บทที่83 ธรรมสูงหนึ่งคืบมารสูงหนึ่งศอก(3)   1/    
已经是第一章了
บทที่83 ธรรมสูงหนึ่งคืบมารสูงหนึ่งศอก(3)
บ๗ที่83 ธรรมสูงหนึ่งคืบมารสูงหนึ่งศอก(3) ชโนดมในที่สุดก็ทำตามที่เธอได้คาดหวังพูดบอกกล่าวด้วยเสียงเรียบคำหนึ่ง“ผมไปโทรศัพท์สักครู่。” แล้วลุกขึ้นจากเสือทาทามิถือโทรศัพท์เดินออกไปทางด้านหน้าต่าง เหมือนกับกำลังฝากไปถึงผู้ช่วยของเขาให้จัดการเรื่องราวเกียวกับงานอะไรสักอย่าง ตำแหน่งที่ชโนดมหันหลังให้กับจรินทร์พอดีอีกทั้งกำลังพูดคุยอยู่ตลอดเวลาภายในเวลาอันสั้นไม่หันกลับมาแน่นอน สิ่งนี้ทำให้จรินทร์เกิดความยินดีอย่างมากเธอเปลี่ยนเป็นเผยโฉมด้านมืดยื่นกรงเล็บออกมา ลักลอบใช้ตะเกียบพลิกซูชิชิ้นหนึ่งที่อยู่บนจานของชโนดมบีบวาซาบิลงไปบนก้อนข้าวหลังจากนั้นก็เอาแผ่นเนื้อปลาวางปิดลงไปด้านบนเหมือนเดิม ตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลาประมาณสามวินาทีตลอดเวลาชโนดมยืนคุยโทรศัพท์ไม่ได้หันกลับมา เมื่อทำครั้งแรกสำเร็จยิ่งทำให้เธอเพิ่มความกล้ามากขึ้นต่อจากนั้นจรินทร์ใส่วาซาบิลงในซูชิแต่ล่ะชิ้นที่อยู่ในจานของชโนดมไล่ไปจนครบหมดทุกชิ้น จินทร์ไม่ได้สังเกตว่ากระจกเมื่อมืดค่ำลงจะเกิดแสงสะท้อนกลับเรื่องไม่ดีที่เธอกำลังทำอยู่นั้นการกระทำที่ซุกซนนั้นทุกอย่างล้วนปรากฏอยู่ในกระจกทั้งสิ้น เธอคิดว่ากระทำแบบภูตเทพไม่ระแคะระคายยิ้มออกมาอย่างสบายใจในใจนึกถึงฉากสนุกสนานที่ชโนดมกลับมาถูกวาซาบิทำพิษ ผ่านไปอีกห้านาทีโดยประมาณในที่สุดชโนดมฝากฝังงานเสร็จสิ้น ปิดโทรศัพท์ลงชโนดมหันกลับมามองดูจรินทร์เชิงยิ้มไม่เชิงยิ้มถามว่า“กินอิ่มแล้ว?” “อ๊า”จรินทร์ชะงักไปสักพัก เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการพูดกับชโนดมต้องใช้สมองให้มากเปลี่ยนเป็นพูดให้ถูกต้องก็คือใจต้องคิดวิเคราะห์ตลอดเวลา อย่างเช่นตอนนี้ถ้าเธอบอกว่ากินอิ่มแล้วตามนิสัยที่ไม่ปกติทั่วไปของชโนดมไม่แน่ว่าไม่พูดไม่จาพาเธอเดินออกไปจากร้าน ดังนั้นจรินทร์คิดไตร่ตรองประมาณสองวินาทีจึงตอบเป็นกลางๆว่า“พอประมาณแล้วล่ะแต่ว่าฉันอยากจะเพิ่มอีกสักหน่อยซูชิบนจานคุณยังกินไม่หมดเลยนี้สิ้นเปลืองอาหารเป็นเรื่องน่าอาย” ชโนดมไม่ได้โต้แย้งอะไรเดินเข้าไปนั่งลงตามความต้องการของเธอ จรินทร์รีบรินน้ำชาแล้วยกเข้าไปให้พูดเสริมขึ้นว่า“ชโนดมค่ะคุณรีบกินซูชิสิกินไปด้วยทำงานไปด้วยแบบนี้จะทำให้เจ็บกระเพาะน่ะ” ชโนดมรับน้ำชาอย่างไม่เร่งรีบหลังจากดื่มไปสองคำเงยหน้าขึ้นช้าๆมองไปที่เธอพูดเสียงเรียบว่า“เรียกผมว่าสามี” “อ๊า?”จรินทร์ไม่เข้าใจว่าทำไม หมายความว่าอย่างไรกินข้าวก็กินข้าวสิทำไมถึงเปลี่ยนเป็นหวานเลี่ยนกะทันหันแบบนี้ ชโนดมวางถ้วยน้ำชาลง“คุณเรียกผมว่าสามีแต่โดยดีเมื่อใจของผมดีขึ้นมาบ้างแล้วสักครู่จะได้กินสักหลายชิ้น” อ่ออ่ออ่อที่แท้เป็นอย่างนี้ จรินทร์ใจเบิกบานเป็นที่สุดทำตามที่เขาบอกอย่างไม่ลังเลเรียกด้วยความร่าเริงว่า“สามีค่ะกินซูชิเยอะๆนะคะ” ลักษณะท่าทางนั้นต้องการความซื่อสัตย์มีความซื่อสัตย์ต้องการกฎมีกฎเหมือนกับกระต่ายอ้วนพีตัวหนึ่งทั้งน่ารักทั้งไม่มีพิษภัย ชโนดมมองดูจนสายตาพร่ามัวอดใจไม่ไหวอยากจะจับเธอกลืนลงไป แต่เขาทำใจไม่ได้ที่จะเห็นแผนที่เธอวางไว้ผิดพลาดจึงทำได้แต่อดทนเล่นละครเป็นภรรยาตัวน้อยของเขาต่อไป ชโนดมจับตะเกียบขึ้นอย่างไร้เสียงภายใต้สายตาที่จับจ้องมาอย่างคาดหวังของจรินทร์คีบชูชิขึ้นชิ้นหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังจะคีบเข้าปากอยู่นั้นอย่างฉับพลันเขาก็หยุดตะเกียบลง สายตาที่พร่างพราวของจรินทร์หรี่ลงในทันใดเปิดปากพูดอย่างรีบร้อนว่า“สามีค่ะทำไมคุณถึงไม่กินรีบกินสิค่ะ!” ชโนดมไม่ได้ขอร้องเธอกลับพูดคำว่าสามีขึ้นมาเองอย่างไม่รู้สึกตัว รอจนรู้สึกตัวใบหน้าร้อนผ่าวพูดอย่างรู้สึกผิดว่า“อืมมมคุณชอบให้ฉันเรียกคุณว่าสามีไม่ใช่เหรอฉันแค่อยากให้จิตใจคุณรู้สึกดี” ชโนดมหุบสายตาลงผุดรอยยิ้มแห่งความสุขขึ้นใช้นิ้วกวักเรียกเธอ“เข้ามาจูบผม” คำขอร้องประเภทถ้าเป็นสถานการณ์ปกติจรินทร์ต้องปฏิเสธหัวชนฝาแต่ว่าเธอในตอนนี้ไม่ต้องถ่วงเวลาเพื่อว่าพูดกันไปมาจะทำลายอารมณ์การกินอาหารของชโนดม ถึงอย่างไรก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแล้วแม้แต่สามีก็เรียกไปแล้วต้องไม่ขาดสิ่งนี้อยู่แล้ว จรินทร์ตัดสินใจเดินเข้าไปหอมแรงๆตรงแก้มของชโนดมไปครั้งหนึ่ง“สามีรีบกินสิค่ะ!” ผลจากการหอมครั้งนี้ที่แท้ยังได้ผลดีกว่าเรียกคำว่าสามีชโนดมจับตะเกียบขึ้นคีบซูชิเข้าไปในปากทันที จรินทร์จ้องมองที่ปากของเขาอย่างตื่นเต้น เห็นชโนดมค่อยๆขบเคี้ยวซูชิชิ้นนั้นเหมือนปกติ แต่ว่าในเมื่อเป็นซูชิที่เพิ่มเครื่องเข้าไปวาซาบิปริมาณมากอย่างรวดเร็วจึงปรากฏผลออกมา ใบหน้าที่สงบนิ่งของชโนดมฉับพลันเปลี่ยนเป็นทุกข์ทรมานขมวดคิ้วเล็กน้อยผิวสีขาวเป็นประกายแต่เดิมไม่นานถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงก่ำเข้ามาแทนที่ และดวงตาดำที่ลึกล้ำคู่นั้นมองด้วยตาเปล่าสามารถเห็นเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็วค่อยๆมีละอองน้ำเกาะตัวขึ้น เขาเปิดปากขึ้นมองดูจากการกระทำคล้ายต้องการคายซูชิที่อยู่ในปากออกมา ใครจะรู้ว่าวินาทีถัดไปเขาไม่รู้ว่าทำไมกลับปิดปากแน่นสนิท จรินทร์ไม่ทราบว่าหลายทศวรรษมานี้ตระกูลพงษ์จิระชัยในตระกูลมีการอบรมอย่างดีทำให้มารยาทในรับประทานอาหารของชโนดมไร้ที่ติไม่ว่าในสถานการณ์ไหน กฎของตระกูลพงษ์จิระชัยต่อให้กินของที่ไม่ชอบเข้าไปก็ไม่อาจคายออกมา แต่ว่าเมื่อเป็นแบบนี้ความเผ็ดร้อนตรงจมูกทำให้เขาทนไม่ได้ต้องไอออกมาอย่างรุนแรง ไออยู่เป็นเวลานานเขาถึงพอมีช่องว่างรีบคว้าเอาถ้วยน้ำชายกขึ้นเทเข้าปาก หลังจากดื่มชาเสร็จต้องนั่งอีกพักใหญ่ชโนดมถึงได้เงยหน้าขึ้นมองไปทางจรินทร์ตรงตรง สำหรับท่าทางทรมานของเขาเมื่อสักครู่แต่สายตาที่เขาส่งมากลับมีแต่ความเย็นชาและนิ่งสงบทั้งยังแฝงไว้ด้วยสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ไม่มีท่าทีว่าโทษโกรธ ฉันพลันหัวใจของจรินทร์อ่อนไหวลงสายตามองไปอีกด้านเม้มปากไม่กล้าพูดอะไร ซึ่งความจริงหลังจากกลื่นซูชิตอนแรกแน่นอนว่าเขาดูน่าตลกทำให้อารมณ์ดีขึ้นความลำบากของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับการแก้แค้นทนไม่ได้จนต้องอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่ว่าหลังจากนั้นดูเขายิ่งมายิ่งทรมานแต่กลับสู้ทนกินซูชิชิ้นนั้นเข้าไปเธอไม่รู้เป็นทำไมใจกลับอ่อนลงปกติเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ไร้ข้อติเตียนใดๆกลับถูกตนเองแกล้งจนสะบักสะบอมดูเหมือนว่าตนเองจะทำเกินไป เธอโทษตัวเองเล็กน้อย แต่ว่าเรื่องราวก็เกิดขึ้นแล้วอยากกลับไปแก้ตัวก็ไม่ทัน อีกทั้งจรินทร์รู้ดีว่าถ้าชโนดมโกรธขึ้นมาเป็นเรื่องที่เธอก็ล่วงเกินไม่ได้ ความจริงเธอกลัวดังนั้นเมื่อผิดแล้วก็ผิดให้ถึงที่สุดทำใจดีเข้าสู้โดยไม่ยอมรับ เบิกตาขึ้นจนกลมกว้างแกล้งทำเหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่คาดคิดพูดขึ้นว่าคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?พ่อครัวปรุงอาหารผิดใส่เครื่องเกินขนาดหรือเปล่า อย่างนั้นเหรอ?ได้ยินภรรยาตัวของเขาผลักภาระความรับผิดชอบชโนดมจึงใช้แผนซ้อนแผน ในดวงตาปรากฏความสงสัยแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเขาจับตะเกียบเหมือนไม่มีเรื่องอะไรคีบซูชิที่อยู่บนจานของตนเองชิ้นหนึ่งยื่นไปที่ปากของจรินทร์ผมอิ่มแล้วมาอย่าดื้ออ้าปากช่วยผมกินอันหนึ่ง
已经是最新一章了
加载中