ตอนที่ 75
ตนที่ 75
“ได้สิ” ไหนๆก็ต้องนัดพ่อแม่เพื่อพบกับครอบครัวของธามนิธิอยู่ดี สู้แอบสืบจากนภันต์ก่อนดีกว่า
นภันต์พูดว่า “ถ้างั้นเดี๋ยวผมส่งที่อยู่ไปให้นะ”
“อื้ม”
......
ปาณีนอนลงบนเตียง มือถือวางไว้อีกฝั่งหนึ่ง เวลาที่อยู่กับธามนิธิ เขาจะไม่ค่อยชอบให้เล่นมือถือนัก นานๆเข้า ทุกครั้งที่เขาอยู่ด้วย เธอก็จะวางมือถือไว้
เธอนอนหนุนหมอน จู่ก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เธอรีบลุกขึ้นไปเอามามือถือมา
การกระทำของเธอดึงดูดความสนใจจากธามนิธิ
ธามนิธิอดไม่ได้ที่จะมองเธอแวบหนึ่ง “ใครส่งข้อความมา?”
ปาณีเห็นแผนที่ที่นภันต์ส่งมาไม่ได้ไกลจากที่นี่มากนัก
“น้องชายหนู สองสามวันนี้มาเข้าร่วมการแข่งขัน ให้หนูเลี้ยงข้าวเขาพรุ่งนี้” ปาณีมองไปยังธามนิธิ “คุณอา พรุ่งนี้หนูอยากออกไปหน่อย ได้ไหมคะ?”
เพื่อที่จะไม่ให้คุณอาเป็นห่วง ดังนั้น เธอจะบอกเขาก่อนทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
ธามนิธิมองไปยังท่าทางที่เป็นเด็กดีของเธอ พยักหน้าตอบ “อื้ม”
“หนูถือโอกาสไปสืบปฏิกิริยาของพ่อแม่สักหน่อย”
ตอนมาที่เมืองชยุตก็ตรงกับช่วงที่ฝนสิรินัดบ้านแก้วใสเพื่อพบปะหาคู่ให้เธอ พ่อแม่โทรหาเธอหลายสาย ปาณีจึงทำการบล็อกทั้งสองคน หลังจากนั้นถึงจะเงียบสงบหน่อย
และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้พ่อแม่จะคิดยังไง ในใจเธอกระสับกระส่ายเป็นอย่างมาก
ธามนิธิลูบหัวเธอเบาๆ “ก็ดี มีปัญหาอะไรก็โทรฉันนะ”
ปาณียิ้มตอบ “ค่ะ”
ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เวลาอยู่ใกล้เขา มักทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
เมื่อก่อนรู้สึกว่าต้องเผชิญกับทุกสิ่งด้วยตัวเอง ไม่มีอำนาจใดๆ และไม่มีคนที่สามารถให้พึ่งพิงได้ แต่ในตอนนี้ มีเขาเป็นโล่กำบังแบบนี้ ก็เหมือนได้ครอบครองโลกทั้งใบ แม้แต่ฟ้าจะถล่มทลายก็ไม่กลัว
.....
เมื่อเวลาเที่ยงของวันถัดมา ตอนที่ปาณีไปถึงร้านอาหาร พบว่านภันต์ถึงก่อนแล้ว
แต่เดิมเธอคิดว่า อย่างมากก็แค่เจอเพื่อนในทีมของนภันต์ ผลปรากฏว่า ไม่ได้เจอเพื่อนของนภันต์ แต่กลับเจอแม่ของเธอเอง
พอเห็นฝนสิริ ปาณีก็ขมวดคิ้ว อยากหมุนตัวแล้วหันหลังเดินออกไปเลย แต่ว่า เมื่อคิดถึงเรื่องของบ้านวิสิทธิ์เวช เธอจึงจำใจต้องอยู่ต่อ
แต่ว่า ในใจของเธอก็ยังคงโมโห ไม่คิดเลยว่านภันต์จะหลอกเธอ!
เธอจ้องหน้านภันต์ตาเขม่น “นายบอกว่ามาเข้าร่วมการแข่งขันไม่ใช่รึไง?”
นภันต์ตอบอย่างคนอ่อนแอว่า “ใช่ แข่งเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“ถ้างั้นแม่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?” พบเจอกะทันหันแบบนี้ ปาณีตั้งตัวไม่ทัน
นภันต์ตอบว่า “พี่ พี่ก็อย่าโกรธแม่อีกเลยนะ ช่วงนี้แม่อยากหาโอกาสเจอพี่ตลอดเวลา พี่ไม่รับสายแบบนี้ แม่ก็จนปัญญา”
ฝนสิรินั่งมองปาณีอยู่ข้างๆ พูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ปาณี ก่อนหน้านี้แม่ผิดเอง ไม่ควรจะดุลูก และไม่ควรที่จะตีลูกด้วย ลูกกลับบ้านกับแม่ ดีไหม? หลายวันที่ลูกไม่อยู่นี้ แม่กับพ่อของลูกเป็นห่วงลูกจนนอนไม่หลับสักคืน กลัวว่าลูกอยู่ข้างนอกจะโดนคนอื่นหลอกเอา”
ต้องรู้ว่าตอนนั้นเธอออกไปพร้อมกับไวยาตย์
ไม่ง่ายเลยที่เลี้ยงลูกสาวมาจนโต แต่หนีออกไปกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ ฝนสิริจะไม่เป็นห่วงได้ยังไง?
เรื่องราวก็ได้ผ่านไปครึ่งเดือนกว่าแล้ว ปาณีเห็นท่าทางของแม่ที่จริงใจอย่างนี้ คิดว่ายังไงก็เป็นแม่แท้ๆของเธอ บุญคุณที่คลอดเธอเลี้ยงดูเธอมา ทำให้ตัวเองใจอ่อนไปชั่วขณะ
ปาณีนั่งลง พบว่าฝนสิริและนภันต์จองโต๊ะที่ใหญ่มาก
เธอหยิบเมนูอาหารขึ้นมา ราคาอาหารแต่ละอย่างแพงทีเดียวเชียว