ตอนที่259
ตนที่259
คลอด?
คลอดกับผีสิ!
เธอยังเป็นนักเรียนอยู่เลย!
นี่เธอยังขุดหลุมให้ตัวเองอีก……
ปาณีอยากกัดลิ้นตัวเองมห้ขาดไปเลย
เธอมองธามนิธิแล้วรีบพูด “ไม่รับ ฉันยังเล็กอยู่……”
ถึงจะผ่านวันเกิดอายุยี่สิบก็เถอะและยังจดทะเบียนสมรสแล้วด้วยแต่อายุจริงๆของปาณีคือยังไม่ถึงสิบเก้าเลย
ธามนิธิมองรอบอกเธอ อือเล็กไปหน่อย
ธามนิธิพูดอย่างชิว “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ว่าอะไร”
“……”
พิธีงานแต่งงานจบแขกทุกคนก็รับประทานอาหารข้างนอก
ยุ่งไปทั้งครึ่งวันตอนนี้ปาณีก็หิวขึ้นมา ธามนิธิให้ไวยาตย์ไปจัดการเรื่องอาหารมาให้
คนเป็นเหล็ก ข้าวเป็นเหล็ก ไม่กินแค่มื้อเดียวก็หิวจนสั่น……
ใช้เวลานี้ปาณีก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อ ชุดเจ้าสาวมันยาวเกินไปใส่แล้วทำอะไรไม่สะดวก
เปลี่ยนเป็นใส่กี่เพ้าแบบจีน
ตอนที่จันวิภาเตรียมก็ได้เตรียมหลายชุดไว้ให้เธอได้ใส่ในงานแต่ง
ก่อนหน้านี้อยู่ในค่ายทหารโดนแดดจนผิดคล้ำไปเล็กน้อยพอผ่านมาหนึ่งเดือนค่อยขาวขึ้นมาหน่อย
ชุดกี่เพ้าแต่งงานสีแดงบนตัวเธอบวกกับปากแดงฟันขาว ดูสวยมาก
ปาณีเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ อาหารก็ถูกส่งเข้ามาวางอยู่บนโต๊ะพอดี ไวยาตย์ก็ไปพูดกับธามนิธิข้างๆ “วันนี้หัวหน้าเก่าก็มาด้วยครับ”
ธามนิธิที่ถือแก้วน้ำอยู่ก็ชะงัก “ใช่หรอ?”
หัวหน้าเก่าคนนี้เป็นหัวหน้าของเขาตอนอยู่ในค่าย ช่วยซัพพอร์ตเขามาตลอดและเห็นเขาเป็นลูกศิษย์สำคัญคนหนึ่ง
แต่หลังจากที่ธามนิธิได้เกิดอุบัติเหตุขาทั้งสองข้างได้พิการและกลับมารักษาที่เมืองชยุตก็ไม่ได้ติดต่อกับคนทางนู้นอีกเลย
ไม่คิดว่าผ่านมานานขนาดนี้แล้ว หัวหน้ายังมาร่วมงานวันแต่งของเขาด้วยตัวเอง”
ไวยาตย์ “ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่กำลังไปทักทายเขาอยู่คุณธามนิธิจะไปด้วยไหมครับ?”
ถึงไวยาตย์จะรู้ว่าถ้าให้ธามนิธิเจอพวกเขาอีกเธอคงใจไม่ดีอีกแต่หัวหน้าก็มาขนาดนี้แล้วไม่ไปทักทายหน่อยมันก็ไม่ดี
ธามนิธิ “ให้พ่อแม่ดูแลเขาดีๆหน่อย”
เขารู้ว่าตัวเองไม่มีทางกลับไปอีกและก็จะไม่ใช่ลูกศิษย์สำคัญของหัวหน้าต่อไป……และสภาพตัวเองตอนนี้ไม่ต้องให้เขามาเห็นยังจะดีกว่า
ปาณีที่นั่งอยู่ข้างๆมองธามนิธิถึงจะไม่รู้ว่าหัวหน้าเป็นคนยังไงแต่พอได้ยินคนนี้ก็ดูเหมือนธามนิธิ……เศร้าขึ้นมา
ไวยาตย์มองธามนิธิและอึ้งไปแป๊บนึง “ครับ”
หลังจากไวยาตย์ออกไป ธามนิธิมองปาณีที่ตักกับข้าวให้เขาแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร
นึกถึงเรื่องเมื่อก่อนแล้วเปรียบเทียบกับปัจจุบันก็รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก……
ความรู้สึกอึดอัดแบบนี้ให้เขารู้สึกเหน็บหนาว
“คุณอาคะ……” ทันใดนั้นเสียงอ่อนโยนของปาณีก็ดึงสติของธามนิธิกลับมา
เขายกหัวขึ้นมองธอ “กินข้าวเถอะ”
ปาณีตักกับข้าวให้เขา “อันนี้อร่อย”
ธามนิธิมองอาหารที่อยู่ในถ้วยแต่ก็ไม่มีความอยากกิน
ปกติก็หยอกเล่นกับเธอเวลาก็ผ่านไปแล้ว
แต่คนบางคนเรื่องบางเรื่องก็มักจะดึงเขากลับมาความเป็นจริง ให้เขานึกถึงบ่อยๆว่าชีวิตเขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่ลำบากที่สุด
ปาณีกินไก่ไปหนึ่งคำแล้วเห็นธามนิธิไม่ขยับอะไรเลยก็รู้สึกว่าเขาคงอารมณ์ไม่ดี
เรื่องอีกมากมายของธามนิธิ เธอก็ไม่เคยเข้าใจเลย
ปกติเขาก็ไม่ได้พูดเรื่องพวกนั้นกับเธอ