ตอนที่ 55 ไม่นั่งรถเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 55 ไม่นั่งรถเธอ
ตอนที่ 55 ไม่นั่งรถคุณ “แด๊ดดี๊ฉันอยู่เมืองนอก” “งั้นเขาโทรกลับมาหาเธอทุกอาทิตย์ไหม?” “อันนี้...”วูฟล์ส่ายหัว เด็กขนาดนี้ก็ไม่ค่อยจะโกหกเป็นเท่าไหร่ ทำให้คนรู้ว่าเขาคิดอะไรได้ขึ้นมาทันที “ไม่มีใช่ไหม?”ส้มถามขึ้นมาอีก “อันนี้...”วูฟล์ยิ่มตื่นเต้นขึ้นมา สายตานั้นลอยทันที “ที่แท้นั้น เธอถึงเป็นลูกที่ถูกพ่อทิ้ง หึ วูลฟ์เธอต่างหากที่เป็น”เสียงโกรธตะคอกขึ้นมา ความโกรธที่เก็บมานานนั้นระบายอกมา อ้อยก็ไม่สนใจแล้ว เมื่อก่อนวูลฟ์เธอแบบนั้นทุกวัน ตอนนี้เธอก็ตอกย้ำกลับไปแบบนั้นเหมือนกัน “ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่ แด๊ดดี๊ฉันอยู่เมืองนอก”วูลฟ์รีบร้อนจนจะร้องไห้ “อ้อย ส้ม อย่าพูดแล้ว ปุริม คุณจะให้เราลงไปเมื่อไหร่”เพ็ญนีติ์เริ่มสงบจิตได้บ้าง เธอเพีบยงอยากออกจากปุริมให้เร็วที่สุด ไม่อยากนั้นเธอไม่มีแม้แต่วิธีที่จะปลดเบลออกเลย “จอด จอด ”เด็กน้อยทั้งสองคนเริ่มต่อต้านขึ้นมา ปุริมมองไปกระจกหลังมองเห็นส้มและอ้อยที่ไม่ยอมสงบ เขาเพียงมองทีหนึ่ง “ฮ่า”แล้วหัวเราะออกมา “อาร้าย หัวเราะอะไร?”ส้มยืนขึ้นมา ใบหน้ายื่นมาแนบกับปุริมที่ขับรถไว้ เมื่อได้ยินเสียส้มที่เด็กนั้นแล้ว ปุริมรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที แม้เรื่องหน้าที่โดนตบยังลืมไปด้วยซ้ำ“ไม่มีอะไร” “ไม่ถูก เธอยิ้มแล้ว ทำไมต้องยิ้ม?”มือเล็กนั้นสะบัดไหล่ปุริมขึ้นมา “เธอกำลังได้ใจ ได้ใจที่หม่ามี๊เราลงรถอาไม่ได้ใช่ไหม?” “อ้อ ไม่ใช่ ฉันรู้สึกว่าเธอและส้มน่ารักมาก อาอยากเป็นเพื่อนกับพวกเธอ”ตอนพูดจบ ปุริมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนโดนเด็กสองคนนี้เล่นตลก ไม่ว่ายังไงเขาก็ทำหน้าเย็นไม่ลง จากเดิมเขาอยากสั่งสอนเพ็ญนีติ์ ใครจะรู้ว่าเธอไม่เพียงแค่ตบเขาไปทีหนึ่ง อีกทั้งยังกัดเธอไปแรงๆทีหนึ่งด้วย ถึงแม้ไม่ได้กัดเสื้อเธอจนขาด แต่หนังเขาก็มีรอยแดงของฟันเธอ แต่เมื่อเห็นส้มและอ้อยแล้ว เขากลับไม่อยากสั่งสอนเพ็ญนีติ์ไปแล้ว “ไม่เอา เราไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ เธอเป็นอาที่ร้าย จอดค่ะ”อ้อยลุกขึ้นมา แล้วเข้าสู้การต่อต้านกับส้มขึ้นมา “ติ๊...”เสียงเด็กน้อยสองคนต่อต้านขึ้นมา เสียงแตรนั้นดังกระหนั่น คนมากมายเริ่มจ้องมาแล้ว “เป็นแด๊ดดี๊ อาร้าย รีบจอดรถนะ เราจะขึ้นรถแด๊ดดี๊บุญธรรม เราไม่นั่งรถเธอหรอก เราไม่อยากนั่งเลย” “นั่งลง”เห็นส้มและอ้อยยืนแล้วตัวเซไปมา ปุริมรีบสั่งทันที “วูลฟ์ เธอดูนะตอนนี้อาเธอกำลังลากพาตัวเรา ให้เรานั่งรถของเขา ไม่ใช่ว่าเราอยากนั่ง พรุ่งนี้ถ้าเธอกล้าจะพูดที่โรงเรียนว่าเราจะนั่งรถอาเธอแล้วก็ ฉันจะบอกว่าเธอเป็นลูกที่พ่อไม่เอา อาร้ายคนนี้ไม่ใช่แด๊ดดี๊เธอสักหน่อย” “ฉัน...”วูลฟ์เม้มปาก พูดไม่ออกแล้ว “แตร...”รถนภนต์แล่นตามาอย่างแน่น กำลังจะแนบติดรถปุริมแล้ว กลางวันแสบๆแบบนี้สามารถมองผ่านกระจกหน้าต่างแล้วเห็ฯหน้าที่ซีดของเพ็ญนีติ์ ภาพแบบนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นก่อนไม่นานที่ผ่านมานี้ ครั้งนั้นเป็นชายหนุ่มสองคนนี้ที่แนบติดรถแบบนี้จนเกือบทำให้เธอเสียส้มและอ้อยไปเลย “อ๊าก...”เมื่อเห็นรถนภนต์กำลังจะมากระแทกรถปุริมแล้ว เพ็ญนีติ์จึงร้องออกมาอย่างตกใจ เหมือนว่าได้มองเห็นสิ่งที่เธอคิดอยู่ ปุริมจึงพูดขึ้นมา“ไม่ต้องกลัว ฉันจะพาเด็กๆไปกินไอติม แล้วให้วูลฟ์ของโทษส้มและอ้อย เรื่องในวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”พูดจบ เขาเหยียบความเร็ว แล้วไม่สนใจว่าเป็นไฟแดงไฟเขียว พุ่งผ่านไฟแดงตรงหน้าไปทันที ด้านหลังมีเสียงแตรรถของนภนต์กดไม่หยุด แต่พอเขาอยากแล่นตามา กลับมีรถสิบล้อคันหนึ่งขวางตรงหน้าจนเขาไม่สามารถตามต่อไปได้ ปุริมมองเห็นภาพนี้ผ่านกระจกรถ พลางเม้มปากยิ้มอย่างได้ใจ“ไป H.I ice creamไหม?” “เอาครับๆ อาใจดีจัง” “ไม่ดี เราไม่ไปหรอก รีบให้เรากับหม่ามี๊ลงรถนะ เราไม่รู้จักพวกเธอ” “อ้อย นั่งลงกับพี่สาว อย่าตามใจตัวเอง”เมื่อความคิดเปลี่ยน เพ็ญนีติ์รู้สึกไม่อยากดิ้นรนต่อปุริมแล้ว รถเป็นของคนอื่น เธอสู้ยังไงก็ไม่ไหวหรอก แต่ว่า ถ้าลงรถแล้วอาจจะเป็นวิวอีกแบบหนึ่ง พอถึงตอนนั้นเธอค่อยหาโอกาสพาอ้อยและส้มไปก็ได้แล้วไม่ใช่? “หม่ามี๊...” “นั่งลง”เธอพูดต่ำๆ “ออ ”เพ็ญนีติ์ไม่ค่อยชอบขึ้นอารมณ์กับส้มและอ้อยเท่าไหร่ ทำให้เด็กน้อยทั้งสองคนรีบนั่งลงอย่างลำบากใจ แล้วนูนปากขึ้นมา ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ปุริมหัวเราะขึ้นมา ไม่คิดว่าเพ็ญนีติ์จะมีวิธีกับลูก แต่เมื่อเห็นเด็กๆไม่มีความสุขแล้ว เขาเองก็ไม่สบายใจ เขาเลยเอารีโมทขึ้นมาแล้วกดทีหนึ่ง จากนั้นข้างหน้ารถก็มีหน้าจอลื่นลงมา ไม่นานหน้าจอสว่างขึ้น กลับเป็นการ์ตูน“อาดีจัง”วูลฟ์ค่อยดูขึ้นมา เดิมทีส้มและอ้อยไม่อยากดู แต่ผ่านไปสักพัก เด็กน้อยทั้งสองพลาถูกเสียงกาตูนร์ดึงดุดไปแล้ว สายตาก็เริ่มไม่ห่างหน้าจอนั้น ไม่นานก็เริ่มดูอย่างตั้งใจ ปุริมถึงจะวางใจลงได้ จากนั้นก็เอากุญแจโยนไปบนพวงมาลัย เพ็ญนีติ์จ้องกุญแจรถไว้ เพียงแค่ยื่นมือไปถึง พลางสามารถปลดเข็มขัดได้ แล้วเธอก็สามารถลงจากรถได้เลย เพียงแต่ว่าตอนที่ขับรถอยู่นั้นเธอกลับส้มและอ้อยจะไม่ปลอดภัยถ้าลงลงพร้อมกัน ปุริมเอามือถือขึ้นมาแล้วโทรไปที่ร้านไปอืม“ผู้จัดการเจน ฉันเมาชั้นที่สองนะครับ เดี๋ยวก็มาถึง” “ได้ค่ะคุณปุริม เดี๋ยวเรามาต้อนรับหน้าร้านนะค้า”ฝั่งนั้นไม่ได้ถามว่าเขาคือใคร เพียงแค่เห็นเบอร์เขาแล้วก็รู้เป็นใคร ที่แท้นั้นปุริมเป็นลูกค้าวีไอพีของร้านนนั้น ปุริมวางมือถือลงแล้วส่องหน้าตัวเอง รอยนิ้วมือห้านิ้วนั้นค่อยๆจางไปบ้างแล้ว เขาเอากุญแจขึ้นมาแล้วมองไปทางเพ็ญนีติ์“อย่าคิดจะลงรถ ที่นี่ยังไม่ปลอดภัย กินไอติมเสร็จแล้งผมจะส่งพวกคุณกลับบ้าน” เพ็ญนีจิ์หน้าแดงก่ำ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเขารู้เธอคิดอะไรอยู่ และไม่พุดสักคำ เพียงแค่มองถนนไปอย่างเงียบๆเหม่อลอย เธอไม่รู้จริงๆว่าตัวเองไปเดือดร้อนใคร ใครก็เข้ากับเธอไม่ได้“ปุริม คุณไม่ได้กินยาหรือเปล่า?ฉันตบคุณไปแล้ว คุณยังจะชวนเรากินไอติมอีก?คุณไม่อยากตีฉันเหรอ?”เห็นเขาที่ดูไมใส่ใจเธอกลับรู้สึกไม่สบายใจ “ไม่รู้ว่าทำไม ผมรู้สึกไม่ใช่นภนต์ หึๆ คุณเข้าใจอยู่แล้ว”เขาขับรถไปด้วย แล้วมองไปทางสาวน้อยสองคนที่กำลังดูการ์ตูนอย่างมีความสุข เด็กก็คือเด็ก ความโกรธเมื่อกี้หายไปแล้ว ตอนนี้ได้สนใจกับโลกการ์ตูนที่สวยงามไปแล้ว เพ็ญนีติ์อ่อนลง“ปุริม นี่ไม่เกี่ยวกับคุณ” “ปู่สั่งให้ผมดูแลคุณก่อนเขาจะเสียชีวิต” “ฉันไม่ต้องการ” “แต่ผมรู้สึกว่าคุณต้องการ นภนต์ไม่สามารถปกป้องคุณได้เลย” “เปล่า ตอนนี้ฉันสบายดีมาก” “ใช่เหรอ?แล้วเรื่องของจำรูญคุณจะจัดการยังไง?หรือคุณจะทำ...จริงๆ”เขายื่นมือไปกด ทีหนึ่ง กระจกที่บางเสีย หน้าหลังรถลื่นลงมา แบบนี้แล้วคำพูดของเขาและเพ็ญนีติ์จะไม่มีเด็กๆคนไหนได้ยิน “ปุริม คุณรู้มาก่อนแล้ว?”ยังคิดว่าเขาไม่สนใจเรื่องเธออะไรเลย แต่ไม่คิดว่าจริงๆนั้นเขารู้แล้ว “เพ็ญนีติ์ ผมเคยบอกแล้วจะช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ ในเมื่อนภนต์ไม่ช่วยคุณ ผมก็จะแทนปู่ในการช่วยเหลือคุณ แต่ว่าคุณต้องบอกผม ส้มและอ้อยเป็นลูกของใคร?”มองเด็กสองคนนั้นยังไงก็ช่างน่ารักมาก ทำให้เขาไม่มีเหตุผลที่จะไม่รักเด็กสองคนนั้น แต่ในใจเขาได้แน่ใจไปแล้วว่าไม่ใช่ลูกของนภนต์ เพราะจากนิสัยเพ็ญนีติ์ที่ไม่ขอความช่วยเหลือก็สามารถแน่ชัดว่าส้มและอ้อยไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับนภนต์ ผู้หญิงคนนี้ช่างพิเศษเหลือเกิน ที่ส่งเงินนั้นกลับมาให้เขา ตอนนี้พอเขานึกถึงเรื่องที่เธอส่งเช็คใบนั้นกลับมาตัวเองพลางเหมือนมีความจำที่จำได้แน่นแบบแปลก “ปุริม เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคุณ” “แต่ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับผม เพราะว่าช่วงนั้นคุณเป็นภรรยาผมตามชีวิตจริง และผมก็ได้ตรวจสืบไปแล้ว ช่วงนั้นคุณนอกจากผม จำรูญและนภนต์แล้วคุณไม่ได้มีการยุ่งกับชายคนไหนอีก ฉะนั้น ถ้าไม่ใช่จำรูญกับนภนต์ ผมก็เดาไม่ออกแล้วจริงๆ หรือว่า...”เขาอึ้งไปสักพักแล้วพูดขึ้นมาต่อ“ถ้าเป็นจริงๆ เพียงแค่คุณบอกความจริงให้ผม ถึงแม้เวลาจะห่างกันไปนาน ผมก็จะหาความยุติธรรมให้คุณกลับมาแน่นอน” “เป็นเพียงคำหมอบหมายของปู่เหรอ?”เธอถามอย่างท้าทาย เมื่อรู้ว่าเขากลับคิดว่าเธอถูกคนอื่นบังคับแล้วเธอเกือบจะสลบ “ก็ไม่ใช่ทั้งหมดผมรู้สึกว่าคุณเหมาะกับผมมากกว่า”เขายักษ์คิ้วแล้วยิ้ม “เพ็ญนีติ์ ในเมื่อคุณไม่พูด ผมก็ต้องสืบออกมาว่าคนนั้นเป็นใครในไม่ช้าก็เร็ว” คนที่เขาจะสืบก็คือเขาเอง มีวินาทีหนึ่งที่เธออยากยื่นมือไปโขกกะโหลกเขาจริงนัก แต่แล้วเธอก็ทนไป คำพูดเขาเมื่อกี้ทำให้เธอตื่นเต้นบ้าง“สิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง?อะไรคือฉันเหมาะกับคุณมากกว่า?” “เป็นผู้หญิงของผมไงครับ”เธอมักจะไม่ค่อยเสาะหาสิ่งที่เขาไม่อยากให้เธอ และใบหน้าเธอนั้นทำให้เขาภูมิใจมาก ไม่สามารถหาคนที่หน้าตาเทียบเท่าเธอได้แล้ว ช่างเหมือนเหลือเกิน ตอนนั้นก็เพราะใบหน้าเธอ เขาถึงให้เธอเป็นภรรยาปลอมเขามานาน แต่กลับไม่คิดว่าปู่ดันมารู้ก่อน และไม่ได้เปิดเผยด้วย ตอนที่เห็นคำหมอบหมายของปู่นั้นเขาไม่รู้จะสั่งสอนเพ็ญนีติ์ยังไงแล้ว แต่เขาอยากรับผิดชอบต่อเธอ แต่เธอกลับบอกกับเขาด้วยตัวเองว่าเธอไปมีลูกคนอื่น และวันนี้เขากลับรู้สึกส้มและอ้อยที่ได้คลอดลงมานั้นเป็นอะไรที่อัศจรรย์มาก เราะช่วงนั้นเธออยู่ในภายใต้ตาเขาตลอด “หึ ตอนนั้นเพื่อปู่ แล้วตอนนี้เพื่อใครอีกหล่ะ?”เขาพูดคำนี้ออกมาราวว่าเป็นมีดคม ในเมื่อไม่รักเธอ แล้วทำไมต้องมายุ่งกับเธอด้วย?
已经是最新一章了
加载中