บทที่72 มองออกได้ยังไง(3)   1/    
已经是第一章了
บทที่72 มองออกได้ยังไง(3)
บ๗ที่72 มองออกได้ยังไง(3) นภสรร้อนใจขึ้นมาในทันที“ไม่ไม่ไม่ฉันไม่ต้องการลางาน” ในใจของเธอเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมแต่พอเห็นใบหน้าอันเย็นชาของชโนดมก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกได้แต่มองชโนดมด้วยสายอ่อนโยนจากนั้นเดินออกไป หลังจากนภสรเดินออกไปชโนดมกลับวางปากกาลงเอนกายไปด้านหลังพิงพนักเก้าอีก ต่อหน้าปรากฏภาพของภรรยาตัวน้อยที่เขาเพิ่งแต่งเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้ หลายวันมานี้ภาพของเธอมักปรากฏอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา ทุกครั้งที่ปรากฏมักจะอยู่ในท่าทางที่แตกต่างกันซุกซนน่ารักเยือกเย็นแม้กระทั่งท่าทางขมวดคิ้วแสดงความโกรธ จวบจนปัจจุบันเธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาใจสั่นมากที่สุดเปรียบกับนภสรที่มีมารยาอยู่ต่อหน้าเขาทำเป็นสงบเสงี่ยมเจียมตัวแล้วยังมีความจริงใจมากกว่า เธอเมื่อยามอยู่ต่อหน้าเขาบางครั้งอ่อนหวานบางครั้งเข้มแข็งบางครั้งขี้อายเหล่านี้แค่เล็กน้อยเมื่อเธอไม่พอใจยังเอาแต่ใจต้องการทะเลาะจงใจต่อกรกับเขามักทำให้เขาโกรธจนหัวใจคันยากจะเกาอยากจะจับเธอกดลงพื้นปฏิบัติตามกฎบ้าน คิดไปคิดมามุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มออกมา บรรพตนำเอกสารเข้ามาในห้องพบเห็นภาพนั้นประธานของพวกเขากำลังยิ้มลักษณะอาการเหมือนมีความสุขอยู่บนสรวจสวรรค์ บรรพตอดไม่ได้ที่จะตะลึงนี้คือบอสที่หน้าเย็นชาปานน้ำแข็งของพวกเราใช่ไหม? กระแอมขึ้นทีหนึ่งก้มหน้าเดินเข้าไป“คุณชโนดมข้อมูลที่ท่านต้องการครับ。” ขณะที่บรรพตปรากฏตัวรอยยิ้มมุมปากของชโนดมหายไปในทันทีรวดเร็วเหมือนดังว่ารอยยิ้มนั้นไม่เคยปรากฏมาก่อนเขาหยิบเอกสารขึ้นมาดูรอยเส้นบนใบหน้ากลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง บ่ายหกโมงเย็นงานเสร็จสิ้นลงชโนดมให้บรรพตขับรถไปส่งที่ปากทางเข้าโรงแรมสะวิทแลน วันนี้เขาเรียกจรินทร์มาเพื่อต้องการพาเธอไปชมสวนกุหลาบที่มีชื่อเสียงของสะวิทแลนที่นั้นนอกอาหารที่ร้านอาหารมีรสชาติไม่เลวแล้วยังมีสวนดอกไม้กว้างใหญ่โล่งแห่งหนึ่งปลูกดอกกุหลาบนานาชนิด ล้วนแล้วแต่เป็นชนิดที่หาได้ยากกุหลาบสามสีมีเหลืองขาวน้ำเงินม่วงดำเขียวล้วนแต่เป็นประเภทที่หาไม่ได้ในเมืองนี้ ปกติเขาเห็นคนมีชื่อเสียงทั้งหลายที่เมืองเมฆพากันเลือกดอกกุหลาบที่สวนกุหลาบจึงอยากจะพาจรินทร์ไปเลือกดอกกุหลาบที่ตนเองชมชอบดูบ้าง ทำให้ผู้หญิงเบิกบานใจไม่พ้นใช้วิธีเหล่านี้ หกโมงห้าสิบนาทีรถจอดลงที่โรงจอดรถโรงแรมสะวิทแลน ชโนดมขึ้นลิฟท์วีไอพีตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ของโรงแรมมองหามุมสงบมุมหนึ่งตรงตามตำแหน่งทีได้นัดไว้และนั่งลงรอจรินทร์ น่าเสียดายด้วยฐานะของเขาที่เมืองเมฆไม่ว่าจะไปที่ไหนต้องเป็นจุดเด่น ผ่านไปไม่นานผู้จัดการโรงแรมยกกาแฟและถาดผลไม้มาด้วยตนเองชโนดมใช้เวลาอย่างยาวนานกว่าจะไล่ให้พวกเขากลับไป แต่ว่าผู้จัดการเพิ่งจากไปหนึ่งในเจ้าของโรงแรมสะวิทแลนตระกูลชั้นสองแห่งเมืองเมฆผู้หนึ่งได้รับข่าวก็รีบวิ่งมาหาด้วยตนเองทำการต้อนรับด้วยความเป็นกันเองสองเท้ายื่นอยู่บนพื้นไม่ไปไหนทำให้ผู้คนรู้สึกรำคาญใจเป็นอย่างมาก ชโนดมรู้สึกรำคาญมองดูนาฬิกาหนึ่งทุ่มสิบนาทีน่าจะใกล้ถึงแล้วจึงพูดกับคนด้านข้างด้วยใบหน้าเย็นชาว่า“ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวของผมหากว่าคุณต้องการพูดเรื่องธุรกิจอาทิตย์หน้าให้นัดหมายกับเลขาของผม。” คนของตระกูลชั้นสองผู้นี้เป็นคนฉลาดผู้หนึ่งเมื่อชโนดมพูดถึงขนาดนี้หากจะแข็งขืนดึงดันต่อไปคงจะมีผลตรงข้าม เขาไม่เก็บพับความคิดไว้ก็ไม่ได้ผงกศีรษะกล่าวคำอำลา“งั้นคุณทำธุระของคุณถ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยเหลือสามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลา!รับรองเรียกเมื่อไหร่ถึงเมื่อนั้น!” ชโนดมใบหน้านิ่งสายตามองไปยังที่อื่น คนนั้นรู้จักสถานการณ์จึงได้ถอยออกไป ในเวลานั้นด้านนอกโรงแรมสะวิทแลนรถแท๊คซี่คันหนึ่งจอดลงหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ เธอหลังจากลงจากรถก็ก้าวเท้าออกเดินด้วยความมั่นใจตรงเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ โรงแรมห้าดาวอย่างสะวิทแลนนี้กชกรถึงแม้จะเคยมาเป็นครั้งแรกแต่ว่าเธอมีความสงบนิ่งยิ่งกว่าเวลาไหนไหนใบหน้าพกไว้ด้วยรอยแห่งความมั่นใจทุกก้าวเดินไปอย่างสวยงามดุจดังนางแบบ เพื่อการนัดหมายในวันนี้ตอนบ่ายเธอยินยอมจ่ายเงิน4000เหรียญซื้อชุดราตรีตัวหนึ่งและจ่ายเงินหนักเพื่อไปทำผมใหม่ เธอมีความมั่นใจเธอในตอนนี้เปรียบกับคนมีชื่อเสียงพวกนั้นต่างกันไม่เท่าไหร่ เมื่อมาถึงจุดนัดหมายทิศตะวันออกเฉียงใต้เพียงสายมองกชกรก็พบเห็นผู้ชายสูงใหญ่คนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา บุรุษมีลักษณะเยือกเย็นสูงส่งเอนหลังพิงพนักโชฟาทุกประการราวกับสวรรค์สรรสร้างนัยน์ตาลึกล้ำราวห้วงจักรวาลเหมือนดังว่ามองเพียงครั้งเดียวจะถูกดูดกลืนเข้าไป มองเห็นตนเองเดินเข้าไปบุรุษรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างวงคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อยมองดูเธออย่างเฉยเมย เพียงแค่การกระทำที่เรียบง่ายแค่นี้พรีบตาเดียวบรรายากาศในตัวเขาเปลี่ยนเป็นดูชั่วร้ายเย็นชาสะกดจนกชกรมองดูจนซึมเซา เธอยืนอยู่กับที่เวลาผ่านไปในหูไม่ได้รับรู้เสียงใดใดสัมผัสได้เพียง“ตึงตึงตึงตึง”เสียงของหัวใจร่ำร้อง! 
已经是最新一章了
加载中