ตอนที่323จะแต่งงานกับฉันไหม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่323จะแต่งงานกับฉันไหม
ตอนที่323จะแต่งงานกับฉันไหม เขาเกลียดชนุดมมากแต่เขาก็ไม่สามารถลงมือกับนัชชาได้จึงทำได้แค่อดทนไม่สามารถทำอะไรได้ “นัชชาการหลอกตัวเองมันมีประโยชน์เหรอ?”เขาทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคที่ไม่ต้องการคำตอบจากนั้นก็หันหลังจากไป ‘ปัง’เสียงปิดประตูที่ดังลั่นแสดงให้เห็นถึงความโกรธที่เตชิตมี เขาไปแล้ว นัชชามองไปยังประตูที่เตชิตออกไปในหัวของเธอมีเรื่องมากมายให้คิดแต่ที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นเรื่องของธีมนต์ เธอหันไปถามชนุดมเรื่องของธีมนต์และปล่อยมือเขาในเวลาเดียวกัน“ธีมนต์เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ลูกอยู่ไหนจะถูกเตชิตหาเจอหรือเปล่า?” “อยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทฉันเธอไม่ต้องห่วงเขาหาไม่เจอในเร็วๆนี้แน่แต่ว่า......”น้ำเสียงของชนุดมเปลี่ยนไป“ตัวตนของธีมนต์เกรงว่าจะซ่อนไม่ได้” นัชชาตกใจจนอ้าปากค้าง“ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ?....ก็” “ตอนนี้เตชิตมั่นใจว่าธีมนต์เป็นลูกของเขานอกเสียจากว่าจะมีคำอธิบายที่มีเหตุผลมากกว่านี้แต่ว่าถ้าเขาคิดที่จะสืบมันง่ายมากเลยต่อการรู้ความจริง” “งั้นทำอย่างไรดีจะให้เขาสืบต่อไปเหรอ?”นัชชาไม่กลัวเขาสืบการสืบเป็นเรื่องที่ตามมาทีหลัง “วิธีก็ใช่ว่าจะไม่มี”ตลอดทางที่ชนุดมเดินทางมานี่เขาคิดดีแล้ววิธีที่ดีที่สุดก็คือ“นอกเสียจากเธอจะแต่งงานกับฉันถ้าเป็นแบบนี้เตชิตกับเด็กก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน” “อะอะไรนะ?”เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมานัชชาอึ้งไปชั่วขณะแต่ไม่นานก็ดึงสติกลับมา เธอจบกฎหมายมาคิดครู่เดียวก็เข้าใจเหตุผลแล้วแต่ว่า....การแต่งงานเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยอย่าว่าแต่งงานเลยเรื่องที่จะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่เธอยังไม่มีกระจิตกระใจคิดเลย “แต่งงานกับฉันลูกก็จะอยู่กับเธอตลอดไปถ้ากลัวว่าธีมนต์จะรับไม่ได้ฉันก็ไม่ถือให้เขาเรียกฉันว่าอาเหมือนเดิมก็ได้แต่เธอวางใจได้เลยฉันจะดูแลเขาอย่างดี”ชนุดมพูดให้นัชชาฟังช้าๆ“สถานการณ์ในตอนนี้เธอที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไปสู้กับเตชิตตามลำพังไม่ไหวหรอก” นัชชาขมวดคิ้วในใจของเธอเต็มไปด้วยความหวังที่เป็นไปได้ยาก“ทำไมกัน?ตั้งแต่ลูกเกิดจนถึงตอนนี้ฉันเป็นคนเลี้ยงมาโดยตลอดเตชิตไม่เคยดูแลเลยสักครั้งเดียวพูดตามความรู้สึกคือเด็กเหมาะสมที่จะอยู่กับฉันมากกว่าในตอนนี้ลูกก็อายุสี่ขวบแล้วลูกต้องมีทางเลือกของตัวเอง” “แต่เธอเคยคิดไหมในความเป็นจริงเตชิตไม่รู้เรื่องการมีชีวิตอยู่ของเด็กเลยถ้าเขาพิสูจน์เรื่องนี้ได้มันไม่ดีต่อเธอเลยนะ” “...............”ครั้งนี้นัชชาเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมา ใช่สิตอนที่เธอทนไม่ไหวพาลูกหนีหากเขาตามเรื่องนี้จริงๆมันไม่ดีแน่นอกจากนี้กฎหมายอังกฤษก็เข้มงวดเรื่องนี้มากแถมเตชิตยังเป็นที่รู้จักและมีอิทธิพลในสังคม คิดได้ดังนั้นภาพจินตนาการในสมองของนัชชาที่เคยวาดฝันไว้ก็สลายเป็นฟองสบู่และพังทลายหมด คงต้องแต่งงานกับชนุดมจริงๆเหรอ? จะไม่พูดถึงว่าเธอคิดอย่างไรธีมนต์คิดอย่างไรแต่ถ้าคิดในแง่ของชนุดมมันก็ไม่แฟร์เธอไม่สิทธิ์ที่จะเอาเรื่องที่ตนเองรับไม่ไหวโยนให้กับผู้ชายคนนี้ อีกอย่างเรื่องของเธอและเตชิตมันน่าอายมากพอแล้วถ้าเขาเข้ามาในสถานการณ์แบบนี้เกรงว่ามันจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก “ฉันจะคิดดูก่อน”ตอนนี้ในหัวของเธอวุ่นวายไปหมดเธอไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องพวกนี้ได้ ชนุดมรู้ว่านี่เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่“ได้แต่เธอต้องรีบตัดสินใจนะเตชิตไม่รอช้าแน่” …… ผ่านไปอีกคืนหนึ่งนัชชาออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดเรื่องนี้ไม่มีใครรู้เธอทำแบบนี้เพราะหนึ่งไม่อยากให้เตชิตรู้สองเธอไม่มีกระจิตกระใจที่จะนอนโรงพยาบาลต่อ ชนุดมส่งคนขับรถมารอเธอที่ลานจอดรถนัชชาขึ้นไปนั่งในรถรถเริ่มขับเคลื่อนไปยังถนนผ่านแสงสีไฟมากมายบนรอบเมืองท้ายที่สุดจึงจะขับเข้าไปในบริษัทของชนุดม ลิฟต์เชื่อมต่อกับห้องทำงานโดยตรงประตูเปิดออกนัชชาก็เห็นร่างเล็กของธีมนต์ที่อยู่บนโต๊ะกาแฟ ดูเหมือนลูกจะไม่คิดว่าเธอจะปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าวิ่งเข้ามาหาเธออย่างมีความสุข“แม่.....” “ช้าๆหน่อยช้าๆหน่อย!”เห็นดังนั้นนัชชาจึงอ้าแขนรอเพื่อกอดลูกไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันคนเป็นแม่คิดถึงลูกจะแย่แล้วอยู่ๆดวงตาของเธอก็เริ่มแดง“คิดถึงแม่แล้วใช่ไหม?” “คิดถึงครับ!”ธีมนต์กอดนัชชาไว้แน่น“แล้วแม่หล่ะครับคิดถึงผมไหม?” “แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน” เมื่อได้ยินแบบนั้นอารมณ์ของธีมนต์ก็ดีขึ้นเขาออกมาจากอ้อมกอดแม่แล้วยืนมองแม่ตัวเองที่นั่งยองๆอยู่ตรงหน้าเขาเขาจับไปที่ตาของแม่“แม่อย่าร้องไห้เลยนะครับคุณอาบอกว่าถ้าร้องไห้แล้วจมูกจะไม่สวย” “โอเคแม่ไม่ร้องไห้แล้ว”นัชชามองลูกอย่างละเอียดเมื่อตรวจดูแล้วว่าลูกของเธอไม่มีอะไรผิดปกติเธอถึงจะวางใจและสบายใจ“ช่วงนี้กินข้าวครบทุกมื้อหรือเปล่าเชื่อฟังคุณอาหรือเปล่า?” “กินทุกมื้อครับเชื่อฟังคุณอาด้วย!”ธีมนต์พูดไปพร้อมกับพยักหน้าด้วย“คุณอาบอกว่าถ้าผมเป็นเด็กดีแม่ก็จะกลับมาหาผมเร็วผมก็เลยเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซนเลยครับ” นัชชาฟังแล้วนอกจากความสบายใจก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยธีมนต์ไม่มีพ่อตั้งแต่เด็กเหมือนขาดที่พึ่งที่สำคัญนัชชาที่เป็นแม่สำหรับธีมนต์แล้วเธอเป็นคนที่พึ่งได้มากที่สุดและสำคัญที่สุดธีมนต์เรียนรู้สิ่งต่างๆไวกว่าเด็กวัยเดียวกันทุกคนต่างก็พูดว่านี่เป็นโชคของเธอแต่เธอภาวนาให้ลูกอย่าเก่งเกินเลยเก่งเกินก็มีแต่เรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจ “ธีมนต์เป็นเด็กดีแบบนี้แม่จะไม่จากเราไปไหนอีกแล้ว” เด็กอายุสี่ขวบกว่าที่ไม่เข้าใจความหมายลึกๆของมันจึงพยักหน้าอย่างมีความสุข“ครับ!ผมก็จะไม่จากแม่ไปไหน!” นัชชารู้สึกตื้นตันในสิ่งที่ลูกพูดเธอจับมือลูกแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานมองไปยังชายคนหนึ่งที่นั่งมองเธออยู่ข้างหลัง“ฉันกลับมาแล้ว” ชนุดมมองไปยังนัชชา“ต่อไปจะเอาอย่างไร?” นัชชามองไปยังลูกแล้วบอกให้ลูกไปเล่นของเล่นก่อนเมื่อแน่ใจแล้วว่าลูกจะไม่ได้ยินเธอจึงพูดขึ้น“ซ่อนก็ซ่อนไม่ได้แล้วฉันจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญขอแค่เขาไม่เจอลูกก็พอ” ชนุดมขมวดคิ้ว“เธอไม่เป็นไร?ถ้าเตชิตให้เธอไปริ่มต้นใหม่กับเขาเธอก็ไม่เป็นไร?” “เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นฉันแค่เอาเรื่องลูกมาเป็นที่หนึ่ง”ในสถานการณ์แบบนี้เธอไม่มีเวลามาห่วงตัวเองหรอก “หวังว่าในตอนที่เธอพูดเรื่องแบบนี้ก็คำนึงถึงความรู้สึกของฉันด้วย”เขาขมวดคิ้วน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความอ้างว้างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ นัชชารู้สึกผิดเล็กน้อยตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันทั้งๆที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่มันมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ชัดเจน “ชนุดม......คือว่าฉัน......”เธอยังไม่ได้พูดในสิ่งที่จะพูดก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน “ไม่ต้องอธิบายมันเป็นปัญหาของฉันเอง”เขาพูดจบก็ก้มลงไปดูเอกสารต่อ จริงๆแล้วตัวหนังสือบนเอกสารเขาอ่านไม่เข้าสมองสักตัวเลยสมองของเขากำลังคิดแต่เรื่องของเธอใช่สิมันไม่ใช่ความผิดของเธอเธอไม่เคยบอกเลยว่าชอบเขาเป็นเขาเองที่อยากทำดีกับเธอโดยไม่หวังผลตอบแทนเรื่องนี่โทษคนอื่นไม่ได้
已经是最新一章了
加载中