ตอนที่ 46
ตนที่ 46
นอกจากเหตุผลนี้แล้ว เธอก็คิดอะไรไม่ออกอีก
แต่ว่า......
ไม่คาดคิดเลยว่าน้องชายของเธอคนนี้จะหวั่นไหวกับผู้หญิงเป็นด้วย?
ไม่กล้าคิด?
......
ไม่นานมากนัก ปาณีที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็ลงมา
เธอเดินเข้ามา จันวิภามองไปยังปาณีที่เพิ่งเปลี่ยนชุดมา เนื้อผ้าของชุดนี้และผลลัพธ์ที่ใส่ออกมาไม่เลวเลยทีเดียว ปาณีที่สวมใส่ชุดนี้ ทำให้บุคลิกของเธอดูไม่เหมือนเดิม
จันวิภารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอมองไปยังธามนิธิ ยิ้มพูดว่า “โอเค ถือว่าน้องชายฉันมีสายตาที่เฉียบแหลม”
ธามนิธิจ้องมองปาณีไม่วางตา แต่ไม่พูดอะไร
ปาณีรู้สึกอึดอัดที่ถูกทั้งสองคนจ้องมอง จึงถามว่า “พวกพี่คุยอะไรกันอยู่หรอคะ?”
“ไม่มีอะไรจ้ะ” จันวิภายืนขึ้น พูดว่า “รีบมานั่งนี่สิ! พวกเธอคุยกันไปก่อน พี่จะไปทักทายแม่ก่อน ได้ข่าวว่าวันนี้แม่จะเครียดตายแล้ว”
ประเด็นหลักที่จันวิภามาในวันนี้ก็เพื่อที่จะปลอมใจฐิติพร
นลินเป็นคนที่เธอแนะนำมา ไม่ว่าตอนนี้จะเกิดเรื่องอะไร คุณแม่ก็จะโยนความรับผิดชอบนี้ให้เธอไม่มากก็น้อย จันวิภาเองก็หมดทางเลือกสำหรับเรื่องนี้
หลังจากที่จันวิภาออกไปแล้ว ปาณีมายืนอยู่ตรงหน้าธามนิธิ ถามว่า “สวยไหมคะ?”
ธามนิธิมองดูเธอ ผิวเธอขาวมาก ปกติเห็นเธอใส่แต่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นใส่กระโปรง รู้สึกสวยและมีเสน่ห์ไม่น้อย
ในความเป็นจริง คนที่ใส่กระโปรงมีเยอะแยะ แต่เขารู้สึกว่า ปาณีใส่กระโปรงแล้วดูสวยมาก
ช่วยไม่ได้ ใครให้มีผู้หญิงสวยในโลกนี้เยอะแยะ แต่ธามนิธิกลับมีภรรยาคนเดียวล่ะ?
พอเห็นว่าธามนิธิไม่พูดอะไร ปาณีจึงเดินไปนั่ง พูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังเล็กน้อยว่า “ไม่สวยหรอคะ?”
“......” ธามนิธิมองไปยังใบหน้าของเธอ
ปาณีบ่นว่า “ถึงจะไม่สวย คุณก็น่าจะชมหนูหน่อยนะคะ! คุณเป็นอย่างนี้เดี๋ยวสาวๆจะรังเกียจเอานะคะ!”
ธามนิธิยังคงจ้องมองปาณี “รังเกียจฉันแล้วหรอ?”
ปาณียิ้มมุมปาก “ไม่ใช่ค่ะ หนูจะรังเกียจคุณอาได้ยังไงคะ? คุณอาดีขนาดนี้”
ธามนิธิพูด “มานี่สิ”
“ทำไมคะ?” ปาณีระแวงเล็กน้อย รู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าคุ้นๆ
เขาคงจะไม่จูบเธออีกใช่ไหม!
วันนี้ในห้องนอน เขาก็เป็นแบบนี้
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นแบบนั้น ปาณีก็เดินเข้าไปใกล้เขา
ธามนิธิเคลื่อนตัวไม่สะดวก เพราะฉะนั้น ขอแค่เขาเปิดปากพูด ปาณีก็จะทำตาม
เธอเข้าใกล้ธามนิธิ และได้ยินธามนิธิพูดว่า “หลับตาลง”
ปาณีปิดตาลงอย่างว่าง่าย “...... คุณจะทำอะไรหรอคะ?”
ไม่มีรอยจูบที่คาดหมายไว้ มีเพียงมือเขาที่วางอยู่บนหัวเธอพร้อมกับขยี้เบาๆ “ขี้เหร่จะตาย!”
“......”
ขณะที่ปาณีกำลังสนทนากับธามนิธิ มือถือก็ดังขึ้น
เธอพูดว่า “หนูรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
หลังจากที่เอามือถือออกมา สายตาของปาณีก็มองไปยังหน้าจอ เห็นเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นเคย ทำให้เธออึ้งไปสักพัก
เธอยืนขึ้น เดินไปมุมหนึ่งของห้อง กดรับสาย น้ำเสียงของเธอเย็นชามาก “มีธุระอะไร?”
เวทัสนั่งอยู่บนโซฟา เขาโทรมาเพื่อจะเช็คว่าปาณียังโกรธอยู่หรือเปล่า
เมื่อวานเธอโกรธจนไม่ลงมากินข้าวเลยไม่ใช่หรอ?
เขาถามว่า “ยังโกรธอยู่หรอ?”
ก็ยังคงเหมือนเมื่อก่อน ทุกครั้งที่พวกเขาทะเลาะกัน น้ำเสียงที่เขาโทรมาขอเธอคืนดีก็จะเป็นแบบนี้
แสงแดดยามบ่ายส่องเข้ามาทางกระจกใส ปาณีมองไปยังลวดลายของกระเบื้องบนพื้น เหม่อเล็กน้อย
เธอดึงสติตัวเองกลับมา พูดว่า “ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
เวทัสพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “ถือโอกาสที่ฉันไม่อยู่ เธอก็ฟ้องน้าชายฉันอีกแล้วล่ะสิ?”