ตอนที่ 2 ภาพเสมือนจริง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 2 ภาพเสมือนจริง
ตอนที่ 2 ภาพเสมือนจริง เสียงฟ้าผ่าที่ร้องดังต่อเนื่องทำให้ณฐพรตกใจตื่น และพบว่าจตุภูมิหายตัวไป เธอรีบเปิดไฟ และร้องเรียกด้วยเสียงแผ่วเบาว่า : "จตุภูมิ จตุภูมิ!" แต่ไม่มีการตอบกลับมา เมื่อมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่าๆของช่วงเช้ามืดแล้ว ณฐพรลงจากเตียงนอนพร้อมสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกจากห้อง เมื่อเธอเห็นไฟสว่างในห้องทำงานของจตุภมิ เธอก็ค่อยๆเดินอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ผลักประตูห้องออก ในตอนนี้จตุภูมิกำลังมองดูกระดาษในมือของตัวเองอย่างเหม่อลอยอยู่ จนแทบจะไม่รู้สึกตัวว่าณฐพรเดินเข้ามา เมื่อณฐพรเดินมาถึงข้างตัวเขา ก็เห็นว่าในมือของเขากำลังถือรูปภาพหนึ่ง เป็นรูปภาพเสมือนจริง ในรูปภาพเป็นรูปร่างของคนที่ผิดปกติ เมื่อมองดูแล้วรู้สึกโหดร้ายทารุณและน่ากลัวมาก เมื่อตอนบ่ายณฐพรเคยเห็นรูปนี้มากก่อน เป็นของที่ทางไปรษณีย์ส่งมา ตอนนั้นเธอนึกว่ารูปภาพนี้เป็นงานศิลปะที่จตุภูมิซื้อมาเสียอีก เพราะโดยปกติแล้ว จตุภูมิชื่นชอบการเก็บสะสมภาพวาดพู่กันของนักศิลปะที่มีชื่อเสียง ดังนั้นในตอนนั้นเธอเลยไม่ได้ใส่ใจมากสักเท่าไหร่ จนถึงหลังจากกินข้าวมือค่ำเสร็จ เธอก็นำรูปภาพให้จตุภูมิ และพบว่าบนใบหน้าของจตุภูมิเผยสีหน้าตื่นตระหนก และมีสีหน้าขาวซีดอีกด้วย เธอถามจตุภูมิว่าเป็นอะไรไป แต่จตุภูมิตอบว่าปวดกระเพาะ เธอทราบดีว่าอาการปวดกระเพาะของจตุภูมิเป็นอาการป่วยบ่อยของเขา ดังนั้นเธอเลยไม่ได้คิดมาก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นเพราะรูปภาพนี้ที่ทำให้คิดมากแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ตื่นนอนมาตอนกลางดึกขังตัวเองไว้ในห้องทำงานและมองรูปภาพนี้อย่างเหม่อลอย ถึงขนานภรรยาเดินเข้ามาก็ยังไม่รู้สึกตัว "จตุภูมิ!" มือของเธอทาบลงบนบ่าของจตุภูมิ ทันใดนั้นจตุภูมิก็สะดุ้งตกใจ เหมือนดึงสติกลับมาได้ แล้วเขาหันมามองเธอ : "คุณตื่นทำไหมตอนนี้?" ณฐพรยิ้ม : "ดึกดื่นขนาดนี้ยังไม่นอนอีก ทำอะไรอยู่หรอ?" แววตาของณฐพรทอดลงที่รูปภาพนั้นอีกครั้ง สีของรูปภาพนี้เป็นสีแดงสดทั้งหมด และรวมถึงรูปร่างของคนที่เป็นเส้นสีดำผิดปกติ อีกทั้งยังมีเลือดสดไหลทะลักออกมาด้วย เหมือนกับเปลวไฟที่ปลิวไหล "คุณเชื่อว่าบนโลกนี้มีเรื่องเวรกรรมไหม?" จตุภูมิวางรูปภาพลงบนโต๊ะ และพูดเบาๆ แต่ไม่รอให้ณฐพรตอบกลับ เขาก็พูดขึ้นมาเองว่า : "มันต้องมีสิ ต้องมีอย่างแน่นอน เพราะคนทำชั่ว ไม่ช้าก็เร็วเวรกรรมก็จะตามสนอง" ณฐพรจับมือของจตุภูมิไว้ : "จตุภูมิ คุณเป็นอะไรไปค่ะ? ถึงแม้ว่าบนโลกนี้มีกฎเวรกรรม แต่พวกเราก็ไม่เห็นต้องกลัวเลย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเราทำแต่ความดี ไม่ว่าจะเป็นบริจาคเงินบริจาคสิ่งของแก่พื้นที่ได้รับอุทกภัย ซ่อมแซมโรงเรียน แต่ถ้าหากจะพูดว่ามีเวรกรรมจริงๆ เช่นนั้นเราทำดีก็ต้องได้ดีตอบแทนสิ จตุภูมิหันหน้ามองเธอด้วยสีหน้าแข็งทื่อ พร้อมกับแววตาเคว้งคว้าง : "พูดอย่างนี้คุณเองก็เชื่อเรื่องเวรกรรมตามสนองสินะ ดังนั้นแสดงว่าทำชั่วก็ต้องได้ชั่ว ใช่ไหม" ณฐพรพยักหน้าตามจิตสำนึก จู่ๆเธอก็อ่านข้อความที่อยู่ข้างใต้ของรูปภาพด้านขวามือว่า : "ต้องชดใช้" ในใจของเธอรู้สึกมีลางสังหรณ์รางๆ ดูเหมือนว่ารูปภาพนี้จะไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เธอคาดคิดไว้ เธอโถมตัวลงกอดแขนของจตุภูมิ : "จตุภูมิ คุณเป็นอะไรไปค่ะ ตกลงรูปภาพนี้คืออะไรค่ะ บอกฉันหน่อยได้ไหม? เราสองคนเป็นสามีภรรยามาหลายปี ดังนั้นยังมีเรื่องอะไรที่บอกไม่ได้กันอีก? จตุภูมิส่ายหน้า และถอนหายใจเบาๆ : "ผมไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไร" เขายืนขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปตรงประตูหน้าต่าง และเปิดประตูหน้าต่าง จากนั้นลมหนาวก็พัดผ่านเข้ามาพร้อมกับน้ำฝนที่ลมพัดกระเด็นก็เข้ามากระทบบนใบหน้าของเขาด้วย จตุภูมิยังคงนิ่งเงียบ ทำให้ญฐพรเกิดลางสังหรณ์ใจแปลกๆขึ้น และเธอก็มั่นใจว่าจตุภูมิต้องมีเรื่องที่ปิดบังเธออย่างแน่นอน ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปถามให้แน่ชัด จตุภูมิก็ปิดประตูหน้าต่าง จากนั้นก็ลูบน้ำฝนที่กระเด็นบนใบหน้าของตัวเองเบาๆ : "ไปกันเถอะ กลับไปนอนด้วยกัน" เมื่อเขาเดินมาถึงข้างณฐพร เขาก็จับมือพาเธอเดินกลับไปในห้องนอน เมื่อนอนบนเตียง เขาก็หลับตาลงนอนหลับทันที ณฐพรอยากจะถามเขาให้รู้เรื่องมาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซักถาม เพราะเธอคิดว่าค่อยถามวันหลังจะดีกว่า แต่จริงๆแล้วจตุภูมิในเวลานี้ไม่ได้นอนหลับ เช้ามืด กองตำรวจอาชญากรรมประจำจังหวัดได้รับคดีความว่า จตุภูมิประธานคณะกรรมการของศูนย์วัฒนธรรมดาว กรีดข้อมือฆ่าตัวตายในอ่างอาบน้ำ คนที่แจ้งคดีความคือณฐพรภรรยาของเขาเอง ณฐพรสงสัยว่าเรื่องราวต้องมีความเกี่ยวข้องกับรูปภาพ "อธิการบดีณภัทร ท่านเรียกหาผมหรอครับ?" ขณะที่ครรชิตเดินเข้าในห้องทำงานของอธิการบดี เขาก็เห็นณภัทรกำลังก้มมองดูอะไรบางอย่าง เมื่อเขาได้ยินเสียงของครรชิต เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมจัดการแว่นให้คงที่ แล้วยืนขึ้น : "ครรชิตหรอ มา นั่งลงก่อน" เมื่อเชิญให้ครรชิตนั่งลงบนโซฟา ณภัทรก็ถามว่า : "ครรชิต ที่นี้ไม่มีคนอื่น เช่นนั้นผมขอพูดเปิดประเด็นเลยนะ" ครรชิตพยักหน้าเล็กน้อย "คุณขรรค์ชัยกับคุณจตุภูมิเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะฆ่าตัวตาย แต่ผมคิดว่าต้องมีเหตุผลแน่ๆ? และถ้าหากไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผล ประชาชนต้องคิดต่างๆนาๆแน่ และอาจมีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น เพราะถ้าหากเกิดเช่นนั้นจริง คงจะกระทบต่อสังคมด้านไม่ดีแน่ ส่วนผลกระทบคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว?" ณภัทรพูดอย่างเร่งเครียด ครรชิตด้วยเสียงแผ่วเบาว่า : "อธิการบดีณภัทรครับ เรื่องคดีที่เกี่ยวกับคุณขรรค์ชิต มีเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่ได้รายงานให้ท่านฟัง เรื่องราวเป็นเช่นนี้ครับ..." เขานำเรื่องเล่าของรายการ"เรื่องหลอนตอนเที่ยงคืน"ที่ถ่ายทอดสดทางวิทยุเมื่อคืนและอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่กนตร์พีประสบมาให้เขาฟังรอบหนึ่ง "ผมกับกนตร์พีคิดว่าคุณขรรค์ชัยไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เป็นแผนลอบฆ่า เพียงแต่ในตอนนี้พวกผมยังไม่รู้แผนการที่ฆาตกรใช้ลอบฆ่าอีก ผมส่งคนไปตรวจสอบที่สถานีวิทยุแล้ว ปรากฏว่าในเวลาห้าทุ่มห้านาทีมีสายผู้หญิงโทรเข้ามาจริงๆ เธอเล่าเรื่องราวประมาณหนึ่ง ซึ่งเทปบันทึกเสียงนั้นพวกเราได้มาแล้ว และเตรียมนำไปตรวจสอบพิจารณา ส่วนบัตรโทรศัพท์นั้นซื้อมาจากซุ้มขายของริมถนนที่ไม่ต้องลงทะเบียนใช้ชื่อจริง ส่วนบริษัทของโทรศัพท์ก็ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าบัตรโทรศัพท์นั่นใช้งานเพียงครั้งเดียว ในตอนที่โทรเข้ามาร่วมสนุกกับทางวิทยุ" ณภัทรเป็นตำรวจชั้นอาวุโส จากสิ่งที่ครรชิตเล่ามานั้น เขาก็ได้พินิจไตร่ตรองแล้วว่าการตายของคุณขรรค์ชัยมีเงื่อนงำ เขาหรี่ตาลง : "คุณคิดว่าคุณขรรค์ชัยตายเพราะถูกลอบฆ่าหรอ แล้วคุณจตุภูมิล่ะ? คุณคิดว่าการตายของเขาทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า? ภรรยาของคุณจตุภูมิบอกว่าการตายของเขาเกี่ยวข้องกับรูปภาพ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น?" เขารู้ว่าครรชิตเพิ่งกลับมาจากบ้านของตระกูลขรรค์ชัย ดังนั้นเลยซักถามเรื่องนี้ขึ้น ครรชิตเล่าถึงสถานการณ์ของจตุภูมิคร่าวๆให้ฟังรอบหนึ่ง : "พวกเราได้ตรวจสอบกับทางบริษัทไปรษณีย์แล้ว แต่พวกเขาไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับคนส่งของคนนั้น จำได้เพียงแต่ผู้ส่งเป็นผู้หญิง ส่วนชื่อและที่อยู่ของคนรับ เธอได้พิมพ์ลงกระดาษเรียบร้อยแล้ว หลังจากเธอวางรูปภาพและที่อยู่ รวมทั้งเงินหนึ่งร้อยหยวนไว้บนเคาเตอร์เสร็จก็จากไปเลย ในตอนนั้นพนักงานก็พยายามเรียกเธอแล้ว แต่เธอก็ไม่กลับมา ณภัทรพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า : "นั่นหมายความว่า การตายของคุณจตุภูมิคุณก็รู้สึกมีเงื่อนงำเหมือนกันใช่ไหม?" ครรชิตลังเลอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็พยักหน้าเล็กน้อย ณภัทรพูดว่า : "โอเค 'คดีฆ่าตัวตาย'ที่ยังเป็นปริศนาสองคดีความนี้ พวกคุณจะต้องตรวจสอบให้ผมอย่างชัดเจน แต่การตรวจสอบจะต้องเป็นความลับสุดยอด และจัดการกันอย่างเงียบๆ ห้ามส่งผลกระทบทำให้สังคมหวาดกลัว ส่วนตอนนี้ตัดสินคดีว่าเป็นการฆ่าตัวตายไปก่อน จงจำหลักการนี้ไว้เสมอว่า ห้ามให้พวกเราตกอยู่ในสภาวะของผู้ถูกกระทำอย่างเด็ดขาด" "อธิการบดีณภัทรครับ คุณคิดว่าจะต้องสร้างหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจไหมครับ?" ครรชิตถามขึ้น ณภัทรคิดอยู่สักพัก : "ก็ดีนะ แต่ต้องจัดการกันอย่างเงียบๆ ห้ามให้มันอึดทึกจนเกินไป" "ผมมีคนหนึ่งที่อยากจะเสนอเข้ากลุ่มด้วย แต่เรื่องนี้ยังต้องให้ท่านยินยอมด้วยครับ" ครรชิตยิ้มขึ้น "ใครหรอ?" ครรชิตตอบว่า : "กนตร์พีครับ คนๆนี้มีพรสวรรค์ด้านตำรวจอาชญากรรมตั้งแต่เกิด อีกอย่างเขามีความรู้ทางด้านจิตวิทยาด้วย ผมเชื่อมั่นว่าหากมีเขาเข้าร่วมกลุ่มด้วย หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจจะต้องปิดคดีได้อย่างรวดเร็วแน่ครับ"
已经是最新一章了
加载中