ตอนที่ 61 เธออยากหลอกฆ่าหรอก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 61 เธออยากหลอกฆ่าหรอก
ตอนที่ 61 เธออยากหลอกฆ่าหรอก แขนเธอนั้นถูกญินท์ดึงไว้“เพ็ญนีติ์ เขาอยากได้ลูกคนหนึ่ง แต่ฉันคลอดลูกไม่ได้” ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่แปลกที่จำรูญจะให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา ฟังคำพูดญาณินท์แล้วเธออดจะหัวเราะไม่ได้ เมื่อเอาจำรูญเทียบกับปุริมแล้วก็ไม่ได้แย่มากอะไร จำรูญเอาเธอเป็นเครื่องที่ช่วยคลอดลูกให้เขา และปุริมที่ไม่รักเธออยากเลี้ยงเธอไว้ข้างเขาเพราะเธอเป็นหญิงที่ไม่ขออะไรมาก พวกเขาต่างต้องการแพะที่เชื่อฟังไม่ดื้อ ต้องการสิ่งที่นำพาความสุดให้ผู้ชายแค่นั้น แต่เธอกลับไม่มีศักดิ์อะไร แต่เมื่อเทียบกับจำรูญแล้วเพ็ญนีติ์ยังชื่นชมวิธีปุริมมากกว่า อย่างน้อยเขาไม่ได้เสแสร้ง ตอแย พูดทุกคำคำพูดตัวเองออกมาทำให้เธอต้องเดินในที่ที่ลำบาก เธอหันไปแล้วยิ้มเบาๆ “ญาณินท์ ฉันไม่ใช่เครื่องไว้คลอดลูก และเรื่องแบบนี้สามารถแก้ไขได้หลายวิธี เชิญเธอไปห้ามจำรูญด้วย เป็นคนอย่าเห็นแก่ตัวเกินไปให้มาก”ผู้ชายที่จับปลาสองมือแบบนี้เธอช่างรังเกียจนัก บนโลกนี้ไม่ใช่ว่าเธอต้องการอะไรก็จะได้สิ่งนั้น แต่สิ่งที่ตัวเองอยากได้แล้วพยายามค้นหามันเอง เธอเคยให้โอกาสจำรูญ แต่จำรูญไม่รักษาไว้เอง ในเมือเลือกคนอื่นไปแล้ว ก็ไม่ควรและไม่ต้องมายุงกับเธออีก แต่เพ็ญนีติ์เพียงเดินได้สองก้าว ก็ถูกคนมาขวางไว้อีก วันนี้เธอได้เจอแต่คนที่ตัวเองไม่อยากเจอเหลือเกิน เธอก้มหน้าลงทำเหมือนไม่เห็น พลางเดินไปตรงหน้า ชายหนุ่มนั้นกลับดึงมือเธอไว้โดยไม่เกรงใจ เธอยังไม่ทันตั้งตัวได้ เขาก็ถึงมึงเธอแล้วไปตรงหน้าญาณินท์“ญาณินท์ คิดว่าเธอคงรู้ฉันคือใคร?” ได้ยินเสียงปุริมแล้วสีหน้าญาณินท์เปลี่ยนทันที“ปุ..ปุริม...คุณปุริม คุณมีอะไรหรือเปล่าค้า?” “อืม มีเรื่องที่อยากบอกเธอ อ้อ ไม่ใช่บอกหรอก แต่เป็นเตือน ฉันเตือนเธอและสามีเธอด้วยอย่าคิดจะทำอะไรเพ็ญนีติ์ ไม่อยากงนั้นเธอรู้ผลที่ตามาแน่นอน”มือเรียวยาวทำท่าไปอย่างหนึ่ง เอาญาณินท์ตกใจแย่ นั่นเป็นท่าที่ใช้ฆ่าคน “คุณปุริม ไม่หรอกนะ ไม่อีกแล้ว”ปีนั้นเธอเกือบจะเสียใบจบของมหาลัยดรัลไป เพราะเธอหาเรื่องพ็ญนีติ์ ปุริมกลับมีความสามารถลาไล่เธอออกจากมหาลัยดรัล และทั้งที่พ่อเขาที่เป็นกามการก็ทำอะไรไม่ได้ พื้นหลังปุริมคืออะไร สำหรับพ่อเธอแล้วมันช่างเป็นบุคคลใหญ่ ไม่ใช่คนแบบพ่อเธอจะมายุ่งเดือดร้อนกันได้ “คุณปุริม ฉันไปก่อนแล้ว ค่อยไปเยี่ยมที่บ้านนะค้า”เธอพูดไปด้วยแล้วเร่งฝีเท้าเดิน ญาณินท์รู้สึกตัวเองแย่ถึงที่สุด เดิมทีเธอเป็นหญิงที่ไม่สามารถคลอดลูกได้ และตอนนี้จำรูญจะหย่ากับเธอเพราะเองนี้ อีกทั้งไม่กลัวจะเสียตำแหน่งตัวเองด้วย ทุกอย่างเป็นเพราะเพ็ญนีติ์ หลายปีแล้ว เขายังคงลืมเพ็ญนีติ์ไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นช่างเป็นหม่าป่าตัวจริง อ่อยจำรูญไม่ปล่อยก็ไม่ว่า ยังจะอ่อยบุคคลใหญ่อย่างปุริมด้วย แต่เธอจะไม่กล้ายุ่งปุริมอีก เธอเดินออกมาอย่างอย่างหายใจหอบจนไกลมากถึงกล้าหันกลับไปมองปุริมที่กำลังลากเพ็ญนีติ์ขึ้นรถเธอกัดฟันไว้แน่น รอให้สักวันหนึ่งที่ปุริมทิ้งเพ็ญนีติ์ไปพอถึงตอนนั้นแล้ว เธอจะให้เพ็ญนีติ์เจอดีแน่ เพ็ญนีติ์ยังดิ้รนเหมือนเดิม แต่ปุริมไม่ให้โอกาสเธอได้ดิ้นรนแล้ว ลากเธอเข้ารถทันที เมื่อเห็นว่าภาพสถานการณ์เหมือนวันที่ประชุมผู้ปกครองจะเกิดซ้ำอีกครั้ง เพ็ญนีติ์กก็รู้สึกไม่พอใจ ระหว่างที่ปุริมกำลังจะขึ้นรถ เธอพลางโยกเท้าออกไป“ปั๊ง”สีหน้าปุริมหน้าเย็นลงทันที “เพ็ญนีติ์คุณอยากหลอกฆ่าหรือไง?” ร่างเพ็ญนีติ์พลิกแล้วออกไปจากรถ จากนั้นเธอรีบวิ่งออกจากปุริมไปไกลๆ“ฉันเคยบอกแล้วฉันไม่เป็นผู้หญิงของคุณ” ปุริมขมวดคิ้วแน่น ขาที่ถูกหญิงนั้นทำเขาเจ็บเหลือเกิน แต่ก็ต้องอดทนไว้ ยังไงก็ไม่ควรอ่อนต่อหน้าเธอ ปุริมไม่รู้ตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน อาจเป็นเพราะไม่พอใจกับหญิงคนนี้ และอาจเป็นเพราะสิ่งที่ไม่ได้นั้นยิ่งจะดีมีค่า พอคิดถึงตอนนั้นที่เขากับเธอแต่งงานกันปลอมๆ แต่จนถึงตอนนี้เขาไม่เคยแม้จะแตะต้องร่างกายเธอมาก่อนเขาก็อดจะเคร่งไม่ได้ เพ็ญนีติ์เป็นหญิงคนเดียวที่ปฏิเสธเขา “เพ็ญนีติ์ ไปกินกาแฟด้วยกันก็คงได้อยู่มั้ง”จริงๆเขามีความสารถในการหาวิธีดึงเธอกลับมาข้างๆได้ แต่ไม่รู้ทำไม เขาเพียงอยากได้ความเต็มใจจากเธอ เธอส่ายหัว“ไม่แล้ว ฉันยังมีธุระ วันอื่นนะ”พูดจบ เธอพลางวิ่งทันที ครั้งนี้เธอวิ่งทางเล็ก ทางเล็กๆนั้นมีต้นไม้และหญ้าทั้งสองข้าง ปุริมไม่สามารถขับรถเข้าได้ หมุนไปรอบหนึ่งหายจากหอบเพื่อจะออกห่างปุริม ความรู้สึกนั้นเป็นเหมือนฝัน และตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าการปรากฏตัวของปุริมนั้นช่างแปลก ถ้าเขามาส่งวูลฟ์ แล้วทำไมนอกรถไม่มีวูลฟ์อยู่ ไม่คิดแล้วเธอไม่อยากเครียดกับเรื่องเขาสักแล้ว ทั้งวันเหมือนเสียวิญญาณไปสักนั้น ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าต้องลืมปุริมให้ได้ แต่ในสมองยังคงนึกถึงใบหน้าที่หล่อเหลามีเสน่ห์ของเขา ผู้ชายคนนั้นเหมือนเป็นแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดผู้หญิงได้ แม่เจ้าเธอไม่อยากคิดถึงเขาอีกแล้ว “คุณเพ็ญนีติ์คะ คุณดูบ้านนี้เป็นยังไงเอ่ย?โอเคหรือเปล่า ในมือฉันไม่มีบ้านที่ทั้งกว้างแถมยังถูกแล้วนะค้า” เพ็ญนีติ์ถึงจะปรับตัวกลับมาได้ เธอมองบ้านั้นไปมีหนึ่ง มีสามห้องและมีห้องเก็บของห้องหนึ่งทีสามารถใช้ใส่ชุดที่เธอขายไม่ออก และค่าเช่าก็ถูกมากๆด้วย เธอเดินมาทั้งวันแล้ว ไม่มีใครที่รู้ดีดีกว่าเธอเกี่ยวกับราคาค่าเช่าอีก“ได้ ชุดนี้ฉันเอาแล้ว พักไปเดือนหนึ่งก่อนนะ” “คุณเพ็ญนีต์คะ ตอนนี้การเช่าขั้นตามต้องสามเดือนนะ นี่เป็นกฎของผู้เช่าค่ะ” “ค่ะ งั้นก็สามเดือน”จริงๆนั้นเช่านานไม่เป็นปัญหาหรอกที่สำคัญคือเธอไม่รู้จะไปหางานที่ไหน ถ้างานที่หาได้กะทันหันที่ต้องนั่งรถจากที่นี่ไปไกล เธอก็ต้องนั่งรถไปทำงานไกลๆทุกวัน แต่บ้านนี้ช่างกว้างและถูกด้วย เธอเลยพยักหน้าตกลงไป เพ็ญนีติ์ได้ย้ายบ้าน ย้ายของทุกอย่างที่จัดไว้ จากนั้นพลางเรียกบริษัทย้ายบ้านมารับของไป เธอเพียงอยากรีบๆออกจากซอยนี้ ถึงแม้คำที่กางแพงไม่อยู่แล้ว แต่ยังคงมีคนชี้ว่าเธออยู่ด้านหลัง คนมากมายที่ช่วยย้ายของขึ้นรถเพียงสิบนาทีก็เอาของที่จัดไว้ย้ายไปจนเสร็จ เมื่อมองร้านอีกครั้งแล้ว เธอพลางคืนกุญแจให้เจ้าบ้าน จากนั้นเธอและเด็กๆก็นั่งรถย้ายไปด้วยกัน กางดึกมากแล้ว รถค้นส่งนั้นเอาถังที่กั้นไว้ออก เพราะดึกขนาดนี้แล้วยังไงก็ไม่มีคนมาสนใจ แต่เพ็ญนีติ์กลับไม่คิดว่าตอนออกไปนั้นไม่ได้ง่ายเหมือนตอนเข้ามา ย้ายบ้านแบบนี้เพียงแค่ผ่านหน้าบ้านคนอื่นก็ไม่มีคนที่ไม่เห็นหรอก ตรงหน้าทางเข้าซอยไม่รู้มีถังที่มากั้นไว้เมือไหร่ ด้านหลังถนนนั้นพลางมีคนกลุ่มหนึ่งยืนไว้ จนคนขับรถตกใจ แบบนั้นแล้วเขาก็ไม่กล้าขับเข้าไปเลย “คุณเพ็ญนีติ์ครับ ทำยังไงครับ?”เพ็ญนีติ์ให้พวกเขามาย้ายบ้านก็ดึกแล้ว เพราะว่ากลัวมีเรื่องะไรขึ้นมา เธอไม่อยากมีความเดือดร้าน แต่ความเดือดร้อนก็มาหาเธออยู่ดี “เพ็ญนีติ์ เธอเป็นคนสร้างปัญหาขึ้นมาตอนนี้อยากหนีแล้เหรอ?เธอไปแล้วเราจะทำยังไง?งานของเราจะทำยังไง?”ซอยที่อยู่ดีดีตอนนี้กลับถูกปิดถนนไปแล้ว คนเริ่มตะคอกขึ้นมาอย่างเกินเหตุ เหมือนว่าเธอเป็นนักโทษ แต่เธอกลับไม่ได้ทำอะไรผิดเลย “หม่ามี๊ หนูกลัวค่ะ ”อ้อยกอดคอเพ็ญนีติ์ไว้ คนด้านนอกก้านไว้เหมือนเป็นบ้า เด็กเห็นสถานการณ์แบบนี้ครั้งแรก เพราะพึ่งอายุห้าขวบ เลยกลับอะไรแบบนี้จริงๆ เดิมทีคิดว่าเดือดร้อนไม่ไหวเลยจะหลบหนี แต่ตอนนี้เพ็ญนีติ์รู้แล้วเธอไม่มีแม้แต่สิทธิ์จะหนี เพ็ญนีติ์ช่างโกรธแล้วจริงๆ เธอเอามือถือขึ้นมาแล้วไม่สนใจว่าจำรูญจะนอนอยู่หรือเปล่าเธอโทรไปทันที เพราะครั้งที่แล้วเธอเมนท์เบอร์เขาไว้ แต่ไม่คิดว่าเพียงแค่โทรไปจำรูญก็รับแล้ว“เพ็ญนีติ์ ใช่เธอไหม?” เสียงนั้นช่างอ่อนโยนนัก อีกทั้งมีความแหบแบบฟังเมา เหมือนว่าเขายังไม่นอน “จำรูญ ถนนจะถูกเปิดเมื่อไหร่?” “เปิดแล้ว”เขาพูดเบาๆ แต่เหมือนคำพูดนั้นมาจากนอกฟ้า ทำให้เพ็ญนีติ์อึ้งไป “เธอพูดว่าไงนะ?” “ถนนถูกเปิดไปนานแล้ว เช้าวันนี้ก็ได้รับใบแจ้งมาว่าสามารถใช้ได้เหมือนเดิม”เธอฟังแล้วรีบร้อนมาก จำรูญพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างมีความอดทนใจ “เธอโกหก แล้วทำไมตอนนี้ยังปิดอยู่ ฉันกำลังย้ายบ้าน แต่ตอนนี้คนที่นี่ไม่ให้ฉันออกไป กำลังรั้งอยู่ตรงหน้า ฉันเรียกบริษัทย้ายบ้านมา จำรูญเธอเอาฉันลำบากมา”เธอกัดฟันไว้ เกลียดจนอยากฆ่าเขาให้ตาย “ไม่ใช่ฉันจริงๆ เพ็ญนีติ์ เธอเชื่อฉันนะ เธอรอฉันไว้นะ ฉันจะไปตอนนี้เลย”พูดจบจำรูญพลางวางสายไป มาตอนนี้คือนานแค่ไหน? เพ็ญนีย์นั่งที่รถอยู่นิ่งๆ เธอโกรธแล้วจริงๆ “ทำไมคะหม่ามี๊?”เมื่อเห็นว่าคนข้างนอกไม่มีวี่แววจะออกไป ส้มเลยสะบัดมือเพ็ญนีติ์ เพราะเด็กๆง่วงแล้ว ดึกมาแล้ว แม้แต่ฟ้าก็ใกล้สว่างแล้วสิท่า เพ็ญนีติ์ไม่กล้าลงรถ ไม่เพื่อตัวเองก็ต้องเพื่อลูก บางทีจำรูญพูดถูก ทำไมจำรูญบอกว่าถนนถูกเปิดแล้ว แต่ทำไมยังปิดอยู่
已经是最新一章了
加载中