ตอนที่ 15
ตนที่ 15
“ห้ะ?”
ปาณีไม่รู้เรื่อง
บาร์นี่? คือบาร์นี่คนที่ฉันรู้จักหรอ? ฉันไปพูดตอนไหนว่าบาร์นี่ทำศัลยกรรม?
คนที่พูดคำพูดพวกนี้คือติรยาต่างหาก!
เกี่ยวกับฉันได้ไงเนี่ย?
“คุณทักคนผิดรึเปล่าคะ? ฉันไปพูดแบบนี้ตอนไหน?”
“ยังจะแสแสร้งอีก! เธอคิดว่าทำตัวไม่รู้ไม่ชี้แล้วพวกฉันจะดูไม่ออกหรือไง? โรงเรียนมัธยมชญตว์มีคนอย่างเธอ มันน่า ขยะแขยงจนอยากอ้วกจริงๆ! เก่งแต่นินทาคนอื่นลับหลัง! หน้าด้าน!”
คนที่ด่าปาณีน่าจะเป็นพวกแฟนคลับตัวโยงของบาร์นี่ พวกเธอเรียนโรงเรียนเดียวกันกับปาณี
พอบาร์นี่รู้ว่าปาณีนินทาเธอ เธอจึงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับแฟนคลับ ตอนนี้แฟนคลับของเธอจึงตามมาแก้แค้นแทนไอดอลของตัวเอง
“ฉันไม่เคยพูดจริงๆ พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว!”
“กล้าทำแล้วยังไม่กล้ารับอีกใช่ไหม? ตอนนั้นที่เธอแย่งแฟนติรยาไป ทำไมไม่รู้จักแย่งอย่างเงียบๆล่ะ? ยังดีที่เวทัสตาสว่างเลยทิ้งเธอไป!”
“ฉันไปแย่งแฟนของติรยาตอนไหน?” ปาณีแทบจะเป็นบ้า
ปาณีนึกถึงเมื่อกลางวันเพิ่งเจอพวกติรยาไป อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นฝีมือของติรยา??
“ติรยาเป็นคนพูดแบบนี้ใช่ไหม?”
“เธอจะสนว่าใครเป็นคนพูดทำไม เธอมันก็แค่คนที่กล้าทำแล้วไม่กล้ารับดีๆนี่เอง!”
......
ฝ่ายตรงข้ามด่าอย่างไม่หยุด ปาณีไม่สามารถทนดูอีกต่อไปได้จึงบล็อคเธอไป
จากอารมณ์ดีๆก็ต้องมาพังเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้
เค้กที่แสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า แต่ตอนนี้เธอกลับกินไม่ลง เธอใช้ซ้อมเสียบลงไปบนเค้กหลายจุด ไม่ได้กินต่ออีกเลย
ธามนิธิที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ เห็นปาณีนั่งนิ่งไปไม่ได้กินเค้กต่อ จึงถามว่า “เค้กไม่อร่อยหรอ?”
“เปล่า......เปล่าค่ะ......” ปาณีก้มหน้า ตาเธอเริ่มแดง
เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองธามนิธิเพราะกลัวว่าน้ำตาจะไหลออกมา
“เป็นไรไปล่ะ?”
เห็นปาณีนั่งเครียดกุมขมับของตัวเอง ธามนิธิเลยรู้สึกใจไม่ดี เขาไม่เคยเห็นปาณีเป็นแบบนี้มาก่อน “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ปาณีฟุบตัวลงบนโต๊ะ พูดอย่างอึดอัดว่า “คุณอา......”
“ร้องไห้แล้วหรือ”
“ไม่ได้ร้องสักหน่อย......”
ฉันจะไม่ร้องไห้เพราะติรยาเด็ดขาด
ปาณีพูดอย่างเบื่อหน่ายว่า“คุณอา คุณเคยโดนคนหักหลังไหมคะ?”
หลับพูดจบประโยค รู้สึกมีแสงแวบผ่านตาของธามนิธิ
คำถามนี้ ทำให้เขานึกถึงนลิน
แน่นอนว่าคนที่ฟุบอยู่บนโต๊ะอย่างปาณีจับสังเกตไม่ได้ เธอยังคงพูดต่อไปว่า “ที่แท้การโดนเพื่อนหักหลังมันเจ็บปวดอย่างนี้ นี่เอง......”
ธามนิธิได้ยินความเศร้าในเสียงนั้น เขาเก็บประกายแหลมคมในดวงตาไว้ ปิดหนังสือในมือลงแล้วเคลื่อนรถเข็นไปหาเธอ พร้อมพูดว่า “เธอเป็นภรรยาของฉัน ถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ เล่าให้ฉันฟังได้นะ”
ปาณีเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาที่แดงก่ำมองไปยังธามนิธิ
ดวงตากลมโตคู่นั้นแม้จะไม่มีน้ำตาไหลออกมา แต่น้ำตาเธอก็คลอเต็มเป้า
ธามนิธิเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกปวดใจ
“อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ...... แค่มีเพื่อนคนหนึ่ง หนูเห็นเค้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดมาตลอด แต่เขาไม่ได้คิดแบบนี้ ยัง นินทาหนูลับหลังอีก ทำให้คนอื่นเข้าใจหนูผิดไปหมด......”
ถ้าไม่เป็นเพราะว่าเห็นติรยาเป็นเพื่อนรัก เธอก็คงไม่เจ็บปวดขนาดนี้
ขณะที่เธอกำลังเสียใจ เธอก็ได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมไม่รู้ธาตุแท้ของเธอให้เร็วกว่านี้
“เป็นเพื่อนที่โรงเรียนหรอ?”
“อืม” ปาณีพยักหน้า
ธามนิธิลูบหัวเธอเบาๆ พูดว่า “ถ้าจัดการไม่ได้ก็บอกฉันนะ เดี๋ยวฉันช่วยเธอจัดการเอง”
ปาณีรู้สึกอุ่นใจ “ขอบคุณค่ะ คุณอา”
ในโลกใบนี้ คงมีแค่คุณอาคนนี้เท่านั้นสินะที่เป็นห่วงเธอจริงๆ