ตอนที่ 176 ติดโรคอะไรนะ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 176 ติดโรคอะไรนะ
ต๭นที่ 176 ติดโรคอะไรนะ รอจนถึงคอนโด ดวงตาของวัจสาก็เปียกชุ่มไปทั้งสองข้าง ความเป็นห่วงเป็นใยของป้าอ้อยนั้นไม่ได้เป็นเรื่องเสแสร้ง อย่างน้อยที่ผ่านมา ป้าอ้อยก็เป็นคนดูแลทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเสื้อผ้าหรืออาหารการกินให้แก่เธอ เมื่อเห็นวัจสาหิ้วถุงผ้าอนามัยถุงใหญ่กลับมา แวววัยก็พูดกลั้วขำ “สา แกซื้อผ้าอนามัยหรอ? ซื้อแบบห่อใหญ่ซะด้วย? วันนั้นที่เธอคลื่นไส้ ฉันหล่ะก็นึกว่าเธอจะท้องลูกของธัชชัยซะอีก!ถ้าเป็นแบบนั้นหล่ะก็เธอก็จะได้ชื่อว่าเป็นแม่ของทายาทเลยนะ” แวววัยก็แค่พูดแซวเล่นเท่านั้น แต่อยู่ๆวัจสาก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ว่าถ้าเธอเกิดท้องขึ้นมาจริงๆ คนส่วนใหญ่ก็คงลงหลักปักไปว่าเป็นลูกของธัชชัยมากกว่าจะเป็นคุณชายใหญ่บ้านตระกูลศรีทองอย่างวรพล ด้วยเพราะเขาบาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกซะขนาดนั้นแล้ว จะมีแรงมีเพศสัมพันธ์กับใครได้ยังไง? โชคดีที่ผ้าอนามัยนี่สามารถอำพรางความคลุมเครือนั้นไปได้ “แม่ของทายาทอะไรเล่า เธอคิดว่าฉันเป็นสนมในวังหรือยังไงฮะ? อีกอย่างธัชชัยอ่ะร้ายจะตาย ใครจะรู้เขาอาจจะเป็นติดโรคหรืออะไรก็ได้” วัจสาไม่ได้อยากจะดูถูกดูแคลนเขานัก แต่ด้วยตอนนี้เธอยังคงตระหนกใจอยู่จึงพูดอะไรโดยไม่คิด แม้ว่าป้าอ้อยกับแวววัยจะเป็นห่วงเป็นใยเธอ แต่เธอก็ไม่ค่อยอยากเอาเรื่องของตัวเองไปรบกวนพวกเขาเสียเท่าไหร่นัก หากพวกเธอรู้เข้ามันก็ยากที่จะปกปิดไม่บอกธัชชัย เมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะยิ่งยากเข้าไปอีกที่จะปกปิดเรื่องของเจ้าตัวเล็ก แม้ว่ามันจะไม่ง่ายเลยสำหรับเธอที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียว แต่เธอก็อยากที่จะดั้นด้นทำมันต่อไปอยู่ดี เธอในตอนนี้ หัวใจปริ่มเต็มร้อย เธอเปลี่ยนเป็นคนหาญกล้า ไม่หลงระเริงในการทำผิดศีลธรรม เธอนึกคิดเพียงแค่เด็กที่อยู่ในท้องของเธอตอนนี้จะมีชีวิตที่ดีและอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตนับแต่นี้เท่านั้น “ติดโรค?คงไม่ใช่โรคซิฟิริท หรือเอดส์หรอกใช่ม้า?…” แท้จริงแล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่มีธัชชัยมาเอี่ยวด้วย แวววัยก็จะตื่นเต้นกระตือรือร้นหมดนั่นแหล่ะ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดีหรืออะไรก็แล้วแต่ หากมีเพียงชื่อธัชชัยขึ้นมา ตาของแวววัยก็จะส่องแสงเป็นประกายวิบวับทันที มันเป็นความฝันของเด็กหญิงทุกคนที่ว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงแล้วจะมีเจ้าชายที่จะมาอุ้มเธอกลับพระราชวังไปเป็นของตัวเอง ซึ่งเขาผู้นั้นต้องทั้งกล้าหาญและร่ำรวย แถมยังมีเสน่ห์เหลือล้น นั่นก็เลยเป็นปกติที่แวววัยจะคิดแบบนั้น แล้วก็พอดีกับที่ว่าธัชชัยก็ดันมีรูปลักษณ์ที่พอเหมาะพอเจาะ ที่ทั้งหล่อรวย แถมยังฉลาดกระทั่งเป็นผู้บริหารบริษัทร่วมทุนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองS แถมยังโสดอีกต่างหาก แบบนี้แล้ว เขาจะไม่เป็นชายที่สาวน้อยสาวใหญ่พร่ำฝันถึงได้ยังไงหล่ะ? “...แค่กๆๆ”วัจสาไม่คิดว่าแวววัยจะมีความคิดไปในทางนั้น โรคแบบนั้น…ก็สกปรกไปหน่อยมั้ยหล่ะ คุณชายเขาก็ออกสะอาดเนี้ยบซะขนาดนั้นไม่ใช่? คงไม่ปล่อยโรคสกปรกๆแบบนั้นเข้ามาอยู่ในตัวเป็นแน่ “ฉันหมายถึงโรคหยิ่งผยอง โรคจิต แบบพวกควบคุมตัวเองไม่ได้นั่นต่างหากหล่ะ!”เธอพูดด้วยความโมโห “โรค”ที่เธอพูดมาก็คือมีในตัวเขาหมดนั่นแหล่ะ โรคหยิ่งผยองนั่นก็คือ เขาไม่เคยจะสนใครเลย พูดได้ว่า ไม่แม้แต่จะแล ถ้าไม่หยิ่งผยองเขาจะกล้าล่วงเกินเธอเองที่เป็นพี่สะใภ้แบบนี้อย่างนั้นหรอ? เธอขัดขืนด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่พอที่จะต้านทานความร้ายกาจของชายคนนี้ได้ สำหรับที่บอกว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้นั่นหน่ะ บางทีเขาก็เอาความโมโหมาลงกับตัวเอง ถ้าไม่เรียกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้งั้นต้องเรียกว่าอะไรหล่ะ? “ฮ่าๆๆๆ สาเธอนี่พูดได้น่าฟังดีนะ” แวววัยหัวเราะแบบงอหาย “แต่ว่านั่นไม่ใช่เสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของธัชชัยอย่างนั้นหรอ?มันเป็นบุคลิกของท่านประธานที่ฉันสุดแสนจะหลงรัก ” “....”วัจสาหมดคำพูดกับเธอคนนี้จริงๆ เห็นได้ชัดว่าแวววัยของเธอได้ถูกธัชชัยครอบงำไปหมด เห็นได้ชัดว่าตาของเธอน่าจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง เสน่ห์เนี่ยนะ คนมีบุคลิกพิลึกแบบนั้นเนี่ยนะ จะเอาเสน่ห์ มาจากไหนก่อน? “รักๆๆจ้า อ่ะนี่ซุปไก่เกาลัดให้แด่ความรักของเธอไปเลย ดูสิว่ามันพอจะปิดปากเธอได้บ้างไหม? ”พูดจบวัจสาก็ส่งขวดเก็บความร้อนให้แวววัย ซุปไก่กลิ่นอบอวลหอมหวาน แต่เมื่อวัจสาได้กลิ่นมันเธอรู้สึกว่าท้องของเธอดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมา ด้วยเพราะเธอไม่ได้ดื่มอะไรเลย “อ้อที่ผ่านมาที่แกไม่ได้ไปกินข้าวกับฉัน เพราะมีคนให้ของกินมาแล้วนี่เองใช่ป้า? ”แวววัยพูดหยอกล้อพลางดื่ม ป้าอ้อยทำซุปนี้มาอย่างยาวนาน แค่ดื่มอึกเดียวก็รู้สึกสดชื่นอย่างที่สุด “นี่สา แกเป็นถึงคุณผู้หญิงตระกูลศรีทองที่เป็นตระกูลใหญ่ขนาดนั้น ทำไม้ทำไมแกไม่อยู่บ้านเป็นคุณนายดีๆ มาอยู่กับฉันที่ดูเหมือนบ้านหมาของบ้านเธอทำไมกัน? เตียงราวกับมังกรจักรพรรดิแบบนั้นก็ไม่ต้องการหรอกหรอ?” “แกไม่รู้ว่าบนเตียงยังมีงูอสรพิษหน่ะสิ” วัจสาพูดเสียงแผ่วเบา กนิษฐายังอยู่ในบ้านนั้นอยู่ เธอผู้ซึ่งเป็นภรรยาตามกฏหมายก็ต้องระเห็จออกมาแหล่ะ “แกพูดอะไรของแกหน่ะ?” แวววัยถามด้วยความสงสัย “เปล่าๆ ฉันบอกว่าตำแหน่งสะใภ้บ้านตระกูลศรีทองของฉันต่อไปก็คงไม่มีแล้วหล่ะ ฉันควรจะถอยออกมาให้ เพราะว่าหญิงที่อยู่ในใจของวรพลเธอกลับมาแล้ว อีกทั้งตอนนี้ก็อยู่ที่บ้านตระกูลศรีทองอีกด้วย เธอสุดยอดมากเลยนะ ที่สามารถปลุกวรพลให้ฟื้นขึ้นจากอาการโคม่า แกรู้ไหมว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่? 10ชั่วโมงเต็มๆเลยนะ...ตัดภาพมาที่ฉันที่ทำอะไรไม่ได้เลย แล้วยังจะมีน่าอยู่ที่นั่นอีกได้ยังไงหล่ะ?” 
已经是最新一章了
加载中