ตอนที่ 96 ทายถูก(1)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 96 ทายถูก(1)
ต๭นที่ 96 ทายถูก(1) “เอ๋ ทำไมกลับเร็วขนาดนี้ นี่ก็ใกล้จะมื้อเที่ยงแล้ว อยู่ทานอาหารกลางวันด้วยกันก่อนดีกว่า” ชนนนไม่ใช่แค่พูดตามมารยาทแค่นั้น แต่เธอถูกชะตากับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จริงๆ อยากจะรั้งให้เขาอยู่รอทานอาหารกลางวันด้วยกัน “ไม่ละครับ” ชโนดมตอบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มองดูสายตาของชนนน ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น “ผมยังมีงานรออยู่อีกครับ” เพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก ได้ยินเสียงสาวน้อยพูดแทรกอย่างเร่งรีบ “ทานข้าวด้วยกันสักมื้อเถอะ แม่ฉันทำอาหารอร่อยนะ” ต่อหน้าพ่อกับแม่จรินทร์ไม่กล้าแสดงจนออกนอกหน้า ขนาดมองหน้าชโนดมเธอยังไม่กล้ามอง สายตาก้มต่ำมองที่พื้นห้อง น้ำเสียงเย็นชาดูห่างเหินกล่าวขึ้น “ไม่ดีกว่า” มีเสียงปิดประตูตามมา จรินทร์น้ำตาตกใน อยากจะตบปากทำโทษตัวเองสักสามครั้ง หลังจากที่ชโนดมก้าวเท้าออกจากห้องของเธอมา เธออยากจะตามมาเพื่ออธิบาย แต่กลัวว่าท่าทางอันร้อนรนของเธอจะทำให้พ่อกับแม่ของเธอเริ่มสงสัย จึงตั้งใจให้ผ่านไปครู่นึงถึงเปิดประตูออกมา แบบไม่ได้ตั้งใจ แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ชายผู้โอ้อวดคนนั้น กลับไม่สนใจไยดีเธอ เธอกับแม่อุตส่าห์ขอให้เขาอยู่ แต่เขาก็ยังจะไป “ชโนดม!” ใจร้อนรนจนตะโกนชื่อเต็มของเขาออกมา ชโนดมหยุดก้าวเท้าข้างๆประตู แต่หยุดเพียงสองวินาที แล้วเปิดประตูออกก้าวเท้าออกไป จรินทร์มองไปยังข้างประตูที่ว่างเปล่า ใบหน้าที่บันดาลโทสะ จนลืมสังเกตไป ว่าชนนนจ้องมองมาที่เธออย่างสงสัย “จรินทร์ ลูกนี่เยี่ยมจริงๆ เพียงแค่แป๊บเดียว ก็รู้ว่าเขาชื่อจริงว่าชโนดม” “แฮะ แฮะ ใช่ค่ะก็ถามไปเรื่อย แม่ หนูง่วงแล้ว อยากจะพักสักงีบ” จรินทร์แก้ตัวแบบเก้ๆกังๆแล้วก็รีบกลับห้องไป “อ๋อ จ๊ะ กลับไปนอนเถอะ” ชนนนก็ไม่ได้พิจารณาต่อ เมื่อชโนดมกลับไปแล้ว นางก็ปั้นสีหน้ากับปรพลอีกครั้ง ชนนนคิดว่าเรื่องนี้ อาจจะเป็นบทเรียนของปรพลอีกบท นางก็ไม่คิดว่าจะไปพูดกับลูกดีๆแทนเขา ปั้นสีหน้าแล้วไปหยิบไม้กวาด เก็บกวาดห้องรับแขกที่ถูกฉัตรฤดีขว้างปาสิ่งของระเกะระกะไว้ เก็บกวาดเสร็จ ก็กลับห้องตัวเอง นั่งลงพักแบบเหนื่อยๆ ปรพลเปิดประตูเข้ามา “จะเที่ยงแล้ว ไม่ทำกับข้าวหรือ” “ฉันกับลูกโมโหจนจุกแล้ว ไม่มีกระจิตกระใจกินอะไรไม่ลงแล้ว ถ้าคุณอยากจะกิน ก็ไปซื้อเอง” ชนนนพูดแบบหมดอารมณ์ ปรพลขมวดคิ้ว “เรื่องก็จบลงด้วยดีแล้วไม่ใช่หรือ แล้วแม่คุณยังจะโมโหอะไรอยู่อีก” ชนนนลุกพรวดพราดขึ้น อดใจไม่อยู่ “นี่คุณยังมีหน้ามาพูดอีก ไม่รู้จริงๆคุณคิดอะไรของคุณ คุณดูซิ วันนี้คุณลำเอียงแค่ไหน แล้วสุดท้ายละ คุณชเนตรให้ดูกล้องวงจรปิด แล้วทำไมคุณไม่ดู ฉันว่าจริงๆแล้วคุณไม่ได้เชื่อในตัวลูกสาวตัวเอง จริงคือคุณกลัวว่ากชกรจะไปอะไรไป ตัวเองเลยรู้สึกไม่ดีเสียมากกว่า” ใครจะไปรู้ ประโยคนั้น ทำให้ปรพลเหมือนโดนพูดแทงใจดำ ยืนขึ้นข้างๆเตียง “ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะไปกันใหญ่ ฉันไม่มีอะไรที่ไม่สบายใจ” ชนนนพูดจบประโยค “ คุณจะตื่นเต้นทำไม ถ้าไม่ใช่ว่า ฉัตรฤดีพากชกรออกจากบ้านเกิดกลับเมืองเมฆตอนเธอได้ขวบหนึ่ง ฉันอาจจะอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอเป็นลูกสาวของคุณกับฉัตรฤดีหรือเปล่า” สีหน้าของปรพลเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด “คุณพูดเหลวไหล มันจะเป็นไปได้ยังไง” ชนนนรู้ว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน เขาเข้าใจปรพลเป็นอย่างดี ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่ชอบพฤติกรรมของฉัตรฤดี อยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่เขาไม่ชอบ จะให้เขามีอะไรด้วย ยากยิ่งกว่าขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นฟ้าอีก ชนนนขยิบมุมปาก “ฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็พูดไปเรื่อยเปื่อยตามประสา คุณคิดเล็กคิดน้อยกับฉันเรื่องนี้ ถ้าว่างมากจนมีเวลาหงุดหงิดฉัน ก็เอาเวลานี้ไปปรับความเข้าใจกับลูกจะดีกว่า” ปรพลปั้นสีหน้าอีกครั้ง ในใจลึกของเขารู้สึกผิด แต่เมื่อสักครู่หาโอกาสคุยกับลูกหลายครั้ง แต่ถูกลูกสาวมองผ่าน บ่งบอกให้รู้ว่าลูกสาวไม่อยากสนใจพ่อคนนี้ โดยปกติปรพลจะเป็นพ่อที่ท่าทีเข้มงวด ถ้าจะให้เขาขอโทษลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาทำไม่ได้ ก่อนนี้ยังมีชนนนเป็นคนกลาง ถึงแม่ว่าพ่อลูกจะทะเลาะกัน ก็สามารถปรับความเข้าใจได้โดยไว แต่ครั้งนี้ ชนนนออกตัวแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยว เวลาวันนี้ผ่านไปเร็วมาก จนถึงบ่าย ปรพลยังไม่มีโอกาสได้คุยปรับความเข้าใจกับลูกเลย จรินทร์ไม่คิดว่าจะสนใจปรพล ฝ่ามือนั้นเธอจดจำจนขึ้นใจ จะลืมมันลงได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ดึงมือของพ่อไว้ฝ่ามือนั้นลงบนใบหน้าของเธออาจทำให้ใบหน้าของเธอบวมเป่งได้ วินาทีนั้น เธอนึกถึงทีไร ทำให้ใจห่อเหี่ยว เพิ่งจะหกโมงเย็น ก็อยากจะเก็บสัมภาระกลับมหาวิทยาลัยแล้ว ชนนนก็ไม่อยากจะหักห้ามเธอให้เงินแบงค์สีแดงกับเธอสิบกว่าใบเพื่อเป็นเงินใช้จ่ายส่วนตัว กำชับสองสามประโยคก็ปล่อยให้เธอกลับมหาวิทยาลัย 
已经是最新一章了
加载中