ตอนที่11 สิ่งล่อใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่11 สิ่งล่อใจ
ต๭นที่11 สิ่งล่อใจ “โจว๋ซินเหยางั้นหรือ?” ซินเหยาตะลึงงันเล็กน้อย ชื่อนี้ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างเหมาะกับนาง นางเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่วัยเยาว์ถูกส่งเข้าเรียนในค่ายฝึกหัดเพื่อรับการฝึกแบบนรก นางมีเพียงชื่อที่เรียกว่าซินเหยา แต่ไรก็ไม่เคยมีแซ่สกุล โจว๋หยุนถิงเห็นนางสีหน้าเรียบเฉย จึงกล่าวอย่างรู้ความ “ซินเหยา เจ้าพักผ่อนให้ดี พี่สี่ขอตัวลาก่อน รออีกสักสองวันเมื่อร่างกายเจ้าดีขึ้น พี่สี่จะพาเจ้าออกไปเที่ยวเล่น” “ออกไปเที่ยวเล่นหรือเจ้าคะ?” ซินเหยามีบางสิ่งล่อใจ นางกลับไม่ได้ต้องการจะออกไปเที่ยวเล่นจริงจัง เพียงแค่สามารถออกไปสัมผัสและเห็นภายนอกด้วยตาของตนเอง อาจค่อยเข้าใจโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น ซินเหยากล่าว “พี่สี่ ที่จริงร่างกายของข้าเกือบจะดีแล้วเจ้าค่ะ” โจว๋หยุนถิงหัวเราะตอบ “เจ้าอย่าได้รีบร้อน ยังพักอีกสักสองวันเถิด เจ้าบอกว่าแต่ก่อนเจ้าอาศัยอยู่ในภูเขาร้าง ผู้คนบางตา ด้านภาษาก็ยังมีอุปสรรคอยุู่เล็กน้อย เจ้าวันนี้เจ้าพักผ่อนให้มาก พูดคุยสื่อสารกับผู้คนให้มาก อุปสรรคก็จะหายไปเอง ถ้าหากเจ้าคิดว่ามีความจำเป็น พี่สี่สามารถเชิญอาจารย์กลับมาสอนเจ้า” ซินเหยากล่าวตอบ “ขอบใจพี่สี่เจ้าค่ะ นี่คงไม่ต้อง” ความสามารถด้านภาษาของนางสูงล้ำ โดยทั่วไปไม่มีอุปสรรคทางด้านการสื่อสาร เพียงแต่เพิ่งจะเริ่มจดจำ จำนวนคำศัพท์ก็ค่อนข้างน้อยจึงยังไม่คุ้นอยู่บ้างก็เท่านั้น โจว๋หยุนถิงกล่าวยิ้มซื่อๆ “ซินเหยาเด็กโง่! ข้าเป็นพี่ชายเจ้านะ พวกเราสองคนพี่น้องไม่พบพานนานหลายปี แน่นอนว่าพี่สี่จะปฏิบัติกับเจ้าให้ดีเพื่อชดเชยกับความยากลำบากหลายปีที่เจ้าได้รับ เจ้ายังมากล่าวขอบใจ ไม่ใช่ว่าเกรงใจเกินไปจนเห็นเป็นคนนอกแล้วหรือ?” ซินเหยากล่าว “ซินเหยาต่อไปจะไม่กล่าวขอบใจแล้วเจ้าค่ะ” โจว๋หยุนถิงกล่าว “ต้องแบบนี้สิ! เหอๆ ในจวนยังมีธุระมากมายที่ต้องวุ่นวาย พี่สี่ไม่รบกวนเจ้าพักผ่อนแล้ว เจ้าพักให้สบายสักสองวันเถิด พ้นสองวันไปเมื่อไหร่เจ้าก็จะวุ่นแล้วล่ะ” ซินเหยาถาม “วุ่นวายอะไรกันหรือเจ้าคะ?” โจว๋หยุนถิงยิ้มลึกลับตอบ “ความลับ! เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้ได้เอง เจ้าฉลาดเฉลียวเช่นนี้ แน่นอนว่า….ฮี่ๆ พี่สี่ไปก่อนอีกสองวันจะมาเยี่ยมเจ้าใหม่” โจว๋หยุนถิงเพิ่งเดินถึงธรณีประตู ก็ชนเข้ากับนายหญิงเซียวที่กำลังมา นายหญิงเซียวเป็นอนุภรรยาของโจว๋เส้าฉี ถึงแม้ว่านางจะถูกแต่งตั้งเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายในภายหลังจากที่นายหญิงหมิ่นตายไป แต่เนื่องจากถือกำเนิดขึ้นในตระกูลชาวนาที่ยากจนฐานะต้อยต่ำ ทำให้เมื่อขึ้นเป็นภรรยาเอกก็ยังคงไร้สถานะในจวนอ๋อง ไม่อาจได้รับความเคารพจากผู้ใด โดยปกติทั่วไปกระทั่งยังต้องทำงานของคนรับใช้ “นายหญิงเซียวสบายดี” โจว๋หยุนถิงเป็นฝ่ายเข้าทักทาย เขาคือหนึ่งเดียวในจวนที่ไม่ดูถูกชาติกำเนิดต่ำต้อยของนายหญิงเซียว “คาราวะคุณชายสี่” นายหญิงหมิ่นถึงแม้ว่าสถานะจะเป็นแม่เลี้ยง แต่ไม่ว่าอย่างไรสถานะโจว๋หยุนถิงก็เป็นนาย นางเป็นบ่าว นางย่อมต้องให้การคำนับแก่โจว๋หยุนถิง “นายหญิงมาเยี่ยมซินเหยาอีกแล้วหรือ?” “อืม” “นายหญิงช่างมีน้ำใจ หลายวันนี้ข้ายุ่งจนเกรงว่าไม่สามารถจะว่างได้ รบกวนนายหญิงดูแลซินเหยาให้มาก นางยังไม่ทันได้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่นี่” “เจ้าค่ะ คุณชายสี่” โจว๋หยุนถิงมอบหมายงานหลายประโยคจึงเร่งรีบจากไป นายหญิงเซียวเป็นสตรีที่จิตใจดีและซื่อสัตย์คนหนึ่ง อายุสี่สิบปีก็มักจะเป็นหญิงแก่หน้าเหลือง*ในวัยนี้ ทว่านางกลับรักษารูปลักษณ์ได้สองสามส่วน คิดดูแล้วในวัยนี้นับเป็นหญิงงามคนหนึ่ง (หญิงแก่หน้าเหลืองเป็นคำด่าที่หมายถึงผู้หญิงที่ไม่น่าสนใจ หรือแก่แล้วก็ไม่สวยแล้ว) “คุณหนู” นายหญิงเซียวเดินเข้ามา “นายหญิงเซียวนั่งตามสบาย อยู่กับข้าที่นี่ไม่ต้องมากพิธีหรอก” ซินเหยาเรียกนายหญิงตามโจว๋หยุนถิง ยากที่นางจะทำความเข้าใจยิ่ง เหตุใดที่โลกใบนี้ยามแม่เลี้ยงพบธิดาของภรรยาเก่าแล้วยังต้องคำนับ? “เจ้าค่ะ คุณหนู คุณหนูเจ้าคะ หลายวันนี้ความอยากอาหารไม่ค่อยดีใช่หรือไม่? ข้าเห็นว่ากับข้าวที่ห้องครัวส่งมาให้คุณหนูล้วนไม่แตะต้อง 
已经是最新一章了
加载中