ตอนที่ 4 ภรรยาของคุณเด่นภูมิ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4 ภรรยาของคุณเด่นภูมิ
ตอนที่ 4 ภรรยาของคุณเด่นภูมิ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ"มีทั้งหมดสี่คน ครรชิต กนตร์พี เสาวรสและติณณภพ ครรชิตเป็นหัวหน้าของกองตำรวจอาชญากรรม และยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมาก ดังนั้นการตรวจสอบ"คดีความฆ่าตัวตาย"เลยมอบภาระทั้งหมดไว้ให้กับกนตร์พี เสาวรสมีฉายาที่คนในสถานีตั้งว่าสาวสวยจอมเย็นชา เธอเคยเป็น"นางฟ้า"ในดวงใจของชายโสดในสถานีตำรวจ แต่ไม่มีใครสามารถหลอมละลายกำแพงน้ำแข็งนั้นได้เลย เสาวรสมาบัญชาการที่สถานีตำรวจนี้มาห้าปีกว่าแล้ว ตอนนี้ยังคงโสด ส่วนชายโสดที่จีบเธอก็ค่อยๆมีครอบครัวของตัวเองแล้ว ทุกคนล้วนสงสัยว่าผู้ชายในอุดมคติของเธอแบบไหน ถึงจะสามารถเป็นคู่ครองของเธอได้ อย่ามองแค่ว่าเธอมีหน้าตาสวย แล้วคิดว่าเธอสวยแต่รูป เพราะถ้าคิดอย่างนั้นคุณคิดผิดอย่างมหันตน์ เธอมีหน้าตาสวยเหมือนดั่งดอกไม้ แต่กลับเป็น"ดอกไม้สวยที่แข็งทื่อ" เธอเกิดในตระกูลที่มีความสามารถในด้านศิลปะการต่อสู้ และเธอยังเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากด้วย ทุกครั้งเมื่อในกองมีการต่อสู้ เธอก็มักจะพุ่งตัวเข้ามาเสมอ โดยที่ไม่อ่อนด้อยไปกว่าผู้ชายเลยแม้แต่น้อย ส่วนติณณภพกับกนตร์พีรู้จักกันมาตั้งนานแล้ว เขาเพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนตำรวจ ซึ่งเขาก็คือลูกศิษย์ของกนตร์พีนั่นเอง กนตร์พีเขียนบนกระดานสามชื่อว่า : "จตุภูมิ ขรรค์ชัย เด่นภูมิ เขาหันหน้ามา : "ผมอ่านเอกสารมาก่อนบ้างแล้ว การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่คนก่อนทำงานได้อย่างละเอียดมาก แต่ก็ยังมีช่องโหว่บางส่วนอยู่ หรือเป็นเพราะการวินิจฉัยว่าเป็นการฆ่าตัวตาย พวกเขาเลยละเลยการสอบถามบุคคลที่สามที่อยู่ในสถานการณ์ ผมคิดว่าพวกเราน่าจะลงมือจากจุดนี้ก่อน" เขามองติณณภพแวบหนึ่ง : "ติณณภพ เรื่องนี้ต้องให้คุณจัดการแล้วล่ะ" ติณณภพตอบรับ กนตร์พีพูดเสริมว่า : "ยิ่งละเอียดรอบคอบากเท่าไหร่ก็จะยิ่งส่งผลดีมากเท่านั้น พยายามสืบดูว่าคนตายทั้งสามคนนี้เคยมีความสัมพันธ์และไรต่อกันบ้าง" สามารถเข้าหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจได้ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเขามาก ในฐานะอาจารย์ ติณณภพถือเป็นคนที่น่ายกย่องคนหนึ่งเลย "วางใจเถอะครับ ผมจะทำภารกิจให้สำเร็จ" ติณณภพทุบหน้าอกตัวเองสองที "เสาวรส พวกเรามาจัดเรียงความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคนดูใหม่อีกครั้ง ลองดูว่าจะสามารถพบอะไรได้บ้าง" กนตร์พีชี้มือไปที่รูปภาพของเด่นภูมิ และพูดว่า : "เริ่มจากเขาเป็นคนแรก" เมื่อถ่ายทอดภารกิจเสร็จ พวกเขาก็เดินจากห้องทำงาน และเริ่มทำภารกิจของตัวเอง เสาวรสที่นั่งอยู่ข้างคนขับรถก็เหลือบตามองกนตร์พีที่กำลังขับรถอยู่แวบหนึ่ง เธอคิดไม่ถึงว่าหัวหน้าครรชิตจะเชิญชายหนุ่มเข้ามารวมทีม อีกทั้งยังหล่อเหลาอีกด้วย และบนใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มตลอด เธอไม่เชื่อว่าคนที่ทางโรงเรียนส่งมาจะมีความสามารถ ในมุมมองของเธอแล้ว กนตร์พีเป็นแค่หมอนปักลายดอกไม้เท่านั้น แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ เธอก็ทำหน้าที่ของเธอให้ดีก็พอแล้ว "หลังจากเด่นภูมิตาย ภรรยาของเขาคุณธัญญาพรก็ช่วยบริหารจัดการเอ็กบีอุตสาหกรรมแทนชั่วคราว"เมื่อมาถึงเอ็กบีอุตสาหกรรม และเข้าไปในลิฟท์นั้น เสาวรสก็พูดเบาๆขึ้น กนตร์พีก็พูด'อืม"เบาๆขึ้น ธัญญาพรอายุประมาณห้าสิบปีกว่าๆ รูปร่างอ้วนท่วม เธอมีใบหน้าเหน็ดเหนื่อยที่กลบด้วยรองพื้นอันหนาอยู่ เธอสวมกระโปรงยาวสีดำ บนคอและนิ่วมือมีแสงกระพริบสีทองอร่าม "ผู้จัดการชิน สวัสดีครับ พวกเราคือกองตำรวจอาชญากรรมประจำจังหวัดครับ อยากจะสอบถามสถานการณ์จากคุณสักหน่อย" กนตร์พีเปิดประเด็นทันที ธัญญาพรไม่ได้ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ แต่เหลือบตามองพวกเขาแวบหนึ่ง : "กองตำรวจอาชญากรรมหรอ? พวกคุณอยากทราบอะไรหรอค่ะ?" เสาวรสขมวดคิ้ว ธัญญาพรพูดอีกว่า : "ถ้ามาเพื่อถามเรื่องผีแก่นั้น ฉันต้องขอโทษด้วย เพราะฉันได้พูดในสิ่งที่ต้องพูดหมดแล้ว ไม่ใช่ว่าทางตำรวจได้ตัดสินคดีแล้วหรอกหรอ?" กนตร์พียิ้มแล้วพูดว่า : "ผู้จัดการชิน จากที่ผมทราบมาความสัมพันธ์ของพวกคุณสองคนไม่ดีมาตลอด และผมยังได้ยินมาว่าผู้จัดการชินยังมีเพื่อนที่ดีคนหนึ่งชื่อตฤณด้วยใช่ไหมครับ?" ใบหน้าของธัญญาพรค่อยๆเปลี่ยนสีหน้า และก็ยืนขึ้น : "คุณหมายถึงอะไร? คุณกำลังสงสัยว่าการตายของเด่นภูมิมีความเกี่ยวข้องกับฉันหรอ?" กนตร์พียักไหล่เล็กน้อย : "ผมไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย ที่จริงพวกเรามาไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แค่อยากพูดคุยกับคุณเท่านั้น แน่นอน หากผู้จัดการชินไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไรครับ" เขามองเสาวรสที่หม่อลอยอยู่ และพูดว่า : "พวกเรากลับกันเถอะ" "เดี่ยว รอก่อน" ธัญญาพรเปลี่ยนสีหน้าที่มีรอยยิ้มและเดินอ้อมออกจากหลังโต๊ะ : "ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ เพราะฉันเพิ่งมาบริหารจัดการบริษัท และเหล่าพนักงานก็รู้ว่าฉันไม่ถนัดด้านนี้ ฉันเลยกังวลจนจัดการไม่ราบรื่นเลย ดังนั้นเลยอารมณ์ไม่ดี โปรดอภัยด้วย! เธอเชิญให้ทั้งสองคนนั่งลงก่อน และเรียกคนเข้ามารินชา : "ไม่ทราบว่าคุณทั้งสองต้องการทราบเรื่องอะไรค่ะ" ครั้งก่อนเสาวรสก็เคยทักทายกับธัญญาพรมาก่อน เธอคิดเสมอว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนใจจืดใจดำ และชอบอวดร่ำอวดรวยจนแทบจะไม่เห็นใครในสายตาเลย คิดไม่ถึงว่ากนตร์พีจะใช้เพียงแค่สองประโยคควบคุมเธอได้ หลังจากนั่งอยู่ในห้องทำงานของธัญญาพรได้สักประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า พวกเขาก็ได้จากไป สิ่งที่ธัญญาพรให้การกับเอกสารคดีแทบจะเหมือนกันเลย ดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกเขามาเปล่าประโยชน์แล้ว หลังจากขึ้นรถ เสาวรสก็ถามกนตร์พีด้วยควาสงสัยว่า : "คุณรู้จักตฤณได้ยังไง? ฉันจำได้ว่าในเอกสารคดีไม่มีกล่าวถึงเรื่องนี้?" กนตร์พียิ้มแล้วพูดว่า : "ก่อนมาผมก็ต้องทำการบ้านมาก่อนสิครับ ธัญญาพรไม่ใช่คนที่เข้ากับคนง่าย การเจรจากับคนแบบนี้ต้องใช้ใจมากหน่อย" ผู้สาวคนเดียวของเด่นภูมิชื่อว่าเปมิศา เธอเพิ่งจบทางด้านศิลปะ ตอนนี้เปิดนิทรรศการรูปภาพของตัวเองอยู่ ที่จริงเด่นภูมิต้องการให้เธอมาเรียนรู้การบริหารจัดการบริษัท ในมุมมองของเขาแล้ว คิดว่าทรัพย์สินของตระกูลในอนาคตจะตกเป็นของเธอ ดังนั้นคงไม่ยอมให้เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้ ใช่ไหม? แต่เปมิศากลับไม่สนใจบริษัทของพ่อเลยสักนิด สุดท้ายเด่นภูมิก็ปล่อยเธอให้อิสระ เปมิศาเป็นผู้หญิงที่แตกต่างจากคนอื่น การแต่งตัวก็มักจะเป็นแนวอาร์ต รูปแบบการแต่งตัวที่สร้างความประทับใจแก่กนตร์พีมากที่สุดคือผ้าคลุมไหล่ขนาดใหญ่กับหมวกเส้นด้ายหกมุมของเธอ เปมิศามีหน้าตาไม่ถือว่าสวย แต่ก็ไม่มีนิสัยเย็นชาเหมือนธัญญาพรผู้เป็นแม่ เธอมีขนตาที่เรียวยาวเหมือนตุ๊กตา ลักษณะของเธอมีกลิ่นอายของนักศิลปะอย่างชัดเจน เพียงแต่รูปภาพของเธอทำให้กนตร์พีไม่กล้าประจบสอพลอ "คุณเปมิศา ได้ยินมาว่าคุณมีความสัมพันธ์กับพ่อแม่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เป็นเช่นนี้จริงหรอครับ?"เมื่อกนตร์พีขอตัวเธอจากการนิทรรศการรูปภาพออกมาถามเธอทันที เธอนั่งไขว้ข้าง ส่วนขาอันเรียวเล็กก็เขย่าเล็กน้อย : "จริงค่ะ ที่จริงก็ไม่ควรโทษตาแก่นะค่ะ แม่ของฉันพวกคุณเจอมาแล้วหรือยังค่ะ? รูปร่างหน้าตาฉันขอไม่พูด แต่นิสัยใจคอของเธอมีเพียงตาแก่ที่ทนรับได้ แม้แต่เรื่องเล็กเธอมักจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ พูดตามตรงเลยนะค่ะ หลังจากที่ฉันจบมาและย้ายออกมาอยู่มาได้ครึ่งปีกว่า เพราะฉันต้องการหลบซ่อนจากเธอ" เปมิศาเป็นคนพูดเก่ง คำถามที่กนตร์พีถามเธอ เธอไม่มีบ่ายเบี่ยง อะไรที่เธอรู้เธอก็พูดออกมา เพียงแต่เธอชอบเอามือลูบหน้าผากของตัวเองเบาๆ ตาแก่มีเพื่อนผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง เธอชื่อไปรยา เธอเป็นนักแสดงของคณะละครซึฮวะ อย่ามองที่อายุเธอสิบสิบปีกว่า แต่เธอดูแลผิวพรรณดีมาก หน้าตาสวย ดูไปแล้วเหมือนกับเพิ่งจะเข้าสามสิบด้วยซ้ำ ส่วนท่าทางของเธอไม่อะไรต้องพูด แต่ก็ว่านะ เธอเป็นคนดีมากจนฉันแทบจะเทียบเธอไม่ติดเลย ส่วนแม่ของฉันไม่นับ ช่างเถอะ ไม่พูดถึงเธอล่ะ" กนตร์พีจ้องมองเปมิศาอย่างไม่คาดสายตา : "ดูเหมือนคุณจะชื่นชอบคุณไปรยานะครับ?" เปมิศาไม่ปฏิเสธ : "ไม่ได้หรอ? เธอเป็นคนดี อีกอย่างก็เคยสอนฉันหลายอย่างด้วย" เสาวรสถามขึ้นว่า : "คุณสนิทสนมกับคุณไปรยาขนาดนั้น แม่คุณไม่ว่าหรอครับ?" เปมิศาแสดงท่าทางช่วยไม่ได้ : "เธอจะว่าอะไรได้ พ่อมีคุณไปรยาเป็นภรรยา ส่วนเธอเองก็มีคุณตฤณเป็นสามี?' ดูเหมือนว่าเปมิศาจะเป็นคนใจกว้างกับเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อแม่เธอมาก กนตร์พียิ้มและถามว่าเธอมีความทรงจำของคุณตฤณอย่างไรบ้าง เธอประเมินด้วยประโยคนี้ว่าอัปลักษณ์
已经是最新一章了
加载中