ตอนที่ 22 ถูกผีหลอกแล้ว
1/
ตอนที่ 22 ถูกผีหลอกแล้ว
นักฆ่าฮองเฮาของข้า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 22 ถูกผีหลอกแล้ว
ตนที่ 22 ถูกผีหลอกแล้ว โจว๋เส้าฉีพูด: “แปลกไปจากกฎเกณฑ์อย่างยิ่ง พี่ใหญ่พูดมาไม่ผิด แสดงเป็นหัวขโมยโดยไม่มีขอบเขต ไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง” ทันใดนั้นนายท่านโจว๋ก็ถามขึ้น: “มองจากวรยุทธ์ของเจ้าสาม จะมีหัวขโมยกี่คนสามารถขโมยสิ่งของที่อยู่ติดตัวไปได้ อีกทั้งไม่ถูกสังเกตเห็น” สามพี่น้องตระกูลโจว๋สีหน้าเปลี่ยนทันที ใช่ วรยุทธ์ของโจว๋เส้าหัวถึงแม้ไม่ได้มีฝีมือสูงส่งเป็นอันดับหนึ่ง แต่จากวรยุทธ์ของเขา อย่าแม้จะพูดถึงขโมยธรรมดาทั่วไป ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถขโมยถุงเงินไปจากบนตัวเขาได้โดยไม่รู้ตัว นายท่านโจว๋ถึงแม้จะมีแววตาดั่งคบเพลิง ได้เห็นผู้ที่เก่งกว่าลูกชายของเขามาก แต่ก็ไม่สามารถให้ความสนใจได้มากพอ เพียงแค่รู้สึกแปลกประหลาดกับท่ากวาดแกว่างของซินเหยาเท่านั้น และก็มองไม่ออกว่ามีส่วนเก่งกาจอันใด เร็วมาก หัวข้อของทุกคนก็เปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับการจะจัดการเยี่ยงไรกับปัญหาที่คนชั่วอย่างตระกูลถางเปิ่นร้องเรียนก่อน จวนอ๋องโจว๋ถึงแม้จะไม่กลัวตระกูลถางเปิ่น แต่ก็ไม่อยากเป็นเพราะเรื่องความเข้าใจผิดเล็ก ๆ จนทำให้ต้องฉีกหน้าตระกูลถางเปิ่นถึงขั้นนั้น สุดท้ายแล้วผู้อาวุโสทุกท่านก็ได้ตัดสินใจออกมา เพื่อจะชี้แจงตระกูลถางเปิ่นและรักษาสันติภาพ จวนอ๋องโจวตั้งใจจะทำจดหมายออกมาอย่างเป็นทางการ เนื้อหาของจดหมายก็คือโจว๋หยุนถิงถูกขับไล่ออกจากจวนอ๋องโจว๋ ประกาศปลดเขาจากฐานะคุณชายสี่แห่งตระกูลโจว๋! การลงโทษเช่นนี้อาจจะหนักเกินไปหน่อยสำหรับโจว๋หยุนถิง ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย แต่ทว่าสำหรับโจว๋หยุนถิงนั้น กลับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เสียสละโจว๋หยุนถิงที่ไม่สำคัญคนหนึ่ง เพื่อทำให้ความโกรธของตระกูลถางเปิ่นลดลง รักษาภาพลักษณ์ที่ดูรักใคร่ปรองดองในฐานะขุนนางราชวงศ์ของจวนอ๋องโจว๋กับตระกูลถางเปิ่นไว้ นี่คือชะตากรรมของโจว๋หยุนถิง และนี่ก็คือชะตากรรมของจวนอ๋องโจว๋ ถ้าตระกูลโจว๋ไม่มีคนที่จะสามารถดูแลต้นไม้ใหญ่นี้ได้หลังจากเขาหนึ่งร้อยปี เยี่ยงนั้นผู้เสียสละคงจะไม่ใช่โจว๋หยุนถิงผู้เดียว แต่เป็นตระกูลจวนอ๋องโจว๋ที่ยุ่งเหยิงและยิ่งใหญ่นี้ทั้งหมด ในใจของนายท่านโจว๋มีความรู้สึกเศร้ารันทดอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลังจากลูกหลานออกไปหมด ฉับพลันเขาพบว่าคัมภีร์ดาบกระบี่หลีฮัวที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นนึกไม่ถึงว่าจะไม่เห็นแล้ว เมื่อครู่เขายังถืออ่านอยู่ในมือ แค่พริบตาเดียวก็ไม่เห็นแล้ว? คัมภีร์นั้นอยู่ที่ไหนแล้ว? หรือว่าจะโดนผีหลอก? หรือว่า........ ทันใดนั้นนายท่านโจว๋ก็คิดถึงถุงเงินของเจ้าสาม ฉับพลันในใจก็บังเกิดความหวังเล็กน้อยขึ้นมา แต่ก็ยังมีความกลัวและกังวลว่าจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน ครู่หนึ่งในใจก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาฉับพลัน ถ้าเป็นเจ้าเก้าขโมยคัมภีร์ลับไปจริง ๆ ก็ไม่มีประโยชน์ เดิมทีนางก็ไม่เข้าใจตัวอักษร เป็นผู้ที่ไม่รู้หนังสือคนหนึ่ง แล้วจะเข้าใจสิ่งที่แม้แต่นักปราชญ์ที่มีวิชาความรู้ที่สุดในราชวงศ์เทียนส้งยังอ่านไม่ออกอย่างภาษาโบราณที่ไร้ผู้สืบทอดนี้ได้อย่างไรกัน? หลังจากโจว๋หยุนถิงถูกเร่งขับไล่ออกจวนอ๋องโจว๋ ชีวิตของซินเหยาก็มีสภาพเลวร้ายถึงขั้นสุด ไม่มีคนรับใช้คอยส่งข้าว และก็ไม่มีคนรับใช้ที่ทุกวันจะมาทำความสะอาดลานบ้านและห้องนอน แม้กระทั่งถ่านไม้ที่อยู่ในเตาไฟหมดแล้ว ก็ไม่มีคนคอยเพิ่มให้นาง ซินเหยาในที่สุดก็ได้รู้แล้วว่าอันใดเรียกว่าความเย็นชา เมื่อก่อนถึงแม้จะถูกผู้คนเยาะเย้ยนินทาลับหลังว่านางเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง แต่เพราะมีพี่สี่คอยดูแล อย่างน้อยในชีวิตก็ยังมีคนคอยคุ้มครอง พี่สี่ถูกไล่ออกไปแล้ว ทั้งจวนอ๋องโจว๋เหลือเพียงนายหญิงเซียวที่มักจะมาที่ลานบ้านที่อยู่ไกลผู้คนนี้เพื่อดูแลซินเหยา ซักเสื้อผ้า ทำอาหาร ทำความสะอาดห้องให้นาง บางครั้งนายหญิงเซียวยุ่งจนมืดค่ำ ก็นอนห้องที่อยู่ข้าง ๆ ห้องของหญิงสาว วันต่อมาทำอาหารให้เสร็จถึงจะออกไป พายุมาพร้อมกับฟ้าร้อง ในค่ำคืนที่มืดสนิทมีลมที่โหมพัดกระหน่ำ ซินเหยานอนได้ครึ่งค่อนคืนก็ตื่นด้วยความตกใจ ทั่วตัวสั่นไปด้วยความหนาวเย็น ดึงผ้าห่มมาห่มร่างทั้งตัวไว้ ทันใดนั้นก็พบว่าร่างกายของนางห่มผ้าห่มสองผืนไว้ แต่ไหนแต่ไรก็มีแค่ผ้าห่มผืนเดียว แล้วจะมีเพิ่มมาอีกหนึ่งผืนได้เยี่ยงใด? “เปรี้ยง!” มีสายฟ้าแลบบนท้องฟ้า สว่างปานกลางวัน ซินเหยามองเห็นอากาศภายนอกผ้าห่ม คล้ายกับห้องที่อยู่ด้านข้าง...... นางคิดได้ว่าเมื่อคืนวานนายหญิงเซียวก็มานอนอยู่อีกคืนแล้ว ซินเหยาม้วนผ้าห่มมากอดไว้ ผลักประตูห้องที่อยู่ข้าง ๆ ตรงหน้าทำให้นางตะลึงงัน นายหญิงเซียวที่ร่างกายผอมเล็กนั้นขดตัวอยู่ในมุมหนึ่งของเตียงไม้ ลมที่โหมพัดกระหน่ำทะลุร่องหน้าต่างพัดเข้ามา นายหญิงเซียวทั้งตัวบางเบาหนาวจนสั่นเทิ้ม นางเอาผ้าห่มมาให้ข้า แล้วตัวเองกลับทนหนาว ในตาของซินเหยามีน้ำตาคลอเล็กน้อย นางตั้งแต่เล็กก็ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่า สายลับไม่สามารถมีความรู้สึกได้ ไม่มีญาติ และก็ไม่มีเพื่อน นางสามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของนางได้ ตอนโจว๋ปี้หลัวคุกคามนาง นางสามารถใช้รอยยิ้มยั่วโทสะฝ่ายตรงข้ามได้ พบเจอถางเปิ่นเป้าอันธพาลเช่นนั้นนางก็สามารถเปิดเผยนิสัยที่โหดเหี้ยมได้ ความทุกข์ของนักฆ่าจะสิ้นสุดต้องใช้ความรุนแรงเพื่อหยุดความรุนแรง! วิธีหนึ่งที่จะเปลี่ยนเป็นสายลับ เก็บซ่อนอารมณ์ของตนเอง เป็นเพียงองค์ประกอบและทักษะที่พื้นฐานที่สุด แต่ทว่าเวลานี้ซินเหยาปิดบังความรู้สึกตื้นตันในใจไว้ไม่อยู่ นายหญิงเซียวที่ปกติทำมากกว่าพูด เป็นเพียงแม่เลี้ยงของนางคนที่แอบอ้างว่าเป็นคุณหนูเก้าตระกูลโจว๋ แล้วทำไมต้องดูแลนางดีเช่นนี้ด้วย? ซินเหยาวางผ้าห่มลง แล้วเดินกลับไปห้องเพื่อหยิบผ้าห่มอีกผืน........... ค่ำคืนนี้ นางนอนด้วยกันกับนายหญิงเซียว ไม่ต้องคิดให้มาก นอนหลับอย่างปลอดภัยและสบายใจ วันต่อมา ซินเหยาตื่นนอนก็พบว่านายหญิงเซียวไม่อยู่แล้ว นางหานายหญิงเซียวที่อยู่ในครัวกำลังต้มโจ๊กพบแล้ว เห็นใบหน้านางมีเขม่าควันสีดำติดอยู่ แล้วกล่าว: “นายหญิง” “คุณหนูท่านตื่นแล้ว! ประเดี๋ยวก็จะมีโจ๊กร้อน ๆ ให้กินแล้ว ข้าเจอเกาลัดอยู่ในครัว เกาลัดต้มโจ๊กบำรุงร่างกายดีมากนัก! แต่ว่ามีส่วนหนึ่งเปียกชื้น รอวันหลังมีแดดจ้าค่อยเอาออกไปตาก กลิ่นก็จะหอมยิ่งขึ้น” “นายหญิง ต่อไปท่านไม่ต้องมาทำอันใดแบบนี้แทนข้าแล้ว” “คุณหนู หรือว่าข้าทำดีไม่พอ?” “ไม่ใช่” “เยี่ยงนั้นทำไมคุณหนูถึงไม่ให้ข้าคอยรับใช้ท่านแล้ว?” “ข้าไม่ใช่หนูอะไร ท่านก็ไม่ต้องมารับใช้ข้า ท่านไปคอยรับใช้ท่านพ่อที่ไร้น้ำใจของข้าคนนั้นเถอะ ไม่อย่างนั้นเขาจะพาลใส่ท่านอีก” “คุณหนู ท่านยังโทษนายท่านอยู่อีกหรือ? การไล่คุณชายไป นายท่านคือคนที่ทรมานที่สุด เพียงแค่เขาต้องให้ความสำคัญกับส่วนรวม ไม่สามารถใช้ความรู้สึกส่วนตัวทำให้พัวพันทั้งจวนอ๋อง.......” “หึ!” ทันใดนั้นซินเหยาก็ยิ้มอย่างเย็นชา ไล่ลูกชายที่ไม่รู้วรยุทธ์ เห็นลูกสาวถูกปฏิบัติอย่างเย็นชาได้รับความลำบากก็ไม่เคยถามไถ่ คุณชายสองตระกูลโจว๋ที่มีฐานะสูงส่งในสายตาของซินเหยาก็เป็นเพียงแค่คนที่ไร้เมตตาไร้ความสำคัญ คนต่ำทรามที่ทำได้แม้กระทั่งลูกในไส้ โชคดีที่เขาไม่ใช่บิดาแท้ ๆ ของนาง ถึงแม้นางจะเป็นเด็กกำพร้า แต่บิดาเช่นนี้ นางยอมที่จะไม่มีบิดาดีกว่า! นายหญิงเซียวพูดอธิบาย: “นายท่านมักจะให้คนเอาเงินตำลึงไปให้คุณชาย! แล้วยังถามถึงคุณหนูบ่อย ๆ บอกข้าถ้ามีเวลาให้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณหนู.......” ซินเหยาพูด: “นายหญิง ต่อไปท่านไม่ต้องมาแล้ว ข้าไม่ต้องการคนคอยรับใช้จริง ๆ ที่นี่สะอาดและสงบมาก ไม่มีคนรบกวนข้ายิ่งดี เพียงแค่ซักผ้าทำกับข้าว เรื่องพวกนี้ข้าก็ทำเองได้” “คุณหนู......” “นายหญิง ข้าจริงจังนะ ถ้าท่านเห็นข้าเป็นคุณหนู ก็ไม่ต้องมารบกวนข้าอีก” ซินเหยาทำใจแข็งไล่นายหญิงเซียว นางไม่ใช่คุณหนูเก้าตัวจริง เพียงแค่อยากยืมใช้ฐานะสักหน่อย แต่ไม่อยากแย่งชิงความรักของแม่ผู้อื่นที่มีต่อลูก สำหรับโจว๋เส้าฉีบิดาผู้นี้.....อย่างไรเสียนางก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเดียวกัน “คุณหนู ท่านอย่าลืมเอาเกาลัดที่เปียกชื้นออกมาตากแดดเด็ดขาดนะ” นายหญิงเซียวก่อนจะไปก็ยังนึกถึงเกาลัดพวกนั้น กลัวว่าซินเหยาจะดูแลตัวเองไม่ได้ วันที่ไม่มีนายหญิงเซียวดูแล ซินเหยาก็พอรับมือได้ เคยมีกลอนคู่บทหนึ่งบรรยายความฝันในชีวิตของเด็กผู้หญิงทุกคน กลอนคู่บน: ดีดพิณ เล่นหมาก เขียนอักษร วาดภาพไม่เป็น กลอนคู่ล่าง: ซักผ้าทำอาหารไม่ชอบ แผ่นคำกลอนคู่: แต่งเข้าตระกูลที่มีทั้งเงินละอิทธิพล ซินเหยาตั้งแต่เล็กก็อยู่ในค่ายฝึกซ้อมได้รับการฝึกทหารแบบนรก การดำรงชีวิตทั่วไปถือเป็นปัญหาเล็ก ฝนที่ร่วงลงมาบนเรือนเล็ก ๆ ทำให้อากาศเงียบเหงาอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ถ้าไม่ใช่คนรับใช้มาส่งสิ่งของไว้ทำอาหารและผักเข้ามา ห้าหกวันแม้แต่เงาผีสักตนก็ไม่มี ซินเหยาไล่นายหญิงเซียวไป ความจริงยังมีเป้าหมายอื่น กระบี่หลีฮัว! นางขโมยคัมภีร์ลับกระบี่หลีฮัวมาจากโต๊ะหนังสือของนายท่านโจว๋ แต่เพราะนายหญิงเซียวมักจะเข้ามาบ่อย ๆ บางวันมาสองสามรอบ นางไหนเลยจะมีโอกาสตั้งอกตั้งใจฝึกบำเพ็ญเพียรได้? นางเคยได้ยินโจว๋หยุนถิงพูด วรยุทธ์ของตระกูลเจียเก่งกาจที่สุดคือกระบี่หลีฮัว แต่ว่าเนื้อหาคัมภีร์ลับกระบี่หลีฮัวเป็นตัวอักษรอย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีคนสามารถดูออกได้ เล่ากันว่าเป็นอักษรโบราณที่ไร้ผู้สืบทอดอย่างหนึ่ง ทุกวันนี้เลยไม่มีคนสามารถแก้อักษรได้ อุปสรรคในการอ่านก็คือสร้างมาหนึ่งร้อยปีกว่าแล้ว เหตุผลโดยตรงก็คือตระกูลโจว๋ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกจนกลายเป็นวิชาดาบที่ยอดเยี่ยมได้ เดิมที ซินเหยาก็ไม่ได้สนใจวรยุทธ์ของโลกใบนี้อยู่แล้ว นางแค่เชื่อว่าใช้วิธีวิทยาศาสตร์คำนวณออกมานับเป็นทักษะการต่อสู้ที่ง่ายที่สุด นางแค่เชื่อในยาพิษ ดินปืน ปืน! นางแค่เชื่อความเร็ว ความคล่องแคล่วว่องไว ความยืดหยุ่นของความอดทนและร่างกาย! นางคือสายลับ แต่ไม่ใช่ผู้มีวรยุทธ์ นับว่าอยู่ในโลกแปลกประหลาดที่ไม่คุ้นเคยนี้ ไม่มีคอมพิวเตอร์ไม่มีปืน แม้กระทั่งถูกเรียกว่าผู้ไม่รู้หนังสือบวกกับไร้วรยุทธ์ นางยังคงเป็นสายลับอัจฉริยะที่ไม่มีสนามไหนไม่ชนะ ถางเปิ่นเป้าก็คือกรณีที่ดีที่สุด ตอนซินเหยาเห็นคัมภีร์ดาบกระบี่หลีฮัวบนโต๊ะหนังสือ ในหัวใจเกิดเต้นขึ้นมาอย่างรุนแรงตึก ๆ ตลอด ชื่อเรื่องบนปกขีดเขียนด้วยตัวอักษรจีนสี่คำ: กระบี่หลีฮัว เป็นสิ่งที่ทำให้ในใจของนางตกใจกลัวได้เช่นนี้ แต่ไหนแต่ไร...........ภาษาโบราณที่ไร้ผู้สืบทอดคือตัวอักษรจีน? ตระกูลโจว๋หนึ่งร้อยกว่าปีมานี้ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกวรยุทธ์อันยอดเยี่ยมนี้ได้ ก็เพราะไม่มีผู้ใดที่เข้าใจตัวอักษรจีน? ไม่ใช่มาจากความโลภ คือมาจากความประหลาดใจมากกว่า ตอนขโมยถุงเงินของลุงสามไปทำให้ดึงดูดความสนใจของทุกคน นางก็ไม่รู้อะไรดลใจให้ขโมยคัมภีร์ลับไปด้วย แสงพระอาทิตย์เจิดจ้า ซินเหยาหยิบเกาลัดที่อยู่บนชั้นในห้องครัวลงมาตากไว้บนพื้นหญ้าที่ลานหลังบ้าน แล้วนางยังหาใต้ต้นไม้ใหญ่อันร่มรื่น ขุดคัมภีร์ลับเล่มนั้นที่ทั้งเก่าและชำรุดมากมากขึ้นมา พลิกเปิดหน้าแรก ทันทีซินเหยาก็ถูกเนื้อหาด้านในดึงดูดแล้ว เนื้อหาที่ตัวอักษรจีนบันทึกไว้ แท้จริงเป็นสิ่งลี้ลับขนาดนี้แล้วยังเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่ออีก...... ซินเหยาตกอยู่ในมหาสมุทรที่ลี้ลับของวิทยายุทธ์ ตั้งใจและมีสมาธิ จนถึงพระอาทิตย์ตกท้องฟ้าค่อยๆมืด “โอ้ว ฟ้ามืดแล้ว ควรจะกลับห้องแล้ว คืนนี้ก็สามารถลองฝึกวรยุทธ์ที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ดูหน่อยว่าจะร้ายกาจจริงหรือไม่ ใช่แล้ว แล้วเกาลัดละ!” ซินเหยาเอาคัมภีร์ไปไว้ที่เดิม แล้วรีบกลับไปลานหลังบ้านเก็บเกาลัด รอจนนางถึงลานหลังบ้านก็พบว่าเกาลัดหายไปเล็กน้อย เหลือเพียงเปลือกที่แตกหัก หรือว่าจะมีหนูมาแอบกิน? ซินเหยาล้วนตกอยู่ในภวังค์ของโลกที่มหัศจรรย์ของกระบี่หลีฮัว ไหนเลยจะสนใจว่าหนูมาแอบกินเกาลัด? ค่อยๆเก็บกวาดเกาลัดห่อไว้ ตั้งกลับไว้ในชั้นบนของครัว แล้วจุดโคมกลับห้อง และไปศึกษาเจาะลึกวิชาดาบอีกครั้ง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 22 ถูกผีหลอกแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A