ตอนที่66ขมขืน(3)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่66ขมขืน(3)
ต๭นที่66ขมขืน(3) ปรพลปรับลดเสียงทีวีลงแสดงความเห็นตอบกลับชนนนว่าไม่ใช่ผิดที่เด็กจรินทร์อยู่ในบ้านคุณไม่ใช่ว่าอะไรก็ไม่ให้เธอทำหรอกหรือ มันจะเหมือนกันได้ยังไงค่ะแม่เป็นคนมีความสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วเปรียบกับท่านป้าเก่งกว่าร้อยเท่าจรินทร์ขยับมุมปากเปิดประตูเดินออกไป ซื้อผลไม้เสร็จกลับมาถึงบ้านเพิ่งจะพักได้ไม่ถึงห้านาทีครอบครัวของลุงกันต์ธีร์พอดีมาถึงด้านนอกกำลังเคาะประตูบ้าน มณีจันทร์เดินไปเปิดประตู “สวัสดีค่ะ,คุณลุงคุณป้า。”กชกรพอเข้าประตูมาก็ยิ้มอย่างอ่อนหวาน จรินทร์ยิ้มรับพร้อมกล่าวทักทายลุงกันต์ธีร์และป้าฉัตรฤดี“ลุงใหญ่,ป้าใหญ่สวัสดีค่ะ。” กันต์ธีร์เปลี่ยนรองเท้าเรียบร้อยยิ้มแล้วมองดูจรินทร์“โอ้โห่,จรินทร์โตสวยเป็นสาวแล้วน่ะ,ฟังน้องสาวเธอบอกว่า,เธอถูกพวกนักเลงด้านนอกหลอกทำสัญญาหรอ?” พูดจบเขาก็หันไปทางห้องรับแขกมองหาร่างของปรพลน้องเขยไม่ใช่ว่าฉันโทษคุณน่ะ,คุณยังไม่ใส่ใจในการอบรมสั่งสอนจรินทร์เท่าที่ควร,เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆจะเข้าใจอะไรหนักเบาได้ล่ะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ทำไมพวกเธอถึงยอมให้เธอหมั่นด้วยตนเองล่ะ,ลูกผู้หญิงทำไมถึงมักง่ายแบบนี้。” จรินทร์หุบรอยยิ้มลง อย่างไม่มีเหตุผลเธอนึกถึงผู้ชายที่ราวกับเทพบุตรคนนั้นถูกเรียกว่านักเลงหัวไม้ในใจของเธอรู้สึกว่าไร้รสชาติ ตอบกลับด้วยใบหน้าเย็นชาว่า“เขาไม่ใช่นักเลงหัวไม้!” สีหน้าของปรพลเปลี่ยนเป็นดำเหมือนก้นหม้อไปในทันทีสายตาจ้องไปที่เธอพูดด้วยความโกรธว่า“จรินทร์ครั้งนี้นับว่าบ้าบิ่นเกินไปบ้าง,แต่ว่าฉันก็ได้สั่งสอนเธอไปแล้ว,การแต่งงานนี้,ต้องให้เธอยกเลิกแน่นอน。” กชกรมองดูความวุ่นวายโดยไม่สนว่าเรื่องจะใหญ่โตอยู่ด้านข้างชื่นชมต่อคราวเคราะห์ของคนอื่นใช้ข้อศอกสะกิดเอวของกันต์ธีร์“พ่อพ่อไม่ต้องพูดแล้วพี่สาวหนูใส่ใจต่อผู้ชายคนนั้นมากไม่เห็นหรอว่าพี่สาวหนูแสดงสีหน้าไม่พอใจแล้วถ้าพ่อพูดต่อไปพี่สาวของฉันต้องไม่ชอบหน้าพ่อแน่ๆ。” “โถ่เอ่ยครอบครัวเดียวกันพูดนิดหน่อยจะกลัวอะไรพวกเธอหญิงสาวเยาว์วัยไม่มีประสบการณ์อะไรดังนั้นจึงถูกหลอกลวงได้ง่ายหลายวันมีข่าวหนึ่งพูดถึงผู้ชายคนหนึ่งแกล้งแต่งเป็นคนรวยหลอกเอาเงินจากนักเรียนสาวมหาวิทยาลัยไปตั้งหลายหมื่น……”เริ่มมีท่าทีว่าจะไม่หยุด ฉัตรฤดีก็สอดปากขึ้นพูดเสริมช่วยเหลือว่า“ใช่แล้วล่ะหนูจรินทร์ของพวกเรามีเงื่อนไขดีขนาดนี้ถึงอย่างไรก็ต้องหาตระกูลที่มีพื้นฐานเหมาะสมกันพวกคนชั้นล่างที่มีดีแค่หน้าตาจะได้อย่างไร?ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกนักเลงหัวไม้ทุกวันนี้ราคาบ้านที่เมืองเมฆสูงขึ้นทุกวัน,หลายวันก่อนพื้นที่ตึกใหม่ข้างบ้านฉัน,ราคาเปิดขายพื้นที่3.3เมตรก็มากถึงสามหมื่นแปดพันบาทแล้วน่ะ!” ในสายตาของฉัตรฤดีมีเพียงแค่ผลประโยชน์เมื่อมองดูปัญหาจึงมักจะมองจากผลประโยชน์เป็นจุดเริ่มต้น พวกเขาทั้งบ้านซ้ายก็นักเลงหัวไม้ขวาก็นักเลงหัวไม้ฟังจนแม้แต่มณีจันทร์ยังรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาทำหน้าบึ้งตึงไม่ตอบโต้ กันต์ธีร์เห็นเหตุการณ์สะกิดฉัตรฤดีครั้งหนึ่ง“คุณรีบไปดูในห้องครัวสิว่ามณีจันทร์มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า。” ปรพลใช้สายตาจ้องมองจรินทร์ปากทางหนึ่งกล่าวทักทายกันต์ธีร์และฉัตรฤดีตามมารยาททางหนึ่งนำพาทั้งสองไปยังห้องครัว ฉัตรฤดีมองเห็นอาหารมากมายหลายอย่างวางอยู่บนโต๊ะก็ยิ้มออกมาก้าวยาวๆเข้าไปนั่งไม่พูดอะไรทั้งสิ้นจับตะเกียบคีบกับข้าวว้าว,มณีจันทร์ทำอาหารมาก,มีทั้งเมล็ดถั่วเหลือและขาหมู่ตุ๋นด้วย,อันนี้ฉันชอบกินที่สุด,งั้นก็ไม่เกรงใจเริ่มเลยแล้วกันน่ะ。” กินกินกิน,กินให้ตายไปเลยพวกเธอ! จรินทร์รำพึงในใจไม่พูดอะไรสักคำก็หันกลับเข้าห้องไปแต่กลับลืมนำเอาโทรศัพท์ที่พกมาด้วยวางไว้ที่บนโต๊ะน้ำชากลับไปด้วย เวลานั้นขณะที่เธอเพิ่งปิดประตูห้องนอนลงแสงไฟจากโทรศัพท์ก็กระพริบขึ้น กชกรเนื่องจากว่าวันนี้กินมาจากข้างนอกแล้วจึงได้แต่ยืนอยู่ในห้องรับแขกชื่นชมภาพบนฝาผนังที่จรินทร์ได้เปะไว้เหล่านั้น เธอสังเกตเห็นโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะชาที่กำลังมีไฟกระพริบได้โดยไว ปรพลกับมณีจันทร์ทั้งสองกำลังรับประทานอาหารพูดคุยอยู่กับฉัตรฤดีกับกันต์ธีร์ในห้องครัวไม่ได้สังเกตความเคลื่อนไหวต่างๆที่เกิดขึ้นในห้องรับแขก กชกรรีบค่อยขยับไปก้าวเข้าไปโทรศัพท์ของจรินทร์ใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ทางหนึ่งเดินไปทางห้องน้ำทางหนึ่งหันไปพูดกับมณีจันทร์ว่า“ป้าค่ะ,หนูไม่สบายท้อง,ไปห้องน้ำสักครู่นะคะ。” “ได้จ้ะ,กชกร,หนูไปเถอะ。” กชกรเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็วและรีบปิดประตูลงกลอนลงในทันทีแล้วกดเปิดโทรศัพท์ของจรินทร์ ข้อความตอนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อสายตา “พรุ่งนี้เย็นตอนหนึ่งทุ่ม,โรงแรมสะวิทแลน。” เปลือกตาของกชกรกระตุกขึ้น เกิดเป็นคนเมืองเมฆเธอเข้าใจโดยอัตโนมัติว่าโรงแรมสะวิทแลนแห่งเมืองเมฆเป็นหนึ่งในโรงแรมห้าดาวของที่นั้น แต่นี้ไม่ใช้ประเด็นสำคัญประเด็นสำคัญคือคนที่ส่งข้อความเข้ามา สามารถไปสถานที่ที่ระดับสูงเช่นนี้ได้ต้องไม่ใช่เพื่อนนักเรียนหรือว่าญาติคนข้างกายของจรินทร์แน่นอนคนที่ตระกูลวิสุทธิกุลชัยรู้จักมีแต่ธรรมดาสามัญทั่วไป ในคนทั้งหมดที่จรินทร์รู้จักเธอนึกอยู่ครึ่งค่อนวันก็นึกถึงคนที่เป็นไปไม่ออกอีกทั้งชื่อนามสกุลของคนที่ส่งข้อความนี้ถูกบันทึกไว้ว่า“ปีศาจหัวโต”ทำให้เธอคิดอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้ ทันใดนั้นกชกรเกิดประกายความคิดขึ้นเพียงครู่เดียวก็นึกถึงข่าวลือขึ้นหลายวันก่อนในห้องกิจกรรมผู้ชายที่ส่งแหวนเพชรให้จรินทร์คนนั้น เธอรีบกดเข้าไปดูเบอร์โทรศัพท์ของปีศาจหัวโตแล้วบันทึกลงในโทรศัพท์ของตัวเอง เมื่อเธอพบเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยเลขหกและเลขแปดนั้นรู้สึกตกใจจนใบหน้าแทบบิดเบี้ยว จรินทร์นางตัวดีมิน่าล่ะครั้งนี้ถึงได้รวบรัดชัดเจนไม่พูดมากความก็สลัดณภัทรทิ้งที่แท้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักเป็นคนที่มีเงิน หลังจากบันทึกเบอร์โทรศัพท์เสร็จแล้วกชกรรีบใช้โทรศัพท์ของจรินทร์ตอบกลับข้อความไปว่า“คุณรอฉันอยู่ที่ไหน?” โรงแรมสะวินแลนใหญ่อย่างนั้นทั้งหมดมีแปดสิบกว่าห้องโรงอาหารหรูหราก็มีตั้งสิบกว่าร้านแล้วไม่ถามให้ชัดเจนใครจะรู้ว่าจะพบได้ที่จุดไหน รอประมาณสองนาทีผ่านไปไม่พบการตอบกลับกชกรรีบส่งข้อความเสริมไปอีกหนึ่งข้อความว่า“รีบพูดสิ,ตอบให้เร็วๆหน่อยได้ไหม,ฉันรอไม่ไหวแล้วน่ะ!” คิดไม่ถึงว่าหลังจากข้อความนี้ถูกส่งออกไปยังไม่ถึงห้าวินาทีฝ่ายตรงข้ามกลับโทรเข้ามาโดยตรง ตกใจจนกชกรรู้สึกว่ามือที่จับโทรศัพท์ลวกมือรับก็ไม่ใช่ไม่รับยิ่งไม่ใช่ 
已经是最新一章了
加载中