ตอนที่ 129
ตนที่ 129
เธอกำลังเตรียมตัวจะเคาะประตู ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน ติรยาเดินออกมา พอเห็นปาณี ก็ทำสีหน้าได้ใจมาก แต่กลับแสร้งทำน้ำเสียงที่อ่อนหวาน “เธอตื่นแล้วหรอ?”
เห็นสีหน้าท่าทางของเธอแบบนี้ ปาณีรู้สึกได้ว่าติรยาต้องพูดไปแล้วแน่ๆ
ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่สะใจขนาดนี้!
ปาณีอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “เธอมีธุระอะไรกับคุณอา?”
“ก็แน่นอนว่าต้องคุยเรื่องของเธอกับคุณอาธามนิธิสิ! เขาสนใจเรื่องตอนเธออยู่ในโรงเรียนมากเลยนะ!” น้ำเสียงที่สบายใจของติรยา “ฉันจำได้ว่าฉันนัดเธอออกมาคุยในวันนี้ เธอไม่มาเอง ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่มีทางเลือก”
เพียงแค่เธอพูดเรื่องนี้ออกไป ไม่ว่าปาณีอยากคบกับเวทัสหรืออยากคบกับธามนิธิ ก็เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น!
ถึงเวทัสจะยินยอม แต่ครอบครัวของเวทัสต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน
เธอจะรอดูว่าปาณีจะหยิ่งยังไงได้อีก
ปาณีจับแขนของติรยาไว้ “เธอพูดอะไรกับคุณอา?”
ติรยามองดูท่าทางของปาณีที่ตื่นเต้นเล็กน้อย “แน่นอนว่าไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น! ปาณี ฉันเคยพูดว่าชาตินี้เธอก็ไม่มีทางได้ดีเด็ดขาด ถ้าฉันเป็นเธอนะ จะรีบไปเก็บของแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ ดีกว่าให้คนอื่นมาไล่ ถึงตอนนั้นคงขายหน้าแย่?”
หลังพูดจบ ติรยาตั้งใจยิ้มมุมปาก ใบหน้าของผู้หญิงที่ร้ายกาจมาก ร้ายจนถึงขั้นสุด!
ปาณีพูดว่า “เธอมุ่งเป้ามายังฉันขนาดนี้ มีประโยชน์ต่อเธอมากเลยหรอ? เธอเคยคิดไหมว่า ถ้าหากเธอพูดเรื่องนี้ออกไป เธอกับเวทัสจะเป็นยังไง?”
ติรยาพูดอย่างไม่กลัวว่า “อย่างมาก็แค่เลิกกัน! หลังจากที่ฉันเลิกกับเขา ฉันก็ยังเป็นติรยาอยู่ดี พ่อแม่ฉันรวย ฉันจะกลัวอะไร แต่ถ้าหากเธอออกไปจากบ้านวิสิทธิ์เวชแล้ว ปาณี เธอก็เตรียมตัวไสหัวกลับเมืองชลธีได้เลย”
สิ่งที่เธอไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าปาณีจะได้
ปาณีพูดว่า “เธอให้ความสำคัญกับฉันขนาดนี้เลยหรอ? ยอมทำลายภาพพจน์ของตัวเองต่อหน้าคนในบ้านวิสิทธิ์เวช และจะทำลายฉันด้วย”
“เธอบังคับฉันเอง!” ติรยาพูดว่า “ฉันถูกเวทัสทิ้งแล้ว ยังไม่ยอมตายใจที่ปรากฏตัวต่อหน้าเขา อ่อยเขาแบบนี้ ปาณี คนที่น่ากลัวที่สุดในโลกใบนี้คือคนที่ไม่รู้จักตัวเอง เธอมาจากชนบท ก็ควรยอมจำนนต่อชีวิตแบบนั้น! อย่ามาฝันลมๆแล้งๆแบบนี้อีก!”
ในสายตาของเธอ ปาณีไม่คู่ควรจะได้แม้กระทั่งธามนิธิที่ลุกขึ้นยืนไม่ได้
ปาณีไม่มีคุณสมบัตินี้
ปาณีมองไปยังติรยา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เพราะคำพูดนี้ของเธอ ฉันจะพยายามต่อไปแน่นอน”
ติรยาก็แค่พึ่งที่บ้านรวยถึงหยิ่งยโสได้ขนาดนี้ ถึงรู้สึกว่าตัวเองสู้เธอไม่ได้
ปาณีอดไม่ได้ที่จะสาบานในใจว่า ต้องมีสักวัน เธอจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นเอง ถึงเวลานั้นเธอจะทำให้ติรยาพูดไร้สาระไม่ได้อีกแม้แต่คำเดียว
ติรยาพูดอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านว่า “ถ้าอย่างนั้นเธอก็พยายามต่อไปละกันนะ!”
เธอเชื่อมาตลอดว่า ชีวิตของคนถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เกิดแล้ว
เหมือนคนอย่างปาณีที่ไม่มีอะไรเลย คิดจะพลิกชีวิตให้ดีขึ้น เป็นไปไม่ได!
เธอเชิดหน้าใส่ปาณีแล้วเดินจากไปเลย
พอเดินถึงบันได ก็เห็นเวทัสยืนอยู่ตรงนั้น “เธอไปหาน้าทำไม?”
ก็ยังคงเป็นเรื่องของปาณีที่ทำให้เขาสนใจได้
ติรยารู้สึกร้อนตัวก่อน จากนั้น ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอเดินไปยืนอยู่ต่อหน้าเวทัส “ก็นายอยากคบกับปาณีไม่ใช่หรอ? ฉันก็ต้องช่วยนายอยู่สิ!”
“ช่วยฉัน?” เวทัสเต็มไปด้วยความสงสัย
ติรยาพูดว่า “ฉันบอกกับน้าของนายแล้ว เรื่องที่พวกนายเคยคบกัน น้านายรู้เรื่องนี้แล้วก็ต้องเลิกกับเธอแน่ๆ ถึงเวลานั้น นายก็มีโอกาสแล้วไม่ใช่รึไง?”