ตอนที่ 62 คำพูดคนเมา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 62 คำพูดคนเมา
ตอนที่ 62 คำพูดคนเมา เธอกังวลแทบแย่ ได้เพียงรอจำรูญมาถึงเร็วๆ ไม่ว่ายังไงจุกเกิดของเรื่องนี้มาจากจำรูญ ฉะนั้นแล้ว ก็ต้องให้เขามาจัดการตอนตอบที่เลวร้ายแบบนี้ “หม่ามี๊ดูสิ มีอาหล่อคนหนึ่งมาแล้ว” อ้อยจำทีหนึ่ง พลางชี้ไปที่รถคันนั้น“หม่ามี๊ เขามาช่วยให้เราออกไปใช่ไหมค้า?” เพ็ญนีติ์เงยหน้าขึ้น“เป็นจำรูญจริงๆด้วย” เพ็ญนีติ์เลื่อกระจกลง แต่กลับได้ยินเสียงจำรูญตะโกนใส่ผู้คน“ฉันคือจำรูญ ถนนเส้นนี้ถูกเปิดไปแล้ว คำที่ฉันเคยพูด ฉันรับผิดชอบถึงที่สุด โปรดให้เพ็ญนีติ์ออกไปครับ” “เธอคือจำรูญ?”คนพวกนั้นเริ่มสงสัยเขา ราวว่าไม่เชื่อนายเคนหนึ่งกลับปรากฏตัวขึ้นสถานการณ์แบบนี้ และยังเพื่อหญิงที่เขาอยากได้ด้วย นี่ก็ช่างใจกล้าเกิดไปแล้วสิท่า “ใช่ครับ ฉันคือจำรูญ ครั้งที่แล้วพวกเธอไปประทวงที่ฉันก็เคยเห็นไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่คนจริง เขาก็ต้องดูออกแล้ว” คนพวกนั้นเริ่มกระซิบขึ้นมา จากนั้นมีคนวิ่งไปที่ซอย เพ็ญนีติ์คิดว่าหากเรียกดรัลมาก็คงช่วยได้ เพราะดรัลเคยเห็นจำรูญมาก่อน สองคนมองหน้ากัน ทุกคนกำลังรอคอย เวลาผ่านไปได้ช้ามากขึ้น เพ็ญนีติตื่นเต้นแล้ว เรื่องถนนเส้นนี้เธอคงต้องผ่านจุดนี้ไปได้ก่อน ถึงจะถามจำรูญอีกครั้งว่าเป็นอะไรกันแน่ ในเมื่อถนนถูกเปิดแล้ว เธอก็ไม่สามารถเดินถนเส้นนี้ได้ เพราะชื่อเสียงเธอถูกจำรูญทำให้พังเสียงไปหมด และแล้ว ดรัลก็มาถึงอย่างเร็ว เมือมอจำรูญจากนั้นพลางพยักหน้า“ใช่ครับ เขาเป็นจำรูญ ในเมื่อนายเขาบอกถนนเปิดแล้ว งั้นทุกคนก็วางใจได้แล้ว” คนพวกนั้นจะต่อต้านแค่ไหนแต่เพราะอำนาจจำรูญทำให้พวกเขาต้องหยุดไม่กล้าพูดทันที แต่ยังคงคนที่ไม่ยอมเท่าไหร่ เพราะสรุปแล้วจำรูญก็ทำให้การงานเขาต้องแย่ นานกว่าจะแยกออกให้ คนขับรถนั้นเหยียบความเร็ซแล่นออกไป “เพ็ญนีติ์ รอฉันก่อนครับ”นอกประตูรถมีเสียงจำรูญตะโกนขึ้น เสียงนั้นช่างฟังชัดเจนว่าแฝงความเมา เพ็ญนีติ์ตกใจ ที่แท้เขาดื่มเหล้าไป และไม่รู้ว่าเขาที่ดื่มเหล้าไปนั้นได้พูดความจริงหรือเปล่า แต่เธอไม่สนใจแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือออกจากที่นี่ “หม่ามี๊ดูสิ อาหล่อคนนั้นไล่ตามมา หม่ามี๊รูจากเขาไหมคะ?”เห็นจำรูญที่ช่วยหม่ามี๊แก้ปัญหาไป ส้มและอ้อยเลยอบจำรูญ แต่พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าอาดูหล่อคนนั้นเป็นต้นเหตุเลยแหล่ะ เด็กก็เหมือนกระดาษเปล่า พวกเธอไม่รู้ตัวจริงของจำรูญ ถ้ารู้แล้วก็คงจะพุ่งเข้าไปกัดเขาทันที ช่างน่าเกียจจริงๆที่ทำให้ห่ามี๊เราเจ็บปวดลำบากมานานแบบนี้ “คุณเพ็ญนีติ์ เหมือนว่าเขาจะดื่มมากไปนะครับ เขาขับรถไม่แน่นเลย ถ้าเกิด...” เพ็ญนีติ์ถอนหายใจทีหนึ่ง แสดงว่าจำรูญดื่มเยอะไปจริงด้วย ไม่ว่ายังไง ถึงแม้เธอไม่ชอบเขาแล้ว แต่ก็เคยรู้จักเข้าหาก่อน เธอจะดูเขาขับรถอันตรายไปกลางถนนไม่ได้ เธอผ่านหัวใจตัวเองไปไม่ได้แน่นอน“จอดค่ะ ฉันลงไปดูก่อน” คิดไปด้วยลงรถไปด้วย ถือว่าจำรูญเป็นคนผ่านที่ดีคนหนึ่งก็แล้วกัน เห็นเธอแล้วจำรูญรีบจอด แล้วเลื่อนกระจกลง“เพ็ญนีติ์ เธอลงรถทำไมครับ?เด็กๆหล่ะ?”เขาพูดไปด้วยพลางเปิดประตูรถให้เธอ เอเดินเข้ารถอย่างไม่เกรงใจ แต่ไม่ได้จะเข้าไปนั่ง เพียงแค่มองในรถไปทีหนึ่ง มือถือเขาวางบนพวงมาลัย เอามือถือแล้วค่อยเอากุญแจ จากนั้นพลางลงจากรถจำรูญ “เพ็ญนีติ์ เธอจะทำอะไร?คืนกุญแจให้ฉันนะ” เพ็ญนีติ์เปิดมือถือเขาออก เธอไม่ใช่คนอะไรของเขา เลยหาเบอร์ที่ชื่อญาณินท์แล้วโทรทันที “จำรูญคุณอยู่ไหนค้า?ทำไมดึกแบบนี้แล้วยังไม่กลับ และไม่รับสายเลย”เสียงญาณินท์กังวลขึ้นมา ฟังแล้วช่างน่าสงสารนัก รักใครสักคนช่างต้องอ่อนตัวดูต่ำลงขนาดนี้เลยเหรอ? เธอหันไปมองจำรูญทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงเข้ม“ฉันคือเพ็ญนีติ์ จำรูญเขาดื่มเยอะแล้วกำลังจะขับรถ ถ้าขับต่อไปอีกก็คงจะเกิดถึงตายแล้ว ฉันอยู่ที่ทางเข้าซอยของร้าน เธอรีบมารับเขากลับไป ฉันกำลังย้ายบ้านไม่มีเวลาสนใจเขาแล้ว”ยิ่งพูดเธอยิ่งลำคาน ช่างลำคานจริงๆ จำรูญตอนนี้เธอช่างอยากพุ่งเข้าไปต่อยเขาเลยชะมัด แต่เขากลับดันมาเมา ทำให้เธอลงมือไม่ลง “ได้ ฉันรีบไปตอนนี้ เพ็ญนีติ์ขอบคุณที่แจ้ฉันนะ” รอเถอะ เป็นเรื่องของเธออยู่แล้ว เพียงแค่รู้สึกผิดบ้าง ที่บริษัทย้ายบ้านมาช่วยเธอย้ายดึกๆแบบนี้ แล้วตอนนี้ก็ต้องรอแบบนี้ไปกับเธอ จำรูญลงรถ “เพ็ญนีติ์เอากุญแจให้ฉันดีไหม ฉันพาเธอไป...ไปทะเล ไปเดินรับลมเย็นๆดีไหม?” เธอกดเขาขึ้นไปในรถ “รอให้เธอตื่นแล้วไปที่ไหนก็ดี ตอนนี้เข้าไปนั่งใรรถดีดี ห้ามลงมานะ”ได้กลิ่นแอลกอฮอร์ทั้งตัวเขา จนเธอเกือบจะอ้วกออกมาได้ จำรูญมนตอนนี้ไม่มช่จำรูญในอดีตที่เธอรู้จักแล้วจริงๆ “ฮือ ฉันจะหย่า นายอะไรนั่น อำนาจอะไรนั่น เงินบ้าอะไร ฉันไม่เอาทั้งนั้น เพ็ญนีติ์ฉันแค่ต้องการเธอ”แต่เขายังนั่งไม่นิ่ง เพียงยื่นมือออกมาแล้วลากเพ็ญนีติ์เข้ารถ ริมปากนั้นไม่คิดอะไรก็ลงมาที่...ของเพ็ญนีติ์ กลิ่นเหล้าพุ่งพล่านมาปลายจมูก เพ็ญนีติ์อยากหนี แต่คนเมาไร้สติ อะไรก็เอาแต่ใจทั้งนั้น จำรูญเอามือใหญ่อบเอวเธอไว้ ริมฝีปากเขาจะแนบริมฝีปากเธอไว้ วินาทีนั้น พื้นที่เล็กๆไม่สามารถให้เธอออกห่าง เธอวุ่นวายขึ้นมาทันที ระหว่างที่เธอคิดว่าจำรูญจะจูบเธออีกครั้ง จู่ๆหัวจำรูญเอียงไปแล้วร่างกายสั่น มือที่อบเอวเธอไว้ก็ปล่อยไปแล้ว “หม่ามี๊เป็นอะไรไหมค้า?”ส้มปรากฏตัวขึ้นหลังตัวจำรูญ เด็กน้อยนั้นไม่รู้ได้ลงรถค้นส่งรถตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ก็ได้ขึ้นมารถจำรูญแล้ว และได้ช่วยเพ็ญนีติ์ที่เกือบโดนจำรูญจูบ “ไม่เป็นไร”เธอหน้าแดงช่างไร้ปัญญาจริงๆ ถ้าไม่ใช่ส้มเธอคงจะโดนบังคับจูบไปแล้ว หรือเขารักเธอจริงๆ ต่างบอกว่าตอนเมาพูดความจริง ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นการต้องการเธอ และเธอก็ไม่ได้เป็นหญิงสาวที่รักเขาในตอนนั้นแล้ว ด้านหลังมีอ้อยเข้ามากอดขาเธอไว้ “หม่ามี๊ อาคนนี้ร้าย เขาจะจูบหม่ามี๊ด้วย ต่อไปไม่ต้องสนใจเขาแล้ว หม่ามี๊จูบได้แค่หนูและส้มนะ” “อ้อย ไม่ถูกสิ แด๊ดดี๊ก็จูบหม่ามี๊ได้ เด็กๆต่างบอกกันแบบนั้น” “แต่แด๊ดดี๊หายไปแล้ว แด๊ดดี๊เป็นคนไม่ดี เขาไม่สนใจเราและหม่ามี๊” “ใช่ แด๊ดดี๊เป็นคนไม่ดี ในเมื่อไป่เอาเราแล้ว งั้นเราก็ไม่เอาเขาแล้ว ถึงแม้ต่อไปจะมาขอร้องเรา เราก็ไม่ต้องสนใจเขาดีไหม?”อ้อยเชิดจมูกไว้ เมื่อพูดถึงแด๊ดดี๊เธอก็อารมณ์ร้อนขึ้นมา “อืม ไม่ต้องสนใจเขา แด๊ดดี๊ร้าย แด๊ดดี๊ร้าย” “ส้ม อ้อยไม่พูดแล้วนะรีบกลับไปที่รถเถอะ เดี๋ยวจะมีคนมารับอาคนนี้ไป หม่ามี๊จะออกไปกับพวกหนูนะ”เสียเวลาคนขับรถเขามานาน เธอก็ไม่สบายใจมากแล้ว “หม่ามี๊ งั้นหม่ามี๊บอกหนูแด๊ดดี๊คือใครได้ไหม?เพียงแค่บอกเรามา เราจะขึ้นรถทันทีเลย ”อ้อยกระพริบตา เริ่มขู่เธออีกแล้ว ถึงแม้ทุกครั้งจะไม่ได้คำตอบ แต่เธอสองคนก็ไม่เคยเหนื่อย แด๊ดดี๊คนนั้นให้พวกเขาเธอทั้งรักทั้งเกลียด ยังแยกแยะอะไรไม่ออกเลยก็อยากรู้ว่าเป็นใครแล้เหรอ? เพ็ญนีติ์ยักษ์คิ้ว ช่างสุดยอดกับเด็กสองคนนี้จริงๆ “รีบขึ้นรถเถอะ ไม่อยากงนั้นฉันอุ้มขึ้นไปทีละคนแน่” “หม่ามี๊ แด๊ดดี๊รังแกหม่ามี๊แล้วไม่เอาม่ามี๊ใช่ไหมค้า? หม่ามี๊เลยไม่ชอบเขา ไม่บอกเราว่าเขาคือใคร?” “ไม่ใช่ อย่าคิดไปมั่ว แด๊ดดี๊อยู่เมืองนอกจริงๆ”เธอพูดเบาๆ เพื่อจะปลอบใจเด็กไม่อยากให้เด็กต้องคิดเองแด๊ดดี๊มาก เลือดเนื้อที่ออกมาจากตัวเธอเอง เธอทนเห็นไม่ได้ “หม่ามี๊โกหกหนู แด๊ดดี๊ไม่ได้ออกไปเมืองนอก แด๊ดดี๊ไม่เอาเราแล้ว ครั้งหน้าเปลี่ยนเหตุผลโกหกเราได้ไหม?”น้ำตาคลอแล้ว เด็กประมาณนี้ก็ช่างมีความรู้สึกคิดได้อย่างมาก เธอยื่นมือไปปาดน้ำตาให้อ้อย “ไม่ร้องนะลูก เดี๋ยวแม่เสียใจ หม่ามี๊ก็เสียใจแล้ว พวกหนูอยากเห็นหม่ามี๊เสียใจเหรอ?”นี่เป็นไม้อ่อนของเธอ ทุกครั้งที่บอกว่าเธอก็เสียใจนั้น ส้มและอ้อยจะทนไม่ได้ เธอทนเห็นลูกเป็นแบบนั้นไม่ได้ เหมือนกัน ต่างคนต่างพึ่งพากันมาห้าปีแล้ว “ไปเถอะอ้อย อย่าเป็นห่วงหม่ามี๊แล้ว รอให้ย้ายไปบ้านใหม่ ก็ เราก็เอาเตียงใหญ่ๆ เรานอนด้วยกัน” “ค่ะ เราตกลงค่ะ ต่อไปเราจะนอนกับหม่ามี๊ทุกวัน”และเฝ้าเคียงข้างลูกตลอดไป เมื่อคิดถึงปุริม เธอก็รู้สึกว่าตัวเองยิ่งอยู่ก็ยิ่งไกลจากเขาแล้ว มือน้อยทั้งสองจูงกันไว้แล้วเดินกระโดดขึ้นรถไป เร็วมากที่ญาณินท์ก็มาถึง แล้วรีบโดดแท็กซี่พลางวิ่งตรงไปรถจำรูญ จำรูญหลับไปนานแล้ว เห็นจำรูญหรับไป ส้มก็ชกทีหัวเขาทีหัวเขาทีหนึ่ง เขาเอียงหัวแล้วนอนต่อไป แม้แต่เจ็บก็ไม่รู้สึกเลย นี่ก็คงเป็นคนเมา บางทีมีคนฆ่าเขาแล้วเขาก็คงไม่รู้ตัว เห็นญาณินท์ เพ็ญนีติ์พลางยื่นกุญแจคืนไป “ฉันไปแล้ว เธอดูฉันกำลังย้ายบ้าน หวังว่าพวกเธออย่าหาฉันเจออีก”พูดจบเธอพลางเดินขึ้นรถขนส่ง “เพ็ญนีติ์ในเมื่อเธอไม่อยากให้จำรูญหาเธอเจอ แล้วทำไมเธอไม่ออกจากเมืองดรัลไปเลย?”ญาณินท์มองหลังเพ็ญนีติ์เรียบเฉียบ ถ้าไม่ใช่เพ็ญนีติ์ บางทีเธอกับจำรูญอาจจะมีความสุขไปแล้ว แต่ไม่ว่าเธอพยายามแค่ไหน จำรูญก็ไม่ลืมเพ็ญนีติ์ไปได้ อีกทั้งยังเรียกชื่อเพ็ญนิ์ตอนเมาทุกครั้ง ทำให้เธอต้องจำอยู่ในความมืดของเพ็ญนีติ์มากตลอด
已经是最新一章了
加载中