ตอนที่256
ตนที่256
เธอกลัวตอนนี้คุณพ่อจะไปบอกเรื่องให้คุณตาคุณยายและคุณแม่ถ้าเกิดพวกเขารู้เรื่องนี้คงเสียใจน่าดู
นพรุจมองเวทัส “แล้วเธอกล้าที่จะยืนยันว่าเรื่องที่เขาพูดมันไม่เป็นจริง?”
เวทัสก้มหัวลงแล้วกำมือแน่น “ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับปาณีมันจบลงแล้ว และเธอตอนนี้เป็นน้าสะใภ้ผม……”
“เวทัสฉันผิดหวังมากที่มีลูกชายแบบนาย” นพรุจบ่นอีก “เธออยู่โรงเรียนไม่ตั้งใจเรียนแล้วไปมีแฟนอีกฉันขี้เกียจว่าเธอแล้วนะแต่เป็นลูกชายของฉันทั้งคนทำไมเรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ ฉันรู้สึกละอายใจจริงๆที่มีนายเป็นลูกชาย”
ถ้าไม่ใช่เป็นห่วงภรรยาเรื่องคลอดลูกมันลำบาก จริงๆก็อยากได้ลูกสาวเพิ่มอีกคนเผื่อเห็นลูกชายแล้วมันอารมณ์เสีย
เวทัสมองพ่อตัวเอง “ตอนที่ผมคบกับปาณี เธอยังไม่ได้อยู่กับน้าชายแล้วผมก็ไม่รู้ว่าพวกเขา……”
“ฉันหมายถึงติรยา!” นพรุจจ้องเธอ “เธอไปดูสิว่าเธอไปเดือดร้อนกับผู้หญิงอะไร? แค่ผู้หญิงคนหนึ่งยังจัดการไม่ได้ ใช้ไม่ได้จริงๆ!”
พูดจบนพรุจก็เดินไปเลย
สิบสองโมง พิธีงานแต่งงานจะเริ่มแล้วทุกคนนั่งลงกับที่มีแต่ที่ติรยามันยังว่างอยู่
เวทัสนั่งอยู่ข้างนพรุจเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณชัยพรคุณฐิติพรและคุณจันวิภา
วันนี้ธามนิธิแต่งงานทุกคนใรครอบครัวก็ต่างดีใจด้วย
เธออดที่จะมองคุณพ่อที่อยู่ข้างๆสีหน้าไม่แสดงท่าทีอะไรเลยไม่ได้ ไม่คิดว่าคุณพ่อ……จะขังติรยาไว้
ณ ตอนนี้ ทุกงานมาร่วมในพิธีงานแต่งงานยกเว้นติรยาที่โดนขังไว้ในห้องเมื่อกี้ ประตูเปิดไม่ได้ โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณนี่มันหาทางช่วยเหลือไม่ได้เลยอย่าว่าแต่จะไปดูความอับอายของปาณีเลย
ต้องยอมรับวว่าคุณพ่อมีคนความโหด นี่ไปหลอกให้ติรยาเข้าห้องได้หน้านิ่งแล้วขังเธอไว้
บนเวที พิธีกรก็ได้เริ่มงาน
ธามนิธิ ในเมืองชยุตนี้แค่พูดถึงชื่อก็มีคนรู้จักผู้ชายคนนี้มากมาย คนที่เคยได้ยินชื่อเขามีเยอะแต่คนที่เคยเจอเขากลับมีน้อย
เขาอยู่ในค่ายทหารตลอดน้อยมากที่กลับมาและก็ไม่ค่อยออกสื่ออีก
ก็เลยวันนี้ทุกคนก็ต่างตื่นเต้นอยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาเป็นยังไง
“ต่อไปขอต้อนรับเจ้าบ่าวนะครับ……”
ได้ยินเสียงพิธีกรทุกคนก็ยิ่งมีกะจิตกะใจแล้วมองไปทางเดียวกันไม่พอยังมีคนเอาโทรศัพท์ขึ้นมาอีก
ผ่านไปประมาณสองวิก็ธามนิธิที่นั่งบนเก้าอี้เข็นโดยมีไวยาตย์เข็นเข้ามา……
วันนี้ธามนิธิใส่เสื้อสูทสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไทสีดำเป็นเสื้อสูทแบบพื้นฐานในงานแต่ง
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้เข็น เซ็ตผมไว้ข้างหลังเผยหน้าผากให้เห็นบวกกับใบหน้าคมนี่มันหล่อเหลามากจริงๆ
แล้วบวกกับดางตาอันสวยสง่าดั่งดาวหนึ่งคู่……
ถ้า……ถ้าไม่นั่งในเก้าอี้เข็น นี่จะเป็นคนเพอร์เฟคขนาดไหนกัน!
ในผู้คนมากมายก็เนิ่มมีเสียงกระซิบความสงสัยขึ้นมา “ทำไมนั่งอยู่บนเก้าอี้เข็น?”
“ได้ข่าวเลยเคยเกิดอุบัติเหตุ”
“แต่ก็ผ่านมานานแล้วนะยังไม่หายดีอีกหรอ?”
“เหมือนว่าชาตินี้คงไม่หายแล้วแหละ! ไม่งั้นคุณมีสุวรรณ์จะทิ้งผู้ชายหล่อๆแบบนี้แล้วหนีทำไม?”
“เสียดายจริงๆ! หล่อขนาดนี้แต่ต้องนั่งเก้าอี้เข็นตลอดชีวิต”
“ไม่ใช่แค่นี้นะ! ฉันยังได้ยินมาอีกว่าเขาคลอดลูกไม่ได้ด้วย ถ้าใครแต่งงานกับเขาสงสัยชาตินี้คงต้องอยู่แบบเหงาๆแล้วดูแลเขาตลอดชีวิต”