ตอนที่ 12
ตนที่ 12
“ห้ะ?” ปาณีไม่คิดว่าธามนิธิจะถามคำถามนี้ “คุณอา ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะคะ?”
ธามนิธิมองเธออย่างนิ่งๆ “ไม่มีอะไร แค่เพิ่งนึกขึ้นได้เฉยๆ”
คงคิดมากไปเองสินะ
ธามนิธิส่ายหัวกับความคิดของตัวเอง
ปาณีที่กำลังคิดหาข้ออ้างก็ถอนหายใจ โล่งอกไปที
ปาณีหายไข้แล้วหลังจากได้รับการดูแลอย่างดีจากคนในบ้านวิสิทธิ์เวช หลายวันที่ผ่านมา ตั้งแต่ธามนิธิกลับมาถึงเมืองชยุต เขาก็ยุ่งจนไม่เห็นแม้แต่เงา ปาณีรู้สึกเหงาจึงตัดสินใจหางานทำ
หลังจากที่เธอเสิร์ชหางานพาร์ทไทม์ในอินเทอร์เน็ตแล้ว เธอก็ได้งานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ที่ตั้งของร้านอาหารนี้อยู่ในย่านธุรกิจที่หรูหรา เนื่องจากการตกแต่งภายในร้านดูดีอย่างมีระดับ บวกกับราคาอาหารที่ค่อนข้างแพง ที่นี่จึงไม่ค่อยมีลูกค้ามากนัก ดังนั้น งานของปาณีจึงค่อนข้างสบาย ไม่เหนื่อยมาก
วันนี้ ในขณะที่เธอกำลังเก็บโต๊ะหลังจากลูกค้าเช็คบิล เธอก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อเธอ
“ปาณี!”
ปาณีหันกลับไปมอง ที่แท้ก็เป็นติรยานั่นเอง!
หลังจากวันนั้นที่ได้รับความอัปยศอดสูจากบ้านของติรยา ปาณีก็ไม่ได้ติดต่อกับติรยาอีกเลย และไม่อยากมีความสัมพันธ์ใดๆกับติรยาอีก
มีผู้หญิงสองคนตามติรยามาด้วย คือคนที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน พวกเธอรู้จักกันหมด
เธอก้มหน้าลง ไม่อยากสนใจ แต่พวกเขาก็ได้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ พร้อมกับพูดว่า “ปาณี เธอทำงานอยู่ที่นี่เองหรอ?”
คนที่พูดประโยคนี้คือ บาร์นี่ เธอเป็นเน็ตไอดอล
สิ่งที่ทำให้ปาณีจำเธอได้ดีที่สุดคือ ติรยามักจะนินทาเธอให้ฟังบ่อยๆ บอกว่าเธอศัลยกรรมมาบ้าง มีเสี่ยคอยเลี้ยงดูบ้าง
พอได้ยินเรื่องพวกนี้เยอะเข้า ปาณีจึงมีอคติต่อคนคนนี้เล็กน้อย
แต่วันนี้กลับเห็นบาร์นี่และติรยาควงแขนกันมาอย่างสนิทสนม และยืนอยู่ด้วยกัน ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ติรยาไม่ได้เกลียดบาร์นี่มากหรอกหรอ?
ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นเพื่อนสนิทไปได้ล่ะ?
แม้เธอมีความสงสัย แต่ปาณีก็ไม่ได้แสดงอาการออกมา เพียงแต่พยักหน้าตอบพวกเธออย่างเย็นชา หลังจากนั้นเธอก็ยื่นเมนูไปให้พวกเธอ พร้อมกับถามว่า “ต้องการสั่งอาหารอะไรคะ?”
ติรยารับเมนูมา แววตาของเธอเต็มไปด้วยความดูหมิ่นและเยาะเย้ย
เธอตั้งใจพูดว่า “ปาณี เธอไม่ได้ทำงานอยู่ที่เมืองชลธีหรอกหรอ ทำไมถึงมาอยู่เมืองชยุตได้ล่ะ? ยังมาทำงานอยู่ที่นี่อีก?”
คำพูดที่ดูเหมือนห่วงใย ทำให้คนอื่นฟังไม่ออกเลยว่าทั้งสองคนได้ทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ติดแล้ว
ปาณีก็เพิ่งรู้ธาตุแท้ของติรยาว่าเป็นยังไง พฤติกรรมของเธอตอนนี้แสดงให้เห็นถึงการแสดงของเธอนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ! ถ้าไม่เป็นเพราะว่าวันนั้นเวทัสโผล่มา ปาณีก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าเธอเป็นคนแบบนี้
พอเธอคิดแบบนี้ น้ำเสียงของเธอก็ยิ่งเย็นชามากขึ้น “ทุกท่าน ไม่ทราบว่าจะสั่งอาหารอะไรคะ ถ้ายังไม่พร้อม อีกสักครู่ฉันค่อยมารับออเดอร์ค่ะ”
หลังพูดจบ เธอกำลังจะหันหลังเดินออกไป
“นี่! รอก่อน!” ติรยารีบคว้าแขนเธอไว้ “ปาณี อย่าเพิ่งไปสิ พวกเราก็เพิ่งเคยมาร้านอาหารนี้เป็นครั้งแรก เราก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับเมนูอาหารที่นี่ ในร้านมีอะไรอร่อยบ้าง แนะนำเราบ้างสิ?”
แม้ปาณีจะไม่พอใจที่ต้องไปสนใจพวกเธอ แต่ถึงยังไงสิ่งนี้ก็เป็นงานของเธอ เธอจึงต้องแนะนำเมนูอาหารให้กับพวกติรยาเหมือนลูกค้าคนอื่นๆ
ขณะที่เธอกำลังแนะนำเมนูของทางร้าน บาร์นี่ที่นั่งอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นว่า “ปาณี ได้ข่าวว่าเธอโดนเวทัสทิ้งหรอ?”
นี่ไม่พูดยังดี แต่เธอพูดแล้วทำให้ปาณีโมโหอย่างมาก
เธอมองติรยา เห็นคนที่ยังทำตัวไม่รู้เรื่องอะไร นั่งดูเมนูอาหารอยู่
ปาณีรู้สึกทึ่งกับความหน้าด้านของติรยาคนนี้
“ฉันกำลังถามเธอ ทำไมไม่ตอบ?” บาร์นี่รับไม่ได้ที่คนอื่นเมินเธอ จึงรีบพูดว่า “ฉันนึกว่าบ้านเธอจะมีเงินสักอีก เห็นเป็นเพื่อนกับติรยา ที่ไหนได้ต้องมาทำงานอยู่ร้านอาหารแบบนี้”
ทำงานที่นี่แล้วทำไมล่ะ?
ฉันทำงานหาเงินด้วยมือเท้าของตัวเอง แล้วมันผิดตรงไหน?
ปาณีจ้องหน้าบาร์นี่ พูดอย่างจริงจังว่า “บ้านฉันไม่มีเงิน สามารถเป็นเพื่อนกับคนอย่างคุณหนูติรยาได้นั่นเป็นเพราะฉันโชคร้ายไปเหยียบก้อนขี้หมาเข้า และตอนนี้เป็นเวลางานของฉัน ถ้าพวกคุณต้องการจะถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ขอโทษด้วย ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะมาถกเถียงกับพวกเธอ”
ครั้งนี้ เธอไม่สนใจการรั้งให้เธออยู่ต่ออันจอมปลอมของติรยาอีก หันหลังแล้วเดินจากไปบริการลูกค้าท่านอื่นต่อ
บาร์นี่พูดด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “ฉันรู้สึกว่าปาณีทำตัวประหลาดจริงๆ ฉันว่านะ เวทัสทิ้งเธอไปเพราะว่าบ้านเธอต้องจนมากแน่ๆเลย!”