ตอนที่ 95 รู้ว่าเธอกำลังเล่นละคร(3)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 95 รู้ว่าเธอกำลังเล่นละคร(3)
ต๭นที่ 95 รู้ว่าเธอกำลังเล่นละคร(3) สิ่งที่มองเห็นถ้าใช่สีชมพูก็เป็นสีขาว ห้องนอนของเธอเต็มไปด้วยตุ๊กตาตัวใหญ่และของเล่น ขนาดโทรศัพท์บ้านไร้สายที่อยู่ในห้องก็ยังเป็น Hello Kitty สำหรับผู้หญิงอายุ 19 ปีจริงๆก็ครึ่งคนแล้ว ยังชอบของที่เป็นสีชมพูอยู่ ยังเป็นเด็กที่ไม่ยอมโตจริงๆ ชโนดมปกติเป็นคนที่ดูเย็นชา แต่กลับเปลี่ยนเป็นคนที่แลดูอ่อนโยนแบบไม่รู้ตัว จรินทร์เหมือนดูออกในใจลึกๆว่าเขาเริ่มคิดยังไงกับเธอ รีบเอ่ยปากอธิบาย “ของพวกนี้ส่วนมากฉันซื้อมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น สมัยนั้นชอบของเล่น ตอนนี้เปลี่ยนรสนิยมแล้ว ถ้าให้ฉันตกแต่งห้องใหม่นะ ฉันน่าจะเปลี่ยนเป็นแนวที่เรียบง่าย” ยังไม่ทันปล่อยให้ชโรดมเปิดปากพูด เธอก็เริ่มเจื้อยแจ้วต่อ “ เอ่อ จริงสิ ฉันชอบการตกแต่งอพาร์ทเมนต์ชุดนั้นของเธอนะ ดูมีความเป็นสวนธรรมชาติ ทุกครั้งที่ไปอยากจะนอนอาบแดดตลอดเลย ถ้าเกิดว่าเลี้ยงแมวเปอร์เซียด้วยยิ่งเพอร์เฟคเข้าไปใหญ่” ชโนดมสายตาเริ่มอ่อนโยนลงโดยไม่รู้สึกตัว ได้ยินเธอพูดดังนั้น ครุ่นคิดอยู่สักพัก กวาดสายตามองมาที่เธอ พร้อมกับแก้ไขคำที่เธอพูดไปเมื่อสักครู่ “อพาร์ทเมนต์ของเรา” จรินทร์กระพริบตาปริบปริบ คนอะไรคิดเล็กคิดน้อยแม้กระทั่งคำ บ้านหลังนั้นไม่ใช่ของเธอสักกะหน่อย ในใจยังแอบเซ็งอยู่กับคำพูดเมื่อตะกี้ ชโนดมก็พูดขึ้นมาอีก “อพาร์ทเมนต์ชุดนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โอนเป็นชื่อเธอแล้ว ตอนนี้เป็นชื่อของฉันกับเธอ เป็นของเราสองคน” เป็นของเราสองคน งั้นก็หมายความว่า...................เป็นการเตรียมเรือนหอ จรินทร์ถึงกับอึ้งไป เธอกับชโนดมเพิ่งรู้จักกันแล้วก็แต่งงานแบบสายฟ้าแล๊บ ดังนั้นเธอจึงไม่เคยคิดเรื่องเรือนหอหรือแหวนแต่งงานมาก่อน แต่ เขากลับเป็นคนเก็บรายละเอียดและใส่ใจสิ่งเหล่านี้ที่เธอไม่ได้สนใจ จนทำให้เธออดนึกถึงแหวนเพชรวงใหญ่วงนั้นที่เธอเก็บไว้ รวมถึงอพาร์ทเมนต์สไตล์สวนหลังนั้น รวมถึงภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่แขวนอยู่บนกำแพงเหล่านั้น ............................. ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ชโนดมเตรียมไว้เพื่อเธอทั้งหมดงั้นหรือ มองเห็นเธออยู่ในภวังค์เช่นนั้น ชโนดมจึงยื่นมือไปลูบที่ผมเธอเบาๆ “เป็นไรไป ไม่เชื่องั้นหรือ เธอกลับไปดูด้วยตัวเองไหม” “เปล่า” จรินทร์ก้มหน้าต่ำ ใบหน้าเรียวรูปไข่ของเธอเริ่มแดงก่ำ ทันใดนั้น เธอเหลือบตาขึ้นมอง หยุดอยู่ที่ชโนดม กำหมัดน้อยๆไว้แน่น ใบหน้าดูเคร่งขรึม เหมือนกำลังตั้งใจจะพูดอะไรสำคัญสักอย่าง “ชโนดม.............ฉัน................” เว้นระยะห่างอยู่พักใหญ่ แต่กลับไม่พูดอะไรต่อ เซ็งจริง ทำไมเมื่อถึงสถานการณ์ขับคันแบบนี้ เธอถึงติดอ่างพูดไม่ออกเสียทุกที “ยังไง” ชโนดมมองมาที่เธอ พร้อมกับก้าวเท้าเข้ามาใกล้อีกก้าว ก้มลงเพ่งมาที่เธอ พร้อมกับสายตาแกมบังคับ “ฉัน........” จรินทร์เม้มฝีปากล่างไว้แน่น ยิ่งเขาเข้าใกล้เธอมากเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกไม่เป็นตัวเอง จริงๆเธออยากบอกเขา ว่าจริงแล้วเธอรู้สึกว่าขอบเขานิดนึงแล้ว แต่ เมื่อคำพูดมาจ่อที่ริมฝีปากแล้ว เธอกลับไม่กล้าพอที่จะไม่พูดออกไป โยเฉพาะก่อนหน้านี้ ที่ตัวเองคิดแผนการมากมาย เพื่อให้ผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าหย่าร้าง เธอยิ่งรู้สึกอดสู ทำไงดี พูดไม่ออก ทำไงดี ชโนดมยังคงเพ่งมาที่เธอ แววตาค่อยๆจางลง ความตื่นเต้นข้างในก็เริ่มหดหายไป ในที่สุด แววตาก็เต็มไปด้วยความเย็นชาอีกครั้ง “ในเมื่อยังไม่แน่ใจ ก็อย่าฝืนใจตัวเอง” พูดจบ เขาก็เหมือนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว สายตาที่เย็นชาคู่นั้นมองออกไปยังนอกหน้าตาสักครู่ แล้วก็หันหลังกลับออกไป “ผมกลับก่อนนะ ต่อไปก็เชื่อฟังพ่อแม่หน่อย อย่าเอาแต่ใจตัวเอง” จรินทร์ใจร้อนจนรีบเดินออกมาข้างหน้าก้าวนึง “ เดี๋ยวก่อน คุณอย่าเพิ่งไป.......” ชโนดมยกมือขึ้นแต่ไม่หยุดเดิน จนมือเอื้อมไปจับลูกบิดเพื่อเปิดประตู และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ ฉันมีงานอีกเยอะ อีกสักพักก็ต้องกลับอยู่ดี” พูดจบ ก็เปิดประตูแล้วก้าวเดินจากไป เช้าตรู่ได้รับข้อความจากเธอ รู้ว่าเธอกำลังเดือดร้อน รีบทิ้งงานแล้วบึ่งมาหา สิ่งได้กลับมาคือ เธอยังไม่แน่ใจความรู้สึกตัวเองที่มีต่อเขา เขากลัวว่าถ้าตัวเองอยู่ต่อ ความรู้สึกไม่ดีในใจยิ่งอาจควบคุมไว้ไม่อยู่ แต่ขณะที่ปิดประตู เขาอดไม่ได้ที่กระแทกปิดประตูห้องอย่างแรง ได้ยินเสียงประตูปิดดังสนั่นขณะนั้น ใจของเขาสับสน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มองเห็นเธอลังเลสับสนไม่ตัดสินใจ เขากลับรู้สึกอารมณ์เดือดดาลขึ้น ผู้หญิงที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้ เขาไม่ควรที่จะไปสนใจไยดี งานแต่งครั้งนี้เขาเผด็จการคนเดียวก็ได้ แต่เมื่อตะกี้เขากลับเห็นท่าทางลังเลของเธอ จนทำให้ตัวเองรู้สึกโมโหขึ้นมาจริงๆ ความโกรธเมื่อสักครู่ประดังประเดเข้ามา บีบให้เขาไม่สามารถสะกดอารมณ์ตัวเองให้สุขุมเหมือนเช่นที่ผ่านมาได้ จนกระทั่งเดินมาถึงห้องรับแขก สีหน้าของเขาเย็นชาจนน่ากลัว ชนนนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สงสัย ทำให้ความคิดของเขาขาดลง “คุณชโนดม เป็นอะไรหรือ ลูกสาวเราพูดจาอะไรไม่ดีหรือเปล่า เด็กไม่รู้เดียงสา คุณชโนดมอย่าได้ถือสาเลยนะ” ชนนนคิดในใจว่าต้องเป็นจรินทร์ที่ทำให้ชโนดมโกรธแน่นอน ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้สีหน้าท่าทางชโนดมยังดีๆอยู่เลย เหตุใดออกจากห้องจรินทร์มา สีหน้าถึงได้อยู่แย่ลงขนาดนี้ บ้านหลังนี้เก็บเสียงได้ดีมาก บวกกับบทสนทนาของจรินทร์ก็ไม่ดังมาก ทำให้ชนนนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ไม่ได้ยินเสียงใดเล็ดลอดออกจากห้องมาเลย ได้ยินชนนนพูดออกมาดังนั้น ชโนดมถึงได้สติ จิตใจสงบลง เปิดตาขึ้น และพูดด้วยความสุขุมว่า “ เปล่าครับ ผมคุยกับเธอเรียบร้อยแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ” 
已经是最新一章了
加载中