บทที่73 ตำนาน(2)   1/    
已经是第一章了
บทที่73 ตำนาน(2)
บ๗ที่73 ตำนาน(2) โจว๋หยุนถิงยิ้มและพูดว่า “ถ้าหนังสือขายไม่ออกเช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ เงิน1เหรียญก็ไม่มีคนซื้อ สุดท้ายก็เป็นแค่ขยะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องขายหนังสือออกไปให้ได้” ส้งหมิ่นไม่ค่อยเข้าใจกับการขายที่ต้อง“ขาดทุน” นางเป็นหญิงสาวที่พบโลกภายนอกมาน้อย การค้าขายที่เราขายแรงความคิดแล้วยังต้องขาดทุนอีก นางไม่เข้าใจจริงๆ “น้องสาว ทำไมเจ้าไม่พูดเลยล่ะ?”ส้งหมิ่นหวังว่าซินเหยาจะช่วยออกความเห็นหน่อย “น้องสาว เจ้าพูดแสดงความคิดเห็นหน่อยเถอะ เจ้าเห็นด้วยกับพี่สี่หรือแม่หญิงส้ง?”โจว๋หยุนถิงอยากได้ยินความเห็นของซินเหยา ซินเหยายังคงยิ้มและไม่พูดไม่จา โจว๋หยุนถิงก็เร่งนางและพูดว่า “น้องสาว เจ้าก็พูดอะไรหน่อยสิ!ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับใคร ก็พูดหน่อยเถอะ” “พี่สี่ ข้ากลัวว่าพูดออกไปจะทำให้พี่กับพี่ส้งต้องตกใจ”ซินเหยาทำเป็นลึกลับ โจว๋หยุนถิงพูดต่อว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก เจ้าพูดมาเถอะ” ส้งหมิ่นก็มองนางอย่างสงสัย ซินเหยาก็พูดต่อว่า “พี่สี่กับพี่ส้งที่พูดมาทั้งหมดก็มีเหตุผล การขายที่ขาดทุนการขายเท่าตัวที่จริงก็ดีทั้งหมด แต่ว่า ราคาที่พวกท่านพูดออกมาไม่ค่อยเมาะสมเท่าไหร่!” โจว๋หยุนถิงพูดต่อว่า “เช่นนั้นเจ้าก็พูดมาสิ ราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?” ซินเหยาพูดต่อว่า “สิบตำลึง!” โจว๋หยุนถิงตกใจและส่ายหน้าพูดว่า “ไม่ได้ๆ!หนึ่งเหรียญยังจะขายไม่ออกเลย สิบตำลึงเกรงว่าจะขายไม่ออกยังจะโดนคนด่าอีก!” ส้งหมิ่นพูดต่อว่า “สิบตำลึงเหมือนจะแพงไปนะ” ซินเหยาส่ายหัวและพูดว่า “นี่เป็นแค่ราคาส่ง ส่วนราคาขายปลีกก็ยี่สิบตำลึง!” “ยี่สิบตำลึง!” “อั้ยหย่า!” “น้องข้า เจ้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!” “ยี่สิบตำลึงก็สามารถซื้อรถม้าได้เลยนะ!” “ยี่สิบตำลึงก็เป็นเงินกินอยู่สองเดือนของชาวบ้านธรรมดาเลยนะ!” โจว๋หยุนถิงและส้งหมิ่นรู้สึกว่านางต้องบ้าไปแล้วแน่ ซินเหยายิ้มและพูดว่า “มีคำพูดหนึ่งที่พูดว่าของน้อยแต่มีคุณค่า” โจว๋หยุนถิงพูดต่อว่า “แพงก็ต้องมีขอบเขตหน่อย ถ้าขายแพงเกินไปก็ทำเกินไป” ส้งหมิ่นพูดต่อว่า “ข้ากังวลว่าถ้าแพงเกินไป คนส่วนมากจะซื้อไม่ได้ คนที่มีกำลังซื้อก็ไม่ค่อยอยากจะซื้อ” ซินเหยาคิดและพูด ตัดสินใจพูดความในใจตัวเองออกมา “ก่อนอื่น นี่คือเสี่ยวเหรินซู เป็นแค่หนังสือที่อ่านเล่นคั้นเวลา” “เนื้อหาด้านในก็กำหนดกลุ่มคนที่จะซื้อไว้แล้ว” “คนที่กำลังเรียนหัดอ่านคำชาวบ้านธรรมดาไม่มีทางซื้อแน่” “กลุ่มคนที่ซื้อจริงๆก็ต้องเป็นคนที่มีเงินเยอะมากโดยไม่รู้จะไปใช้กับอะไร” “คนเช่นนี้ เจ้าขาย1เหรียญเขาก็จะซื้อ ถ้าขายสิบตำลึงเขาก็ยังจะซื้ออยู่ดี” “ถ้าเป็นเช่นนี้……” “ทำไมไม่ขายสิบตำลึงไปเลยล่ะ?ยังไงกลุ่มคนพวกนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นคนคดโกงกับพ่อค้าโลภมาก เอาเงินพวกเขามาหน่อยจะเป็นไรไป!” “พี่สี่ข้ารู้ว่าท่านยากพูดอะไร” “พี่อยากพูดว่าขายแพงคนอื่นจะไม่ซื้อก็ได้ ใช่ไหม?” “เรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน!” “เรื่องไซอิ๋วสนุกขนาดนี้จะต้องมีคนมาซื้อมากมายแน่นอน” “และราคาแพงเช่นนี้ ถ้าคนพวกนี้ซื้อไปก็จะได้อ่านอย่างสนุกและยังเพิ่มหน้าอวดควารวยของตัวเองได้อีกด้วย” “ข้ายกตัวอย่างนะ” “เมืองที่ข้าอยู่เมื่อก่อน มีรถยนต์อย่างหนึ่ง อืม ก็คือสิ่งที่พิเศษมากๆ……รถม้า!มีบริษัทที่ผลิตรถม้าโดยเฉพาะ เรียกว่าบริษัทเคเอฟ์” “บริษัทเคเอฟ์ผลิตรถม้าได้สองแบบคือ ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้นกับยี่ห้อออดี้” “รถม้ายี่ห้อโฟล์คสวาเก้นกับยี่ห้อออดี้นอกจากยี่ห้อกับภายนอก อืม ก็เป็นแค่ภายนอกเอง แต่มีความแตกต่างก็คือ” “การผลิต วัสดุใช้ ฝีมือ ทั้งหมดคือเหมือนกันหมดเลย” “แต่ว่ารถม้ายี่ห้อโฟล์คสวาเก้นขายแค่หนึ่งแสน……สิบตำลึง!แต่รถม้ายี่ห้อออดี้ขายห้าสิบตำลึง!” “พี่สี่ พี่คิดว่ารถม้าคันไหนจะเป็นที่ถูกตาคนล่ะ?” โจว๋หยุนถิงได้ฟังแล้วก็ตอบไปอย่างไม่ลังเลว่า “ก็ต้องเป็นรถม้าของยี่ห้อโฟล์คสวาเก้นอยู่แล้ว เพราะการผลิตของรถม้า คุณภาพก็เหมือนกันหมดและเป็นบริษัทเดียวกันที่ผลิต ก็ต้องเป็นราคาที่ถูกกว่าเป็นที่น่าสนใจกว่าอยู่แล้ว” ซินเหยาพูดต่อว่า “ผิดแล้ว!ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้นถูกคนมองว่าเป็นรถที่มีสินคาราคาถูก ส่วนยี่ห้อออดี้ก็มีดีตรงที่หรูหรา ฟุ่มเฟือย มีหน้า แสดงฐานะและตำแหน่ง” โจว๋หยุนถิงได้ยินแล้วก็นั่งครุ่นคิด เขาอยู่ในบ้านตระกูลโจว๋เป็นผู้จัดการตั้งหลายปี ถนัดเรื่องการสื่อสารมนุษย์สัมพันธ์ดี มีคนรู้จักมากมาย เจอคนมากมายกว่า ซินเหยายกตัวอย่างเรื่องรถม้ายี่ห้อออดี้กับยี่ห้อโฟว์คสวาเก้นมา ด้านในมีเรื่องที่เขาไม่เคยคิดได้มาก่อน และไม่กล้าคิดเรื่องปรัชญาการดำเนินธุรกิจ ซินเหยาพูดต่อว่า “พวกเราสามารถแบ่งกันขายได้ ให้ส้งชิงกับหลัวเสี่ยงหู่พวกเขาไปขายและโฆษณาที่ร้านเหล้า ร้านชา ขายยี่สิบเหรียญ และโฆษณาออกไป ร้านพี่สี่ก็จะขายหนังสือออกไปได้ เล่มล่ะสิบตำลึง อย่างน้อยก็สิบเล่มขึ้นไป!” 
已经是最新一章了
加载中