ตอนที่ 181
ตนที่ 181
แต่เดิมตั้งใจจะให้ไวยาตย์ติดต่อฝนสิริอยู่แล้ว ในเมื่อฝนสิริมาพอดี ถ้าอย่างนั้นก็คุยปัญหานี้หน่อยแล้วกัน
หลังกินหม้อไฟเสร็จ ปาณีกับธามนิธิก็กลับไปยังบ้านวิสิทธิ์เวช
เพิ่งเข้าไปในบ้าน ก็เห็นพ่อแม่ของปาณีอยู่ในห้องรับแขก ทั้งสองคนแต่งตัวธรรมดามาก ซึ่งไม่เข้ากับการตกแต่งภายในของบ้านหลังนี้เลย
พอเห็นพวกเขา ปาณีก็รู้สึกเกินความคาดหมายเล็กน้อย “พ่อ แม่ มาได้ไงคะ?”
ไวยาตย์ที่ขอกลับก่อนก็ยืนอยู่ข้างๆ เขาเป็นคนไปรับพ่อแม่ของปาณีมาเอง
จันวิภานั่งอยู่บนโซฟา พูดกับปาณีว่า “ปาณี นั่งสิ พ่อแม่ของเธอมาพอดี พี่ก็เลยชวนพวกท่านมาที่บ้าน รวดคุยเรื่องสินสอดด้วยเลย”
“ก่อนหน้านี้หนูบอกแล้วไม่ใช่หรอคะว่าไม่เอา?” ดูจากสถานการณ์แล้ว ฝนสิริน่าจะเป็นฝ่ายที่มาเองมากกว่ามั้ง?
เมื่อกี้ตอนอยู่ที่ร้านหม้อไฟ สายที่โทรเข้ามาเป็นของแม่สินะ?
ปาณีคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากที่แม่ว่าคุณอาขนาดนั้นแล้ว ตอนนี้กลับยังมีหน้ามาคุยเรื่องสินสอดทองหมั้นที่บ้านอีก นี่มันมากเกินไปแล้วนะ
หลังจากที่ได้ยินในสิ่งที่ปาณีพูด ฝนสิริจ้องหน้าปาณีตาเขม็งแวบหนึ่ง แต่ใบหน้ายังคงบังคับให้ตัวเองคุมควบอารมณ์ไว้ มีเพียงแต่น้ำเสียงที่เข้มขรึมมากขึ้น “เธอเป็นเด็ก จะไปเข้าใจอะไร? เรื่องแต่งงานแบบนี้ มันง่ายอย่างที่เธอคิดที่ไหนกัน”
จันวิภายิ้มพร้อมกับพูดว่า “ปาณี ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว เธออย่ารู้สึกกดดันเลยนะ”
หลังจากที่ฝนสิริได้ยินคำพูดของจันวิภา บนใบหน้าจึงมีรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง “ปาณีไม่รู้กาลเทศะเลย ทำให้พวกคุณลำบากใจไม่น้อย”
จันวิภาตอบว่า “เธอเป็นเด็กดีมากค่ะ”
และก็เพราะว่าปาณีเป็นเด็กดี ครอบครัวของพวกเขาจึงอยากดีกับเธอให้มากๆหน่อย
ไม่เช่นนั้น จากนิสัยของฝนสิริแล้ว จันวิภาขี้เกียจมานั่งหัวเราะด้วยซ้ำ
ฝนสิริยิ้มอย่างอึดอัดเล็กน้อย
จันวิภาตอบว่า “เรื่องสินสอดทองหมั้น คุณน้ามีความเห็นอย่างไรบ้างคะ?”
ปาณีกำลังฟังสิ่งที่พวกเขาสนทนา รู้ว่าตัวเองก้าวก่ายการตัดสินใจของจันวิภาไม่ได้ จึงไม่ได้พูดอะไร
นั่งฟังพวกเขาสนทนาอยู่ข้างๆอย่างสงบ
แต่ว่า ในใจของเธอกลับกระวนกระวายมาก
มักจะกลัวว่าฝนสิริจะทำเรื่องอะไรที่น่าขายหน้าอีก
ฝนสิริยิ้มให้กับจันวิภา “ฉันมีปาณีแค่ลูกสาวคนเดียว ก่อนหน้านี้ที่คลอดเธอ เกิดปัญหาคลอดยาก เกือบจะไม่ได้คลอดเธอออกมาแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะเลี้ยงดูเธอมาโตขนาดนี้ เธอก็เหมือนแก้วตาดวงใจของพวกเรา ฉันกับพ่อของเธอก็รักเธอมาก”
ปาณีมองไปยังฝนสิริ ไม่รู้ว่าตอนเธอพูดคำพูดพวกนี้จะเจ็บหน้าเพราะโดนคำพูดตัวเองตบหน้าบ้างหรือเปล่า
อยากให้เธอแต่งงานกับคนอย่างจริม นี่คือรักเธอหรอ?
เพื่อที่จะบังคับไม่ให้เธอไปเรียนแล้ว จึงคุยกับเธออย่างเย็นชานี้ เป็นการรักเธอด้วยหรอ?
ก่อนหน้าที่เขาทำอย่างนั้นต่อหน้าคนในบ้านวิสิทธิ์เวช นั่นก็เป็นการรักเธออีกหรอ?
แต่ว่า ทุกคนก็ไม่ได้เปิดโปงฝนสิริใดๆ
จันวิภาฝืนยิ้มพูดคุย “นั่นก็ใช่ค่ะ”
ฝนสิริพูดว่า “ธามนิธิของพวกคุณตอนนี้เป็นแบบนี้อีก อีกหน่อยปาณีแต่งงานมา ก็ต้องลำบากไม่น้อยอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าหากพวกเขาแต่งงานกัน ก็ต้องเตรียมบ้านให้พวกเขาหลังหนึ่ง แล้วก็ยังมีค่าสินสอดอีก เอา 100,000 หยวน!”
ปาณีขมวดคิ้ว “แม่!”
ไม่เพียงแต่เอาเงิน ยังถือโอกาสว่าคุณอาอีกด้วย มีคนแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย?
ทั้งๆที่คุณอาจ่ายค่าเทอมให้ตัวเองแล้วแท้ๆ ให้โอกาสเธอเรียนต่อ ดีกับเธอมากขนาดนี้ ยังจะเอาเงินกับเขาอีก แม่คงไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว แต่ว่าปาณีรู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ดีมากๆจริงๆ
จันวิภาขมวดคิ้วเช่นกัน เธอมองไปยังฝนสิริ “คุณน้าแน่ใจนะคะว่าจะเอา 100,000 หยวน?”
ฝนสิริเห็นท่าทางลำบากใจของจันวิภา พูดเปลี่ยนคำพูดของตัวเอง “ถ้าไม่ได้จริงๆ 88,000 หยวนก็ได้ น้อยกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ”