ตอนที่ 38
ตนที่ 38
การกระทำของนลิน มีสุวรรณ์ เปรียบเสมือนราดน้ำมันเข้าไปในไฟ หิมะที่ปกคลุมหนาอยู่แล้วยังไม่พอ ยังมีน้ำค้างแข็งเกาะเพิ่มเข้าไปอีก
ชลธีแสดงสีหน้ารู้สึกผิด“ต้องขอโทษจริงๆครับ ธามนิธิเกิดอุบัติเหตุ พวกเราก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพียงแต่ว่า...... นลิน ของเราอายุยังน้อย อยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เธอไปในครั้งนี้ อาจจะใช้เวลา 5-6 ปี สินสอดทองหมั้นที่ได้มาก่อนหน้านี้ ทางเรายินดีจะคืนเป็นสองเท่า แบบนี้จะดีกับเราทั้งสองฝ่าย เป็นความผิดของทางเราครับ พวกเราต้องขอโทษธามนิธิด้วย แต่ เรามีนลินลูกสาวคนเดียว ตามใจเธอจนเสียคน! ตอนนี้เธอไปต่างประเทศแล้ว เราก็ไม่สามารถนำตัวเธอกลับมาได้ ใช่ไหมล่ะครับ?”
แม้ปากจะบอกว่าขอโทษ แต่ความตั้งใจที่จะถอนหมั้นแน่วแน่มาก
ยอมที่จะจ่ายคืนสินสอดทองหมั้นสองเท่า ก็จะไม่ยอมให้ลูกเขาคนเดียวของเขาแต่งงานกับธามนิธิ
เพราะเขามั่นใจว่าบ้านวิสิทธิ์เวชทำอะไรกับนลินที่ไปต่างประเทศแล้วไม่ได้อยู่ดี
ธามนิธิเป็นหมัน ถ้าเกิดว่านลินแต่งงานกับเขา ไม่สามารถมีลูกได้ในอนาคต บ้านเขาก็ไม่มีทายาทแล้วสิ!
เพราะฉะนั้น ยอมที่จะผิดใจกับบ้านวิสิทธิ์เวช ก็จะไม่ยอมให้ลูกสาวของพวกเขาต้องรับชะตากรรมแบบนี้
ฐิติพรมองไปยังใบหน้าที่จอมปลอมของชลธี อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เพราะฉะนั้น ที่คุณมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะถอนหมั้นใช่ไหมคะ?”
นลินหนีไปแล้วก็ช่างเถอะ พวกเขาก็ไม่ได้ไปหาเรื่องอะไร ไม่คิดเลยว่าบ้านมีสุวรรณ์กลับมาถอนหมั้นซะเอง
ชลธีนั่งอึดอัดอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ตอบอะไร
สุดท้ายทัดพรเป็นคนเอ่ยปากพูดว่า“เมื่อก่อนธามนิธิปกติดีทุกอย่าง นลินแต่งงานกับเขา พวกเราก็ดีใจมาก แต่สภาพของเขาตอนนี้...... คงไม่สามารถให้นลินของพวกเรามาปรนนิบัติดูแลเขาไปตลอดชีวิตใช่ไหมล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น เราได้ยินมาว่า เขายาก ที่จะมีทายาทได้ ถ้าหากว่าเราให้นลินแต่งงานกับเขา ก็คงเป็นเหมือนแม่ม่ายน่ะสิ แค่แต่งงานกันในนาม แต่ไม่มีความสัมพันธ์แบบคู่สามีภรรยาใดๆ เราก็เป็นพ่อแม่คนเหมือนกัน พวกคุณก็ต้องคิดเผื่อนลินลูกสาวของเราด้วยใช่ไหมล่ะคะ? ”
เธอเป็นผู้หญิง ไม่เหมือนชลธีที่กลัวเสียหน้า อยากพูดอะไรก็พูดออกไปตรงๆ
ปาณีที่เป็นผู้เฝ้าดูอยู่นอกประตู ได้ยินคำพูดพวกนี้ยังรู้สึกโกรธเคืองเลย
คนในปัจจุบันชัดเจนเกินไปหรือเปล่า?
ตอนคุณอาปกติดี พวกเขาก็อยากให้ลูกสาวแต่งงานมาบ้านนี้
แต่พอตอนนี้คุณอาเกิดอุบัติเหตุ พวกเขาก็อยากถอนหมั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ยังพูดจาน่าเกลียดขนาดนี้อีก...... เป็นม่ายเอย มีลูกไม่ได้เอย!
ถ้าคุณอามาได้ยินคำพูดพวกนี้ จะเสียใจขนาดไหน?
ดีนะที่คุณอาไม่อยู่!
ปาณีเพิ่งมีความคิดนี้ลอยขึ้นมา ก็รู้สึกได้ถึงความเย็นรอบๆบริเวณเธอ เธอหันหน้ากลับไป ถึงพบว่าธามนิธิและไวยาตย์อยู่ข้าง หลังเธอแล้ว ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
สีหน้าของทั้งสองคนขรึมมาก ธามนิธิแสดงสีหน้าเย็นชา ไม่พูดไม่จาสักคำ
ดูจากสีหน้าของพวกเขาแล้ว รู้ได้เลยว่าพวกเขาได้ยินในสิ่งที่เธอพูดเมื่อกี้ทั้งหมด
ปาณีพูดว่า“คุณอา”
ธามนิธิมองเธอแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร และให้ไวยาตย์เข็นเขาออกไป
ปาณีเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ก็กระดากกระเดื่องที่จะฟังต่อ เธอจึงรีบเดินตามพวกเขาไป
“คุณอา......”
เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เห็นไวยาตย์ได้ส่งสายตาให้เธอว่าไม่ควรพูดในตอนนี้ ปาณีจึงปิดปากเงียบไว้
ไวยาตย์และธามนิธิเข้าไปในห้อง ทิ้งให้ปาณีรออยู่ข้างนอกคนเดียว เธอไม่กล้าที่จะเดินไปไหน จึงรออยู่ตรงนั้น รอไปประมาณ 5 นาที ไวยาตย์ก็ออกมา
“คุณอาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”ปาณีคิดว่า หากเธอเจอสถานการณ์แบบธามนิธิ ได้ยินคำพูดที่คนในบ้านมีสุวรรณ์พูดอย่างนั้น ต้องเสียใจมากแน่ๆ
ไวยาตย์ตอบว่า“คุณลงไปนั่งเล่นข้างล่างก่อน ให้เขาอยู่คนเดียวสักพัก”
ไวยาตย์แทบจะหมดคำพูด ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นสภาพจิตใจของธามนิธิที่ดีขึ้น คนในบ้านมีสุวรรณ์ กลับเอามีดมาแทงซ้ำอีก