ตอนที่ 20
ตนที่ 20
“เธอมั่นใจ?”
ธามนิธิสงสัยในคำพูดของเธอ
ปาณีไม่อยากเชื่อที่ได้ยินแบบนี้ “อ้าว ก็เมื่อก่อนหนูก็เคยทำให้คุณอากินไง? ตอนอยู่ที่คฤหาสน์นั้น......”
“ลืม”
“.......” เรื่องที่เกิดขึ้นภายในสองเดือนเนี่ยนะ ลืมได้ไง?
ปาณีมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “คุณอา อย่าบอกนะว่าเมื่อก่อนคุณอาไม่รู้เลยว่าหนูเป็นใคร?”
ธามนิธิมองไปยังปาณี “อืม”
ไวยาตย์เป็นคนดูแลเรื่องการจัดหาคนใช้ เขาเคยสนใจเรื่องพวกนี้ที่ไหนล่ะ
เขาตอบอย่างจริงจัง ทำปาณีเสียใจเล็กน้อย แต่ก็คิดๆแล้ว ตอนนั้นที่ยังไม่รู้จักเขา เขาก็เป็นพวกแปลกๆเหมือนกันนะ เคยเจอ เขาสองสามครั้ง เขาเป็นคนประเภทที่ว่าสิ่งมีชีวิตห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด
ปาณีมองไปยังธามนิธิ พูดว่า “ถ้าสมมติว่าหนูไม่ได้แต่งงานกับคุณ คุณก็จะ......จำหนูไม่ได้เลยใช่ไหม?”
ธามนิธิตอบว่า “อาจจะ”
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ปาณีก็เข้าใจแล้ว ที่เขาดีกับเธอ นั่นเป็นเพราะว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นแต่งงานกับเขา เขาก็คงทำดีแบบนี้เหมือนกัน
เห่อเมียของตัวเองเป็นอุดมการณ์ของเขาสินะ
ปาณีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณอา คุณเคยเจอกับ......เรื่องที่ไม่ดีใช่ไหมคะ?”
ตลอดเวลาที่เธอกลับมากับเขา เธอรู้สึกได้ถึงคนในบ้านวิสิทธิ์เวชทุกคนจะปฏิบัติกับเขาอย่างระมัดระวัง เหมือนกลัวว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่สอง
ในเมื่อเขาดีกับเธอมากๆ ดูแลเอาใจใส่ในทุกๆเรื่องของเธอ ปาณีจึงคิดว่าตัวเองก็ควรทำความเข้าใจเขาสักหน่อย
ธามนิธิมองไปยังปาณี “ทำไมจู่ๆถึงถามคำถามนี้?”
“หนูก็แค่สงสัย! ก็คุณบอกเองว่าหนูเป็นภรรยาของคุณ? มีอะไรก็บอกคุณได้ตลอด งั้นคุณ......จะไม่เล่าเรื่องของคุณให้หนูฟังหน่อยหรอคะ?”
ธามนิธิหันหน้ามองไปยังนอกหน้าต่าง “ไม่มีเรื่องอะไร เธอไม่จำเป็นต้องรู้”
เขาเป็นลูกผู้ชาย เขาเกลียดที่จะแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็น แม้แต่กับปาณีก็เช่นกัน!
“ไม่เป็นไรค่ะ” ปาณียิ้มแล้วพูดว่า “รอคุณอยากพูดเมื่อไหร่ค่อยบอกหนูก็ได้ค่ะ”
ธามนิธิมองไปยังปาณี แต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะเขารู้สึกว่าจะไม่มีวันนั้น
ไวยาตย์ที่นั่งอยู่ข้างหน้า มองไปยังธามนิธิผ่านทางกระจก เขาถอนหายใจในใจอย่างอึดอัด เดิมเขาคิดว่าธามนิธิดีกับปาณีขนาดนี้ คงยอมเปิดใจให้กับปาณี! แต่ตอนนี้คงไม่ใช่แบบนั้นสินะ
“คุณไวยาตย์คะ ช่วยจอดข้างหน้าหน่อยนะคะ หนูจะลงที่นี่ ละก็จะแวะซื้อของนิดหน่อยค่ะ” เมื่อใกล้ถึงบ้าน ปาณีก็เอ่ยปากพูดกับไวยาตย์
ไวยาตย์ตอบว่า “จะซื้ออะไรหรอครับ เดี๋ยวผมลงไปซื้อให้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” ปาณีตอบ “หนูจะลงไปเดินเล่นด้วย”
แม้เธอจะเรียนที่นั่น แต่ว่าไปแล้วเธอยังไม่เคยมีเวลาไปเดินเล่นแบบจริงจังเลย
ไวยาตย์มองสีหน้าของธามนิธิ เขาจึงจอดรถไว้ข้างทางตามที่ปาณีบอก ปาณีพูดว่า “พวกคุณไม่ต้องรอหนูนะคะ เดี๋ยวหนูกลับบ้านเองได้ค่ะ”
ที่นี่อยู่ห่างจากบ้านของธามนิธิไม่ไกลเท่าไหร่
ธามนิธิกับไวยาตย์จึงกลับไปก่อน
ไวยาตย์กำลังรายงานสรุปงานให้กับธามนิธิ “มีบริษัทเล็กๆที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาได้ส่งอีเมลให้คุณครับ เขาขอให้คุณช่วยสนับสนุนด้านการเงินให้กับบริษัทเขา ผมดูประวัติของบริษัทนี้แล้วครับ เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยการรวมตัวเล่นๆของนักศึกษาหลายๆคน คุณจะดูด้วยไหมครับ?”
“เดี๋ยวเอามาให้ฉันดูหน่อยละกัน!”
ปาณีหิ้วถุงเล็กใหญ่มากมายกำลังเข้ามาในบ้าน เมื่อเห็นภาพนี้ แม่บ้านจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย “คุณหนูปาณี ทำไมซื้อของมาเยอะแยะล่ะคะ?”
“หนูเห็นว่ามันน่ากินก็เลยอดใจไม่ซื้อไม่ได้ เลยเอามาทั้งหมดนี้แหละค่ะ” มีพืชผักและผลไม้สดๆมากมาย แต่มันหนักไปหน่อย เธอเหนื่อยแทบตายที่หิ้วกลับมาเองทั้งหมด