บทที่92 ยอดคน(3)   1/    
已经是第一章了
บทที่92 ยอดคน(3)
บ๗ที่92 ยอดคน(3) กชกรเห็นฉัตรฤดีเปิดช่องไม่มีการอ้ำอึ่งๆอีกต่อไปปากพูดขึ้นอย่างคล่องแคล่วอีกครั้ง“ที่จริงหนูก็ไม่ได้โทษว่าพี่สาววันนี้เป็นแม่ที่ต้องการลากฉันมาให้ได้”เอาความผิดทั้งหมดโยนไปที่แม่ของตัวเอง มือสอดอยู่ข้างล่างของเธอกำมือแน่นนิ้วจิกลงที่กลางฝ่ามือ ในใจแค้นเคืองจรินทร์อย่างถึงที่สุด เป็นเธอแน่ๆที่เรียกให้ชโนดมมา ถ้าไม่ใช่เขามาอย่างทันเวลาพอเข้าประตูก็หาเหตุผลปกป้องจรินทร์เธอกับแม่ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นถูกกระทำเช่นนี้ บอกว่าอะไรจรินทร์ถูกทำร้ายที่จริงเป็นเรื่องที่พูดเกินไปตนเองตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้กระทบถูกจรินทร์แม้แต่ปลายเส้นผมเธอได้รับความเสียหายอะไร? แต่กลายเป็นว่าผู้จัดการชเนตร์กับชโนดมแสดงตนอยู่ในฐานะผู้บริหารโรงแรมถูกพวกเขาสวมหมวกใบใหญ่ให้ตนเองต่อให้ต้องการตอบโต้ก็ตอบโต้ไม่ออก หากอยู่ต่อไปยังไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ในใจของกชกรเกิดความรีบร้อนเท้าที่อยู่ข้างล่างเขี่ยไปที่รองเท้าของฉัตรฤดีไม่หยุดให้สัญญาณว่ารีบหาเหตุผลจากไป ฉัตรฤดีรู้ความหมายยกก้นลุกขึ้นจากโซฟาสายตาจับจ้องไปที่ปรพลคิดไว้ว่าลุกขึ้นยืนแล้วจะพูดกล่าวอำลาพอเป็นพิธีสักประโยค เพียงแต่ว่าเรื่องราวเกี่ยวพันถึงกชกรปรพลพูดง่ายเสมอมาต้องไม่สร้างความลำบากให้แก่พวกเธอแน่นอนคงสามารถให้เธอลงเวทีจากไป แต่กลายเป็นว่ามีคนไม่ยินยอม จรินทร์จับจ้องที่ฉัตรฤดีตลอดเวลาเพียงตาเดียวก็มองออกว่าเธอมีความคิดที่จะหนีไหนเลยจะให้โอกาสเธอเปิดปากกล่าวลาได้ ไม่รอให้ฉัตรฤดีเปิดปากเธอก็พูดเสียงดังขึ้นวา“กชกรเมื่อสักครู่เธอบอกว่าเธอไม่โทษฉันฉันแปลกใจมากคนที่ทำความผิดเช่นเธอคนที่ใกล้จะถูกดำเนินคดีมีสิทธิ์อะไรมาโทษฉัน?คนที่ควรกล่าวโทษน่าจะเป็นฉันมากกว่า?ผู้จัดการชเนตร์พวกคุณมาได้ทันเวลาพอดีฉวยโอกาสที่ต้นเหตุคนก่อเรื่องยังอยู่ที่นี้พวกเราพูดกันตรงหน้านี้พอดีเป็นยืนยันให้ชัดเจนกับพ่อฉันว่าที่แท้เมื่อวานนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเมื่อไม่ให้พ่อของฉันกล่าวโทษฉันอีกต่อไป!” พูดไปเป็นเรื่องที่น่าแปลกตั้งแต่ชโนดมเข้ามาถึงแม้ไม่ได้คุยกับเธอแม้สักครึ่งคำไม่แม้แต่มองเธอสักครั้ง แต่ว่าใจของเธอกลับมีความรู้สึกว่าปลอดภัยคล้ายกับว่าขอเพียงมีเขาอยู่ตนเองต้องไม่เสียเปรียบแน่นอน เธอแอบมองชโนดมในใจบังเกิดความสุขไหลผ่านเข้ามา ผู้จัดการชเนตร์ยากที่จะมีโอกาสเอาใจจรินทร์ได้วางแผนการไว้นานแล้ว พอฟังคำพูดนี้จึงส่งสายไม่เห็นด้วยไปให้กับปรพลคุณปรพลถ้าคุณเชื่อคำพูดผีสางของพวกเธอสองแม่ลูกงั้นคุณก็คงสับสนเกินไปแล้ว!เรื่องนี้คุณหนูจรินทร์เป็นผู้ได้รับความเสียหายทั้งหมดคุณหนูกชกรคนนั้นต่างหากถึงเป็นต้นเหตุก่อเรื่องถ้าไม่อย่างนั้นโรงแรมของพวกเราคงไม่ฟ้องเธอเอาอย่างนี้แล้วกันถ้าหากว่าคุณไม่เชื่อโรงแรมของพวกเรายินดีที่หลักฐานข้อพิสูจน์ทั้งหมดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของคุณหนูจรินทร์ถ้าพวกคุณต้องการล่ะก็พวกสามารถให้ดูกล้องวงจรได้ตลอดเวลา” ปรพลสีหน้าอิดโรยมองดูตาของจรินทร์อย่างไร้รสชาติไม่มีคำตอบโต้ใด มณีจันทร์กลับรู้สึกโกรธน้ำเสียงสีหน้าเมื่อก่อนของฉัตรฤดีไม่ยินยอมปล่อยเขาเธอไปรีบผงกศีรษะเห็นด้วยว่า“งั้นก็ดูกล้องวงจรปิดก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!จะได้คืนความบริสุทธิ์ให้กับจรินทร์ของพวกเรา!” คำพูดเพิ่งพูดจบกชกรก็เริ่มนั่งไม่ติดอีกผลักฉัตรฤดีออก“พรึบ”ลุกยืนขึ้นในดวงตาสายประกายความกลัว“ไม่ไม่ไม่,คุณป้าหนู…” เธอตื่นเต้นจนไม่สามารถกล่าววาจาออกมาได้ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังปรพล ถ้าหากให้พวกเขาดูกล้องวงจรปิดงั้นตนเองก็จบสิ้นแล้ว ผู้จัดการชเนตร์คนนี้ท่าทางเป็นคนชอบเลียขาเจ้านายไม่ต้องบอกก็มั่นใจได้ว่าอะไรที่ทำให้ชโนดมดีใจเขาต้องทำได้ทุกอย่างแน่นอน กล้องวงจรปิดที่พวกเขาให้มาแน่นอนต้องมีการแต่งเติมลบเนื้อหาที่ไม่เป็นผลดีต่อจรินทร์ออกไปและเอาภาพที่เสียหายตนเองเก็บไว้ทั้งหมด แน่นอนว่าต้องเอาภาพที่ตนเองใช้ความพยายามเพื่อที่จะเข้าใกล้ชโนดมใช้ศีรษะพุ่งเข้าไปสู่อ้อมอกของเขาอย่างไรกลิ้งไปมาบนพื้นร่ำร้องอย่างไรภาพที่ไม่น่าดูพวกนั้นทั้งหมดต้องถูกเก็บอย่างแน่นอน เธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าให้ปรพลกับมณีจันทร์เห็นภาพเหล่านั้นจะเป็นยังไง เพียงแค่รู้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นงั้นเธอต่อไปก็ไม่กล้าอาศัยอยู่ในบ้านอีกต่อไปแล้ว ทำยังไงดีทำยังไงดี สายตาของเธอส่งไปขอความช่วยเหลือจากปรพลอย่างไม่หยุดยั้งคาดหวังรอให้ปรพลกล่าววาจาห้ามรั้งไม่ให้พวกเขาดูกล้องวงจรปิด ปรพลริมฝีปากขยับเล็กน้อยทันใดนั้นหันไปพูดกับมณีจันทร์เดียวเสียงอ่อนว่า“คือว่ามณีจันทร์ถ้ายังไงดูกล้องวงจรปิดก็แล้วกันไปเถอะล้วนเป็นความขัดแย้งเล็กน้อยของคนในครอบครัว……” “ความขัดแย้งเล็กน้อยอะไร!”มณีจันทร์โกรธจนต้องร้องออกมาเสียงและพูดกระแทกกระทั้นว่า“หากไม่ใช่ผู้จัดการชเนตร์พวกเขามาถึงคุณก็เกือบจะตกลงพี่สะใภ้เอาเงินสามหมื่นซื้อหมึกชิ้นนั้นแล้วฉันถามคุณนี้เป็นความขัดแย้งเล็กน้อยของคนในครอบครัวเหรอความขัดแย้งเล็กถึงกับต้องมาถามเอาเงินจากพวกเราเหรอ!?” มณีจันทร์แต่ละคำพูดดังสนั่นตอบโต้ปรพลเต็มกำลัง ปรพลฉับพลันพูดอะไรไม่ออกลักษณะอาการซึมเซาไม่เปิดปากพูดอีกยิ่งไม่กล้ามองดูกชกรแม้แต่นิดเดียว ใจของกชกรรู้สึกเจ็บปวด เธอกัดริมฝีปากล่างสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้นเหมือนกับจะแทงทะลุหัวใจของปรพล ทันใดนั้นเธอหันศีรษะกลับไปมองดูจรินทร์ตรงๆพูดอย่างชัดเจนว่า“พี่สาวแม่ของฉันสับสนปหน่อยจริงๆที่จริงหมึกชิ้นนั้นฉันเลิกหวังตั้งแต่แรกแล้วพี่ให้อภัยแม่ฉันไม่ได้จริงๆเหรอ?” จรินทร์ยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อสักครู่คนที่ร่ำร้องวุ่นวายเป็นฉัน?ความหมายของเธอคือมีเพียงพวกเธอสองแม่ลูกที่ไม่สามารถเสียเปรียบเพียงอนุญาตให้คนอื่นได้รับความอยุติธรรมฉันไม่สามารถถามหาความบริสุทธิ์ให้ตัวเองได้? มณีจันทร์ตัดบนเธอในทันทีจรินทร์หนูไม่ต้องเปลืองน้ำลายพูดมีหรือไม่มีเรื่องพวกนี้แล้วผู้จัดการชเนตร์รบกวนคุณเปิดกล้องวงจรปิดให้พวกเราดูด้วยค่ะ ได้ครับผู้จัดการชเนตร์เปิดกระเป๋าใส่อุปกรณ์ทำงานเพิ่งจะเตรียมตัวไปเอาจอ ทุกคนต่างพุ่งความสนใจไปที่ร่างของผู้จัดการชเนตร์ใครก็ไม่ได้สนใจถึงกชกรที่ขณะนี้สายตาสาดประกายเย็นเยียบแฝงความน่ากลัว เธอยกมือขึ้นแล้วลูบไปที่หน้าผากสีหน้าแสดงความเจ็บปวดต้องขมวดคิ้วร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดจากนั้นเสียงตงเสียงสิ่งของตกลงสู่พื้นเสียงหนึ่งดังขึ้น เธอกดลงไปอย่างเต็มกำลังตำแหน่งศีรษะถึงกับกระทบถูกพื้นเลือดไหลออกมาในทันทีมองไปแปลกประหลาดยิ่ง ความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนล้วนปากอ้าตาค้าง ฉัตรฤดีดวงตาทอประกายเข้าใจอย่างว่องไวส่งเสียงร้องขึ้นอย่างรู้กันพุ่งเข้าไปพร้อมร้องไห้ลูกกชกรลูกเป็นอะไรไปอย่าทำให้แม่ตกใจสิ แม้แต่จรินทร์ยังอดไม่ได้ที่จะยอมรับในสติปัญหาของกชกร แต่ว่าต่อให้เธอหลบรอดจากครั้งนี้ได้แล้วเป็นยังไง?ถึงเวลานั้นศาลย่อมจัดการเธอเหมือนเดิม ฝ่ายกฎหมายของบริษัทใหญ่เหล่านั้นล้วนแล้วแต่อบรมนักกฎหมายที่ไม่ธรรมดาขึ้นมาคนพวกนั้นต้องจับเรื่องนี้ไม่ปล่อยจัดทำเอกสารเพื่อฟ้องไปเรื่อยๆฟ้องถึงกระทั่งฉัตรฤดีและกชกรแม้กางเกงในต้องจ่ายเป็นชดใช้ออกมา 
已经是最新一章了
加载中