ตอนที่ 91 การกระจันหน้ากับเขาอีกครั้ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 91 การกระจันหน้ากับเขาอีกครั้ง
ต๭นที่ 91 การกระจันหน้ากับเขาอีกครั้ง คิดว่าโดยตลอดว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เพราะว่าเคยเจ็บปวด ดังนั้นจึงอยากจะลืม ทำไมเห็นเขามองไปที่เธอ เสียงก็เธอจะต้องสั่นด้วย ไม่ได้รู้สึกกลัวและก็ไม่ได้อยากจะหนี รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในสายตาของเขา เหมือนดั่งไฟที่แผดเผาอยู่ในใจเธอ มันดูเจ็บปวดยิ่งกว่าความเจ็บปวดของเธอซะอีก เธอโดนลากไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างสติหลุดลอย แล้วก็ยัดไมโครโฟนใส่มาในมือของเธอ ผลักเธอขึ้นไปบนเวที ลูกค้าด้านล่างเวทีเริ่มส่งเสียงผิวปาก เป็นสาวสวยซะด้วย ถึงตอนนี้เธอจึงมีสติกลับมา ทำไมเธอถึงได้ไปยืนอยู่บนเวที ? เมื่อลองคิดอย่างละเอียดเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าเธอไปรับปากว่าจะช่วยขึ้นมาร้องเพลง เธอเป็นบ้าไปแล้ว เพราะอย่างนี้คนเราจึงต้องเรียนรู้ที่จะสงบสติอารมณ์ ไม่อย่างนั้นก็จะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแช่อยู่ในน้ำที่อุ่นสบาย แช่สบายจนกลายเป็นคนโง่เขลา ให้เธอขึ้นเวทีไปเสียใจตอนนี้จะทันไหม ? เธอมองมาที่เจียมพจน์ เขาส่งสัญญาณทางสายตาให้เธอร้องเพลงสักที ขอร้องอย่ากระโดดลงมาจากเวทีนะสาวน้อย “ เธอจะร้องเพลงอะไร ” กลุ่มนักดนตรีข้าง ๆ เธอถามขึ้น เธอนิ่งไป พลางครุ่นคิด ร้องเพลงอะไร ? ตอนนี้เธอทำงานที่ร้านเหล้า ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานที่ร้านคาราโอเกะ ฟังเพลงมาก็ไม่น้อย แค่ร้องได้เพียงท่อนสองท่อน แต่ไม่รู้ชื่อเพลงเลย “ ฉันไม่รู้ว่าชื่อเพลงอะไร ฉันสามารถร้องสดได้ไหม ? ” เธอคิดถึงเพลงที่เธอได้ยินที่ร้านขายเครื่องเสียงวันนั้น ที่น่าแปลกก็คือ เธอเคยฟังเพียงแค่ครั้งเดียว ร้องตามเพลงแค่ท่อนสองท่อน แต่กลับจำได้อย่างชัดเจน “ ร้องสดมันต้องใช้เสียงสูงนะ เธอไหวเหรอ เดียวร้องไม่เพราะโดนลูกค้าด้านล่างด่ามาก็อย่ามาโทษฉันนะ ” “ ฉันไหว ให้ฉันร้องสดเถอะ ” ณิชายังคงยืนกรานที่จะร้องสด มือสองจับไปที่ไมโครโฟนอย่างแน่น พลางเดินไปตรงกลางเวที ตั้งใจมองไปที่ลูกค้าที่นั่งอยู่ แบบนี้จะได้ไม่ค่อยรู้สึกกดดัน เมื่อความกดดันสงบลง เธอก็หลับตาลง พร้อมร้องเพลงขึ้นมา เพลงที่แสนโศกเศร้า ทำนองเพลงที่เชื่องช้า ทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศ ตั้งแต่ที่เธอเริ่มร้องเพลงท่อนแรก ภายในร้านเหล้าก็เงียบสงบลงทันที ทุกคนภายในร้านล้วนตั้งใจฟังเธอร้องเพลง ราวกับสามารถทำให้คนดำลึกลงไปในความเจ็บปวดจนแทบจะหยุดหายใจ บวกกับเสียงร้องสดที่เป็นธรรมชาติของเธอ ยิ่งทำให้ทุกคนนิ่งไปราวกับโดนสะกดจิต จะขยับก็ขยับไม่ได้ แม้กระทั่งจะหายใจยังไม่กล้า “ ความสุขของฉันมันร่วงหล่นลงไปอยู่ในโอบกอดของเธอ แล้วก็ค่อย ๆ ถูกลบไป ” ร้องจบประโยคสุดท้าย เสียงร้องจบลง เธอจึงค่อย ๆ ลืมตาออก เธอรู้สึกราวกับว่าจิตวิญญาณของเธอพึ่งจะผ่านพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่มา สักพักใหญ่ ด้านล่างก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น “ น่าเหลือเชื่อ ร้องเพลงมาก ๆ ” “ ร้องได้เสียงหวานมาก เสียงของเธอร้องออกมาจากคอจริง ๆ เหรอ ? ” ทันใดนั้นปริพลก็คิดขึ้นได้ว่า เสียงร้องนี้คล้ายกับเสียงร้องเมื่อสองปีก่อนที่การเลี้ยง ตอนนั้นทุกคนคิดว่าเป็นเสียงร้องของพี่ผลิตา อีกอย่างตัวเธอเองก็ยอมรับว่าคือเสียงของเธอ นั้นทำให้มีค่ายเพลงต้องการตัวเธอ และยังเป็นค่ายเพลงชื่อดังอีกด้วย แต่ทว่าสุดท้ายพี่ผลิตากลับไม่ถูกเลือก เพราะที่แพ้เสียงร้องในคืนนั้นมันไม่ใช่เสียงของเธอนี่เอง “ เป็นเสียงที่ไพเราะมาก คิดไม่ถึงว่าเธอจะซ่อนเสียงที่ไพเราะเอาไว้ได้อย่างมิดชิด ” เจียมพจน์ตบไปที่ไหล่ของปริพล “ เอ้ย นายคือซุนหงอคงหรือไงว่ะ ตานายมันถึงได้มีไฟไปเจอสาวสวยที่เพียบพร้อมขนาดนี้ เธอนี่ช่างเหมาะสมจริง ๆ ” ภายในเวลาที่เขารู้จักเธอมา นั้นทำให้เขารู้สึกว่าเธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นทั่วไป จิตใจดีงาม แต่ทว่าก็ยึดถือในหลักการ “ เรื่องแค่นี้ยังต้องพูดอีกเหรอ เธอนี่แหละที่คู่ควรกับฉัน ” สีหน้าของปริพลดูภาคภูมิใจ “ แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนว่าเธอมีใครซ่อนอยู่ในใจแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะซ้ำเติมนายนะ แต่ฉันรู้สึกว่าคนคนนั้นไม่มีใช่นาย ” เพราะเนื้อเพลงที่เธอร้องออกมาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเธอมีความเจ็บปวดซ่อนอยู่ภายในใจ มันเหมือนกับเป็นเรื่องที่เธอไม่ควรพบเจอในวัยอายุเพียงแค่นี้ ปริพลไม่ได้โมโหโวยวายอย่างเช่นปกติ เพียงแค่นัยน์ตาดูมัวหมองลง เขายิ้มเจือด ๆ จนรอยยิ้มนั้นค่อย ๆ หายไป “ นายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ? ฉันไม่ได้โง่นะ แต่ฉันก็จะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก ใครจะไปรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น อนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ” “ ไอเด็กน้อย นี่นายโตขึ้นเยอะนี่หว่า โตเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ ฉันคงไม่ต้องคอยตักเตือนนายแล้วมั้ง ” วันไนท์คลับได้รับข่าวดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะที่นี่กลายเป็นที่รู้จักทั่วบ้านทั่วเมืองภายในไม่กี่วัน ผู้คนหลากหลายคนที่มาที่ร้านเหล้าบ้างก็ไม่ได้ตั้งใจเพื่อมาดื่มเหล้าด้วยซ้ำ แต่ก็ยังตั้งใจที่จะมาที่ร้านเป็นพิเศษ ณิชาขึ้นเวทีครั้งแล้วครั้งเล่า ปากก็บอกว่าไม่อยากจะร้องเพลงแล้ว แต่ทว่าเธอรักการร้องเพลงมาก อีกทั้งเสียงเพลงยังสามารถช่วยบดบังความรู้สึกภายในใจเธอไว้ไม่ให้ใครได้รับรู้มัน นั้นจึงทำให้เธอรู้สึกรักการร้องเพลง แต่ถึงยังไงก็ตามเธอก็มีข้อแม้อยู่หนึ่งอย่าง นั้นคือเธอจะไม่เปิดเผยใบหน้าของตัวเอง เพราะเธอกลัวว่ากสิณจะมาเจอเธอเข้าให้ เจียมพจน์เองก็ยิมยอมในข้อนั้น ณิชาเปิดเผยเพียงแค่ดวงตาของเธอเพียงเท่านั้น แต่นั้นยิ่งทำให้ผู้อื่นเกิดความประหลาดใจ มีหลายคนที่เคยเห็นหน้าตาของเธอมาก่อนหน้าก็คุยโม้โอ้อวดจนเกินจริง “ เลิกงานแล้วเธอมีนัดที่ไหนรึเปล่า ? ” ครรชิตถามขึ้นพลางถอดหูฟังออก “ ไม่มี นายมีอะไรรึเปล่า ? ” กสิณสวมเสื้อกันหนาวสีดำที่กำลังจะเดินออกไป หน้าตาก็คงยังคงดูไม่เบิกบานอย่างเช่นเคย ตอนนี้ด้านนอกก็เป็นฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ทว่าภายในห้องยังคงรู้สึกหนาวเหน็บราวกับฤดูหนาว ยิ่งอยู่ชั้นสูงสุดของตึกก็ยิ่งทำให้รู้สึกยิ่งเหน็บเหนาวเข้าไปอีก แม้กระทั่งเครื่องทำความร้อนภายในห้องก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ ตอนนี้คนทั้งบริษัทล้วนเรียกห้องทำงานของกสิณว่า “ ห้องแห่งความหนาว ” ครรชิตที่ตามกสิณไป ก็ลิฟท์ลงไปพร้อมเขา “ นายอย่าทำหน้าขรึมแบบนี้ทั้งวันได้ไหมว่ะ ควรจะยิ้มแย้มเสียบ้าง ฉันรู้นะว่าที่ณิชาหายไปนายเสียใจแค่ไหน แต่ยังไงนายก็ไม่ควรจะเป็นแบบนี้นะ คืนนี้ไปร้านเหล้าเป็นเพื่อนฉัน เดียวฉันพาไปหาสาว ๆสวย ๆ เอาไหมว่ะ ฉันได้ยินมาว่าแถวนี้มีร้านเหล้าร้านหนึ่งนักร้องที่นั้นร้องเพลงเพราะมาก ฉันอยากไปลองฟัง นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม ” “ ฉันไม่อยากไป งานด้านนี้นายรับผิดชอบอะดีแล้ว ” เขาพูดแต่ไม่ได้ส่งสายตามามอง บริษัทบังเทิงแห่งนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งธุรกิจของกสิณ ถ้าหากว่าเรื่องเล็กแค่นี้ยังต้องให้เขามาจัดการ งั้นเขาก็คงต้องรับผิดชอบงานอีกหลายงานเลย “ เอาหนากสิณ นายก็แค่ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย ไม่แน่นายอยากจะเจอเซอร์ไพร์ที่นั่นก็ได้นะ ” ครรชิตพูดออกไป โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซอร์ไพร์ที่เขาพูดมันคืออะไร “ เซอร์ไพร์ ? ” กสิณราวกับโดนเขาล่อลวงด้วยเรื่องที่เขาอยากจะรู้ว่ามันคืออะไร “ ก็ได้ งั้นไปก็ไป เผื่อจะมีเซอร์ไพร์อย่างที่นายพูด ” “ วางใจเถอะหนา ถึงจะไม่เซอร์ไพร์นาย แต่ยังไงนายก็ไม่ผิดหวังแน่นอน ” 
已经是最新一章了
加载中