ตอนที่ 8 ฆ่าตัวตายอีกแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 8 ฆ่าตัวตายอีกแล้ว
ตอนที่ 8 ฆ่าตัวตายอีกแล้ว ผลการตรวจสอบภูมิหลังบุคคลที่สามของติณณภพออกมาแล้ว ขรรค์ชัย จตุภูมิและเด่นภูมิทั้งสามคนเคยเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่เมืองสวนสนทีเดียวกัน ทั้งสามคนระดับต่างกัน ห้องเรียนต่างกัน และดูเหมือนทั้งสามคนไม่ค่อยมีเวลาคลุกคลีด้วยกัน อาจนับได้ว่าเป็นแค่เพื่อนโรงเรียนด้วยกัน หลังจากจบมัธยมต้น จตุภูมิก็ไปเรียนปวช เด่นภูมิยังคงเรียนต่อระดับมัธยมปลาย ส่วนขรรค์ชัยเคว้งคว้างอยู่บ้านสองปีก่อนจะเข้ากรมทหาร หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ไม่มีโอกาสพบเจอกันอีกเลย แต่มีบางอย่างที่กนตร์พีพบได้คือ พวกเขาทั้งสามล้วนมีจุดเริ่มต้นสร้างธุรกิจเมื่อยี่สิบเอ็ดปีก่อน ปีเดียวกันเพียงแต่คนละเดือน กนตร์พีเขียนบนกระดานประโยคหนึ่งว่า ปีเดียวกันที่ทั้งสามคนนำเงินสร้างธุรกิจ เขาทำเครื่องหมายขีดเส้นใต้คำว่า"เงิน"ด้วย เสาวรสถามขึ้นว่า : "คุณกำลังสงสัยว่าเงินของพวกเขามาจากไหนหรอ?" กนตร์พีพยักหน้าเล็กน้อย : "ทั้งสามคนสร้างธุรกิจปีเดียวกัน อีกอย่างล้วนเอาเงินตัวเองด้วย แล้วคุณไม่รู้สึกว่ามันแปลกบ้างหรอ?" ติณณภพบอกว่ามันผ่านมายี่สิบปีกว่าแล้ว อีกอย่างทั้งสามคนที่เป็นคู่ความล้วนก็ตายหมดแล้ว ดังนั้นเขาคิดว่าการสืบค้นแหล่งที่มาของเงินพวกเขามันดูไม่น่าจะเป็นไปได้ กนตร์พีส่งเสียงว่า"อืม" จากนั้นก็นั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง : "เสาวรส คุณรับผิดชอบสืบค้นเรื่องของขรรค์ชัย ติณณภพ คุณรับผิดสอบสืบเรื่องของจตุภูมิ เดี่ยวผมจะสืบเรื่องของเด่นภูมิเอง ให้ทุกคนเขียนตารางเวลาก่อนในช่วงก่อนที่พวกเขาสร้างธุรกิจ พยายามจัดเรียงสถานที่พักและการเดินทางของพวกเขาในแต่ละห้าปี" เสาวรสยิ้มและพูดว่า : "คุณอยากทราบว่าพวกเขาได้ติดต่อกันเพื่อหาเงินด้วยวิธีบางอย่าง ใช่หรือเปล่า?" กนตร์พีคิดเช่นนั้นจริงๆ เขายังพูดอีกว่า เพราะเรื่องเล่าของผู้หญิงกับรูปภาพที่จตุภูมิได้รับมีความแปลกประหลาด เขาเลยคิดว่าเส้นทางของเงินก้อนแรกของทั้งสามคนต้องมีเงื่อนงำแน่ และมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ"ผีที่ตายอย่างอาฆาต"เมื่อยี่สิบปีก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นพูด" "หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ไม่ควรนำข้อมูลเพียงเล็กน้อยแค่นี้ไปสืบค้น ยกตัวอย่างเช่นคุณขรรค์ชัย" ในมือของเธอกำลังถือข้อมูลของคุณขรรค์ชัยพอดี : "เขาเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ทำงานโรงงานยางพารา ไม่ถึงสองปีก็ถูกไล่ออกเพราะขาดงานบ่อย ปีต่อมาเขาก็เริ่มต้นสร้างธุรกิจ นี้เป็นประวัติห้าปีของเขา ในประวัติเหล่านั้นแทบจะไม่ได้รับข้อมูลอะไรมากมายเลย" ติณณภพก็บอกว่าประวัติของจตุพลก็เรียบง่ายมากเหมือนกัน หลังจากจบปวช เขาก็เข้าทำงานโรงงานสร้างถนน และทำงานที่นั้นเป็นเวลาเจ็ดปี สามารถพูดได้ว่าก่อนที่เขาจะสร้างธุรกิจเขาทำงานในโรงงานมาตลอด "โรงงานสร้างถนนนั้นล้มละลายไปตั้งนานแล้ว ผมลองถามคนที่เคยทำงานที่นั้นไม่กี่คนว่า พวกเขามีความทรงจำต่อจตุภูมิอย่างไรบ้าง แต่พวกเขาบอกว่าไม่มี เพราะในตอนนั้นโรงงานมีแต่ขาดทุน ต่อมาก็ต้องหยุดการผลิต สุดท้ายก็ต้องพึ่งพาค่าเช่าหน้าร้านเป็นค่าจ้างให้กับพนักงาน" กนตร์พีนิ่งเงียบ ข้อมูลของเด่นภูมิยิ่งเรียบง่ายกว่าอีก นับตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายจนถึงก่อนสร้างธุรกิจ เขามีแค่สองพยางค์นี้คือว่างงาน! เขามองดูเสาวรส : "คุณพูดถูก หากจะดูจากข้อมูลคงหาอะไรไม่พบแน่ ดูเหมือนว่าคดีความนี้จะไม่ง่ายดายกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้แล้ว แต่ยิ่งสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกสนุก เพราะมันยิ่งสร้างความท้าทาย ไม่ใช่หรอ?" กนตร์พียิ้มแย้ม ส่วนเสาวรสก็ดื่มน้ำในมือหนึ่งคำ ติณณภพถามขึ้นว่า : "อาจารย์กนตร์พีครับ คุณคิดว่าพวกเราควรทำยังไงต่อครับ?" เสาวรสก็มองกนตร์พีเหมือนกัน ในมุมมองของเธอ คดีความนี้ได้เข้าสู่สภาวะทางตันแล้ว กนตร์พีพยายามสืบค้นความสัมพันธ์ของทั้งสามคน นอกเสียจากทั้งสามคนเคยเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่เดียวกันแล้ว ก็ไม่มีเบาะแสอะไรที่พวกเขาสามคนจะมีความเกี่ยวข้องกันอีกเลย ก็แค่เคยเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่เดียวกัน แต่ไม่ใช่ระดับเดียวกัน ไม่ใช่ห้องเรียนเดียวกัน นั้นก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย กนตร์พียืนขึ้น เขาเดินวนไปวนมาในห้องทำงานไม่กี่รอบ : "พวกคุณว่ามีโอกาสไหมที่จะปรากฏคนฆ่าตัวตายเป็นคนที่สี่ไหม?" เสาวรสและติณณภพเบิกตากว้าง พวกเขาคิดไม่ถึงว่ากนตร์จะเกิดความคิดบ้าคลั่งขนาดนี้ กนตร์พียักไหล่ขึ้น : "อย่ามองผมอย่างนั้นสิ ผมแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันยังไม่จบลงง่ายๆ" ตอนบ่ายครรชิตไปเป็นเพื่อนกนตร์พีไปรับรถที่ศูนย์ซ่อมรถยนต์ "เสาวรสบอกว่าคุณสงสัยว่าจะมีคนเกิดเรื่องอีกหรอ?" ครรชิตเหลือบตามองกนตร์ชิต กนตร์พียิ้มและพูดว่า : "โห้ เธอส่งข่าวให้คุณเร็วขนาดนั้นเลย? ครรชิต เธอคงไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณวางไว้ในห้องนอนของผมหรอกใช่ไหม?" ครรชิตไอในคอเบาๆ : "คุณเองก็อย่าเล่นตัวให้มากนะ มีสาวสวยอยู่คอยอยู่ในสายตาทั้งวันนับว่าเป็นความสุข คนอื่นจะอิจฉายังแทบไม่ทันเลย!" "ดูเหมือนว่าผมคงต้องขอบคุณคุณแล้วล่ะ" กนตร์พียื่นบุหรี่ให้กับครรชิตหนึ่งม้วน ครรชิตตอบว่า : "ขอบคุณก็พอแล้ว ขอเพียงสามารถกระจ่างคดีความนี้ได้ก็ถือเป็นการช่วยเหลือที่มากมายแล้ว อีกอย่างจะได้ไม่เสียแรงที่ผมโอ้อวดคุณต่อหน้าอธิการบดีณภัทรด้วย" กนตร์พีพูดด้วยสีหน้าจริงจัง : "ครรชิต ผมรู้สึกว่าคดีความนี้เหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ" ครรชิตเผยสีหน้าขื่นขม : "หากเป็นอย่างนั้นจริงคงวุ่นวายแน่ ขรรค์ชัย จตุภูมิ เด่นภูมิ พวกเขาล้วนเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงของเมืองหลิน ตอนนี้สถานการณ์ภายนอกกำลังเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนาๆ ตอนนี้พวกเขาก็ได้รับความกดดันที่ถาโถมใส่แล้ว คุณเองก็น่าจะรู้ ถ้าหากเกิดขึ้นอีก พวกเราคงถูกทำร้ายจากน้ำลายคนแน่ ดังนั้นเราต้องพยายามอย่างที่อธิการบดีณภัทรบอกว่า ถึงแม้จะเป็นการฆ่าตัวตาย ก็ต้องหาเจตนารมณ์ฆ่าตัวตายที่สมเหตุสมผลให้ได้!" "ครรชิต คุณพูดออกมาจากใจจริงเลย คุณคิดว่าพวกเขาฆ่าตัวตายหรือว่าถูกลอบฆ่า?" กนตร์พีถามด้วยความจริงจัง ครรชิตยังคงคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะฆ่าตัวตายมากกว่า ถึงแม้ว่าคดีความของขรรค์ชัยตอนแรกจะทำให้ครรชิตเชื่อกนตร์พีว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จากก้นบึ้งหัวใจเขาเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ขอเพียงหาสาเหตุการฆ่าตัวตายของทั้งสามคนได้ ทางตำรวจก็จะสามารถปิดคดีความได้แล้ว แต่ถ้าหากเป็นการลอบฆ่า ทำไหมครรชิตถึงคิดไม่ออกว่าคดีความมีความยากแค่ไหน อย่างอื่นไม่ขอพูด จนถึงคอนนี้กนตร์พีพวกเขาก็แทบจะหาปมของเรื่องยังไม่ได้เลย ครรชิตเองก็ไม่คิดอยากเปรียบเทียบฝีมือของตัวเองกับกนตร์พี ดังนั้นเขาหวังว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเลย ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่เชื่อแล้วว่าเป็นการฆ่าตัวตายแล้ว กลัวอะไรก็จะเป็นแบบนั้น ขณะที่กนตร์พีกำลังทำเอกสารรับรถยนต์นั้น ครรชิตก็รับสายเสาวรส และทราบว่าคุณชญานนท์ประธานคณะกรรมการของบริษัทเพลินวานกรุ๊ปวิ่งพุ่งตัวเข้าชนกับรถยนต์เพื่อฆ่าตัวตายเมื่อยี่สิบนาทีก่อน ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนนั้นเขาเห็นคุณชญานนท์ลงจากรถยนต์ของตัวเอง จากนั้นเขาก็เดินตรงไปตึกบริษัทไม่กี่ก้าวก็หยุดลง และเหม่อลอยอยู่สักพัก เวลาผ่านไปประมาณไม่กี่สิบวินาที จู่ๆเขาก็หันหลังวิ่งพุ่งชนเข้ากับรถบรรทุกสินค้า คนขับรถบรรจุสินค้าแทบจะมองไม่เห็น สุดท้ายเขาก็ตายคาที่ หลังจากผ่านการตรวจสอบจากทางตำรวจ ได้ข้อสรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ฆ่าตัวตายอีกแล้วหรอ! ครรชิตมองกนตร์พีที่อยู่จากที่ไกล สุดท้ายเจ้าคนๆนี้ก็คาดเดาถูกอีกแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องคงไม่จบลงง่ายๆ เขารู้เลยทันทีว่านับตั้งแต่ตอนนี้ไปคงไม่สามารถปล่อยให้กนตร์พีพวกเขาสามคนยุ่งแล้ว และงานหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจต้องตั้งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด อีกอย่างเขาก็เริ่มเชื่อว่าคดีความเหล่านี้เป็นการลอบฆ่าต่อเนื่องแล้ว "ทำไหมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ? คงไม่ใช่เพราะมีคดีความใหม่มาอีกใช่ไหม?" เมื่อกนตร์พีเดินมาถึงเบื้องหน้าครรชิต เขาก็ถามขึ้นจากการสังเกตเห็นสีหน้า ครรชิตถอนหายใจยาวๆ : "ชญานนท์ตายแล้ว"
已经是最新一章了
加载中