ตอนที่ 146
ตนที่ 146
“ไม่ใช่” ชยรพยิ้มพูดว่า “ถ้าหากเป็นผู้หญิงในท้องที่พูด แค่แวบเดียวฉันก็ฟังออก”
“ฉันก็เหมือนกัน” ปาณีมองไปยังชยรพ นั่งโต๊ะเดียวกันกับเวทัส ทำให้ปาณีรู้สึกอึดอัดมาก จึงทำได้เพียงคุยกับชยรพเพื่อฆ่าเวลา
ชยรพพูดว่า “ใช่แล้ว ฉันจบมาจากโรงเรียนมัธยมแห่งที่สอง เธอล่ะ? จบจากโรงเรียนไหนหรอ?”
“โรงเรียนมัธยมชญตว์”
“เอ้ะ เธอกับเวทัสจบจากโรงเรียนเดียวกันนี่” ชยรพรีบหันไปมองเวทัส “พวกเธอเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกันหรอเนี่ย!”
เวทัสมองปาณีแวบหนึ่ง พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่สนิท”
ตอนนี้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าปาณีจะเป็นปล่อยตัวแบบนี้
คนอื่นมาขอวีแชทเธอ เธอก็ให้?
คนอื่นชวนไปทานข้าว เธอก็ไป?
เธอใจง่ายเหมือนที่ติรยาพูดจริงๆ ทำแบบนี้ไม่กลัวผิดต่อน้าบ้างเลยรึไง?
ชยรพหัวเราะพูดว่า “คุณชายอย่างนายมาตรฐานสูงจนสายตาไปอยู่บนฟ้าแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่สนิทสิ”
ปาณีทานข้าวอย่างเงียบๆ นอกเสียจากว่าคนอื่นจะคุยกับเธอก่อน เธอถึงจะตอบไปสองสามคำ
โมรีต่างหากที่หาโอกาสคุยกับเวทัสอยู่ตลอดเวลา
ที่เธอตกลงมาทานข้าวกับชยรพ ไม่ได้ดป็นเพราะชอบชยรพอย่างที่ปาณีคิดแน่นอน แต่เป็นเพราะว่าเธอเห็นชยรพอยู่กับเวทัสทุกวัน รู้ว่าพวกเขาสนิทกันมาก
ตอนที่ติรยาเดินมากับทีนาร์ ก็เห็นปาณีกับเวทัสนั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกันพอดี สายตานั้นเศร้าลงเล็กน้อย
เธอรู้อยู่แล้วว่าปาณีเป็นนางแพศยา ผ่านมาไม่กี่วันก็อยู่กับเวทัสแล้ว!
......
หลังรับประทานอาหารเสร็จ เพื่อสะดวกในการติดต่อ ชยรพกับโมรียังแอดวีแชทของกันและกัน
ตอนเช้าตื่นเช้าไปหน่อย ปาณีจึงรีบกลับไปนอนกลางวันที่ห้อง กลับไปพร้อมกับโมรี
เพิ่งจะก้าวเข้าไปในห้อง ก็ถูกติรยาขวางไว้สักก่อน
ติรยาจ้องหน้าปาณี “ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับเธอ”
ปาณีมองไปยังโมรีและทีนาร์ที่อยู่ข้างๆ กลัวจะรบกวนพวกเขา จึงออกไปคุยกับติรยาข้างนอก
ติรยามองหน้าปาณี ยกมือขึ้นและเหวี่ยงมือออกไป เกือบจะตบโดนปาณีแล้ว
ดีที่ปาณีมือไว จับแขนของติรยาไว้ได้ทันพอดี
ปาณีมองไปยังติรยา สายตาเย็นชามาก ในนัยน์ตาที่ดำสนิทนั้นเหมือนซ่อนน้ำแข็งไว้ “เธอเป็นบ้าอะไรอีก?”
เธอยังไม่ได้คิดบัญชีกับติรยาที่พยายามทำให้เธอกับคนอื่นผิดใจกันลับหลัง และนี่ยังถึงขั้นจะลงไม้ลงมืออีก!
ติรยาพูดว่า “เธอมีสิทธิ์อะไรไปกินข้าวกับเวทัส มีสิทธิ์อะไร?”
“ฉันชอบแบบนี้ เกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ?” แม้ว่าเรื่องในวันนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ปาณีก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอธิบายให้ติรยาฟัง
“ปาณี” ติรยาพูดด้วยความโมโห “เธอรู้ไหมว่าอะไรคือคนที่เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก คนอย่างเธอไม่มีทางที่จะได้อยู่กับเขาหรอก!”
“พูดอย่างกับเธอจะได้เป็นคู่ของเขานะ” ปาณีมองหน้าติรยา ไม่รู้จริงๆว่าไปเอาความมั่นใจว่าตัวเองเหนือกว่านี้มาจากไหน “เธอลืมไปแล้วหรอว่าถูกเวทัสไล่ออกจากบ้านมายังไง?”
“......” เรื่องนี้เป็นบาดแผลในใจของติรยามาโดยตลอด แต่ปาณีดันพูดขึ้นมา ติรยาโมโหจนตัวสั่น “แม้ว่าเขาจะไม่สนใจฉัน แต่ฉันก็ดีกว่าเธอละกัน! เธอเป็นคนที่เกือบจะเป็นน้าสะใภ้ของเขาแล้วด้วยซ้ำ! ถ้าหากยังมีศักดิ์ศรีอยู่บ้างก็อยู่ห่างๆเขาไว้”
แค่เกือบจะเป็นที่ไหนกัน ตอนนี้ฉันยังคงเป็นน้าสะใภ้ของเขาอยู่ดีไหม?
ปาณีแอบนินทาในใจ
แต่ปากกลับเลียนแบบท่าทางที่ไร้เหตุผลของติรยา “เธอยังหน้าไม่อายเลย แล้วฉันจะเอาหน้าเอาศักดิ์ศรีไปทำไมกัน? ยิ่งไปกว่านั้น เธอแน่จริงก็ไปพูดกับเวทัสเองสิ! เธอมาอวดดีกับฉันตรงนี้มีประโยชน์อะไร?”