บทที่ 17 เธอชอบเขาที่หน้าตาหรือว่าชอบเงินของเขา   1/    
已经是第一章了
บทที่ 17 เธอชอบเขาที่หน้าตาหรือว่าชอบเงินของเขา
บ๗ที่ 17 เธอชอบเขาที่หน้าตาหรือว่าชอบเงินของเขา เห้ออี้ลั่ว: เมีย พาดหัวข่าวคู่สมรสในทะเบียนสมรสของคุณคือฉัน ด้วยมือและเท้าเล็กๆนี้ เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตอนนี้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทำได้เพียงเชื่อฟังปฏิบัติตามแผนการของเขาและปล่อยให้พวกเขาพูดเกี่ยวกับการแต่งงานของเรา ดวงตาของเฉียวเยว่เมิ่งจับจ้องคำว่า “เมีย” ที่อยู่ในประโยคนั้น เธอไม่รู้ว่าจะได้อยู่ในสถานะนี้แค่เพียงระยะเวลาสั้นๆหรืออยู่ไปอีกนาน เห้ออี้ลั่วไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากที่เขาส่งพาดหัวข่าวใหญ่นี้มา เฉียวเยว่เมิ่งต้องพูดย้ำอยู่หลายครั้งจนในที่สุดเขาก็ลบมันออก เธอเคยคิดหลายวิธีที่จะแต่งงาน แต่ไม่เคยคิดว่าเธอจะต้องมาแต่งงานด้วยวิธีนี้ เธอไม่ใช่คนไม่มีความคิด เธอรู้ว่ารูปร่างหน้าตาของเธอไม่เลว เธอยังไม่อายุไม่เยอะ หน้าที่การงานของเธอก็ดี และเธอก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง ในมุมมองของเธอ เธอสามารถหาคนดีๆ มาแต่งงานด้วยได้ และเธอก็สามารถแต่งงานเพราะความรักได้ แทนที่จะแต่งงานเหมือนตอนนี้ ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอแต่งงานไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ของเธอ ตัวเธอเองก็ไม่สามารถรับได้เช่นกัน กว่าที่เธอจะรู้ตัว เธอก็กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กชายอายุห้าขวบไปแล้ว ทำไมเธอถึงต้องยอมรับข้อตกลงที่น่าขันนี้ของเห้ออี้ลั่วด้วยนะ ลั่วหมิงเม่ยนำอาหารมาวางไว้ จากนั้นก็เห็นเฉียวเยว่เมิ่งยืนถือโทรศัพท์อยู่ด้วยความมึนงง "เฮ้ ตั้งสติหน่อย ทานอาหารเย็นกัน" เฉียวเยว่เมิ่งวางโทรศัพท์ของเธอลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อเห็นว่ามีเพียงข้าวสองจานและแกงหนึ่งถ้วยบนโต๊ะ เธอก็ถามว่า “แล้วพ่อล่ะ พ่อเขาจะไม่กลับมาทานข้าวเย็นอีกแล้วเหรอ” “คุณปู่ของลูกรู้สึกไม่ค่อยดี พ่อเขาเลยกลับไปดูแลคุณปู่” "คุณปู่ไม่สบายเหรอ”เฉียวเยว่เมิ่งถาม ขณะที่ใช้มือจับตะเกียบ "อืม โรคเก่านั่นแหละ เกาต์น่ะ” “งั้นช่วงบ่ายเราไปเยี่ยมกันเถอะ" ลั่วหมิงเม่ยปรายตามองเธอ พูดว่า "ลูกไม่ชอบกลับไปที่บ้านเกิดไม่ใช่เหรอ ทำไมครั้งนี้กระตือรือร้นจะไปล่ะ สติยังดีอยู่ใช่ไหม” "ฉันเป็นหมอนะ คุณปู่ป่วยแล้วฉันจะไม่ไปดูได้เหรอ" "ลูกพูดถูก ถ้าอย่างนั้นก็รีบกิน เดี๋ยวจะต้องไปจัดเสื้อและกางเกงขายาวใหม่ที่แม่ซื้อให้คุณปู่ด้วย" “อืมอืม”เฉียวเยว่เมิ่งตอบอย่างขอไปที แล้วเริ่มกวาดอาหารบนโต๊ะ .... หลังจากทานอาหารเสร็จเฉียวเยว่เมิ่งก็รีบเก็บของที่เธออยากนำกลับไปบ้านเกิดของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นไปเร่งลั่วหมิงเม่ยให้รีบออกเดินทาง "เฉียวเยว่เมิ่ง ลูกถูกตามล่าหรือว่าหนีเจ้าหนี้งั้นเหรอ" "ทั้งคู่นั่นแหละ แม่รีบหน่อยเถอะ ถ้าไม่อยากให้ลูกสาวของแม่ถูกสับใส่ลงไปในซอสเนื้อ" ลั่วหมิงเม่ยกรอกตาของเธอแล้วเดินตามเฉียวเยว่เมิ่งลงบันไดไป เมื่อรถของเฉียวเยว่เมิ่งหันหัวออกมาจากหมู่บ้าน หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นมาเซราติที่แสนคุ้นเคย เท้าของเธอสั่นจนเผลอเหยียบคันเร่งแทนเบรกจนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่เฉียวเยว่เมิ่งไม่สามารถลงไปขอโทษได้ เธอรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว ลั่วหมิงเม่ยชำเลืองมองใบหน้าด้านข้างของเฉียวเยว่เมิ่ง แล้วแยกเขี้ยวพูดว่า "บอกแม่มาตามตรงว่าลูกกำลังทำอะไรอยู่ พูดออกมา แม่สัญญาว่าจะไม่ฆ่าลูก" "ไม่มีอะไร" ลั่วหมิงเม่ยโกรธมาก "เธอคิดว่าแม่ของเธอตาบอดหรือว่าเป็นคนโง่หรือไง เฉียวเยว่เมิ่ง ฉันเตือนเธอแล้วนะ ถ้าเธอไม่พูดความจริงกับฉัน ฉันจะไม่ช่วยเธอพูดอะไรกับพ่อของเธอ" "ฮองเฮาโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย" "ต่อให้เรียกหาปู่ของพระพุทธองค์ไปก็ไร้ประโยชน์ มันเกี่ยวกับเห้ออี้ลั่วใช่ไหม" "แม่รู้ได้ยังไง" “ลูกคิดว่าแม่ซื้อนิตยสารเหล่านั้นมาไว้ตกแต่งบ้านหรือไง แล้วมาเซราตีฝั่งตรงข้ามถนนในตอนนี้ไม่ใช่เห้ออี้ลั่วหรือไง” "แม่ น่าเสียดายที่แม่ไม่ได้ไปเป็นนักสืบนะ" "อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง บอกเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างลูกกับเห้ออี้ลั่วมาเดี๋ยวนี้" "เขาขอให้ฉันแต่งงานกับเขา" ลั่วหมิงเม่ยเงียบไปสองสามวินาที ก่อนจะตอบสนองทันทีต่อสิ่งที่เฉียวเยว่เมิ่งพูดด้วยการกรีดร้องและถามว่า "แล้วลูกรับปากเขาไปไหม" “ยังไม่ได้รับปาก” เฉียวเยว่เมิ่งพูดอย่างมั่นใจ "ปฏิเสธไปซะ" ลั่วหมิงเม่ยพูดอย่างเด็ดขาด "ทำไมล่ะ" "นักธุรกิจฉลาดแกมโกงและไม่ซื่อสัตย์ ลูกไม่สามารถเอาหัวใจตัวเองไปล้อเล่นด้วยได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าคนระดับเห้ออี้ลั่วหรอก เขาสามารถทำให้ลูกร้องไห้แทบขาดใจตายได้ในภายหน้า” เฉียวเยว่เมิ่งเงียบไป ลั่วหมิงเม่ยมองดูเธอ "ลูกอยากจะตอบตกลงเหรอ" "ฉันคิดว่าเขาก็ดี" “ลูกชอบเขาที่หน้าตาหรือว่าชอบเงินของเขา" "แล้วแม่คิดว่าไง" ลั่วหมิงเม่ยกล่าวว่า "การที่ลูกชอบเขา แม่ไม่แปลกใจหรอก แต่ลูกแน่ใจหรือว่าเขาชอบลูกจริงๆ ลูกสวยกว่า ดีกว่า ฉลาดกว่าผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขาไหม ทำไมเขาจะต้องมาชอบลูกด้วย" "แม่ อย่าแขวะฉันได้ไหมเนี่ย" "แม่พูดด้วยข้อเท็จจริงและเหตุผล แม่ไม่เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูก ขอแค่ลูกมีความสุข เมื่อก่อนเรื่องโจวจื่อหยาง ลูกก็จัดการได้ไม่ถูกต้อง แม่ไม่มั่นใจในการจัดการกับปัญหาทางอารมณ์ของลูก" เฉียวเยว่เมิ่งเกาหัวคิดหนักเกี่ยวกับการหาวิธีปูทางให้กับการแต่งงานของเธอกับเห้ออี้ลั่ว หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ชะงักแล้วพูดว่า "แต่แม่ฉันดูเหมือนจะชอบเห้ออี้ลั่วอยู่บ้าง แม่ช่วยฉันคุยกับพ่อได้ไหม" "เรื่องการออกเดทเพื่อสร้างความสัมพันธ์ พ่อกับแม่ไม่ได้คัดค้าน ถ้ารักกันก็ค่อยๆพูด ค่อยๆดูกันไป” เฉียวเยว่เมิ่งขับรถด้วยมือข้างหนึ่ง พลางใช้มืออีกข้างหนึ่งหยิบหนังสือเล่มเล็ก ๆ ออกมา ใบหน้าของลั่วหมิงเม่ยเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเธอเห็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มนั้น "เฉียวเยว่เมิ่ง เธอกล้ามากนะ!" ... เห้ออี้ลั่วนั่งอยู่ในรถ เมื่อเห็นว่าโปโลคันเล็กหายไปจากสายตา ที่มุมปากของเขาก็มีรอยยิ้มขี้เล่นปรากฏอยู่ เขาโทรหาชายชราที่กำลังเดินทางมาที่นี่ “พ่อกลับบ้านของพ่อไปก่อนก็ได้ ลูกสะใภ้เพิ่งพาแม่ยายออกไป” “เจ้าลูกชาย แกกำลังล้อเล่นกับพ่อและแม่ของแกอยู่หรือไง”เห้อเจียหมิงคำรามเสียงดัง "นี่คุณชาย พวกเราไม่มีเวลาว่างที่จะมาเล่นกับพวกแกสองคนหรอกนะ หนังสือรับรองก็ได้มาหมดแล้ว และอีกสองวันฉันต้องไปประชุม ตอนนี้สายตาภรรยาของฉันก็กำลังจับจ้องอยู่ว่าแกคิดจะแก้ปัญหานี้ยังไง" "แม้แต่เรื่องภรรยาของตัวเองก็ยังจัดการไม่ได้ แล้วแกจะมีเงินมากมายไปเพื่ออะไร" เห้อเจียหมิงคำรามอีกครั้ง เห้ออี้ลั่วยื่นโทรศัพท์ห่างออกไปเล็กน้อย ไม่ได้เอามันมาแนบหู จนกว่าเขาจะเงียบ "ก็ไม่ได้เก็บไว้ให้คุณกับลูกสะใภ้ของคุณหรอกเหรอ" “แม่ง แกกล้าพูดแบบนี้เหรอ” "ฉันพูดอะไรเหรอ" เห้อเจียหมิงสำลักคำพูดของเห้ออี้ลั่ว วางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธ เห้ออี้ลั่ววางโทรศัพท์ลง เขาตระหนักว่าน้ำเสียงที่ใช้พูดกับเห้อเจียหมิงดูเหมือนจะย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อน เห้ออี้ลั่วแลบลิ้นเลียริมฝีปากของเขา ผู้หญิงคนนั้นมีอิทธิพลต่อเขามากจริงๆ เฉียวเยว่เมิ่งมีคืนวันที่เต็มไปด้วยความกระสับกระส่ายที่บ้านของคุณปู่ เธอตั้งใจหลบหน้าพ่อแม่ของเธอ เธอรู้ว่าเธอสามารถหลบเลี่ยงในวันแรกได้ แต่ไม่ใช่ในวันที่สิบห้า แต่อย่างน้อยพ่อกับแม่ก็ให้เวลาเธอสองวันเพื่อยอมรับความจริงที่ว่าเธอแต่งงานแล้ว ซึ่งเธออาจจะถูกด่าน้อยลงเมื่อกลับถึงบ้าน ครอบครัวสามคนกำลังเดินทางกลับเมืองเยว่เฉิง ทุกคนนั่งเงียบไปตลอดทาง เฉียวเยว่เมิ่งพยายามเปิดหัวข้อสนทนาหลายครั้งแต่ไม่มีใครเข้าร่วมด้วย หลังจากกลับถึงบ้าน พวกเราก็พบคนวัยกลางคนสองคนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าและมีท่าทางที่ไม่เหมือนคนอื่น 
已经是最新一章了
加载中