ตอนที่103 ค้นหาความจริงที่ปกปิด
1/
ตอนที่103 ค้นหาความจริงที่ปกปิด
จากวันนี้ไป นายเป็นสามีเก่าแล้ว
(
)
已经是第一章了
ตอนที่103 ค้นหาความจริงที่ปกปิด
ตนที่103 ค้นหาความจริงที่ปกปิด เธอรู้สึกว่าแปลก ในบ้านก็ไม่มีคนอื่น แล้วเซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังคุยกับใคร ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เสิ่นอีเวยหยุดก้าวเดิน เธอค่อยๆขยับมือเท้าอย่างเบาๆเข้าไปใกล้ๆประตูแล้วหยุดฟังอย่างตั้งใจ “ถ้านายคิดว่ามันทุกข์ทรมานใจนัก ตอนนี้พี่สามารถที่จะเข้ามอบตัว สารภาพกับตำรวจถึงเรื่องราวในปีนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องให้พี่ชดเชยให้กับเธอแทนนาย” เป็นเสียงที่เยือกเย็นของเซิ่งเจ๋อเฉิง หลังจากที่เขาพูดประโยคนั้นจบ ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงัด ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ แต่ตอนนี้ได้วางสายไปแล้ว ในใจของเสิ่นอีเวยมีความรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย ที่เซิ่งเจ๋อเฉิงพูดไปเมื่อสักครู่มันหมายความว่าอย่างไร ทันใดนั้นก็มีเสียงออกมาจากข้างในห้อง เสิ่นอีเวยก็ตกใจขึ้นมา กลัวว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะออกมาเจอเธอ ดังนั้นเธอจึงรีบเดินออกไป แก้วน้ำอันเย็นเยือกกุมจับไว้ที่ฝ่ามือ คำพูดนั้นของเซิ่งเจ๋อเฉิงได้วนเวียนอยู่ในหัวของเสิ่นอีเวย คิดไปถึงรูปพวกนั้นที่เซียวหันถิงให้ตนดูครั้งที่แล้ว เหมือนว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างได้เชื่อมโยงกับสมองของตนเองขึ้นมา แต่ว่าเมื่อเธออยากจะคิดให้มากกว่านี้กลับมีหมอกหนาทึบมาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำให้สิ่งที่เห็นอยู่กลายเป็นความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ในวันต่อมา เสิ่นอีเวยออกจางห้องทำงานเดินตรงไปที่ห้องชงชา กลับไปพบเจอกับสวี่อันฉิงที่มุมโค้งตรงทางเดิน จิตสำนึกต้องการที่จะหลบหลีก แต่สวี่อันฉิงกลับเดินมาทางข้างๆตั้งใจที่จะขวางทางเธอไว้ เสิ่นอีเวยมองเธออย่างเย็นชา “เธอมีธุระอะไร?” สวี่อันฉิงยิ้มอย่างโอ้อวด “ก็ไม่ได้มีธุระอะไรที่สำคัญหรอก แค่อยากจะพูดคุยกับเธอเฉยๆ ฉันเฝ้าคอยการเดินทางไปทำงานต่างเมืองของเราในสัปดาห์หน้ามากๆ” เสิ่นอีเวยยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า “การเดินทางหรอ? เธอนี่ไม่คิดมากเลยเนาะ?” ไม่รู้ว่าตนเองดูผิดไปหรือไม่ เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าในแววตาที่สวี่อันฉิงมองเธอนั้นแฝงไว้ด้วยความหมายบางประการ สวี่อันฉิงโบกมือให้เธอ ยิ้มแล้วพูดว่า “ยังไง ฉันก็เฝ้าคอยสุดๆ” บ้าไปแล้วจริงๆ เสิ่นอีเวยคิดแล้วพูดต่อว่าสวี่อันฉิงในใจ ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่สวี่อันฉิงพูดจากับเธอด้วยท่าทางที่มีเจตนาแอบแฝงอยู่ วันทั้งวันเสิ่นอีเวยรู้สึกใจคอไม่ดี คิดแล้วคิดอีก เธอจึงเรียกฉินจื่อเฟิงให้เข้ามา สายน้อยที่ถักเปียน่ารักสูงๆนั่งรอให้เสิ่นอีเวยพูดนั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะ อาทิตย์หน้าฉันจะต้องไปทำงานที่เมืองc อาจจะต้องอยู่ที่นั่นไม่กี่วัน วันนี้ต้องเอาหน้าที่งานที่จำเป็นจะต้องทำต่อไปให้เธอก่อน ฉินจื่อเฟิงพยักหน้า จดลงบนสมุดบันทึกของตนเองอย่างไม่มีตกหล่น หลังจากที่พูดธุระสำคัญเสร็จ เสิ่นอีเวยวางปากกาที่อยู่ในมือ สีหน้าท่าทางแสดงออกมาอย่างเคร่งขรึม เรื่องที่ฉันกับผู้จัดการสวี่ต้องไปทำงานต่างเมืองอาทิตย์หน้า เธอได้ยินคนในบริษัทเขาพูดคุยอะไรกันบ้างมั้ย?” ฉินจื่อเฟิงคิดแล้วพูดออกมาว่า “ก็ไม่ได้ยินใครพูดอะไรนะคะ แต่ดูเหมือนว่าผู้จัดการสวี่อยากที่จะไปทำงานต่างเมืองกับคุณมากๆ เพราะว่าตอนแรกประธานเซิ่งจัดการให้ฉันกับคุณไปด้วยกัน แต่ว่าในตอนนั้นผู้จัดการสวี่เสนอตัวด้วยตนเอง โดยบอกว่าพึ่งเข้ามาทำงานในบริษัทได้ไม่นาน สำหรับการพูดคุยร่วมมือทางธุรกิจก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ดังนั้นเธอจึงสามารถที่จะไปกับคุณสักครั้ง” ในใจของเสิ่นอีเวยก่อให้เกิดความระมัดระวังตัว “ในตอนนั้นประธานเซิ่งมีท่าทางยังไง” “ในตอนนั้นประธานเซิ่งก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยุ่งกับปัญหานี้เท่าไหร่ ก็ยอมรับข้อเสนอของผู้จัดการสวี่โดยตรง” ฉินจื่อเฟิงพูดต่อโดยที่ไม่รอให้เสิ่นอีเวยพูดจบ “จริงๆแล้วฉันอยากที่จะไปกับคุณมากๆ เพราะว่าไปกับคุณสามารถเรียนรู้อะไรได้มากมาย แต่ว่าคำพูดของผู้จัดการสวี่มีน้ำหนักมากกว่าฉัน ฉันไม่มีตำแหน่งหรืออำนาจจะไปโต้แย้งเธอ” มองไปที่หญิงสาวที่มีท่าทางน้อยอกน้อยใจ เสิ่นอีเวยยิ้มแล้วพูดปลอบใจ “ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก ยังไงเธอก็คือผู้ช่วยที่รักของฉัน สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆกับฉันได้ตลอดเวลา ถ้าครั้งหน้ามีโอกาสแบบนี้อีก ฉันจะเสนอเอาตัวเธอไปด้วยกับฉัน” ได้ยินดังนั้นฉินจื่อเฟิงก็ดีใจ เดินออกห้องทำงานไปอย่างมีความสุข เมื่อได้ยินว่าสวี่อันฉิงขอเสนอตัวอยากที่จะไปกับตนเอง และไม่ใช่เซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นคนจัดการ ถ้าเป็นเช่นนั้นเมื่อคืนวันนั้นตอนที่ถามเขา ทำไมเขาไม่อธิบายให้ชัดเจน? เสิ่นอีเวยไม่เชื่อคำพูดของสวี่อันฉิงอย่างเด็ดขาด ดูแล้วการไปทำงานต่างเมืองครั้งนี้ ตนเองจำเป็นจะต้องเตรียมตัวให้เป็นอย่างดีก็พอแล้ว กริ๊งกริ๊งกริ๊ก! โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้นอย่างกะทันหัน มองไปที่บนหน้าจอเป็นชื่อของคุณหมอลู่ ใจของเสิ่นอีเวยก็เต้นขึ้นมาซักพัก เธอรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล คุณหมอลู่” “นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่มาตรวจ? นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่มาเอายา?” คำถามสองสามคำถามติดๆกันเสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เธอจึงเงียบไม่พูดไม่จาเสียเลย เพราะว่าในตอนที่เธอเห็นว่าคุณหมอลู่โทรศัพท์เข้ามานั้น ใจของเธอก็ตกไปอยู่ตาตุ่ม ไม่กี่วันมานี้เธอมัวแต่มีความสุขและดีใจที่เธอตั้งครรภ์อยู่ตลอดเวลา จึงลืมเรื่องที่ตนเองป่วยไปอย่างปลิดทิ้ง มะเร็งปอดทำให้ร่างกายเธอมีเนื้องอกเล็กๆข้างใน การตั้งครรภ์ทำให้เธอมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในร่างกาย เจ้าตัวน้อยที่ทำให้เธอเบิกบานใจและเฝ้าคอยเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงทำให้เธอไม่ได้สนใจเนื้องอกที่มีอยู่เลย เหมือนดั่งอยู่ในความความฝันและในตอนนี้ได้ก็ตื่นจากฝันแล้ว ในใจของเสิ่นอีเวยเหลือไว้เพียงความกลัวและความว่างเปล่าที่ไม่มีสิ้นสุด ทำไมสวรรค์ถึงมักจะชอบในสิ่งที่เซิ่งเจ๋อเฉิงได้ทำกับเธอ ให้ลูกอมที่หอมหวานก่อนแล้วจึงตบเธออีกครั้ง เธอรู้สึกว่าตนเองแทบจะแบกรับมันไว้ไม่ไหวแล้ว คุณหมอลู่ไม่ได้ยินเสียงของเสิ่นอีเวยตอบเลย ดังนั้นจึงถามขึ้นอีกรอบ “คุณเสิ่น? “ฉันยังอยู่ค่ะ คุณหมอลู่ ฉันอยากจะพบคุณ” เสิ่นอีเวยพยายามทำให้เสียงตนเองไม่ตื่นเต้นมาก อาจจะเป็นเพราะว่าคนเป็นหมอคุ้นชินกับพฤติกรรมของคนหลายๆคนดังนั้นจึงมีความคิดที่ละเอียดอ่อน ทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงคนไข้ของตนคุณหมอลู่ก็รู้ทันทีเลยว่ามีความผิดปกติ ดังนั้นจึงไม่ถามอะไรต่อในโทรศัพท์ เขาจึงพูดขึ้นว่า “ไม่มีปัญหา คุณสามารถเข้ามาพบได้ตลอดเวลา” หลังจากที่วางโทรศัพท์แล้ว เธอก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ถึงเวลาเลิกงานเรียบร้อยแล้ว เธอหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปอย่างไม่ลังเลใจ เธอขับรถบนถนนไปอย่างช้าๆ ครั้งที่แล้วถูกคนของหมี่ย่าลักพาตัวไป รถของเซิ่งเจ๋อเฉิงถูกผู้ชายพวกนั้นทุบจนเละแล้ว ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนรถคันใหม่เสียเลย จึงขับไม่ค่อยจะถนัดนัก แต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่ตนเองยังไม่แน่ใจเลยว่าที่ตนเองขับรถช้าเป็นเพราะไม่คุ้นชินกับรถหรือเป็นเพราะกลัวว่าหลังจากที่พบคุณหมอลู่แล้ว คุณหมอจะพูดในสิ่งที่ตนเองไม่อยากได้ยินออกมา เหงื่อค่อยๆออกมาจากมือที่จับพวงมาลัยรถ ในที่สุดรถของเสิ่นอีเวยก็ได้มาจอดลงที่หน้าโรงพยาบาล ทางที่เดินไปที่ห้องทำงานของคุณหมอลู่แต่ละย่างก้าวเหมือนเหยียบบนมีดที่แหลมคม “ มาแล้วหรอ?” คุณหมอลู่เห็นเสิ่นอีเวยผลักประตูเข้ามา เสิ่นอีเวยนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามคุณหมอ เธอพูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “คุณหมอลู่ ฉันท้องแล้ว ฉันอยากรู้ว่าถ้าตามอาการของฉันตอนนี้แล้ว ฉันสามารถที่จะคลอดลูกออกมาได้มั้ย?” เสิ่นอีเวยพยักหน้าอย่างหนักแน่น คุณหมอลู่ไตร่ตรองอยู่ซักครู่ ใบหน้าที่แสดงออกมาดูแล้วเคร่งขรึม “คุณเสิ่น ในความเป็นจริงแล้วไม่ต้องให้ผมพูดคุณเองก็น่าจะรู้อยู่แล้ว หลังจากที่คุณตรวจวินิจฉัยโรคเป็นที่แน่นอนแล้ว การให้ความร่วมมือในการรักษาของคุณนั้นแย่ขนาดไหน ผมไม่เคยเห็นคนไข้คนไหนที่ไม่รับผิดชอบต่อร่างกายของตัวเองแบบคุณเลย แต่ว่าผมเป็นหมอ มีสิทธิ์ที่จะบอกกล่าวคนไข้ของผมตามสถานการณ์ที่เป็นจริงมากที่สุด เสิ่นอีเวยพยักหน้าอย่างจริงจัง เธอพบว่าสองมือของเธอที่วางอยู่บนขานั้นเริ่มสั่นเครือเล็กน้อย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่103 ค้นหาความจริงที่ปกปิด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A