ตอนที่ 50
ตนที่ 50
ไวยาตย์ยืนมองเขาอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังโกรธ หรือไม่ได้โกรธ
ถ้าพูดว่าโกรธก็เป็นเรื่องปกติ เพราะตอนที่ปาณีกลับมาที่บ้าน ก็บอกว่าไม่รู้จักเวทัสต่อหน้าทุกคนในบ้าน จุดที่โกหกหลอกลวงนี้ ถือว่าเธอทำไม่ถูก
อย่างไรก็ตาม การที่ปาณีไม่พูดออกมา แน่นอนเธอก็มีจุดยืนของตัวเอง
เธอก็คงไม่สามารถกลับมาแล้วบอกทุกคนได้ว่าเวทัสเป็นแฟนเก่าของเธอนิ!
ไวยาตย์ปริปากพูดว่า “ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาก็คบกันเล่นแบบเด็กๆ ใครล่ะจะไม่เคยมีช่วงชีวิตวัยรุ่น? คุณก็อย่าใส่ใจมากเลยครับ”
ในเวลานี้ มือถือของธามนิธิก็ดังขึ้น เป็นเสียงเตือนของข้อความเข้า ข้างในมีข้อความที่เขียนไว้ว่า :
คุณอาธามนิธิ สวัสดีค่ะ หนูคือติรยา แฟนของเวทัสค่ะ
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หนูทำให้คุณโกรธตอนอยู่ที่บ้านของคุณเมื่อวานนี้
ความจริงแล้ว หนูไม่เคยคิดเลยค่ะ ว่าจะเจอปาณีที่บ้านของคุณเมื่อวานนี้ เมื่อก่อนปาณีเป็นเพื่อนสนิทของหนูค่ะ เธอรู้ทั้งรู้ว่าเวทัสเป็นแฟนของหนู ยังถือโอกาสที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับเขาอ่อยเขาบ่อยๆ หลังจากที่หนูรู้เรื่องนี้ หนูก็เลยไม่ค่อยไปมาหาสู่กับเธออีก ไม่คิดเลยค่ะว่าจะเจอเธอที่บ้านของคุณ!
ครอบครัวของปาณียากจนมาก เพราะฉะนั้น ปกติคนไหนรวย เธอก็จะชอบคนนั้น เพียงแต่ว่า คุณเป็นน้าของเวทัส หนูทนไม่ได้จริงๆที่เธอมาหลอกคุณอย่างนี้! หนูจึงรวบรวมความกล้าเพื่อบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ถ้าหากคุณไม่ถือสาอะไร ก็ถือซะว่าหนูไม่เคยพูดค่ะ
เธอได้เบอร์โทรมาจากเวทัส เพราะเธอบอกว่าอยากขอโทษธามนิธิ เวทัสจึงให้เธอมา
ธามนิธิมองไปยังข้อความในมือถือแล้วยิ้มมุมปาก
ไวยาตย์มองไปยังเขา แม้เขาจะยิ้มออกมา แต่ทำไมรอยยิ้มนั้นทำให้คนอื่นรู้สึกแปลกๆล่ะ?
เขาจึงถามว่า “คุณธามนิธิ มีเรื่องอะไรหรอครับ?”
“นายลองดูเองสิ” ธามนิธิโยนมือถือไปให้เขา
ไวยาตย์รับมอถือมา จ้องไปยังมือถือและอ่านข้อความที่ติรยาส่งมาให้ในใจหนึ่งรอบ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเข้มขรึมทันที “ถ้าเกิดปาณีเป็นคนอย่างนี้จริงๆ ผมรู้สึกว่าคุณธามนิธิควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานกับเธออย่างจริงจังอีกครั้งนะครับ”
ในความเป็นจริง จนถึงเวลานี้แล้ว ไวยาตย์ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมธามนิธิกับปาณีถึงคบกันได้
วันนั้นที่เขาถูกธามนิธิเรียกไปทำสัญญาการแต่งงานก็เกินความคาดหมายมาก
ปาณีก็เป็นแค่เด็กที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร เป็นแค่คนใช้ที่มาทำงานในบ้าน ปกติก็ไม่ค่อยได้พบเจอกับธามนิธิอยู่แล้ว
นึกถึงวันนั้น ที่เธอช่วยธามนิธิทำแผล แค่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ทำให้ธามนิธิตัดสินใจขอเธอแต่งงานได้ ไวยาตย์อดไม่ได้ที่จะนับถือความสามารถของเธอจริงๆ
ดูไม่ออกเลยว่า ปาณีมีวิธีการอันเฉียบขาดที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
แม้แต่ธามนิธิที่ว่าจัดการยากแล้วยังถูกเธอหลอกได้
ธามนิธิไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองไปยังไวยาตย์ที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ไวยาตย์ยิ่งคิดยิ่งโมโห พูดว่า “คุณไม่รู้ว่าผู้หญิงสมัยนี้ ไม่เหมือนกับผู้หญิงยุคที่เรายังเรียนอยู่ อายุแค่นี้ไม่ตั้งใจเรียน แต่ละคนหยิ่งยโสมากกว่าอีกคนอีก ยอมเป็นมือที่สามแต่งงานกับคนรวยก็เยอะแยะครับ”
.......
ปาณีนอนอยู่บนเตียง เล่นมือถือสักพัก หลังจากนั้นก็หลับไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมา ขณะที่เธอตื่น เธอเห็นธามนิธินั่งอยู่ข้างๆ กำลังมองมาที่เธอ
ปาณีขยี้ตาเบาๆ มองไปยังเขา “คุณอา มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ หนูไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”
“มาแล้วสักพัก” เขายังคงมองปาณีด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง แต่ปกติเขาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ปาณีจึงไม่รู้สึกแปลกอะไร
ปาณีใส่เสื้อยืดของธามนิธิ นอนหนุนหมอนอยู่บนเตียง มองดูเขาอย่างอ่อนโยน “คุณคงไม่ได้นั่งเฝ้าหนูอยู่ตรงนี้ตลอดมั้งคะ!”