่ใช่ เธอไม่รู้ว่าตกลงตัวเองเป็นอะไรกันแน่ “คุณแวววัย ฉันไม่ใช่คุณชายรอง ฉันเป็นคนรับใช้ของบ้านศรีทอง เรียกฉันว่าป้าอ้อยก็ได้แล้ว ตอนนี้ฉันอยู่หน้าประตูของมหาลัย รบกวนคุณช่วยบอกให้คุณผู้หญิงออกมาหน่อยได้ไหมคะ? ฉันมีของจะนำให้เธอ เป็นของที่สำคัญมาก” ป้าอ้อยพูดอย่างเร่งรีบผ่านทางโทรศัพท์ เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงจะยอมมาพบตัวเองหรือเปล่า แวววัยอึ้งไปสักพัก ในไม่ช้าก็ดึงสติกลับมาได้ จึงรีบตอบกลับ “ได้ค่ะๆ เดี๋ยวหนูบอกให้ค่ะ” จากนั้นก็วางสายลง “วัจสา คือป้าอ้อยบ้านศรีทอง เธอบอกว่าตอนนี้เธออยู่ที่หน้าประตูมหาลัย ให้เธอออกไปหน่อย มีของสำคัญจะเอาให้เธอ” “ฉันไม่ไป” วัจสาปฏิเสธอย่างเย็นชา เธอแอบคิดในใจว่า ธัชชัยผู้ชายคนนี้จะต้องคิดอะไรอยู่แน่ๆ ครั้งที่แล้วก็โกหกให้แวววัยหลอกตัวเองออกไปไม่ใช่หรอ? ยังสำเร็จด้วย ครั้งนี้ป้าอ้อยยับจะช่วยเขามาโกหกตัวเองอีก! เธอไม่โง่ขนาดนั้นหรอก! ถูกเขาเอาไปเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า “คุณผู้หญิงตระกูลศรีทองจะไม่ไปก็ช่างเถอะ แต่ฉันรู้สึกว่าป้าอ้อยไม่มีทางโกหกเธอแน่ เธออายุเท่าไหร่แล้ว? ให้เขารออยู่ข้างนอกแบบนี้ เธอสบายใจหรอ?” ประโยคนี้ของแวววัยทำให้วัจสารู้สึกกระวนกระวาย แต่ว่าก่อนหน้านี้ป้าอ้อยก็โกหกตัวเองเหมือนกันนิ เขารู้ว่าธัชชัยปลอมตัวเป็นวรพล แต่ก็ให้ความร่วมมือและไม่พูดออกมาด้วย แต่ว่าให้ผู้ใหญ่รอตัวเองอยู่ข้างนอก ทั้งลมพัดลมหนาว ยังไงเธอก็ทนไม่ได้ เธอห้ามแวววัยไว้ “แวววัย ฉันไปละกัน” หลังจากวัจสาออกไปก็เดินไปทางประตูมหาลัย ครั้งนี้เธอระมัดระวังมาก เพราะว่าเธอเองก็ถูกหลอกมาแล้วครั้งหนึ่งเธอคงจะจำไปตลอดชีวิต เธอไม่ได้พุ่งออกไปอย่างวู่วาม แต่กลับซ่อนอยู่ที่หลังต้นไหม้แล้วมองว่ามีแต่ป้าอ้อยคนเดียวจริงหรือเปล่า แต่ว่าตรงหน้าประตูมหาลัย เธอไม่ได้เห็นเงาของธัชชัยเลย เห็นเพียงแต่ป้าอ้อยที่ถือของอยู่ ยังจับขวดเก็บความร้อนไว้ด้วย เหมือนกับ ‘คุณแม่’ ที่กำลังรอลูกของตัวเอง วัจสาอยากจะร้องไห้ ไม่มีใจจะซ่อนอีกต่อไปแล้ว จึงเดินออกไป “ป้าอ้อย ป้ามาได้ยังไง?” “คุณผู้หญิง……ในที่สุดคุณก็ยอมเจอฉัน” พอป้าอ้อยได้ยินเสียงของวัจสา จึงรีบหันหลังไป แต่ว่ารอบนี้เปลี่ยนเป็นวัจสาที่อึ้งไปเลย ป้าอ้อยเหมือนแก่ลงภายในวันเดียว ผมขาวเยอะมากขึ้น แต่ว่าเธอดูแก่ลงเยอะมาก แค่เวลาสามวัน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้? วัจสารู้สึกตกใจมาก คงไม่ใช่ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกมั้ง? “ป้าอ้อย ป้าเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายหรอคะ? ทำไมดูป้าอ่อนแอลงเยอะเลย”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 128 การช่วยชีวิต
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A