ตอนที่111 ดินปืนในสุสาน
1/
ตอนที่111 ดินปืนในสุสาน
จากวันนี้ไป นายเป็นสามีเก่าแล้ว
(
)
已经是第一章了
ตอนที่111 ดินปืนในสุสาน
ตนที่111 ดินปืนในสุสาน หลังจากที่รอให้เซิ่งเจ๋อเฉิงเดินออกไปไกลแล้ว เสิ่นอีเวยถึงจะออกมาจากต้นไม้ เธอเดินช้าๆไปที่ข้างรถของตนเอง ยกเท้าขึ้นนวดตรงบริเวณหลังเท้าที่เจ็บ มองไปยังป้ายหลุมศพของพ่อแม่ที่อยู่ไกลๆก่อนแล้วจึงดึงเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง ปั่ง! เสียงที่ดังมากก้องออกมา มือที่กำลังจับพวงมาลัยของเสิ่นอีเวยนั้นสั่นอย่างรุนแรง เมื่อกี้นั้น....คือเสียงปืน หัวใจและนัยน์ตาของเธอก็ตื่นขึ้นมา เสียงปืนได้ออกมาจากทางรถของเซิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยไม่ลังเลสักวินาที เปิดประตูออกไปแล้ววิ่งไปทางที่จอดรถของเซิ่งเจ๋อเฉิง เสียงปืนดังสองสามนัดติดต่อกัน เสิ่นอีเวยวิ่งเร็วอย่างสุดกำลัง เสียงลมพัดอันหนาวเหน็บเฉียดมาที่ข้างหูเธอ เมื่อวิ่งเข้าไปใกล้ก็ลดความเร็วลง เสิ่นอีเวยคลายมือได้พบว่ากลางมือของตนเองนั้นมีแต่เหงื่อ และระหว่างที่กำลังวิ่งอย่างสุดกำลังนั้น ในใจเธอนั้นนึกถึงคำสามคำ ใช่แล้ว คือชื่อของผู้ชายคนนั้น รถเบนน์ลี่สีดำยังคงจอดอยู่ที่เดิม ไม่มีใครสักคนอยู่ตรงหน้าของเสิ่นอีเวย นกที่อยู่กลางป่าก็บินลับหายเข้าไปในกลีบเมฆตามเสียงปืน ทั่วทั้งป่าก็เงียบสงบ เสิ่นอีเวยในระหว่างนี้ไม่มีปฏิกิริยาใดๆออกมา เมื่อสักครู่เธอได้ยินเสียงปืนออกมาอย่างชัดเจน ทำไมข้างหน้ากลับไม่มีคนแม้แต่คนเดียว และทันใดนั้นในใจของเสิ่นอีเวยก็เกิดความสับสนและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เซิ่ง! เสิ่นอีเวยพึ่งจะเอ่ยออกมาแค่พยางแรก ก็รู้สึกว่าถูกแรงดึงที่เอวข้างหนึ่ง พื้นดินที่ตนเองยืนอยู่เมื่อสักครู่นี้ก็ถูกกระสุนปืนยิงเข้าใส่ ในระหว่างนั้นฝุ่นก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว ร่างกายของเสิ่นอีเวยปะทะเข้ากับพื้นดินอย่างแรง แต่กลับไม่มีความรู้สึกเจ็บออกมา เมื่อหันหน้าไปมองข้างหลัง ในตาสีดำของเซิ่งเจ๋อเฉิงและเธอก็ได้จ้องมองกันและกัน “เธอโง่หรือไง?” เสิ่งเจ๋อเฉิงพูดขึ้นด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเหน็บแนมที่ข้างหูเธอ เสิ่นอีเวยเบะปาก ทันทีที่นึกได้ก็รีบตรวจดูว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร เธอก็โล่งใจ เสิ่นอีเวยมีปฏิกิริยาที่เป็นห่วงเขาออกมาทันที ที่เมื่อซักครู่จิตใจตื่นตระหนกวิ่งมาอย่างไม่คิดชีวิตทั้งหมดก็เพราะว่าเธอเป็นห่วงเขา และเมื่อสักครู่ที่ล้มลง เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงเอาตัวของตนเองมาลองไว้ที่ข้างหลังของเธอโดยสัญชาตญาณ จริงๆแล้วเขาอยากที่จะปกป้องเธอหรือว่าเธอกำลังคิดไปเอง? ทันใดนั้น จากนั้นก็มีกระสุนปืนมากมายยิงเข้ามาที่ข้างๆของทั้งสองอย่างฉับพลันอีกครั้ง จนกระทั่งตอนนี้เสิ่นอีเวยได้รู้สึกตัวว่าเขาทั้งสองได้ถูกโจมตีแล้วและเป้าหมายของคนกลุ่มนี้ก็เปิดเผยอย่างชัดเจน เขาทั้งสองหลบอยู่ที่ข้างประตูคนนั่งข้างหน้า และเซิ่งเจ๋อเฉิงอยากจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ แต่เมื่อเอื้อมมือไปถึงครึ่งทาง ก็ได้ยินเสียงลูกกระสุนปืนยิงออกมากลางอากาศจึงต้องรีบชักมือกลับมา ประตูหุ้มเหล็กสีดำโดนปะทะอย่างต่อเนื่อง เป็นประกายไฟติดต่อกันอย่างไม่ขาดสายในชั่วพริบตาเดียว กลิ่นแรงของเขม่าดินปืนก็ตลบอบอวลออกมาไปทั่วทุกสารทิศ มือของเสิ่นอีเวยจับที่แขนเสื้อของเซิ่งเจ๋อเฉิงไว้แน่น เธอรู้สึกได้แม้กระทั่งว่ามีลมร้อนผ่าวออกมาจากข้างแก้ม เสิ่นอีเวยเอามือขึ้นปิดตาโดยสัญชาตญาณ ทั้งสองคนไม่มีเวลาที่จะไปคำนึงถึงว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้มาอยู่ที่นี่ รู้แต่เพียงว่าทั้งสองคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นเสิ่นอีเวยก็รู้สึกได้ว่าไหล่ของตนเองถูกพลังแรงอันหนักแน่นจับเข้าไปหา เซิ่งเจ๋อเฉิงมองมาที่เธอด้วยสายตาที่แน่วแน่ สายตาเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงความสบายใจแบบแปลกๆ ข้างๆคือต้นสนอันหนาทึบ ข้างหูได้ยินเสียงกระสุนปืนต่อเนื่องสองสามนัดทะลุกลางอากาศ กลิ่นเขม่าดินปืนเกาะที่ปลายจมูก ตรงหน้ามีฝุ่นและเศษเล็กๆน้อยๆลอยกลางอากาศ แต่ว่าในตอนนี้ เสียงของเซิ่งเจ๋อเฉินกลับเปล่งออกมาอย่างนิ่งมากที่สุด “ เธอสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนแล้วฟังฉันพูด” เสิ่นอีเวยมองไปที่เซิ่งเจ๋อเฉิง พยายามทำให้ใจที่เต้นอย่างรุนแรงของตนเองสงบลง “ฉันไม่เป็นไรแล้ว คุณพูด” ในตอนนี้ทั้งสองคนเหมือนกับละทิ้งความรักและความแค้นที่เข้าใจผิดตลอดเวลาของทั้งสองคนออกไป ยิ่งไปกว่านั้นยังเหมือนกับเป็นเพื่อนเก่าที่รู้ใจกัน ในเวลานี้ในหูของเสิ่นอีเวยมีแต่เสียงของเซิ่งเจ๋อเฉิง “อีกซักพักไม่ต้องหันหลังกลับไปมอง เดินตามฉัน อย่าเดินมั่วและอย่าตะโกนร้อง ฉันจะจูงเธอไปอย่างเร็ว ตกลงมั้ย” เสิ่นอีเวยมองไปที่นัยน์ตาที่ดำลึกของเซิ่งเจ๋อเฉิง พยักหน้าอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ แต่เหตุการณ์ตรงหน้าในวันนี้มีปืน ต้นไม้ ลูกกระสุน ไฟ เธอยอมรับว่าตนเองเริ่มรู้สึกกลัวแล้ว คำพูดของเขาดูเหมือนจะทำให้เธอจิตใจสงบลง เซิ่งเจ๋อเฉิงจับมือเธอไว้แน่น นับถอยหลังที่ข้างหูเธอ “หนึ่ง สอง สาม วิ่ง!” เสิ่นอีเวยก้าวเท้าออกไป ตามเขาไปอย่างใกล้ชิดด้วยความเร็ว ทั้งสองได้เข้าไปใกล้ป่าสนที่อยู่หลังรถ ในป่ามีเสียงกรอบแกรบดังออกมา พวกคนจู่โจมเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขากำลังหลบหนี เสียงกระสุนไล่ตามพวกเขามาตลอดทาง วันนี้เสิ่นอีเวยบังเอิญสวมรองเท้าส้นสูง เมื่อสักครู่พึ่งเดินเท้าไปที่หลุมศพและช่วงที่วิ่งอย่างเร็วทำให้เท้าของเธอเจ็บมาก และตอนนี้ก็วิ่งหนีกระสุนอยู่ในป่าบนภูเขาที่พื้นนูนนูนไม่เรียบ เสิ่นอีเวยสามารถสัมผัสได้ถึงแม้กระทั่งกลิ่นของเลือดสดๆที่ไหลออกมาจากเท้าเธอ อ้า! เสิ่นอีเวยร้องเจ็บออกมา เท้าขวาของเธอไปเหยียบกับก้อนหินก่อนหนึ่ง เท้าแพลงอย่างหนัก นั่งลงไปที่พื้นทั้งตัว ทันใดนั้นมือของเธอที่อยู่ในอุ้งมือของเซิ่งเจ๋อเฉินก็หลุดออกมา ในครั้งนี้ เจ็บจนแทงใจ เสิ่นอีเวยรู้ว่าสถานการณ์กำลังคับขัน ไม่แน่ว่าคนพวกนั้นอาจจะวิ่งไล่ตามมาข้างหลังแล้ว เสียงที่ร้อนใจก็ได้สั่นออกมา “ขาฉันแพลงแล้ว น่าจะเดินไม่ไหวแล้ว คุณรีบวิ่งไปเถอะ รีบออกไปจากที่นี่ คนพวกนั้นน่าจะไล่ตามมาแล้ว” เมื่อเสิ่นอีเวยพูดจบ น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาทันที ไม่ใช่เพราะว่าเธอคิดว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงจะทิ้งตนเอง แต่เป็นเพราะว่าเธอพึ่งค้นพบว่า ในช่วงเวลาที่อันตรายนี้ คาดไม่ถึงว่าในแวบแรกที่คิดถึงไม่ใช่ตนเองและลูกน้อยในท้องแต่กลับเป็นสามีที่อยู่ตรงหน้า ภาพที่เขาเย็นชา ทำร้ายจิตใจ และตะคอกใส่เธอ เขาไม่ค่อยรักและใส่ใจเธอ ตั้งแต่แต่งงานกันมาสองปีการอยู่ด้วยกันต่างๆนานาคล้ายกับฉายหนังออกมาต่อหน้าเธออย่างรวดเร็ว เสิ่นอีเวยร้องไห้สะอึกสะอื้น ในเวลานี้ เธอไม่อยากซักถามใดใดกับเซิ่งเจ๋อเฉิงว่าทำไมวันนี้ถึงถูกคนพวกนั้นจ้องตามมา เธอคิดเพียงว่าอยากที่จะให้เขาหนีออกไปจากที่ที่อันตรายนี้ แม้ว่าจะทิ้งเธอไว้ตรงนี้คนเดียวก็ตาม เสิ่นอีเวยพยายามสุดกำลังเพื่อที่จะยืนขึ้น แต่เธอพบว่าขาสองข้างของตนเองเหมือนกับดินโคลนสองชิ้นที่ไม่สามารถทำให้ออกแรงได้เลย ทันใดนั้นเธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของตนเองนั้นเบาหวิว เซิ่งเจ๋อเฉิงโอบเอวเธอแล้ววิ่ง เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าเขาหลบหนีได้โดยอาศัยสัญชาตญาณในการถูกจู่โจมอันตรายในแต่ละครั้ง ถึงแม้ว่าในมือจะพยุงร่างที่หนักของอีกคนเพิ่มเข้ามา แต่คล้ายกับว่าไม่มีผลกระทบต่อความเร็วของเซิ่งเจ๋อเฉิงเลยแม้แต่น้อย เขาโอบเธอไว้ วิ่งไปพลางหลบกระสุนปืนไปพลาง เสิ่นอีเวยสั่นโคลงอยู่ในอ้อมอกของเขา เธอเงยหน้าขึ้นไปมองเซิ่งเจ๋อเฉิง “คุณวางฉันลงเถอะ คุณทำแบบนี้จะกระทบต่อความเร็วของคุณ” เสียงและใจของเสิ่นอีเวยสั่นเครือ เพราะว่าเธอพูดประโยคนี้ออกมาด้วยความจริงใจ แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงกลับไม่อยากซาบซึ้งกับสิ่งที่เธอทำ ผู้ชายที่ไม่แม้แต่จะก้มลงมา พูดด้วยเสียงเย็นชา “ถ้าเธอยังกล้าพูดประโยคนี้อีก ฉันจะโยนเธอลงไปที่ตีนเขาเป็นอาหารของหมาป่า”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่111 ดินปืนในสุสาน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A