ตอนที่ 59ลูกของใคร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 59ลูกของใคร
ตอนที่ 59ลูกของใคร อีกทั้งไม่ได้หันกลับไปมองชายหนุ่มบนรถด้วย เพ็ญนีติ์ยิ้มขึ้นมา ภายใต้แสงแดดที่ส่งเด็กๆและเธอนั้นพวกเธอค่อยๆเดินออกมาจากโลกของปุริม แต่เขาได้เริ่มแล่นรถออกไปจนกว่าร่างเงาพวกเธอหายไปแล้ว เขาไม่ได้สนใจเสียงแตรด้านหลัง เมื่อแล่นรถออกมาในสมองเขาก็มีใบสัญญาสองฉบับโผล่ขึ้นมา ฉบับหนึ่งเป็นสัญญาแต่งงาน อีกฉบับหนึ่งเป็นสัญญาหย่า เขาเคยบอกแล้วการจะจบขึ้นอยู่กับเขา แต่เขาเหมือนยังไม่เคยบอกว่าจะจบระหว่างเธอกับเขา เพ็ญนีติ์ เธอหนีฝามือเขาไปไม่ได้หรอก เพียงแค่เขาต้องการเธอ เธอก็หนีไม่ก้น เมื่อนึกถึงส้มและอ้อยเด็กสองคนที่น่ารักแล้ว ปุริมจึงโทรไปหาผู้ช่วยนรวร “คุณประธานหวัดดีค่ะ” “เรื่องที่ฉันให้เธอไปค้นเธอได้ข้อมูลอะไรหรือยัง?” “ประธานคะ นี่...” “บอกมา”ถามอย่างคมกริบแน่น เด็กสองคนนั้นเป็นลูกของชายคนไหนกันแน่ เขาต้องตรวจสอบให้เรียบร้อย นั่นเป็นหนุ่มที่สวมเขาให้เขาตอนเธอเป็นภรรยาเขา เขาต้องตรวจออกมาแน่นอน “ประธานคะ นอกจากคุณ จำรูญและนภนต์แล้ว คุณเพ็ญนีติ์ไม่ได้ติดต่อยุ่งกับใครอีกเลยค่ะ” ไม่เชื่อยังไงก็ไม่เชื่อง่าเป็นนภนต์และจำรูญ เขาหัดพวงมาลัยแรงๆ“ไปสืบอีก สืบกรุ๊ปเลือดพวกเขา แล้วดูว่าเด็กสองคนนั้นมีโอกาสเป็นของนภนต์และจำรูญได้ไหม” เอาเรื่องจริงมาเป็นหลักฐานดีกว่า ตอนนี้เขาเพียงอยากรู้ความจริง ไม่รู้ว่าเราะอะไร ยิ่งคิดถึงหน้าของเด็กสองคนนั้นแล้ว เขาก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น มันเป็นเหมือนความรู้สึกอยากรู้ที่ไม่สามารถดันออกไปได้ “อาครับ อาจะไปไหน?”ด้านหลังมีเสียงวูลฟ์ดังขึ้น วูลฟ์อยากกลับบ้านแล้ว แต่จู่ๆปุริมก็เปลี่ยนทิศทาง และนั่นไม่ใช่ทางกลับบ้านแน่นอน ปุริมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าในรถยังมีวูลฟ์คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนที่เขาบอกให้เพ็ญนีติ์เป็นผู้หญิงเขาและใบหน้าเธอนั้นที่ซีดให้เขาวางใจไม่ลง เลยอยากย้อนรถหลับไปดูเธออีกครั้ง ถ้าไม่ใช่วูลฟ์ เขาคงจะเปลี่ยนกลับไปดูแล้ว นี่เขาบ้าแล้วเหรอ? เขากลับเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งแล้ววิญญาณไม่ฟังคำสั่งเลย ช่างเถอะเป็นแค่เธอพิเศษแค่นั้นแหล่ะ บนโลกนี้ผู้หญิงที่ไม่เอาเงินและไม่มีความรักช่างน้อยเหลือเชื่อ รถถูกแล่นไปทางบ้านชนิศาอย่างเร็ว ปุริมสั่งวูลฟ์ขึ้นมา“เรื่องวันนี้ห้ามพูดกับหม่ามี๊ได้ยินไหม?” “ได้สิครับ ไม่ให้ผมพูดก็ได้ แต่อาทิตย์หน้าอาต้องต้องพาผมไปร้านไอติมนั้นอีกนะ” “กินเยอะ”เขาหันไปโขกหัววูลฟ์ทีหนึ่ง เมือเห็นใบหน้าวูลฟ์แล้วสมองเขาก็มีภาพอ้อยและส้มขึ้นมา และไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กน้อยสองคนนั้นกลับได้อยู่ในสมองเขาอย่างหายออกไปไม่ได้แล้ว เขายากที่จะชอบเด็ก แม้แต่วูลฟ์เขาก็ไม่ได้ชอบเม่าไหร่ ส่ายหัว เด็กสองคนที่ไม่ได้มีเยื่อใยกับเขาแล้วเขาจะชอบอะไรพวกเขาจัง ... “หม่ามี๊ ไอติมอร่อยมากเลยค่ะ เดือนหน้าหม่ามี๊พาเรามาก่อนอีกได้ไหม?” “หนูชอบปราสาทนั่นมาก” ส้มและอ้อยเริ่มพูดกันขึ้นมา ช่างดีใจมากเลยทีเดียว เพ็ญนีติ์มีความเงียบหมอง ราคาแบบนั้นเธอช่างจ่ายไหวจริงๆ ไม่ควรพาเด็กไปที่ที่แบบนั้นเลย ไปจนชินแล้วไม่ดี “ส้ม อ้อย เราจะย้ายบ้านแล้ว ไม่แน่อาจจะย้ายไปที่ไกลจากร้านไอติมนั้นมาก เราไปกินไอติมที่ใกล้บ้านใหม่ดีไหม?” “ก็ได้ค่ะ ฟังหม่ามี๊ค่ะ” มือที่เดินแกว่งไปมา เด็กทั้งสองคนเชื่อฟังมาก ไม่มีความสงสัยต่อคำพูดเธอเลย เพียงแค่มีส้มและอ้อยอยู่เธอก็รู้สึกโชคดีมากแล้ว ในใจเจ็บเศร้าขึ้นมา เธอไม่ได้ตั้งใจ เพียงแค่พ่อของพวกเขาไม่รักเธอ เธอเลยไม่มีหนทางที่จะให้ความสุขสมบูรณ์แบบกับพวกเขา แต่เธอพยายามแล้วจริงๆ งั้นเธอก็จะไม่เสียใจแล้ว “น้าน้ำเรากลับมาแล้ว ”ประตูร้านถูกเปิดออก เงียบมากเงียบจนเธอรู้สึกแปลก เลยเปิดประตูและเรียกไปด้วย แต่ก็ไม่ได้การตอบรับจากน้าน้ำเลย เพียงมีเสียงผู้หญิงดังขึ้น“เพ็ญนีติ์ เธอกลับมาสักที” เสียงนั้นช่างคุ้นหูมาก ยังไงเธอก็จำเสียงนี่ได้ไม่ลืม คิดถึงตอนนั้นที่ญาณินท์คุยกับเธอครั้งแรกน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความดูหมิ่น แต่วันนี้เสียงเธอเปลี่ยนไปอย่างแปลก ถึงแม้ยังฟังโอ้อวด แต่ไม่ได้มีความดูหมิ่นแล้วเธอมองญาณินท์ไปรอบหนึ่ง เขายังสวยแบบเหนือดั่งเคย เพ็ญนีติ์จูงมือส้มและอ้อยแต่ไม่สนใจเขาแล้วพูดกับน้าน้ำขึ้น“ต่อไปอย่าให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามานะ” “ค่ะ เพ็ญนีติ์”น้าน้ำมีความสงสัย ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนี้ที่รอเธอไปนั้นบอกว่ารู้จักเธอ แล้วยังเรียกชื่อเธอออกมาได้ด้วยแต่เห็นเพ็ญนีติ์กลับมาอยากเข้าหาผู้หญิงคนนี้ น้าน้ำเลยเดินไปที่ห้องครัว“ข้าวเสร็จแล้ว ผักก็ล้างเสร็จแล้ว เหลือแค่ผัดแล้วค่ะ” “อืม ปิดร้านไปเถอะนะ เรากินข้าวอย่างสงบมื้อหนึ่ง”เพราะยังไงก็ไม่มีลูกค้ามาซื้อของ เธอนี่คือกำลังไล่ญาณินท์ ญาณินท์ที่เอาแต่นั่งไว้นั้นก็ไม่ไหวแล้วจริงๆเธอลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าเพ็ญนีติ์“เพ็ญนีติ์ เธอก็จะใช่กริยาแบบนี้คุยกับเพื่อนเก่าเธอเหรอ?” เพ็ญนีติ์ไม่หันกลับไป แค่ตอบน้าน้ำตรงๆ“พาเด็กไปดูการ์ตูนชั้นบน เดี๋ยวค่อยเรียกพวกเธอลงมากิข้าว” “ได้ค่ะเพ็ญนีติ์”น้าน้ำรับจูงมือส้มและอ้อยแล้วเดินขึ้นชั้นสอง เด็กน้อยสองคนเห็นคนแปลกหน้ามาที่ร้านจนชินแล้ว ไม่ได้สังเกตเห็นว่าเพ็ญนีตจิ์และญาณินท์มีความแย้งอะไรกัน แต่น้าน้ำที่เดินขึ้นำนั้นไม่ค่อยจะวางใจต้องหญิงสองคนั้นสักเท่าไหร่ เธอเริ่มเป็นห่วง ไม่รู้ว่าหญิงที่รอมานานคนนั้นเป็นความสัมพันธ์อะไรกับเพ็ญนีติ์ เมื่อฟังเสียงเดินเด็กและน้าในขึ้นไปถึงชั้นสองแล้ว เพ็ญนีติ์ถึงค่อยๆเดินไปพูดกับญาณินท์ “คุณญาณินท์ ตอนนี้คุณควรจะดูแลสามีคุณให้ดีให้เขาอย่ามายุ่งกับฉันอีก ตอนนี้ฉันไม่มีความรู้สึกสักนิดต่อเขาแล้ว และเรื่องที่สามีคุณมายุ่งกับฉันเพราะคุณไม่มีปัญญาเองไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน” “เพ็ญนีย์ เธอ...” “ปั๊ง”เมื่อดึงประตูห้องครัว เพ็ญนีติ์ก็เทน้ำในลงที่หม้อ และไม่ได้สนใจญาณินท์ที่อยู่ข้างนอกอีก เธอคืออะไรเพราะตอนนั้นจำรูญที่ยังมีความรู้สึกกับเธออยู่ ญาณินท์ก็มาหาเรื่องเธอ ยังดีที่มีปุริมช่วยเธอจัดการไป และเมื่อนึกถึงขึ้นมาเธอพลางพูดความรู้สึกที่มีต่อปุริมไม่ขึ้นทันที มีความเกลียดและมีความรัก แต่อย่างเดียวนั้นคือไม่สามรถลืมได้ เหมือนเป็นความทรงจำ ถ้าเคยผ่านแล้วก็ไม่สามารถลบล้างไปได้ “เพ็ญนีติ์ อย่าคิดว่าบนโลกนี้มีผู้หญิงแค่เธอคนเดียว ฉันหาผู้หญิงคนอื่นก็ได้เหมือนกัน”ญาณินท์ตะคอกอย่างโกรธ เพ็ญนีติ์ยิ้มเบาๆ ไม่ได้สนใจคนบ้าอย่างญาณินท์อีก เมื่อได้ยินเสียงที่เตะเก้าอี้แล้ว ใจเธอพลางนิ่งลง แต่ว่าเธอกลับมีคำถามมากขึ้น ทำไมญาณินท์ถึงช่วยจำรูญหาผู้หญิง?และอีกตัวด้วยตัวเองด้วย ช่างเถอะ นั่นเป็นเรื่องของคนอื่น เธอไม่อยากสนใจเรื่อวที่ไม่เกี่ยวกับเธอ ญาณินท์ถูดเย็นชาใส่สักพักเลยต้องค่อยๆออกไป เพ็ญนีติ์ผัดผักตางๆเสร็จ แล้วเรียกส้ม อ้อยและน้าน้ำลงมากิน จากนั้นพลางส่งอ้อยและส้มไปนอน พอได้ว่างก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว เธอเหนื่อยล้าจนเสยผมหน้าผากขึ้น แล้วกำลังจะเดินไปอาบน้ำร้อนที่ห้องเล็กตัวเอง จู่ๆมือถือพลางดังขึ้นมา เสียงนั้นดังกระหนั่นมากในร้านที่เงียบสงบ จนเอาเธอกลัวจะรบกวนให้ลูกๆตื่นเพราะก้านเสียงไม่ค่อยดี เธอรีบเอามือถือขึ้นมา ชื่อนภนต์เด้งเข้ามา หลังกินข้าวเย็นเสร็จเธอได้โทรไปหานภนต์ แต่ปิดเครื่องไว้ เห็นเขาโทรมาแล้ว เธอรีบกดรับสาย“นภนต์ เธอโอเคไหม” “ไม่เป็นไรครับ ตอนบ่ายมีธุระเลยออกไปก่อน เลยอยากถามเธอมากกว่า เธอเป็นไรไหม?” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันสบายดี เขาไม่ได้ทำอะไรฉัน ส้มและอ้อยหลับไปแล้ว ฉันกำลังจะนอนเธอก็โทรมาพอดีเลย” “ไม่ค่อยไว้ใจเธอเท่าไหร่ ครั้งหน้าถ้าเห็นปุริมใจร้อนแบบนั้นอีก ถ้าไม่อยากสนใจก็ไม่ต้องสนใจเขาแล้วนะ ห้ามร้อนอารมณ์กับเขาอีก” “อืม ฉันรู้แล้ว ”เธอคิดว่าต่อไปคงไม่ได้เจอปุริมอีกแล้ว เธอพูดกับเขาอย่างเข้าใจ เธอไม่เป็นผู้หญิงเขา “ช่วงนี้ฉันมีออรเดอร์ต้องทำอาจจะออกเมืองดรัลช่วงหนึ่ง ประมาณสองเดือนกว่า แต่ว่ามือถือฉันเปิดเครื่องยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าเธอมีเรื่องอะไรก็โทรมาเลย ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน ฉันก็รับได้หมด” “ขอบคุณนะนภนต์” “เพ็ญนีติ์ อย่าเกรงใจกับผมแบบนี้ รอให้ผมยุ่งสองปีนี้เสร็จพลางไม่มีอะไรแล้ว ใช่แล้วน้าปัทมาไม่สบาย รอให้เธอมีเวลาแล้วไปเยี่ยมเขาหน่อยนะ สองวันก่อนเขายังพูดคิดถึงเธอเลย” “อืม ฉันจะไป” ค่อยๆว่างมือถือลง สำหรับนภนต์นั้นเธอมีความรู้สึกที่พูดไม่ถูก ตอนนี้เขามีแต่ดีต่อเธอแล้ว เขาไม่เคยทำเรื่องที่ต้องบังคับเธอ อีกทั้งเรื่องความรู้สึกนั้นเขาก็ปลดปล่อยได้ แต่เธอรู้ว่าเขารอเธออยู่ตลอด ปัทมาเคยบอกว่าเขาไม่เคยแฟน และทุกครั้งที่พ่อเขาบอกจะให้เขาแต่งงาน เขาก็หันหน้าหนีแล้วเดินจากไปทันที หัวใจหนักแน่นขึ้นบ้าง แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงและปัญญาที่จะไปห้ามเขา เพราะว่าห้ามแล้วเขาไม่ยังเหมือนเดิมอยู่ดี
已经是最新一章了
加载中